Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 587
รากฐานของเป่ยเฟิงแข็งแกร่งขนาดที่แม้แต่ทายาทของตระกูลมหาอำนาจก็ไม่สามารถนำมาเทียบกับเขาได้
ในห้องลับ เป่ยเฟิงกัดฟันแน่นและคำรามออกมา “จงทะลวงให้ข้า !”
“ตู้ม !”
เสียงระเบิดดังขึ้นในห้องลับพร้อมกับระลอกคลื่นพลังฉีที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของเป่ยเฟิง
“แกร๊ก !”
เป่ยเฟิงปลดปล่อยพลังฉีของเขาออกมาในขณะลอยอยู่กลางอากาศ พลังที่ถูกปลดปล่อยออกมามันมหาศาลจนขนาดที่ห้องลับที่ถูกสร้างจากไทเทเนียมยังสั่นสะเทือน มันแรงมากจนใครก็ตามที่เข้ามาในห้องยังต้องถูกบีบอัดด้วยแรงลมมหาศาล !
แม้แต่กำแพงไทเทเนียมของห้องก็เริ่มบิดเบี้ยวก่อนจะกระเพื่อมราวกับเป็นน้ำเพราะถูกแรงกดดันบีบคั้น
“รวมตัว ! ” เป่ยเฟิงตะโกนขึ้นจากนั้นเลือดฉีในร่างของเขาก็สั่นก่อนจะพุ่งเข้าไปที่ข้อต่อที่เก้าของกระดูกสันหลังของเขา !
“ตู้ม !”
เลือดทั้งหมดพุ่งไปยังกระดูกสันหลังที่ยาวเพียง 10 เซนติเมตรของเขา มันมากจนทำให้เกิดรอยร้าวบนกระดูก
กระดูกสันหลังของเขาในตอนนี้มันราวกับกำลังจะแตกเพราะแรงกดดันมหาศาลจากเลือดฉีของเขา
“จงทะลวงให้ข้า !”
เป่ยเฟิงดูสงบนิ่งมากในขณะที่เขาผลักเลือดฉีทั้งหมดไปในกระดูกสันหลังของเขา !
กระดูกสันหลังของเขาเริ่มแตกสลายก่อนจะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติวนเวียนแบบนี้หลายร้อยครั้ง !
ในไม่กี่วินาทีต่อมา รอยต่อสีขาวก็เริ่มมีบางอย่างเปลี่ยนไป มีเลือดสีทองเปล่งประกายปรากฎเหนือข้อต่อนั้น
เลือดฉีที่บ้าคลั่งได้ยึดกระดูกสันหลังของเป่ยเฟิงเอาไว้ได้แล้ว !
เลือดสีขาวเงินค่อย ๆ แปรสภาพกลายเป็นทะเลสาบพร้อมกับระลอกคลื่นที่ค่อย ๆ กระจายออกมา !
‘เลือดหยางบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ผีและวิญญาณเกรงกลัว !’ เป่ยเฟิงคิดกับตัวเองในขณะเฝ้ามองร่างกายตัวเองด้วยความหวาดกลัว
เลือดสีทองเปล่งประกายแข็งแกร่งและบริสุทธิ์ราวกับมันคือฉีธาตุหยาง เพียงแค่หยดเดียวมันก็ดูราวกับหนักเทียบเท่าภูเขาลูกหนึ่ง !
‘ดูเหมือนนี่จะเป็นขีดจำกัดของข้า ถึงแม้ฉีธาตุหยางจะบริสุทธิ์แต่มันมีเพียง 1 ต่อ 1,000 ของเลือดฉีทั้งหมดของข้าเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ข้าแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า !’
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงพลังของเขาในขณะที่ทดสอบด้วยการกำหมัดดู
เลือดฉีสีทองนั้นสามารถพัฒนาวิชาต่อสู้ของเขาได้ดี ส่วนเลือดฉีสีเงินนั้นสามารถทำให้เขาระเบิดพลังออกมาได้ดีขึ้น
นอกจากนี้พวกมันยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้เขาไม่น้อย
“อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้น ข้าละอยากจะรู้จริง ๆ ว่าพลังวิญญาณของข้าจะพัฒนาไปถึงไหน” เป่ยเฟิงพึมพำกับตัวเองในขณะที่เตรียมตัวจะทำลายคอขวดขั้นต่อไปโดยใช้เลือดฉีของเขา !
ก่อนหน้านี้มันถือว่าเป็นการอัพเกรดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ต่อไปนี้ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ !
เมื่อมันสำเร็จเขาจะเหมือนนกในอากาศและปลาในน้ำ !
ในขณะที่เป่ยเฟิงอยู่ในระหว่างการทำลายคอขวด พระราชวังแห่งดวงดาวด้านนอกเองก็ราวกับถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ !
เมื่อครู่อาวุธทั้ง 18 ชิ้นโจมตีพร้อมได้และได้ทำให้พระราชวังแห่งดวงดาวระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ !
และจากนั้นพระราชวังก็ฟื้นฟูกลับมาอีกครั้งพร้อมกับขนาดที่เล็กลงเรื่อย ๆ
หลี่ปู้มองพระราชวังแห่งดวงดาวที่เริ่มเหมือนจริงยิ่งขึ้น ยิ่งมันลดขนาดมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเหมือนจริงมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้พระราชวังแห่งดวงดาวนั้นมีขนาดเหลือเพียง 100 จั้งเท่านั้น มันลดลงมาหลายเท่าเลยทีเดียว !
อย่างไรก็ตาม ยิ่งมองใกล้ ๆ มากเท่าไหร่พระราชวังแห่งดวงดาวก็ยิ่งดูเหมือนจริงอย่างมาก แม้แต่พลังแห่งดวงดาวที่มันดูดกลืนก็ยิ่งมากยิ่งขึ้น !
ยิ่งพระราชวังแห่งดวงดาวมีขนาดเล็กมากเท่าไหร่ พื้นที่ที่สามารถโจมตีได้ก็ยิ่งน้อยลง มีเพียงการโจมตีไม่กี่จุดเท่านั้นที่จะโจมตีโดนแบบเต็ม ๆ
การโจมตีแต่ละครั้งของอาวุธทั้ง 18 ชิ้นนั้นทรงพลังมากจนแม้แต่หลี่ปู้และกู่ฉียังต้องรีบถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว !
อาวุธทั้ง 18 ชิ้นในตอนนี้เต็มไปด้วยรอยร้าว ยิ่งเวลาผ่านไปมากแค่ไหนพวกมันก็ยิ่งสูญเสียพลังไปมากขึ้นเนื่องจากพวกมันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
“แก๊ง !”
ทันใดนั้นฉีสีเทาได้ปรากฎบนพื้นผิวของพระราชวังแห่งดวงดาว มันลอยไปในอากาศก่อนจะปะทะเข้ากับอาวุธทั้ง 18 ชิ้น !
เมื่อพวกมันปะทะกันก็ทำให้เกิดแรงระเบิดจำนวนมาก ในไม่ช้าบอลไฟลูกหนึ่งก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า พลังทำลายของบอลไฟลูกนี้มันรุนแรงขนาดทำให้พื้นเกิดรอยร้าวกว้างกว่าหนึ่งร้อยเมตร
อย่างไรก็ตาม เป่ยเฟิงไม่ได้กังวลใด ๆ เขายังคงนั่งอยู่จุดเดิมโดยไม่ได้มีความตั้งใจจะออกไปแม้แต่น้อย
ราชาพันปีเป็นเสมือนตัวตนอมตะ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีใครทำลายเขาได้ ดังนั้นความคิดของเขาในตอนนี้มีสิ่งเดียวนั้นคือการทำลายคอขวดไปให้ได้ !
แม้ว่าเป่ยเฟิงจะเชื่อมั่นแบบนั้นแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะชะล่าใจเกินไป
ในไม่ช้าเลือดฉีทั้งหมดของเขาก็พุ่งออกมาจากกระดูกสันหลังก่อนจะพุ่งเข้าไปยังหน้าอกของเขา
นี่คือวิชาที่เรียกว่าประตูมังกร ?
จิตสำนึกของเป่ยเฟิงกลับเข้ามาในร่างกาย เขาจ้องมองไปยังหน้าอกของเขา
ตรงหน้าเขาคือประตูสีทองที่ปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งออกมา
หลังจากที่ทะลวงจนมาถึงขั้นครึ่งก้าวราชาพันปี ร่างกายและเลือดฉีของเป่ยเฟิงในตอนนี้แข็งแกร่งและผสมผสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ มันคอยเติมเต็มซึ้งกันและกัน !
เมื่อมันผสานตัวกันอย่างสมบูรณ์แบบมันจะแข็งแกร่งอย่างมาก หากคิดเป็นตัวเลขมันจะเหมือนสมการที่ว่าหนึ่งบวกหนึ่งแต่มากกว่าสอง !
“ทำลาย !” เป่ยเฟิงผลักเลือดฉีของเขาไปยังประตูที่อยู่ตรงหน้าอกของเขา !
แม้แต่บนดาวเทียนมู่ มันยังเป็นเรื่องยากมากเช่นกันที่ผู้ฝึกตนคนหนึ่งจะสามารถรวบรวมเลือดฉีได้สมบูรณ์แบบอย่างเขา คนส่วนใหญ่นั้นจะใช้วิชานอกรีตเพื่อรวบรวมเลือดฉีมากกว่าวิธีที่เป่ยเฟิงทำ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พวกเขาจะทำแบบนั้นแต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะผสานพวกมันเข้ากับเลือดฉีได้อย่างสมบูรณ์แบบ การสามารถผสานได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้นหมายถึงการยกระดับความแข็งแกร่งครั้งใหญ่เลยทีเดียว !
เคยมีคำกล่าวไว้ว่าราชาพันปีขั้นต้นที่สามารถผสานเลือดฉีได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้นสามารถเอาชนะราชาพันปีขั้น 5 ได้อย่างง่ายดาย !
หากปราศจากพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งเพียงพอ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะกำเนิดราชาพันปีที่สามารถผสานเลือดฉีได้อย่างสมบูรณ์แบบ !
“บู้ม !’
เลือดฉีของเป่ยเฟิงเปลี่ยนเป็นมังกรแล้วพุ่งทะยานเข้าหาประตู !
เมื่อมันกระแทกประตูเบา ๆ เลือดฉีของเป่ยเฟิงก็สลายหายไป !
“อัก !”
เป่ยเฟิงกระอักเลือดออกมา เห็นได้ชัดว่าการสลายตัวไปของเลือดฉีนั้นส่งผลรุนแรงกับเขามากแค่ไหน
‘ไม่น่าแปลกที่ไม่มีคนสามารถผสานเลือดฉีได้อย่างสมบูรณ์แบบมาหลายพันปี แม้แต่คนอย่างข้าที่มีรากฐานแข็งแกร่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วพวกเขาที่อ่อนแอกว่าจะทำได้ยังไงกัน’
เป่ยเฟิงทำได้เพียงสงสารเหล่าคนที่ล้มเหลวที่ผ่านมา
“ไม่ !”
ใบหน้าของเป่ยเฟิงเปลี่ยนไป ประตูนี้มันไม่สมควรเป็นสิ่งที่จะหยุดเขาได้ !
“ข้าไม่เชื่อว่าประตูเล็ก ๆ แค่นี้จะหยุดข้าได้ !”
ใบหน้าของเป่ยเฟิงเปลี่ยนไป จากนั้นเขาก็กลืนแก่นแท้แห่งชีวิตที่มีขนาดเท่าเหรียญลงไป !
“บู้มมม !”
พลังแห่งชีวิตจำนวนมากระเบิดไปทั่วร่างของเป่ยเฟิง !
อย่างไรก็ตาม เป่ยเฟิงรู้ดีถึงผลกระทบจากการที่มีพลังแห่งชีวิตที่มากเกินไป เขาในตอนนี้เริ่มจะเก็บมันไม่ไหวแล้ว !
ร่างของเขาเริ่มบวมเหมือนลูกโป่ง ในไม่ช้าดวงตาของเขาก็เริ่มหดลงและแทนที่ด้วยไขมันบนหน้าของเขา
แม้จะอยู่ในสภาพแบบนี้แต่เป่ยเฟิงก็ยังไม่ยอมแพ้ เขายังคงดูดซับพลังแห่งชีวิตต่อไปเรื่อย ๆ
“จงทะลวงมันให้ข้า !”
เป่ยเฟิงราวกับภูเขาเนื้อน่ากลัวที่ไม่สามารถอดทนไหวอีกต่อไป
เขารวบรวมเลือดทั้งหมดแล้วเปลี่ยนมันให้กลายเป็นหมีจากนั้นก็พุ่งชนประตู !
“แก๊ง !’
เสียงดังออกมาจากร่างของเป่ยเฟิง จากนั้นก็มีก้อนเนื้อก้อนโตโผล่ออกมาจากหน้าอกของเขาจนเผยให้เห็นรูเลือดบนหน้าอกของเขา !
“นั่นเสียงอะไร ?”
“ไม่นะ เลือดฉีของข้า ข้าควบคุมมันไม่ได้ !”
ผู้ฝึกตนที่เป็นพยานอยู่ใกล้ ๆ ตัวสั่นอย่างแรงเมื่อได้ยินเสียงบางอย่าง ทันใดนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถควบคุมเลือดฉีของพวกเขาได้
ผู้ฝึกตนที่ลอยอยู่บนอากาสเองก็เริ่มล่วงลงมายังพื้นดินทีละคน
แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะน่าสะพรึงกลัว แต่มันก็กินเวลาเพียงชั่วครู่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ผู้ฝึกตนหลายคนถึงกับหนีไปด้วยความหวาดกลัว
ในขณะเดียวกัน คนที่ยังอยู่ก็มีความอยากรู้เช่นกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น พวกเขารู้สึกได้ถึงความอันตรายบางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้
หลังจากชิ้นเนื้อชิ้นหนึ่งพุ่งออกมาจากหน้าอกของเป่ยเฟิง เขาก็กระอักเลือดสีเงินออกมาหนึ่งครั้ง ทว่ามันกลับไม่มีกลิ่นเลือด มันกลับเป็นกลิ่นหอมแปลก ๆ
“นี่มัน เป็นไปได้ยังไงกัน !”
แม้แต่เป่ยเฟิงที่รอบรู้เกือบทุกสิ่งก็ต้องประหลาดใจ
แม้ว่าประตูมันจะสั่นอย่างแรงแต่ทว่ามันกลับไม่สามารถเปิดออกมาได้
‘เป็นไปไม่ได้ ! มันต้องมีบางอย่างที่ข้าไม่รู้ นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยซักนิด ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งและแก่นแท้แห่งชีวิตของข้า ทำไมถึงเปิดมันไม่ได้ !’
ความล้มเหลวในการเปิดประตูมันทำให้เป่ยเฟิงตระหนักได้วว่าเขาพลาดสิ่งสำคัญไป !