Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 591
[ต่อไปนี้จะเรียก อารมณ์ทั้ง 7 กามคุณทั้ง 6 ว่า อารมณ์ทั้ง 7 และความปรารถนาทั้ง 6 ]
ต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าทุกคนจะตระหนักถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ ทุกคนจะรู้สึกหมดหวังอีกครั้งทันทีหากเจ้าจิ้งจอกน้อยปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง
มันไม่ได้ส่งผลแต่เพียงผู้มีพลังระดับร้อยปีเท่านั้น แม้แต่หลี่ปู้ก็โดนผลกระทบไปด้วย เขารู้สึกได้ถึงความปรารถนาของเขาที่พวยพุ่งออกมา มันทำให้เขาหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน
เมื่อจิ้งจอกน้อยหายกลับเข้าไปในระหว่างคิ้วของเป่ยเฟิง มันก็ทำให้หลี่ปู้เบิกตากว้างก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“นี่มันสัตว์อสูรอะไรกัน ? เพียงแค่มองมันก็ถึงกับทำให้ผู้มีพลังระดับราชาพันปีต้องเผยความปรารถนาที่แท้จริงออกมาแล้ว” หลี่ปู้พึมพำพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคิดแม้แต่เศษเสี้ยวของจินตนาการที่จะสู้กับสัตว์อสูรแบบนี้ แม้ว่าเขาจะไม่สูญเสียการควบคุมจิตใจ แต่เขาก็ไม่สามารถระงับความปรารถนาที่ปรากฎในใจของเขาได้ ดังนั้นมันจึงเลิกคิดที่จะสู้กับอีกฝ่ายได้เลย
ในสถานการณ์แบบนี้ หากเป็นผู้มีพลังเพียงขั้นร้อยปีอาจจะฆ่าตัวตายเลยก็ได้ด้วยซ้ำ
เป่ยเฟิงสำรวจรอบ ๆ ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น “ไปจากที่นี่กันเถอะ”
“ขอรับ !” หลี่ปู้พยักหน้าจากนั้นก็เดินนำเป่ยเฟิงไปอีกทางหนึ่ง
เมื่อเจ้าจิ้งจอกน้อยหายเข้าไปในคิ้วของเป่ยเฟิง มันทำให้ทั้งเมืองซานชวนถึงกับสั่นสะท้าน หลังจากที่ทุกคนได้สติพวกเขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง แต่พวกเขากลับจำสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้
“ทำไมเราถึงไม่เคยเห็นสัตว์อสูรตัวนี้มาก่อน ? มันแข็งแกร่งมาก !”
“ใช่ ข้ารู้สึกว่าสัตว์อสูรตัวนี้ไม่ได้ต้องการทำร้ายพวกเราแม้แต่น้อย แต่ทว่าจิตสำนึกของพวกเรามันกลับว่างเปล่าเมื่อเผชิญหน้ากับมัน ดูเหมือนมันยากมากที่จะจัดการกับมันได้”
“ต้องเป็นตระกูลหลี่ที่ทำอะไรบางอย่างแน่ ๆ ทำไมพวกเขาถึงซ่อนสัตว์อสูรที่ทรงพลังขนาดนี้เอาไว้กัน ? พวกเขามีเรื่องให้เราประหลาดใจได้เสมอ !”
“โชคดีที่ตระกูลหลี่กำลังจะออกจากเมืองนี้ไป ไม่อย่างนั้นพวกเราคงหายใจไม่ออกเพราะพวกเขา”
แม้แต่ผู้ฝึกตนที่อยู่ห่างออกไปไกลก็ยังสั่นสะท้านเพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
มันเป็นความรู้โดยทั่วไปที่ผู้ฝึกตนจะมีพลังจิตและการควบคุมความคิดที่เหนือกว่าคนปกติ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่มีความปรารถนา มันก็เพียงแค่พวกเขาสามารถสยบความปรารถนาของพวกเขาได้ดีกว่าก็เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังของเจ้าจิ้งจอกน้อย มันกลับดึงความปรารถนาทุกอย่างที่พวกเขาต้องการออกมาได้
แม้ว่าทุกคนจะโล่งอกที่ตระกูลหลี่กำลังจะจากไป แต่บรรยากาศในเมืองก็ยังคงเต็มไปด้วยแรงกดดัน
ทุกคนเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของตระกูลหลี่แล้วนั่นก็คือพวกเขาพบว่าเมืองซานชวนมันเล็กเกินไปที่พวกเขาจะอยู่ที่นี่ มันไร้ประโยชน์และขัดขวางการเติบโตของพวกเขา
ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ต้องการเดินทางออกไปอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ มันเป็นความฝันของผู้มีพลังระดับร้อยปีทุกคน อย่างไรก็ตาม มันต้องเข้าใจก่อนด้วยว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเดินทางไปอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ได้
มันเป็นเรื่องปกติที่เมืองใหญ่จะมีทรัพยากรจำนวนมาก แต่มันก็ตามมาด้วยผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น หากไม่นับผู้มีพลังระดับราชาพันปี แม้แต่พนักงานเสิร์ฟในเมืองชั้นยอดก็ยังมีพลังเกือบเทียบเท่าตระกูลชั้นสูงในเมืองเล็ก ๆ
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงตัวตนระดับราชาพันปีหรือหมื่นปีที่อาศัยอยู่ในมหานครที่อยู่ใจกลางดาวเทียนมู่ !
ความต้องการของพวกเขาในตอนนี้ก็คือการได้อาศัยอยู่ในเมืองซานชวนต่อไปและสามารถให้กำเนิดผู้มีพลังระดับราชาพันปีได้ซักคน !
ดั่งคำกล่าวที่ว่า “จงเป็นหัวของไก่ดีกว่าเป็นหางของนกฟีนิกซ์” นี่คือสิ่งที่ตระกูลในเมืองเล็กท่องจำเอาไว้ขึ้นใจ
และการปรากฎตัวของตระกูลหลี่มันทำให้ตระกูลอื่น ๆ รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก แต่ว่าเมื่อพวกเขาค้นพบว่าอีกไม่นานตระกูลหลี่จะจากไปแล้วมันก็ทำให้พวกเขาโล่งใจถึงขนาดที่อยากจะเลี้ยงฉลองเลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามมันกลับไม่มีใครกล้าจัดงานฉลองขึ้นเพราะหลายคนกลัวว่ามันจะทำให้ตระกูลในเมืองซานชวนดูน่ารักจนเกินไปจนทำให้ตระกูลหลี่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อ
เนื่องจากตระกูลหลี่เป็นตระกูลที่มีอำนาจไม่น้อย มันจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะมีคฤหาสน์หลายหลัง หากเดินลึกเข้าไปในเขตตระกูลอีกเล็กน้อยก็จะเจอคฤหาสน์อีกหลัง
อย่าลืมว่าเมืองซานชวนถือว่าเป็นบ้านเกิดของตระกูลหลี่ ดังนั้นการจะมีที่อยู่อีกซักแห่งมันจึงเป็นเรื่องปกติ
หลังจากนั้นหลี่ปู้ก็กลับไปดูแลครอบครัวของเขา ส่วนเป่ยเฟิงก็กลับมาอยู่สันโดษอีกครั้ง
หลังจากที่บรรลุระดับราชาพันปี เขาจำเป็นต้องรักษาระดับพลังให้มั่นคง นอกจากนี้เขายังต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสามารถและพลังที่เพิ่งได้รับมาก่อน
“เจ้าจิ้งจอกน้อยน่ากลัวเกินไป ข้าจะใช้มันก็ต่อเมื่อเป็นทางเลือกสุดท้าย” เป่ยเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงปวดใจ
เจ้าจิ้งจอกน้อยทรงพลังเกินไป มันสามารถควบคุมอารมณ์ทั้ง 7 และความปรารถนาทั้ง 6 ได้อย่างง่ายดาย แม้แต่เป่ยเฟิงเองก็ยังไม่สามารถใช้พลังวิญญาณอันยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตามเป่ยเฟิงสามารถใช้ความสามารถของมันเพียงอย่างเดียวได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าหากมีใครสังเกตเห็นสิ่งที่แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับเจ้าจิ้งจอกน้อย มันจะทำให้เป่ยเฟิงตกอยู่ในอันตรายแทน
ไม่มีใครอยากจะเห็นเขาแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถควบคุมอารมณ์ทั้ง 7 และความปรารถนาทั้ง 6 ได้หรอก !
หลังจากทำลายคอขวดมาจนมีพลังระดับนี้แล้ว เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าเขาสามารถสังหารคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย !
ลองนึกภาพคนที่สามารถควบคุมความต้องการและอารมณ์ของผู้อื่นได้ ใครละอยากจะเห็นใครบางคนที่สามารถทำแบบนั้นได้ !
“ตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะใช้เจ้าจิ้งจอกน้อย ถึงแม้จะมีพลังวิญญาณจะมีหลากหลายพันประเภทแต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถบอกได้ว่ามันคืออารมณ์ทั้ง 7 และความปรารถนาทั้ง 6 ข้าต้องเล่นแบบปลอดภัยไว้ก่อน” เป่ยเฟิงพิจารณาปัญหาของเขาก่อนจะตัดสินใจ
ด้วยความคิด สมุนไพรจำนวนมากก็ปรากฎในมือของเป่ยเฟิง สมุนไพรเหล่านี้อ่อนแอเกินกว่าจะใช้ทำลายคอขวด แต่มันสามารถนำมาเพิ่มพลังทำให้พลังของเขาเสถียรได้
“ตอนนี้มรดกหยินหยางของข้ามาถึงระดับราชาพันปีแล้ว ข้าน่าจะเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับราชาพันปีขั้นสูงสุดได้แล้วตอนนี้” เป่ยเฟิงกล่าวกับตัวเอง ในฐานะที่มีส่วนหนึ่งของมรดกหยินหยาง เขาสามารถใช้มันเพื่อพัฒนาพลังในขณะที่มีพลังระดับราชาพันปีได้ ส่วนที่เหลือของมรดกหยินหยางเขายังไม่รู้ว่ามีอะไร
มรดกหยินหยางสามารถสืบทอดความรู้และความเข้าใจไปยังผู้ที่ได้รับมรดกเพื่อฝึกฝนและพัฒนาพวกเขา ถึงแม้ว่าเป่ยเฟิงจะมีความมั่นในในตัวเองแต่เขาก็ไม่คิดว่าด้วยความสามารถของตัวคนเดียวจะพัฒนาเคล็ดการฝึกฝนไปจนถึงขั้นสมบูรณ์ได้ !
แม้แต่ส่วนที่เขาได้รับความรู้มาจากผู้ฝึกตนก่อนหน้านี้ มันก็ยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการฝึกฝนที่มีไว้เพื่อสร้างรากฐานให้มั่นคั่งและแข็งแกร่ง !
ใช่แล้ว ! จะเรียกว่าเคล็ดการฝึกฝนเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงก็ว่าได้ !
มันเป็นความทรงจำที่ถูกผนึกไว้ในส่วนลึกของเป่ยเฟิง เมื่อเป่ยเฟิงได้มาอาศัยอยู่ในโลกใบนี้มันก็ทำให้เขาเข้าใจว่าเคล็ดการฝึกฝนเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคั่งนั่นแข็งแกร่งแค่ไหน การบรรลุระดับสูงสุดของมันเทียบเท่ากับการมีพลังระดับราชาพันปีขั้นสูงสุด !
สำหรับมรดกหยินหยางแล้ว มันบอกเพียงแค่ว่ามันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น มันบอกเพียงสั้น ๆ ว่า “สร้างรากฐานที่มั่นคง” นั้นเป็นเพียงแค่ขั้นตอนในการสร้างฐานเท่านั้น
“มรดกหยินหยางมันแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ? แล้วราชวงศ์ฉินจะน่าเกรงขามแค่ไหนกันแน่ ?”
เป่ยเฟิงเริ่มหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ มันราวกับเขาเริ่มตระหนักได้ว่าตัวเขานั้นเล็กเพียงใดในจักรวาลที่กว้างใหญ่ขนาดนี้
เป่ยเฟิงมีมรดกเพียงแค่ระดับพื้นฐานเท่านั้น มันป็นส่วนที่มีไว้ฝึกฝนแต่มันกลับไม่มีวิชาที่เกี่ยวกับการโจมตีมากนัก
หลังจากบรรลุระดับราชาพันปีแล้ว เป่ยเฟิงสามารถใช้วิชาแห่งดวงดาวได้อีก 3 อย่าง
หนึ่งคือกายาเคลือบดารา ซึ้งมันสามารถกระตุ้นพลังระดับแห่งดวงดาวทั้งหมดในพระราชวังแห่งดวงดาวเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางกายภาพได้หลายเท่า !
แต่ทว่าข้อเสียของมันก็คือมันต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูพลังแห่งดวงดาวให้กับพระราชวังแห่งดวงดาวนานมาก ข้อเสียอีกอย่างก็คือมันอาจทำให้ผู้ใช้ได้รับผลสะท้อนกลับได้
อีกท่าก็คือพันดาราเคลื่อนย้าย มันคือวิชาที่สามารถทำให้เดินทางข้ามดาวเคราะห์นับพันได้เพียงแค่ก้าวเดียว !
และท่าสุดท้ายก็คืออาณาเขตดวงดาว ซึ้งมันเหมือนค่ายกลป้องกลที่แข็งแกร่งไม่น้อย ความสามารถของมันก็คือการทำให้ผู้มีพลังราชาพันปีขั้นแรกสามารถป้องกันการโจมตีจากผู้มีพลังราชาพันปีขั้นสามได้ !
แม้ว่ามันจะมีเพียง 3 วิชา แต่เป่ยเฟิงก็ไม่คิดว่าพวกมันด้อยกว่าความสามารถของพลังวิญญาณของเขา !
เป่ยเฟิงสามารถทำความเข้าใจวิชาทั้ง 3 นี้ได้อย่างง่ายดายราวกับมันเกิดมาพร้อมกับเขา
และนอกจากนี้มันยังมีอีกอย่างที่เป่ยเฟิงได้รับมา
นั้นคือแนวทางในการสร้างหอคอยแห่งดวงดาว แม้แต่หอคอยแห่งดวงดาวขั้นต่ำสุดที่ระดับ 1 ดาวนั้นก็สามารถทำให้ผู้มีพลังระดับราชาพันปีขั้นสูงสุดสามารถต่อต้านผู้มีพลังระดับหมื่นปีได้ !
หอคอยแห่งดวงดาวระดับสองดาวจะช่วยทำให้ผู้มีพลังระดับราชาพันปีขั้นสูงสุดสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดและเอาชนะผู้มีพลังระดับหมื่นปีได้ !
แต่แน่นอนว่าตัวตนระดับหมื่นปีที่ว่าต้องมีพลังเพียงขั้นแรกหรือไม่ก็ขั้นที่สองเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนปรารถนาที่จะครอบครองมัน
ยิ่งผู้ฝึกตนมีพลังมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งยากมากที่พวกเขาจะก้าวข้ามขีดจำกัดและเอาชนะผู้มีพลังเหนือกว่าได้
ช่องว่างระหว่างผู้มีพลังราชาพันปีและหมื่นปีไม่แตกต่างกันมากนัก มันก็แค่เพียงการบ่งบอกถึงผู้มีสวรรค์และผู้ที่อ่อนแอ !
แน่นอนว่ามันมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียเช่นกัน แม้ว่าหอคอยแห่งดวงดาวจะสามารถทำให้เอาชนะผู้มีพลังระดับหมื่นปีได้ แต่มันต้องเป็นการต่อสู้ที่อยู่ในอาณาเขตของหอคอยแห่งดวงดาวเท่านั้น !
เมื่อออกจากอาณาเขตของหอคอยแห่งดวงดาว ผู้ใช้จะกลับสู่สภาพเดิมของพวกเขา
นอกจากนี้ มีเพียงผู้สร้างหอคอยแห่งดวงดาวเท่านั้นที่สามารถปรับและควบคุมพลังของหอคอยแห่งดวงดาวได้ นอกจากนี้วัสดุที่ใช้ในการสร้างหอคอยแห่งดวงดาวก็ไม่ใช่เรื่องตลก เป่ยเฟิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา มันเป็นไปไม่ได้เลยในตอนนี้
ด้วยทรัพย์สินของเขาในตอนนี้การจะสร้างหอคอยแห่งดวงดาว 1 ดาวก็ยังทำได้ยาก ต่อให้ขายน้ำเทียนจุนทั้งหมดที่มีก็ตาม
… ถ้าหากเขาเลือกที่จะขายไผ่จักรพรรดิสวรรค์มันก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะสร้างหอคอยแห่งดวงดาวได้
“ข้าคิดว่าข้ารวยแล้ว แต่ทำไมมันดูเหมือนข้ายังจนอยู่ …”
เป่ยเฟิงวางแผน เขาไม่มีทางที่จะขายน้ำเทียนจุนอันล้ำค่าไปได้ มันเป็นสมบัติที่ต้องอาศัยโชคในการเจอมัน มันจึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี
อย่างไรก็ตามเป่ยเฟิงก็ยังถือว่าตัวเองร่ำรวยไม่น้อยเพราะเขามีหินวิญญาณระดับสูงอีกนับล้านก้อน !
แต่เมื่อเทียบกับทรัพยากรที่ใช้ในการสร้างหอคอยแห่งดวงดาวแล้วมันยังคงห่างไกลอีกมาก
เนื่องจากต้องใช้เงินมหาศาลในการสร้างหอคอยแห่งดวงดาว มรดกหยินหยางจึงไม่ได้บอกวิธีการสร้างหอคอยแห่งดวงดาวเหนือระดับ 3 ดาวเอาไว้
แต่ทว่าด้วยการเติมทรัพยากรที่เหมาะสมเข้าไปในหอคอยแห่งดวงดาวระดับ 1 ดาว มันก็สามารถอัพเกรดหอคอยแห่งดวงดาวเป็นระดับ 10 ดาวได้เช่นกัน !