Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 448
หมีตัวใหญ่นอนลงตรงหน้าเป่ยเฟิง ลูกตาขนาดใหญ่ของมันทั้ง 2 ข้างกลิ้งไปมาด้วยความไร้เดียงสา หมีตัวใหญ่ที่ควรจะเป็นเจ้าป่าในตอนนี้กลับทำตัวระมัดระวังอย่างมากต่อหน้าเป่ยเฟิง
มันไม่ได้กลัวเป่ยเฟิง สำหรับมันแล้วเป่ยเฟิงเหมือนเด็กน้อยที่มันกลัวว่าจะบังเอิญไปทำร้ายเป่ยเฟิงหากไม่ระวัง
“เจ้าตัวน้อยในอดีตตอนนี้กลายเป็นตัวใหญ่แล้ว หนึ่งมีพลังระดับเซียนเทียนและอีกหนึ่งมีพลังระดับวิวัฒนาการขั้นสูงสุด”
เป่ยเฟิงลูบหัวหมีพร้อมกับถอนหายใจ
สัตว์อสูรทั้ง 2 มันเคยเป็นเพียงสัตว์ธรรมดา แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่ปีด้วยดีงูที่เป่ยเฟิงมอบให้พวกมัน ทำให้พวกมันในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าเดิมมาก !
ในขณะเดียวกันดูเหมือนพวกมันจะฉลาดกว่าสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ มาก เห็นได้ชัดว่าพวกมันมีสติปัญญาดีแค่ไหน
สายตาของเป่ยเฟิงเปลี่ยนเป็นน่ากลัวเมื่อหันไปรอบ ๆ จากนั้นเขาก็ส่งพลังจิตออกไปแล้วรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่บ้าง
“ฉันคิดว่ามันคงเป็นโชคชะตาที่พวกเราได้มาเจอกัน ในเมื่อฉันเคยบอกกับพวกแกเอาไว้แล้วว่าหากเจอพวกแกอีกจะพาไปอยู่ด้วย งั้นพวกแกก็รออยู่ที่นี่ก่อนรอฉันกลับมา เมื่อถึงตอนนั้นพวกแกจะได้ไปอยู่กับฉัน”
ภาษาและท่าทางอาจจะถูกจำกัดเอาไว้เพราะเผ่าพันธุ์ แต่พลังจิตไม่ใช่ พลังจิตของเป่ยเฟิงดังขึ้นใจิตใจพวกมันราวกับพวกมันกำลังพูดกับตัวเอง
พลังจิตถูกเอามาใช้เพื่อเอาชนะช่องว่างของภาษา สัตว์อสูรทั้ง 2 ตัวดูเหมือนจะเข้าใจว่าเป่ยเฟิงบอกอะไรกับพวกมัน พวกมันจึงกลับไปนั่งข้าง ๆ แล้วปล่อยให้เป่ยเฟิงและคนที่เหลือเดินไป
กลุ่มของเป่ยเฟิงเดินทางเร็วมาก ในไม่ช้าแท่นสีดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏตรงหน้าพวกเขา
“แถวนี้มันมีพลังบางอย่างทำให้บินไม่ได้ ความร้อนของลาวาสีทองมันสูงมาก และงูเหลือมลาวามันก็อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้มาตลอด” เป่ยเฟิงเตือน
ไป๋เซียงเกาหัวและถามขึ้น “เจ้านาย พวกเราต้องรอสู้กับงูเหลือมตัวนั้นที่นี่ใช่ไหม ?”
แน่นหัวเงยหน้าขึ้นด้วยความภูมิใจและกล่าว “ถ้างูเหลือมตัวนั้นมีพลังระดับเดียวกับนายท่านหมาผู้นี้ ต่อให้มันอยู่ในลาวามันก็ต้องตายด้วยน้ำมือของนายท่านหมาผู้นี้แน่นอน”
“งูเหลือมตัวนั้นเป็นบรรพบุรุษของงูเหลือมลาวา มันใกล้จะวิวัฒนาการเป็นมังกรแล้ว ในเมื่อนายมีความมั่นใจงั้นฉันจะปล่อยให้นายจัดการมันละกัน” เป่ยเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
แน่นหัวดูเหมือนจะนึกบางอย่างได้ มันจึงสำลักแล้วกล่าว “อ่า … นายท่านหมาผู้นี้คิดว่าราชาสมควรสู้กับราชา นายพลควรสู้กับนายพล งั้นข้าจะปล่อยให้บรรพบุรุษงูเหลือมตัวนั้นสู้กับเจ้าละกัน ส่วนข้าขออยู่จัดการกับหลานชายของพวกมันแทนละกัน”
สำหรับสิ่งมีชีวิตที่สามารถใกล้วิวัฒนาการเป็นมังกรได้แปลว่าพลังของมันต้องสูงพอตัว และยิ่งโดยเฉพาะโลกใบนี้ที่มีหลิงฉีอ่อนแอและเบาบางเช่นนี้ด้วย พลังของมันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
เป่ยเฟิงหัวเราะ เขาไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเคอร์เบอรอสมากนัก สายรุ้งทะยานพุ่งออกมาจากร่างก่อนจะหมุนวนรอบตัวเขาราวกับปลาว่ายน้ำ มันสั่นเล็กน้อยเพื่อแสดงท่าที่ว่าอยากดื่มเลือดเหลือเกิน !
คนอื่น ๆ เริ่มเตรียมตัวมากขึ้น ความแข็งแกร่งของเป่ยเฟิงถูกใช้ออกมาเต็มที่ตั้งแต่ต้น นั้นหมายความว่าอีกฝ่ายต้องทรงพลังอย่างมาก
เป่ยเฟิงกระโดดไปที่แท่นแล้วมองลงไป ด้านล่างมีผลไม้ที่ห้อยอยู่บนเถาวัลล์ บริเวณรอบ ๆ เต็มไปด้วยพลังงานเลือดและฉีจำนวนมากที่หมุนเวียนอยู่
“ดูเหมือนสัตว์อสูรตัวนี้ยังไม่ได้กลายเป็นมังกรที่แท้จริง ผลไม้ลูกนี้น่าจะสุกมานานแล้ว แต่มันยังไม่ถูกกินและดูเหมือนมันกำลังเติบโตได้อีก นี้มันกำลังกลั่นตัวเองเพื่อยกระดับอยู่รึนี่ !”
เป่ยเฟิงขมวดคิ้ว เขารู้สึกโล่งอกที่พบว่าผลไม้ลูกนี้ยังไม่ถูกกิน แต่ความระมัดระวังของเขาก็เพิ่มสูงขึ้น งูเหลือมลาวาที่ใกล้วิวัฒนาการมันปกป้องผลไม้ลูกนี้มาเป็นเวลานาน หากเขาหรือคนอื่นพยายามจะขโมยผลไม้ลูกนี้ไป นั้นจะเป็นการกระตุ้นความโกรธของมันแน่นอน !
“ดูเหมือนเหตุผลที่งูเหลือมลาวายังไม่กินผลไม้ลูกนี้ไปก็เพราะมันต้องการให้ผลไม้กลั่นตัวเองจนมีพลังเพียงพอที่มันคิดว่าน่าจะพอในการวิวัฒนาการเป็นมังกร หรือกล่าวอีกอย่างก็คือก้าวครั้งเดียวแต่ก้าวยาว ๆ เพื่อทำเป้าหมายให้สำเร็จ !” เป่ยเฟิงบอกตัวเอง
ลึกลับที่ 1 และคนอื่น ๆ กระโดดไปบนแท่นแล้วมองลาวาสีทองด้วยความตกใจ
ลาวาปกติจะร้อนไม่กี่ร้อยองศา แต่ลาวาสีทองตรงหน้ามันร้อนอย่างน้อยพันองศา !
ห่างออกไปหลายร้อยเมตร มีแท่นหินสีดำจำนวนมากยื่นออกมาจากลาวา เป่ยเฟิงกระโดดไปตามแท่น
ลึกลับที่ 1 และคนที่เหลือก็ตามมาด้วย แม้ว่าจะมีพลังบางอย่างทำให้ไม่สามารถใช้การบินได้ แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์แล้ว การควบคุมหลินฉีเพื่อใช้ในการกระโดดหลายร้อยเมตรนั้นง่ายมาก !
พลังจิตของเป่ยเฟิงแผ่กระจายไปทั่วร่างตลอดเวลา เขายังสามารถเห็นงูเหลือมลาวาจำนวนนับไม่ถ้วนที่ว่ายวนเวียนอยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจน
ไม่รู้ว่าลาวาลึกแค่ไหน แต่พลังจิตของเป่ยเฟิงแผ่ออกไปได้ไกลกว่า 500 เมตรและมันยังคงมองไม่เห็นก้นลาวา !
ยิ่งพลังจิตดำลึกไปแค่ไหนเขารู้สึกได้ว่าอุณหภูมิยิ่งสูงมากขึ้น แม้แต่พลังจิตของเป่ยเฟิงก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่ไหม้เกรียม
หนึ่งในจุดแสงในร่างของเป่ยเฟิงสว่างขึ้น จากนั้นพลังงานดวงดาวก็ไหลเข้ามาในร่างของเขาอย่างต่อเนื่อง
‘หืม ? มันมีพลังไฟที่เหมือนพลังดวงดาวอยู่ที่นี่ด้วย ? เป็นไปได้ไหมว่ามันจะมีดาวตกอยู่ข้างล่าง ?’
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่าง มันมีพลังสีแดงจำนวนมากไหลเข้ามาในร่างของเขามุ่งตรงไปยังจุดรับแสงที่หัวใจ
หัวใจ : ที่อยู่อาศัยของตัวตนศักดิ์สิทธิ์ เลือดคือเจ้าสำนึก หลอดเลือดเป็นเหล่าศิษย์ในนิกาย และธาตุไฟคือวิถีการฝึกฝน !
หัวใจเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุด แม้ว่าจะมีจุดรูรับแสงจำนวนมากเกินกว่าที่จะนับ แต่จุดรูรับแสงหลัก ๆ แล้วมีเพียง 7 จุด !
พลังดวงดาวไหลเข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้อุณหภูมิในจุดรูรับแสงสูงขึ้นอย่างมาก
เป่ยเฟิงปล่อยให้เคล็ดการหายใจด้วยแสงดาวหมุนเวียนไปเอง หลังจากนั้นไม่นานบนผิวลาวาข้างล่างเขาก็เริ่มมีตัวบางอย่างโผล่ออกมา
งูเหลือมลาวาจำนวนนับไม่ถ้วนกระโจนออกจากลาวาไปหาเป่ยเฟิง เป่ยเฟิยกมือขึ้นช้า ๆ ก่อนจะสะบัดมือกวาดไปทั่ว ๆ !
จากนั้นอุ้งเท้าหมีขนาดใหญ่ก็ปรากฏด้านบนแล้วค่อย ๆ ทุบลงด้านล่าง อุ้งเท้าโบกลงมาช้ามาก มันดูเหมือนภาพลวงตาที่เป็นอุ้งเท้าที่เกือบจะสมจริงอย่างมาก
ตอนที่มาที่นี่ครั้งแรกเป่ยเฟิงเห็นศพหมียักษ์ 10 กว่าตัวที่อยู่บนแท่น และทันใดนั้นบนแท่นต่าง ๆ ก็ปรากฏตัวอักษรสีดำแปลก ๆ เปล่งแสงออกมาในเวลาเดียวกันแรงกดดันที่มหาศาลก็กระจายไปทั่วถ้ำ
เป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ รู้สึกร่างกายหนักขึ้น จากนั้นถ้ำใต้ดินก็เริ่มสั่น
นี่คือจิตวิญญาณที่หลงเหลือไว้ของหมียักษ์ การปรากฏตัวของหมีของเป่ยเฟิงได้ดึงวิญญาณของหมียักษ์ขึ้นมาราวกับมันกำลังตอบสนองกับเขา
หลังจากนั้นหมียักษ์ของเป่ยเฟิงก็ได้ดูดซับหมอกสีดำจำนวนมากเข้าไป และในไม่ช้าความแข็งแกร่งของมันก็เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า !
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าพลังต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นช้า ๆ จนใกล้ถึงคอขวดที่เรียกว่าพลังต่อสู้เหนือระดับสวรรค์ !
“บูม !”
การโจมตีครั้งนี้ได้ทำให้ลาวาสีทองสั่นสะเทือนไปทั่วถ้ำ !
รอยอุ้งเท้าปรากฏบนพื้นลาวาก่อนจะทำให้ลาวารอบ ๆ ลอยสูงขึ้นไปบนฟ้า