Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 458
แน่นหัวมองฉินวูรงด้วยสายตารังเกียจ
ฉินวูรงหดหู่ใจจนเกือบจะกระอักเลือดออกมา ใบหน้าของเขาซีดขาวและหลินฉีในร่างก็ปั่นป่วนจนหลุดออกจากการควบคุม ดูเหมือนเขาจะบาดเจ็บภายในเล็กน้อยด้วย
“ตาแก่หน้าโง่ แกคิดว่าจะหยิ่งเท่าไหร่ก็ได้ในเมื่อได้กินอาหารฟรีงั้นหรอ ? แกเชื่อไหมถ้าไม่ใช่เพราะแกเป็นคนรู้จักกับเจ้านาย แกจะโดนข้าจะตายแน่นอน ?”
แน่นหัวเยาะเย้ยด้วยความเย่อหยิ่ง
หัวใจของฉินวูรงเต็มไปด้วยความตกใจ แม้ว่าเขาจะประเมินอีกฝ่ายไว้สูงแล้วแต่ความจริงก็คือเพียงแค่แรงกดดันของสัตว์ 3 หัวตัวนี้ก็เพียงพอที่จะกดดันเขามากแล้ว หากมันใช้พลังที่แท้จริงเขาไม่กล้าคาดเดาเลยว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน !
“เลิกเล่นได้แล้ว มานั่งที่ซักที !”
เป่ยเฟิงเดินออกจากห้องครัวและเรียกเคอร์เบอรอสที่กำลังกลั่นแกล้งคนอื่นอยู่
หลังจากนั้นเขานั่งลงและเพลิดเพลินไปกับอาหารแสนอร่อย
“เนื้อของสัตว์อสูรนี้มันอะไรกัน ? พลังงานมันสูงมาก !”
ดวงตาของฉินวูรงเบิกกว้าง กลิ่นหอมของเนื้อระเบิดในปากจนทำให้เขามึนเมาไปกับมัน
เมื่อเนื้อลงไปในกระเพาะ เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ทะลุผ่านร่าง หลิงฉีจำนวนมากพุ่งเข้าไปในเส้นเลือดทั่วร่างจนทำให้เขาตกใจกลัว
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยกินเนื้อสัตว์อสูรมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอกับเนื้อที่เต็มไปด้วยพลังงานระดับสูงขนาดนี้ !
หลังจากกินซี่โครงไปหนึ่งชิ้น ฉินวูรงก็รู้สึกได้ว่าหลินฉีกำลังเพิ่มสูงขึ้น
พลังงานที่อยู่ในเนื้อมันแข็งแกร่งมาก มันเป็นครั้งแรกที่เขาเคยกินอะไรแบบนี้มาก่อน สัตว์อสูรระดับ 3 ขั้นสูงสุดเทียบเท่าได้กับผู้เชี่ยวชาญระดับหลุดพ้นบนโลกใบนี้ ปริมาณพลังงานที่มีในเนื้อมันจึงมากกว่าเป็นธรรมดา !
“เป็นไปไม่ได้ ! ไม่มีทางที่สัตว์อสูรระดับนี้จะพบบนโลกใบนี้ได้ !” ฉินวูรงพึมพำ
เนื้อสัตว์อสูรที่ดีที่สุดที่เขาเคยกินเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับ 8 [บนโลก] เท่านั้น ซึ้งมันเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญระดับว่างเปล่า และแน่นอนว่าความต่างชั้นของระดับว่างเปล่าและหลุดพ้นราวกับสวรรค์และโลก !
แน่นหัวมองด้วยความรังเกียจและกล่าวขึ้น “ตาแก่งี่เง่า หยุดประหลาดใจแบบนี้ได้แล้ว พวกเราก็กินแบบนี้เหมือนกันทุกมื้อแหละ !”
ใบหน้าของฉินวูรงค่อย ๆ แข็งค้างมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดสบาย ๆ ของหมาตัวนี้ ! หากไม่ใช่ว่ามันแข็งแกร่งกว่าเขาละก็ เขาจะถลกหนังมันจากนั้นจะเอาไปแขวนไว้บนผนังห้องของเขาซะ !
เมื่อเห็นการจ้องมองที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดของเป่ยเฟิง แน่นหัวก็ยิ้มอย่างเอียงอายก่อนจะหันมาสนใจกระดูกตรงหน้า
ฉินวูรงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ในขณะที่กลืนเนื้อคำสุดท้ายลงไป เมื่อมองที่อาหาร เขาก็ไม่แปลกใจเลยที่เป่ยเฟิงและกลุ่มของเขาจะมีพลังระดับสวรรค์ตั้งแต่วัยเยาว์เพียงเท่านี้
ฉินวูรงทำอะไรไม่ได้ยกเว้นแต่อิจฉาอย่างเดียว การกินขุมทรัพย์ทุกวันมันเป็นความฝันของเขาเลยตั้งแต่เด็ก !
หลังจากได้ลิ้มรสอาหารมื้อนี้แล้ว ฉินวูฟ่าและฉินวูรงก็ไม่แน่ใจว่าจะชักชวนเป่ยเฟิงให้ติดตามพวกเขาไปได้อย่างไร เขามีทั้งความแข็งแกร่งและทรัพยากรก็ไม่ได้ขาดแคลน มันยังมีอะไรที่พวกเขาจะเสนอให้อีกฝ่ายได้อีก ?
หลังจากคิดแล้วคิดอีก ฉินวูฟ่าก็ไม่สามารถกินอาหารได้อีกต่อไป ไม่ว่ามันจะอร่อยแค่ไหนแต่ตอนนี้รสชาติของมันเหมือนขึ้ผึ้งสำหรับเขาแล้ว
หลังจากกินอาหารเสร็จ ฉินวูรงและฉินวูฟ่าก็จากไปทันที เป่ยเฟิงส่ายหัวเบา ๆ ในขณะมองด้านหลังของพวกเขา เขารู้ว่าทั้ง 2 ต้องการอะไร แต่มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะต้องทำตาม
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความซับซ้อน ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปมาในขณะที่เฝ้ามองพวกเขาเดินขึ้นเฮลิคอปเตอร์ มันเป็นเรื่องโกหกหากจะบอกว่าเขาไม่สนใจเลย อย่างน้อยเขาก็ยังเลือกที่จะยอมรับการปรากฏตัวของคนในตระกูลของเขา
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ในพริบตาก็ผ่านไปอีกหนึ่งปีครึ่ง ในเวลานี้โลกแห่งการต่อสู้ตกอยู่ในความวุ่นวายและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็ได้เกิดขึ้น รายชื่อ 10 อันดับผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของโลกได้ถูกจัดตั้งขึ้น ใน 10 อันดับมีผู้เชี่ยวชาญของจีนอยู่ 2 คน โดยคนแรกคือหลิงวู่จากภูเขาคุนหลุนและเขาถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 5 ของโลก และคนที่ 2 คือลามะจากทิเบตที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 7
สำหรับอันดับที่ 1 คือเด็กผู้ถูกเลือกจากนครวาติกัน เด็กผู้ถูกเลือกมีอายุยังไม่ถึง 40 ปี แต่เขากลับมีพลังระดับว่างเปล่าแล้ว !
ไม่เคยมีใครเคยเห็นพลังของเขา ทุก ๆ คนที่ถูกเขาเล่นงานจะต้องพบกับความตายทั้งหมด และนั่นรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ของพวกครึ่งปีศาจด้วย !
ผู้ฝึกตนจำนวนมากได้เข้าร่วมกับกองกำลังของประเทศจีน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่มันก็เพียงพอที่จะจัดการกับประเทศเล็ก ๆ ได้ !
ทุกคนที่ปรากฏตัวออกมาแน่นอนว่าเป็นตัวตนในอดีตที่ทรงพลัง แน่นอนว่ามีอัจฉริยะรุ่นเยาว์หลายคนที่มีพลังระดับสวรรค์รวมอยู่ด้วยเช่นกัน แต่ทว่าจำนวนที่ออกมายังมีไม่ถึง 10 คนเลยด้วยซ้ำ
ทั้งประเทศอยู่ในภาวะตึงเครียดเนื่องจากกลัวว่าผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะสร้างปัญหาให้พวกเขา ตำรวจที่คอยตระเวนตามท้องถนนเองก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
แม้ว่าเป่ยเฟิงจะฝึกฝนหัวใจและควบคุมอารมณ์เพื่อสยบพลังชั่วร้ายในร่าง แต่ทรัพยากรจำนวนมากก็ยังคงปรากฏต่อหน้าเขาเสมอ
“ประเทศไทย: ผู้ฝึกตนมนุษย์ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้มวยไทยโบราณ มงกุต ณรงค์ เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ขั้นกลาง”
“สหรัฐอเมริกา: มนุษย์ยุคใหม่ มีความสามารถทางพลังจิตที่แข็งแกร่งเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ขั้นสูงและขั้นสูงสุด”
“สเปน: มนุษย์หมาป่า หัวหน้าของกลุ่มบ้านทรงพลังที่เป็นกลุ่มรวมเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ เพราะคู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายคือโป๊ปและเด็กผู้ถูกเลือกของนครวาติกัน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงมนุษย์ยุคใหม่ที่มีพลังสายพลังจิต”
เป่ยเฟิงมองเอกสารตรงหน้าก่อนจะพึมพำกับตัวเอง
ทั้ง 3 คน – รวมไปถึงหลิงวู่ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการได้ ทุกคนเปรียบเสมือนจิ้งจอกเฒ่า หากไม่รอบคอบพออาจจะเป็นการสร้างปัญหามาให้กับตัวเองได้
สำหรับความเป็นไปได้ที่สุสานจักรพรรดิ์ฉินจะมีประตูไปต่างโลก เป่ยเฟิงไม่ค่อยเชื่อเกี่ยวกับมัน เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเมื่อหลายพันปีก่อนคนที่เดินทางออกไปนอกโลกเดินทางไปได้อย่างไร
ชายชุดดำยืนตรงหน้าเป่ยเฟิง กล่าวด้วยความเคารพ “ท่านเป่ยเฟิง โปรดมุ่งหน้าไปที่ด่านฮันกู๋” [1]
แม้ว่าเป่ยเฟิงจะอยู่ตรงหน้า แต่เมื่อเขาหลับตาลงเป่ยเฟิงก็หายตัวไปแล้วราวกับเขาไม่มีตัวตนอยู่แต่แรก !
ชายชุดดำอยากจะตะโกนด้วยความตกใจ อย่างที่คาดไว้ เขาเป็นคนที่ท่านหลิงวู่ได้เตือนย้ำหลายรอบว่าระมัดระวังตัวให้ดีเพราะท่านเป่ยเฟิงเป็นคนที่พิเศษอย่างมาก ! ตัวเขาเองมีพลังระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุดแต่ก็ไม่สามารถรู้สึกได้ถึงตัวเขาแม้แต่น้อย !
“อืม เข้าใจแล้ว”
เป่ยเฟิงโบกมือเป็ยสัญญาณให้ชายชุดดำออกไป
เป่ยเฟิงยืนอยู่คนเดียวในห้องโถง หนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมาเขาได้ล้างเส้นเลือดไปอีกหมื่นกว่าเส้น ส่วนพลังฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
เมื่อปีที่แล้วเขาได้มาถึงระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดแล้ว แต่ตอนนี้เขาก็ยังคงอยู่ระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดเหมือนเดิม
เขารู้สึกได้ถึงห่วงที่มองไม่เห็นที่ปรากฏอยู่ในร่างเขา แม้ว่าจะใช้หินวิญญาณระดับสูงไปจนหมดแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถพัฒนาไปยังขั้นต่อไปได้
“หรือเป็นเพราะเงื่อนไขในโลกใบนี้ไม่ต้องการให้มีผู้ฝึกตนฝ่าฝืนความแข็งแกร่งไปได้มากกว่านี้ ?”
ทุกครั้งที่เขาพยายามจะฉีกกระชากโซ่ที่ขังเขาทิ้ง เขาจะรู้สึกได้ถึงอันตรายมหาศาลและความรู้สึกอีกอย่างนั้นก็คือหากเขาทำผิดอีกนิดเดียวเขาจะต้องตายทันที !
เส้นทางการฝึกฝนของเป่ยเฟิงไม่ได้อาศัยทรัพยากรในโลกใบนี้มากนัก นั่นเป็นเพราะเขามีหินวิญญาณและเนื้อสัตว์อสูรระดับสูงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานจำนวนมาก ดังนั้นตราบใดที่เขาต้องการเขาก็จะสามารถพัฒนาไปยังระดับต่อไปได้สบาย ๆ !
แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่น มันราวกับว่ามีโซ่จากสวรรค์และโลกขังเขาเอาไว้เพื่อที่เขาจะไม่ได้แข็งแกร่งไปมากกว่านี้ !
เป่ยเฟิงไม่กล้าเดิมพันชีวิตในการเอาไปเสี่ยงกับความสำเร็จเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้เขากำลังทำความคุ้นกับเคยร่างกายในปัจจุบันอยู่ ความสามารถในการต่อสู้ของเขาตอนนี้ไม่ได้น้อยไปกว่า 10 ผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของโลกแม้แต่น้อย ตอนนี้เขาตั้งใจว่าจะติดตามคนอื่น ๆ ไปสำรวจสุสานจักรพรรดิ์ฉินเพื่อที่จะออกไปอีกโลกด้วย แต่หากมันไม่สามารถออกไปได้เขาจะอาศัยระบบตกปลาเพื่อไปยังอีกโลกแทน !
[1] TL/N : ด่านฮันกู๋ ในยุคปัจจุบันคือมณฑลเหอหนาน มันเคยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่รัฐฉินเคยใช้ต่อสู้ในอดีต