Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 464
ร่างของมู่เต๋าสั่นสะท้านด้วยความกลัวพร้อมกับน้ำดีสีเขียวที่ไหลออกมาจากปาก มันราวกับเขาหวาดกลัวจนใกล้ตายแล้ว !
“ชั้วะ !”
ชายหนุ่มที่หล่อเหลาหันไปมองมู่เต๋า จากนั้นน้ำวนขนาดเล็กก็ปรากฏรอบ ๆ ตัวเขาแล้วทำให้แสงที่อยู่รอบตัวมู่เต๋าแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นเลือดและเนื้อของเขาก็กลายเป็นหมอกสีแดงหลงเหลือแต่เพียงโครงกระดูกสีขาวสะอาด
“ราชาคนนี้กลับมาแล้ว !”
รอยยิ้มของเขาค่อย ๆ ปรากฏบนหน้าจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นฟ้าและคำราม !
“บูมม !”
ราวกับระเบิดนับไม่ถ้วนระเบิดในเวลาเดียวกัน จากนั้นแรงระเบิดก็ระเบิดพื้นที่รอบ ๆ กว้างกว่าพันจาง !
“กร๊าซซ !”
เสียงคำรามที่ดุดันดังออกมาจากลำคอของชายคนนั้น จากนั้นเกล็ดสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็ค่อย ๆ ปรากฏบนร่างของเขา !
เกล็ดค่อย ๆ งอกออกมามันยาวกว่า 5-6 ชุน หลังจากนั้นก็มีปีกปรากฏด้านหลังแล้วส่งเขาลอยขึ้นไปบนฟ้า !
การกระทำของเขาถูกจับตามองโดยรัฐบาลทั้งหมด การทำลายพื้นที่ที่กว้างกว่า 50 กิโลเมตรมันทำให้ทั้งประเทศรู้สึกตกใจ ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งเน้นเฝ้าระวังขั้นสูงสุดไปยังพื้นที่นั้นทันที !
ความแข็งแกร่งของกองทัพนั้นทรงพลังมาก ดังนั้นแค่การติดตามเฝ้าระวังคนเดียวคนเดียวจึงเป็นเรื่องง่ายมาก
หวังวูหยูหรืออีกชื่อคือราชาแห่งความวุ่นวายในขณะที่บินอยู่ในอากาศเขารู้สึกได้ว่าถูกจับตามองอยู่ แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่ามันมาจากไหนกัน
แม่น้ำใต้ดินค่อย ๆ พุ่งออกมาจากปากถ้ำและเมื่อภูเขาในพื้นที่กว่า 50 กิโลเมตรหายไปมันได้ทำให้พื้นที่ตรงนั้นกลายเป็นหลุมกว้างกว่า 50 กิโลเมตร !
จากตอนแรกมันมีความลึกกว่าพันเมตรแต่ตอนนี้พื้นดินแถบนี้มีความลึกไม่กี่เมตรเท่านั้นเพราะการถล่มของภูเขา
และในไม่ช้าแม่น้ำก็ค่อย ๆ พุ่งออกมาแล้วค่อย ๆ การเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่กว่า 50 กิโลเมตร !
“คิดยังไงกัน ?”
12 ปีศาจคุนหลุนได้มารวมตัวกันทันทีที่ได้รับข้อความจากรัฐบาล
“มันน่าจะเป็นผู้ฝึกตนที่มีวิชาลับ แต่การระเบิดทุกอย่างที่กินพื้นที่กว่า 50 เมตรมันน่าจะมีผลมาจากอย่างอื่นด้วย แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ยังทำไม่ได้ถึงขนาดนี้ !”
12 ปีศาจคุนหลุนสวมชุดคลุมสีดำและอยู่ในห้องมืด มันจึงยากที่จะบอกว่าใครเป็นคนพูด
“ส่งคนไปติดต่อกับเขา เขาไม่น่าจะใช่คนธรรมดา ๆ นอกจากนี้สุสานจักรพรรดิ์ฉินมันยังอันตรายมาก มันจะดีหากมีผู้ช่วยที่แข็งแกร่งมาอยู่ฝั่งเดียวกับเรา” อีกคนกล่าวขึ้น
“อืม ไม่ว่ายังไงพลังของคน ๆ นั้นน่าจะไม่ต่ำกว่าพวกเราแน่นอน มันยากมากที่จะชักชวนเขาให้มาเข้าร่วมกับเรา”
ผู้เชี่ยวชาญคนนี้มันราวกับอยู่ดี ๆ ก็ปรากฏตัวออกมา มันราวกับเขาเป็นคนไร้ตัวตนที่อยู่ดี ๆ ก็นึกจะปรากฏตัวออกมา
ทุกคนเงียบลงในขณะมองภาพถ่ายของชายหนุ่มคนนั้น
“พวกเจ้าไม่คิดว่ามันมีบางอย่างแปลก ๆ มั่งหรือ ?” หลิงวู่กล่าวขึ้น
“หืม ? จะว่าไปข้าก็รู้สึกแปลก ๆ จริงด้วย !”
“ทำไมเราไม่คิดถึงมันก่อนหน้านี้นะ มันดูเหมือนเขาคล้ายกับคนที่อยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ !”
“ใช่ และคน ๆ นั้นก็เป็นคนบ้ามาก ! นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่แข็งแกร่งมากเช่นเดียวกัน !”
ใบหน้าของ 12 ปีศาจคุนหลุนเปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ
“เป็นไปไม่ได้ เขาตายไปหลายพันปีแล้วไม่ใช่หรือยังไงกัน !”
หลิงวู่รู้สึกอึดอัด นี้มันเรื่องใหญ่เกินกว่าที่เขาจะรับได้ !
“เป็นไปได้ยังไงกัน ? เขามีชีวิตมานานแค่ไหนแล้ว พลังของเขามีมากแค่ไหนกัน ?”
คนอื่น ๆ เองก็ไร้การตอบสนองเช่นกัน
“คน ๆ นี้ตายไปนานแล้ว ! มีทางเดียวที่ทำให้เขาปรากฏตัวออกมาได้ก็คือเขาฟื้นคืนชีพตัวเองขึ้นมาเอง !”
หลิงวู่รู้สึกจิตใจเต็มไปด้วยความหนาวเย็น คน ๆ นี้ปรากฏตัวไม่กี่ครั้งในประวัติศาสตร์ที่ภูเขาคุนหลุนได้รวบรวมเอาไว้ได้ และทุกครั้งที่ชื่อของเขาปรากฏออกมามันความเสียหายที่เกิดจากเขามีมหาศาลจนเรียกได้ว่าเป็นภัยพิบัติ !
ไม่รู้ว่าเขามาจากยุคไหน แต่มันมีคำพูดและประโยคไม่กี่คำที่บ่งบอกถึงตัวเขา !
“ในตอนที่เขามีชีวิตอยู่ เขามีพลังอยู่ที่ระดับสวรรค์และตอนนั้นเขาก็ได้รับกลิ่นอายแห่งจักรพรรดิ์มังกรมา ! ไม่มีใครรู้ว่าเขาได้รับกลิ่นอายของจักรพรรดิ์มังกรมาจากไหน แต่มองไปที่เกล็ดและปีกบนหลังของเขาสิ พวกเจ้าคิดว่ามีอะไรแปลก ๆ ?”
หลิงวู่หนาวไปทั้งหลัง คน ๆ นี้ไม่ใช่คนเลวธรรมดา ๆ แต่เขาเป็นคนชั่วร้ายที่ทำได้ทุกอย่าง !
ราคาที่เขาใช้เพื่อฟื้นคืนชีพตัวเอง แม้แต่หลิงวู่ก็ไม่สามารถจินตนาการได้ !
วิธีการคืนชีพใครคนใดคนหนึ่งที่มีพลังไม่ต่ำกว่าระดับสวรรค์ หนึ่งจะต้องเป็นลูกหลานของจักรพรรดิ์องค์แรกและสายเลือดต้องไม่เกิน 3 ชั่วอายุคน และอีกเงื่อนไขก็คือเขาต้องตามหาดินแดนที่มีหลอดเลือดของมังกรดำและเส้นเลือดหยินอยู่ด้วยกัน นอกจากนี้ยังต้องใช้แก่นแท้เลือดของผู้ฝึกตนมากกว่า 10 ล้านชีวิตรวมไปถึงอาวุธศักดิ์สิทธิ์ในการสร้างค่ายกลขึ้นมา
เงื่อนไขแค่นี้ก็ถือว่าโหดร้ายมาก นอกจากนี้การคืนชีพแบบนี้คือการทำลายสมดุลของสวรรค์ แต่ก็ยังมีผู้ฝึกตนแห่งความมืดที่ยอมเสี่ยงใช้ชีวิตนี้หลายคนนัก !
นอกจากนี้ยังเงื่อนไขที่ใช้แก่นแท้เลือดของผู้ฝึกตนหลายสิบล้านคน … ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนระดับต่ำแต่แค่ตัวเลขจำนวนนี้ก็น่ากลัวมาก แม้ว่าโลกแห่งการต่อสู้จะอยู่ในยุคที่รุ่งเรืองก็ตาม !
โดยปกติแล้วการทำแบบนี้จะทำให้โลกแห่งการต่อสู้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับคน ๆ นั้นทันที !
แต่แน่นอนหากว่าเขาทำแล้วสำเร็จ มันจะเกิดผลที่น่าอัศจรรย์ขึ้น
หนึ่งเขาจะเปลี่ยนร่างกลายเป็นมังกรผีดิบและพลังของพวกเขาจะไม่ติดอยู่ที่ระดับเดิมอีกต่อไป นอกจากนี้เขาคนนั้นยังมีอายุไขที่มากกว่าเดิมถึง 10 เท่ามากกว่าคนปกติ !
สำหรับผู้ฝึกตนระดับสวรรค์แล้ว อายุขัยปกติของพวกเขาโดยเฉลี่ยแล้วคือ 400 ปี แต่สำหรับคนที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้จะมีมากกว่าเดิม 10 เท่านั้นหมายถึงเขามีอายุได้ยาวนานกว่า 4,000 ปี !
นอกจากนี้ร่างกายที่ถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมาจะไร้จุดอ่อนใด ๆ ที่เหมือนผีดิบตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด กระเทียมและอื่น ๆ
… นอกเสียแต่เขาจะต่อสู้กับอีกฝ่ายที่มีพลังมากกว่า แต่นั้นขึ้นอยู่กับว่าต้องฆ่าเขาให้ได้ในทันที !
ไม่อย่างนั้นด้วยความสามารถในการฟื้นฟูของเขา มันจะทำให้อีกฝ่ายตกอยู่ในความสิ้นหวังทันที !
หลิงวู่พูดด้วยความจริงจัง ข้อมูลเหล่านี้สำหรับภูเขาคุนหลุนมันถือว่าเป็นข้อมูลลับสุดยอด
ทั้งกลุ่มมองภาพตรงหน้าเงียบ ๆ คน ๆ นี้จะโหดร้ายเกินไปแล้ว !
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพลังของเขาที่มีในบันทึกคือระดับสวรรค์แต่มันได้ผ่านมานานมากแล้ว ถึงแม้พลังกว่า 99 % ที่สะสมเอาไว้จะถูกนำมาใช้เพื่อฟื้นคืนชีพตัวเอง แต่พลังที่เหลือนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นมหาศาล !
“ข้ารู้สึกว่าเรายังคงต้องพยายามติดต่อกับเขาอยู่ดีไม่ว่าเขาจะมีพลังมากแค่ไหนก็ตาม ยังไงซะเขาก็ยังคงต้องพึ่งพาหลิงฉีของสวรรค์และโลก นอกจากนี้หลิงฉีของสวรรค์และโลกก็กำลังลดลงเร็วมาก ดังนั้นสุดท้ายเขาก็ต้องอยู่ในความลำบากแย่ลงเรื่อย ๆ แน่นอนสำหรับเขา !”
“เขาแตกต่างกับซอมบี้ปกติ เขามีความเข้าใจ มีความคิดและสามารถตัดสินใจได้ว่าควรจะทำอะไร”
ทั้งกลุ่มพูดคุยถกเถียงกัน
“แต่ปัญหาก็คือ เราจะส่งใครไปคุยกับเขา ? เจ้า ? หรือข้า …”
ไม่มีใครรู้ได้ว่าใบหน้าของหลิงวู่กำลังทำหน้าแบบใด แต่เมื่อได้ยินเสียงของกึ่งล้อเล่นของเขาก็ทำให้ทุกคนหยุดพูดทันที
นี้มันเรื่องตลกอะไรกัน ใครมันจะไปยินดีเข้าใกล้ตัวตนที่ชั่วร้ายขนาดนั้นกัน ? ถึงแม้ว่าเขาจะมีความคิดแต่ใครจะไปรู้ว่าสมองของเขายังทำงานได้ดีหรือเปล่าแม้ว่าจะผ่านมานานที่เขาใช้ความคิด ? หากเขาปฏิเสธกลับมาก็เท่ากับความตายที่รออยู่ !
ทุกคนคิดทันที ไม่มีใครยินดีที่จะออกตัว
มีคำกล่าวไว้ว่านกมักจะได้กินหนอนเสมอ แต่สุดท้ายก็เป็นหนอนที่ได้กินนก !
“เรื่องนี้เกิดแถว ๆ ชิงหลิง งั้นเราก็ปล่อยให้คนแถวนั้นจัดการไป” มีคนลังเลกล่าวขึ้น
“ใช่ ๆ ไม่ใช่ว่านั้นเป็นดินแดนของทรราชเป่ยเฟิงงั้นรึ ? ยังไงซะเป่ยเฟิงนั้นก็ไม่ได้อ่อนแอซักหน่อย นอกจากนี้เขายังมีลูกศิษย์ของเขาอีก เขาน่าจะทำมันได้” อีกคนเห็นด้วยทันที
“หัวหน้า !”
ทุกคนมองไปทางหลิงวู่เป็นการตกลง มันจะเป็นการดีที่เสียสละคนอื่นดีกว่าเสียสละตัวเอง
“งั้นข้าจะไปถามเขาว่าเขาคิดยังไง”
คำพูดของหลิงวู่ก็เป็นเชิงเห็นด้วย
แต่เขายังคงต้องอธิบายให้เป่ยเฟิงฟังอยู่ดี สิ่งสำคัญก็คือเขาไม่สามารถมองทะลุชายคนนี้ได้ แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะไม่ติด 1 ใน 10 ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลก แต่หลิงวู่รู้ดีว่าเป่ยเฟิงมีความสามารถที่จะเขี่ยคนในรายชื่อทิ้งไปได้ !
แสงไฟค่อย ๆ สาดส่องในห้องใต้ดิน จากนั้นร่างของเป่ยเฟิงก็ปรากฏในหมอกสีขาวพร่ามัว เขามองไปรอบ ๆ อย่างงง ๆ
“เกิดอะไรขึ้น ?”
เป่ยเฟิงพูดขึ้นพร้อมกับเช็ดเหงื่อด้วยผ้า
หลิงวู่และคนอื่น ๆ ก็มองเขาด้วยความตกใจ การฝึกฝนแบบไหนกันที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ที่แข็งแกร่งอย่างเขาถึงกับมีเหงื่อออก !
ใช่ เหงื่อออก ! ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์จะควบคุมร่างกายของตัวเองได้ดี ดังนั้นเหงื่อมันจะไม่ปรากฏตราบใดที่พลังงานของเขายังคงอยู่ แต่นั้นกลับปรากฏบนร่างของเป่ยเฟิง !
ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามารถควบคุมรูขุมขนและเปิดปิดมันได้ตามต้องการ มันง่ายมากที่พวกเขาจะไม่ให้เหงื่อออก
หลิงวู่มองเป่ยเฟิงและกล่าวขึ้น “เจ้าน่าจะรู้เรื่องที่ชิงหลิงแล้วใช่ไหม ? เราอยากให้เจ้าเข้าไปหาคน ๆ นั้นและชักชวนเขามาอยู่กับฝ่ายเดียวกับเรา มันจะช่วยเราได้มากเมื่อเราเข้าไปในสุสานจักรพรรดิ์ฉิน !”
เป่ยเฟิงเงียบไปชั่วครู่หลังจากได้ยินคำพูดของหลิงวู่ จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างน่าขนลุกออกมาพร้อมกับดวงตาที่หรี่ลง “ฉันอยากจะรู้ว่าใครเป็นคนเสนอความคิดนี้”
“ภารกิจนี้อันตรายมาก เจ้าเลือกที่จะไม่ไปก็ได้’ หลิงวู่กล่าวขึ้น
“รอบนี้ฉันจะปล่อยไปก่อน แต่ถ้ามีครั้งต่อไป ฉันจะฆ่ามัน มาสั่งให้ฉันไปหาไอ้ผีดิบนั่นทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่ามันยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า … ฉันก็ไม่ได้มีความกล้ามากขนาดนั้น แต่สำหรับพวกแก มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องกลัวเสมอไป”
ความหมายของเป่ยเฟิงง่ายมาก หากหลิงวู่เต็มที่จะบอกว่าเป็นเขาเองเขาก็เต็มใจที่จะไปแม้ว่าจะเป็นการวิ่งเข้าหากองไฟก็ตาม แต่หากมีครั้งต่อไป จะเป็นเขาเองที่ทำลายข้อตกลงทั้งหมดแล้วเผาสะพานทิ้งซะ
หลังจากพูดจบ เป่ยเฟิงก็ไม่สนใจว่าคนอื่น ๆ คิดอะไร จากนั้นภาพของเขาก็หายไป
หลังจากภาพหายไปแล้วรอยยิ้มที่เย็นชาก็ปรากฏบนหน้าเป่ยเฟิง หากเขาไม่รู้จักผีดิบนั้นดีพอเขาคงโง่และวิ่งเข้าไปหาแล้ว
“มันช่างกล้านัก !”
“มันจะมากไปแล้ว !”
“มันยังเป็นแค่เด็ก แต่ดูมันไม่ได้มีความเคารพทุกคนแม้แต่น้อย !”
3 คนที่วางแผนจะใช้เป่ยเฟิงไปฆ่าตัวตายระเบิดความโกรธออกมาทันทีที่ภาพเป่ยเฟิงหายไป