Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 628
หน้าผากของเป่ยเฟิงเต็มไปด้วยเส้นสีดำ ความตั้งใจของผู้อาวุโสตระกูลฉิงนี่มันไม่ชัดเจนเลยจริง ๆ
มันเป็นแค่การลงทุน
การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในโลกของผู้ฝึกตน
การลงทุนที่สามารถได้รับทั้งพลังและอายุขัย !
เป่ยเฟิงมีโอกาสได้เข้าร่วมทดสอบเข้านิกายสวรรค์นิรันดร์ นั้นหมายความว่าเขามีพรสวรรค์เหนือผู้อื่น
หากเขาสามารถผูกมัดอัจฉริยะอย่างเป่ยเฟิงกับตระกูลฉิงผ่านการแต่งงานได้ เมื่อเขาเติบโตจนถึงขีดสูง นั้นหมายถึงตระกูลฉิงย่อมเติบโตตามไปด้วย
แต่เป่ยเฟิงจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าผู้อาวุโสตระกูลฉิงคิดอะไรอยู่ ? เขาปฎิเสธโดยไม่ลังเล
ถึงกระนั้นเมื่อพูดถึงเรื่องความรัก มันทำให้เขานึกถึงความทรงจำอันแสนเจ็บปวดในใจ ดวงจันทร์ลึกลับเธออยู่ที่ไหน เธอเป็นอย่างไรบ้าง
แม้ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ แต่เธอจะเป็นเหมือนเดิมไหมหากพบกันอีกครั้งในอนาคต ?
ก่อนที่เธอจะจากไป เป่ยเฟิงจำได้ว่าเธอได้ดูดซับพลังแห่งความชั่วร้ายจำนวนมากเข้าไป
พลังแห่งความชั่วร้ายที่เธอดูดซับนั้นมันเทียบกับเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
เขาเพียงแค่ดูดซับมันเพียงเล็กน้อยก็เกือบจะสูญเสียตัวตนไปโดยสมบูรณ์แล้ว แล้วเธอล่ะ ?
“สหายน้อย ข้าจะบอกเจ้าให้ หลานสาวของข้านั้นงดงามจนได้รับฉายาโฉมงามสะท้านดินแดน พรสวรรค์ของเธอยอดเยี่ยมมาก เมื่อเธออายุ 50 ปี เธอก็มาถึงระดับราชาพันปีแล้ว !”
ผู้อาวุโสตระกูลฉิงทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของเป่ยเฟิง เขาพูดเหมือนกำลังจับคู่ให้คู่รักคู่หนึ่ง
“ไอ้แก่บัดซบ … โฉมงามสะท้านแผ่นดิน ? ผู้หญิงตระกูลแกดูไม่เหมือนผู้หญิงเลยซักคน ต่อให้ค้นหาโคตรเหง้าบรรพบุรุษทั้ง 36 รุ่นก็ยังไม่เจอผู้หญิงที่เหมือนผู้หญิง”
“ใช่ ข้ามีคำถามอยากจะถามเหมือนกัน ตาแก่นี้เคยพบกับหลานสาวของหลานของหลานของหลานของหลานมาก่อนจริง ๆ หรือไม่ ?”
“ถึงเทียนหยวนจะตัวใหญ่น่ารำคาญ แต่เขาเป็นคนตรงไปตรงมา แต่ไอ้เลวบัดซบนี้สิ มันชอบทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เทียนหยวนยังดีเขาจัดการได้ง่ายเพราะเขาเป็นคนตรงไปตรงมา แต่ไอ้พวกชอบทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ นี้จัดการได้ยากนัก”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสตระกูลฉิง มันทำให้ผู้มีพลังระดับหมื่นปีที่มองดูอยู่ถึงกับขมวดคิ้ว
หลานสาวของหลานของหลานของหลานของหลาน ? มันพูดพร่ามอะไรของมัน เวลามันผ่านไปนานจนแม้แต่แกยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าแกมีลูกหลานในตระกูลกี่คน นอกเสียจากอัจฉริยะไม่กี่คนที่แกจำได้ แกจำคนอื่นได้ด้วย ? ต่อให้ไปเจอหน้าลูกหลานกลางถนน บางทีแกยังจำพวกเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ไกลออกไปเทียนหยวนก็ตะโกนขึ้น “เฮ้ ฉิงหนาว หลานสาวของหลานของหลานของหลานของหลานของแกที่แกว่าสุดยอดเนี่ย แกจำชื่อเธอได้ไหม ?”
‘บัดซบ คำถามนี้มันยากเกินไป ทำไมข้าไม่คิดให้ดีก่อน …’ เมื่อได้ยินคำถาม ฉิงหนาวก็ทำหน้าตาน่าเกลียด
“สหายน้อย ตระกูลฉิงของข้ายินดีต้อนรับเจ้าตลอดเวลา เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะพาหลานสาวของหลานของหลานของหลานของหลานมาพบเจ้าเป็นการส่วนตัว”
รอยยิ้มบิดเบี้ยวปรากฎบนหน้าของเป่ยเฟิง จากนั้นฉิงหนาวก็รีบชิ่งหนีทันที
ฉิงหนาวจำไม่ได้แล้วว่าเขามีลูกหลานกี่คน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลานสาวของหลานของหลานของหลานของหลาน หากเขายังอยู่แบบนั้น เขาคงอึดอัดใจแย่
เป่ยเฟิงตกตะลึงเช่นกัน สหายผู้นี้พูดมานาน แต่กลับเป็นว่าเขาจำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อของหลานสาวของหลานของหลานของหลานของหลานตัวเอง
ผู้มีพลังระดับหมื่นปีเดินมาพูดคุยกับเป่ยเฟิงไม่กี่คำเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา
“ถ้าหากข้ามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมบ้างละก็ !”
“ใช่ แต่มันรู้สึกแย่ไม่น้อยเมื่อเราต้องเอาตัวเองไปเทียบกับผู้อื่น”
“ลืมมันไปซะ อย่าไปคิดมาก เราควรจะขยันฝึกฝนเพื่อบรรลุระดับหมื่นปีให้ได้ หากไม่มีอุปสรรคขวางกั้น ขอเพียงเรามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่ปี มันต้องทำได้แน่นอน !”
ผู้มีพลังระดับราชาพันปีที่อยู่รอบ ๆ เริ่มจับกลุ่มคุยกัน พวกเขารู้สึกอิจฉาเป่ยเฟิงอย่างมาก พวกเขาปรารถนาเพียงแค่ว่าตัวเองจะมีพรสวรรค์แบบนั้นบ้าง
“ฟิ้ว ในที่สุดก็จบ’
เป่ยเฟิงถอนหายใจ การพูดคุยกับผู้มีพลังระดับหมื่นปีมันค่อนข้างน่าเบื่อสำหรับเขา
หากเขาเผลอพูดผิดโดยไม่ตั้งใจ มันอาจจะกลายเป็นคนการสร้างศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นมาแทน
เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ พริบตาก็ผ่านไปครึ่งเดือน
ครึ่งเดือนมานี้เป่ยเฟิงผ่อนคลายมาก เมื่อเขาว่างเขาก็จะออกไปหาอาหาร หรือไม่ก็ไปพูดคุยกับผู้มีพลังระดับหมื่นปีเหล่านั้น
ด้านหนึ่งต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา อีกด้านก็เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง
หลังจากได้พูดคุย เป่ยเฟิงก็รู้สึกได้ว่าเส้นทางการฝึกฝนของเขาได้รับการแก้ไขอย่างมาก คำถามแต่ละข้อที่เขาถามไปนั้นเป็นปัญหาที่แม้แต่เขาเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้แต่อีกฝ่ายกลับตอบได้
เป่ยเฟิงไม่เร่งรีบที่จะกลับไปฝึกฝน เขาอยู่ในช่วงปรับสภาพการใช้พลังของตัวเองอยู่
ตอนนี้เขาต้องชะลอการเพิ่มความแข็งแกร่งของรากฐานของเขาก่อน เขาต้องทำความเข้าใจถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นให้หมดซะก่อน
วันนั้น ท้องฟ้าสดใสและในพื้นที่รอบ ๆ หมื่นลี้ไม่มีเมฆซักก้อน
“บูม !”
เสียงที่น่าหวาดกลัวดังขึ้น ลมพัดรุนแรงบนอากาศ ก้อนหินขนาดใหญ่น้ำหนักหลายตันจำนวนมากปริวไปตามแรงลม
เป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ ลอยขึ้นไปบนอากาศและมองไปยังทิศทางของเสียง
“ฉึก !”
เสียงฉีกกระชากดังขึ้น จากนั้นอากาศที่ว่างเปล่าก็ถูกแยกออกจากกัน
รอยแตกค่อย ๆ ลามขึ้นก่อนจะขยายไปทุกทิศทาง
“ดูเหมือนซากโบราณจะเปิดแล้ว !”
“ข้าอยากรู้นักว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น”
“จะกลับมากี่คนกัน ? จะมีกี่คนที่ถูกฝังอยู่ข้างในไปตลอดกาล ?”
ด้านนอก ทุกคนจ้องมองไปที่ประตูทางเข้า ผู้ที่เข้าไปคือคนจากตระกูลหรือศิษย์จากนิกายของพวกเขา
แม้ว่าซากโบราณจะเป็นที่รู้จักกันดีว่าเต็มไปด้วยโอกาส แต่มันก็ยังมีอันตรายด้วยเช่นกัน !
ไม่มีใครรู้ว่ามีผู้ฝึกตนถูกฝังข้างในกี่คน เพียงแค่พลังที่เล็ดลอดออกมาจากทางออก มันก็ชัดเจนแล้วว่าซากโบราณมันอันตรายแค่ไหน
ภายใต้สายตาของทุกคน มิติเริ่มกว้างมากขึ้น มันราวกับไม่มีอะไรมาหยุดมันได้ ในไม่ช้าก็เผยให้เห็นหลุมดำขนาดใหญ่
จุดแสงเล็ก ๆ ปรากฎขึ้นในความมืดช้า ๆ จากนั้นมันก็ค่อย ๆ ใหญ่ขึ้น สว่างขึ้นเรื่อย ๆ
สะพานที่ดูโบราณค่อย ๆ ลอยออกมาจากด้านนอก แสงมันมาจากสะพานนี้
สะพานหินลอยออกมาพร้อมกับขนาดที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่กี่วินาทีมันก็กลับมามีขนาดเท่าทะเลสาบ !
ออร่าของสะพานที่มันปลดปล่อยออกมามันทำให้ทุกคนกลั้นหายใจและหลับตาลง
สะพานในตอนนี้แตกต่างจากสะพานหินที่พวกเขาเคยเห็นก่อนหน้านี้ หากสะพานก่อนหน้านี้เป็นเหมือนสัตว์อสูรที่หลับอยู่ งั้นสะพานในตอนนี้ก็เหมือนสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่ถูกปลุกขึ้นมา !
ทุกคนรวมไปถึงผู้มีพลังระดับหมื่นปีรู้สึกได้ถึงบางอย่างจากออร่าที่สะพานปล่อยออกมา
ผู้คนที่ยืนรวมกันอยู่ไม่สามารถละสายตาไปจากมันได้
ใบหน้าของพวกเขาแตกต่างกันออกไป บางคนก็มีความสุข บางคนก็กังวล
แม้แต่ผู้มีพลังระดับหมื่นปีบางคนก็ยังมีน้ำตาไหลออกมา
เป่ยเฟิงก็เช่นเดียวกัน เขาหมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกที่ไม่มีเวลาให้กับสิ่งใดจนหลงลืมเกี่ยวกับโลกภายนอกและการไหลของเวลาไปแล้ว
มันดูเหมือนว่าเขาใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป แตกต่างที่วิถีชีวิตของเขาไม่ค่อยเหมือนคนอื่น ๆ
ในพริบตาทุกคนก็รู้สึกราวกับว่าพบเจอกับประสบการณ์จำนวนนับไม่ถ้วนของชีวิตนับไม่ถ้วน
“โฮก !”
เสียงคำรามที่น่าสะพรึงกลัวดังขึ้น
ทุกคนตื่นขึ้น จากนั้นสายตาของพวกเขาก็หันไปมองรอบ ๆ ราวกับว่าไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
เป่ยเฟิงก็ตื่นขึ้นเช่นกัน แต่ความสับสนในสายตาของเขาปรากฎเพียงครู่เดียวเท่านั้น
เขาตั้งสติได้เร็วและเข้าใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
มันช่างเป็นความรู้สึกทางจิตวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัว !
เป่ยเฟิงเงยหน้ามองผู้คนรอบ ๆ ด้วยใจสั่นระรัว จากลักษณะท่าทางของพวกเขา ดูเหมือนพวกเขาก็พบเจอมาเหมือนกัน แม้กระทั่งผู้มีพลังระดับหมื่นปีก็ไม่มีข้อยกเว้น
แต่เมื่อเขาโคจรพลังฉีของตัวเอง เขาก็ค้นพบบางอย่าง
‘พลังจิตและพลังของข้า … ?’
เป่ยเฟิงกะพริบตาด้วยความตกใจ รากฐานของเขามั่นคงอย่างมาก ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่าเขากลับพบว่าตัวเองในตอนนี้เข้าใกล้บรรลุราชาพันปีขั้นห้าแล้ว !
นี่มันคือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด แต่มันก็ช่วยย่นระยะเวลาการฝึกฝนของเขาไปได้มาก !
พลังจิตของเขาก็เพิ่มขึ้นทวีคูณ ก่อนหน้านี้พลังจิตได้รวมเข้าไปในผลึกจนมีขนาดเท่าเม็ดถั่ว แต่ตอนนี้มันมีขนาดใหญ่เท่านิ้วก้อย !
ตอนแรกผลึกมันไม่สมบูรณ์และมีจุดบกพร่องมากมาย
แต่ตอนนี้มันราวกับถูกจัดการโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญ มันแลดูสมบูรณ์แบบมาก !
ผลึกมันมีลักษณะสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน มันดูราวกับเกิดจากการรวมตัวกันของผลึกสี่เหลี่ยมขนาดเปียกปูนขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วน
มันมีทั้งหมด 36 ด้าน แต่ละด้านประไปด้วยผลึกสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนขนาดเล็กอีก 36 อัน มันมาประกอบรวมกันจนกลายมีรูปร่างเป็นผลึกขนมเปียกปูนขนาดใหญ่ !
ไม่เพียงแค่นั้น นอกจากนี้พลังจิตที่เขาปลดปล่อยออกไปรอบ ๆ นั้นแต่เดิมมันครอบคลุมได้มากถึง 20,000 เมตร แต่ตอนนี้มันสามารถครอบคลุมได้เกือบ 40,000 เมตร !