Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 541
ด้านนอกถ้ำ คลื่นกระแทกออกมาราวกับโลกกำลังจะแตกสลาย
สัตว์อสูรรอบ ๆ พื้นที่ไกลกว่าร้อยลี้ยืนตัวสั่นอยู่บนพื้นและไม่กล้าเคลื่อนไหว
หน้าผาบนภูเขาถูกทำลายจนกลายเป็นฉากที่ดูวุ่นวายสับสน
เสือดำและซู่หยุนจงต่อสู้กันด้วยพละเต็มที่ของแต่ละฝ่าย
ตอนนี้ซู่หยุนจงไม่ได้สง่างามและดูดีอีกต่อไป เสื้อคลุมของเขาขาดรุ่งริ่งและมีเลือดไหลออกมาจากหน้าอกของเขาอย่างต่อเนื่อง
แขนซ้ายของเขาว่างเปล่าเนื่องจากถูกเสือดำกัดไป
“นภาปีศาจร่ายมนตร์ !”
ซู่หยุนจงหยุดคิดชั่วครู่ว่าทำไมศิษย์ของเขาถึงยังไม่มาอีก ในตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้มากแล้ว เสื้อคลุมของเขาโบกสะบัดอย่างแรงพร้อมกับพลังที่ปะทุออกมาจากร่าง
“กรร ! เหล่าสมุนรับใช้ของเสือ”
เสือดำก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน แผลที่น่าสยดสยองปรากฏบนเอวของมันที่เกือบจะแยกตัวมันให้ขาดเป็นสองท่อน มันคำรามดังก้องจากนั้นเงาดำสามเงาที่อยู่ข้าง ๆ ก็หลอมรวมเข้าเป็นร่างเดียว แรงกดดันของมันเพิ่มขึ้นจนเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญราชาพันปีขั้น 7 !
“ตู้มม !”
ทั้งภูเขาสั่นสะเทือนอย่างแรงพร้อมกับแผ่นดินที่เริ่มแยกขยาย
เหล่าสมุนรับใช้ของเสือเป็นพลังวิญญาณของราชาเสือตัวนี้ สมุนรับใช้ของมันคือเหล่าเสือผี เสือผีเหล่านี้คือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาจากวิญญาณที่ราชาเสือได้ฆ่าไป
เสือดำอ้าปากจากนั้นก็กลืนกินเสือผีเข้าไป ทันใดนั้นพลังของมันก็ปะทุขึ้นมหาศาล !
ในไม่ช้ามันก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าซู่หยุนจงอีกต่อไป สายฟ้ากระพริบไปมาอยู่บนหัวของมัน มันดูน่ากลัวมาก !
มีเงามนุษย์ปรากฏด้านหลังของซู่หยุนจง แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เงาแต่มันให้ความรู้สึกราวกับเป็นเทพเจ้าที่จุติลงมาจากสวรรค์ !
“ท่านอาจารย์เริ่มเอาจริงแล้ว พวกเราควรจะไปช่วยเขาหรือเปล่า ?” ศิษย์ที่โจมตีค่ายกลอยู่พูดด้วยความกังวล
“ไม่จำเป็น ท่านอาจารย์นั้นเก่งและน่ากลัวมาก เจ้าเสือนั้นเขาสามารถฆ่ามันได้ง่าย ๆ”
เนื่องจากอยู่ไกล มันจึงทำให้พวกเขาไม่เห็นการต่อสู้ของซู่หยุนจงชัดนัก
ศิษย์หญิงอีกคนยิ้มอย่างอ่อนหวานและพูดขึ้น “นั่นเป็นสุดยอดวิชาของนิกายสิบเส้นทาง นภาปีศาจร่ายมนตร์ ! การต่อสู้ครั้งนี้รู้ผลแล้ว”
เธอรู้สึกว่าอาจารย์ของเธอเก่งกาจและยอดเยี่ยม ดังนั้นเธอจึงไม่กังวลมากนัก
“จะว่าไป ศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่สองหายไปนานแล้ว ทำไมพวกเขาถึงไม่กลับมาซักที ?” มีคนถามด้วยความสงสัย
“อาจจะมีค่ายกลอยู่รอบ ๆ รังราชาสัตว์อสูรก็ได้ ข้าละอยากรู้จริง ๆ ว่าสัตว์อสูรแบบนั้นมันสร้างค่ายกลได้ยังไงกัน”
ทั้งสามพูดคุยกันไปมา แต่มือของเขายังไม่หยุดเลยซักครั้ง ทุกครั้งที่โจมตีมันทำให้ค่ายกลสั่นสะเทือนอย่างแรง
“แกร๊ก !”
เสียงที่แตกดังขึ้นจนทำให้ทั้งสามหยุดชั่วครู่ หลังจากนั้นพวกเขาก็ระเบิดความดีใจออกมา หลังจากโจมตีมาเกือบชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็ทำลายค่ายกลได้ !
แต่ทันใดนั้นเถาวัลย์ที่เต็มไปด้วยหนามก็พุ่งออกมาจากคฤหาสน์ม้วนตัวเข้าหาทั้งสาม !
“บัดซบ มันคืออะไรกัน !”
“สับ !”
“พลังวิญญาณ ทะเลนรก !”
ใบหน้าของทั้งสามเปลี่ยนไป พวกเขาไม่รอช้ารีบโจมตีออกไปทันที !
เถาวัลย์นี้มีความหนาเท่าข้อมือของผู้ใหญ่และมันมีหนามอยู่จำนวนนับไม่ถ้วนที่เรียงรายอยู่ข้างลำตัว มันเป็นสีดำสนิทและส่องแสงประกายเยือกเย็นภายใต้ดวงอาทิตย์ มันดูราวกับถูกสร้างมาจากเหล็กมากกว่าที่จะเป็นแค่พืช
“แซ่ก แซ่ก !”
เสียงบางอย่างดังขึ้นจากนั้นทำให้ทั้งสามหยุดเคลื่อนไหว
ทันใดนั้นเถาวัลย์สีดำที่ถูกฟันขาดจากศิษย์คนหนึ่งก็ฟื้นตัวแล้วแทงทะลุหัวของเธอ !
ในชั่วพริบตา ร่างของเธอก็ถูกดูดจนแห้งแล้วกลายเป็นกองฝุ่น
เห็นได้ชัดว่าเถาวัลย์นี้ดูดพลังงานทั้งหมดในร่างของเธอและมันไม่หลงเหลือแม้แต่กระดูก !
“ศิษย์น้องหญิง !”
“อ๊ากก ! ตายซะ !”
ศิษย์อีกสองคนโกรธมาก พวกเขาโจมตีด้วยความโกรธ ลูกไก่ขนาดเท่ารถม้าพุ่งไปบนท้องฟ้าก่อนจะลงมาห่อหุ้มศิษย์คนหนึ่งจนเขาดูราวกับเป็นเทพเจ้าแห่งไฟ
ส่วนอีกคนร่างของเขาสั่นจากนั้นก็ขยายตัวราวกับบอลลูน ในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นยักษ์สูง 10 จั้งพร้อมกับขวานในมือ !
แต่มันก็ไร้ประโยชน์ ! เถาวัลย์ราวกับสิ่งมีชีวิตวิเศษ ไฟที่โหมกระหน่ำทำอะไรมันไม่ได้แม้แต่น้อย
ในเวลาเดียวกันมันก็พุ่งไปข้างหน้าราวกับแส้ยาวปะทะเข้ากับขวานยักษ์จนทำให้เกิดประกายไฟขนาดใหญ่พวยพุ่งไปบนฟ้า
ด้วยการเคลื่อนไหวไม่กี่ครั้งมันก็หลบหลีกขวานยักษ์แล้วพุ่งทะลุหัวของยักษ์ทันที ศิษย์ที่สูง 10 จั้งเต็มไปด้วยความประหลาดใจเมื่อเขาพบว่าตัวเองถูกเสียบเหมือนเนื้อย่าง
และยิ่งด้วยร่างขนาดมหึมานี้แล้ว นี้มันไม่สมเหตุสมผลเลยซักนิด
ทันใดนั้นคลื่นเลือดฉีก็ปะทุออกมารอบ ๆ ทำให้พื้นที่รอบ ๆ ราวกับพื้นที่หวงห้าม สัตว์อสูรขั้นร้อยปีจำนวนมากตื่นตระหนก มีบางตัวถึงกับวิ่งอาละวาดไปทั่ว
ทันใดนั้นยักษ์ที่สูง 10 จั้งก็ทิ้งขวานในมือแล้วก้มหัวลงก่อนจะกรีดร้องขึ้น ” อ๊ากกกกก !”
“ศิษย์พี่รอง !” ศิษย์อีกคนตะโกนด้วยความตกใจ
ในตอนนี้ร่างยักษ์เต็มไปด้วยลวดลายสีดำสนิท มันดูราวกับเป็นเส้นเลือดของยักษ์ แต่หากมองใกล้ชิดจะพบว่าเส้นเลือดเหล่านี้กำลังเคลื่อนไหวราวกับพวกมันมีชีวิต !
“อ๊าก ! ฆ่าข้าซะ ศิษย์น้อง ฆ่าข้า ! จงสังหารข้าเสีย !”
ยักษ์ทุบหัวตัวเองพร้อมกับน้ำลายที่ไหลออกมาจากปากของเขาอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและทรมาน
ก่อนที่เขาจะได้พูดต่อ ทันใดนั้นเถาวัลย์ก็พุ่งออกมา !
“ชั้วะ ! ชั้วะ ! ชั้วะ !”
จากนั้นไม่นานเสียงดังขึ้นภายใต้ผิวหนังและเถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากร่างของยักษ์ !
ไม่มีเลือดกระเด็นออกมาแม้แต่น้อยเนื่องจากมันถูกดูดกลืนไปโดยเถาวัลย์ทั้งหมด !
“อ๊าก !”
ศิษย์อีกคนที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟร้องตะโกนด้วยความตกใจ วินาทีต่อมาเขาก็หันหลังและวิ่งหนีโดยไม่หันกลับไปมองทันที !
วิญญาณของเขาเกือบจะหลุดออกจากร่างเพราะความกลัว ความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวคือชีวิตที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย ! ท่าทางของศิษย์พี่รองมันทำให้เขาสูญเสียความกล้าหายทั้งหมดทันที
แต่เถาวัลย์สีดำราวกับลูกธนูที่ถูกปล่อย มันไม่หยุดแค่นั้น มันพุ่งมาหาเขาทันที ในไม่ช้ามันก็พุ่งไปถึงตัวเขาแล้วแทงเข้าไปในร่างของเขา
เถาวัลย์สีดำแกว่งไปมาตามสายลมก่อนจะเลื้อยกลับไปอย่างเกียจคล้านกลับไปในคฤหาสน์ มันดูราวกับเป็นพืชธรรมดา ๆ ที่อาศัยอยู่ตามกำแพงคฤหาสน์ !
ในถ้ำ ฮวงหลินสลับตำแหน่งกับตัวนิ่ม แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นเจ้ากระต่ายกำลังกระโดดมาหาเขา
หากเขาเลือกที่จะถอยตอนนี้เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่นอน แต่หากเขาไม่เลือกถอยเขาจะถูกเจ้ากระต่ายจัดการนอกจากนี้มันยังเขวี้ยงดาบสีแดงเลือดมาทางเขาเพื่อดักเขาอีกทาง
“ทำลาย !”
ร่างของฮวงหลินย้อมไปด้วยเลือด ผมของเขาขาดรุ่งริ่ง เนื้อและกล้ามเนื้อแขนทั้งสองหายไปจนหลงเหลือแต่กระดูกสีขาวเท่านั้น เขาดูน่ากลัวมาก
ความคิดของเขาในตอนนี้คือไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หากเขาจะตายเขาต้องลากเจ้ากระต่ายไปด้วย !
หากเขาถอยเขามีโอกาสที่จะตายได้ แต่หากเขายังยืนอยู่ตรงนี้เขาจะต้องตายแน่ ๆ !
เขาลืมยังไม่ลืมว่าสัตว์อสูรที่อยู่ตรงนี้มันมีพลังวิญญาณที่ใช้ควบคุมแรงโน้มถ่วง ทันทีที่เขาถูกทุบลงไปในดินเขาจะตายแน่นอน !
“อุก !”
แม้ว่าเขาจะใช้พลังทั้งหมด แต่ดาบสีแดงก็ยังเจาะทะลุการโจมตีแล้วแทงทะลุหน้าอกของเขา !
เลือดฉีที่ทรงพลังของเขาปะทุเพื่อระงับออร่าความคมในร่างของเขา !
“หยิน !”
ดาบสีแดงเลือดสั่นสะเทือนอย่างแรงจากนั้นคลื่นฉีที่แสนคมก็พุ่งทะลุออกไปทุกทิศทาง !
“ว๊ากก !”
ทันใดนั้นเจ้ากระต่ายก็กระโดดลงตรงหน้าเขา วินาทีต่อมาเขาก็ดึงดาบออกมาจากหน้าอก หากเขาปล่อยให้มันอยู่ในหน้าอกของเขาอย่างนั้นมันจะอันตรายเกินไป !
“กี้ กี้ !” ดวงตาของเจ้ากระต่ายเปล่งประกาย จากนั้นมันก็ส่งเสียงแหลมด้วยความตื่นเต้นแล้วชี้ไปที่ฮวงหลิน !
“ปุก !”
“อ๊ากกกกกกกก !”
ทันใดนั้นเลือดก็ไหลออกมาจากทวารทั้ง 7 ของฮวงหลิน แม้ว่าจิตใจของเขาจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องเจ็บปวดออกมา
ความรู้สึกที่ไม่สามารถควบคุมเลือดตัวเองให้มันปะทุออกมาจากร่างนี้มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
“กรร !”
ฮวงหลินกัดฟันแน่นและร้องโหยหวนจนทำให้เลือดค่อย ๆ สงบอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามอวัยวะภายในร่างของเขาเต็มไปด้วยรูพลุนทั้งหมด
ด้านข้าง ดาบที่ฮวงหลินดึงออกมานั้นสั่นเบา ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแสงแล้วพุ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง !
ดาบนี้เร็วมากจนเขาไม่สามารถตอบสนองได้ทัน !
“แกร๊ก !”
ใบหน้าของฮวงหลินเปลี่ยนไป ดาบนี้อยู่ใกล้เขาเกินไป ทันใดนั้นจี้หยกรูปงูก็ปรากฏในมือของเขา
หยกมีสีเขียวดำและปลดปล่อยแสงจาง ๆ หยกถูกสลักจนดูเหมือนงูจริง ๆ มันเหมือนงูที่กัดหางตัวเองในรูปแบบของอูโบรอส
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะชื่นชมมัน ฮวงหลินตัดสินใจทำลายมันทันที !
หยกแตกเป็นชิ้น ๆ จากนั้นก็กลายเป็นแสงนับไม่ถ้วนแล้วรวมตัวกันกลายเป็นงูขนาดใหญ่ !
“โอ่ว !”
งูตัวใหญ่เหวี่ยงหางออกไปราวกับค้อนยักษ์ !
“แกร๊ก !”
บริเวณที่หางเหวี่ยงกระแทกมันราวกับเหวี่ยงใส่กระจก อากาศค่อย ๆ แตกเป็นชิ้น ๆ จนเผยให้เห็นความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุดด้านใน
“อ๊ากก !” เสียงร้องบางอย่างดังออกมาจากระยะไกลและมันดูเหมือนอยู่ข้าง ๆ หูทุกคน งูขดตัวรอบฮวงหลินแล้วค่อย ๆ หายไปในความมืดนั้น
“แก๊ง !”
เสียงบางอย่างดังขึ้นจากนั้นแหวนสมุนไพรสีเขียวก็หล่นจากนิ้วก้อย แหวนนี้เป็นของฮวงหลิน มันดูสวยงามและประณีตมาก จากลักษณะแล้วมันดูราวกับแหวนระดับที่สูงกว่าแหวนของเจ้ากระต่าย
“กี้ กี้ !”
เจ้ากระต่ายส่งเสียงร้องด้วยความเสียใจ หลังจากใช้ความพยายามอย่างหนักมันก็ไม่สามารถฆ่ามนุษย์คนนี้ได้ … ถึงแม้ว่าดาบครั้งสุดท้ายจะเร็ว แต่มันก็ถูกป้องกันโดยงูตัวนั้น มีเพียงแขนที่ถูกตัดเท่านั้น
“มออ !”
ความเร็วของฮานกุยนั้นเร็วมาก มันรีบวิ่งไปเก็บแหวนเก็บสมุนไพรบนพื้น มันถือราวกับเป็นสมบัตินำมามอบให้เจ้ากระต่าย
“กี้ กี้ !”
หลังจากที่ได้แหวนและลองสำรวจข้างใน เจ้ากระต่ายก็อ้าปากด้วยความประหลาดใจ น้ำลายจำนวนมากไหลออกมาจากปากของมันจนหยดลงพื้น
หลังจากได้ดูสิ่งของข้างในแหวน เจ้ากระต่ายก็มีความคิดอย่างเดียวในหัวตอนนี้ “ข้ารวยแล้ว !”