Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 638
เป่ยเฟิงนิ่งไม่ขยับเคลื่อนไหว เขาจดจ่ออยู่กับกระดูกสันหลังส่วนที่ 5
เลือดสีทองจำนวนมากปรากฎออกมาจากเลือดสีเงินพร้อมกับกระดูกสันหลังชิ้นใหม่ที่ค่อย ๆ ถูกสร้างมาแทนของเก่า
กระดูกอันใหม่มีสีทอง เต็มไปด้วยลวดลายซับซ้อน
ออร่าของเป่ยเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับเซลล์ที่เปลี่ยนไป เมื่อกระดูกสันหลังถูกสร้างขึ้นเสร็จ เลือดที่ไหลออกมาจากมันก็กลายเป็นสีทองทั้งหมด
ตอนแรกเลือดสีทองในร่างกายของเป่ยเฟิงมีเพียง 30% เท่านั้น แต่ทันทีที่กระดูกสันหลังส่วนที่ห้าได้รับการหล่อหลอมขึ้นมาใหม่ มันก็เปลี่ยนเป็น 35% !
เป่ยเฟิงมองเลือดสีทองที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยและพึมพำกับตัวเอง “ดูเหมือนการสร้างเลือดสีทองที่เป็นหยางบริสุทธิ์มันจะยากขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนมันจะมีความเป็นไปได้ที่ข้าจะเปลี่ยนเลือดให้เป็นสีทองทั้งหมดในขณะที่มีพลังอยู่ระดับราชาพันปี’
‘อาจเพราะการเปลี่ยนแปลงโดยสมบูรณ์มันยังคงอีกห่างไกล มันทำให้เลือดทั้งหมดที่ได้จากกระดูกสันหลังสามารถเปลี่ยนเป็นสีทองได้อย่างง่ายดาย’
‘มีทางเดียวคือข้าต้องกลั่นกระดูกใหม่ทั้งหมดไปพร้อม ๆ กับการชำระล้างเส้นเลือดทั้งหมดก่อนให้ได้’
ยิ่งเขาคิด เขาก็ยิ่งปวดหัว
การกลั่นกระดูกขึ้นมาใหม่นั้นยากมาก เพราะเขามีแต่ต้องบรรลุระดับสูงสุดในแต่ละขั้นก่อนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การชำระล้างเส้นเลือดทั้งหมดในร่างของเขาให้สมบูรณ์ … เป่ยเฟิงรู้ดีว่ามันยากยิ่งกว่าการบรรลุระดับหมื่นปี
เขาฝึกฝนมานานและใช้ทรัพยากรจำนวนมากจนดูน่ากลัว แต่เขากลับชำละล้างมันได้เพียง 10% เท่านั้น
และมีอีก 10% ที่เกือบชำระล้างได้
ถึงอย่างนั้นการชำละล้างอีก 80% ที่เหลือมันจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากมายเพื่อชำระล้างมัน !
เป่ยเฟิงส่ายหัว เขาในตอนนี้สามารถหลอมรวมเลือดฉีได้สมบูรณ์แบบทำให้เขามีพลังมากพอที่จะกวาดล้างผู้มีพลังราชาพันปีทั้งหมดได้ กำลังต้องมาพยายามสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีกครั้ง
ร่างกายที่ทรงพลังจะสามารถรับมือกับพลังได้ดีขึ้น ในทางกลับกันพลังที่มีมากมายจะส่งผลต่อการเสริมร่างกาย เป่ยเฟิงใช้ความพยายามอย่างมากในการทำให้รากฐานทั้งสองด้านของเขาเหนือกว่าผู้มีพลังระดับเดียวกัน
“ตอนนี้ข้ามีแต่ต้องฝึกฝนไปเรื่อย ๆ พอถึงเวลาก็ค่อยบรรลุไปทีละก้าว”
เสียงของเป่ยเฟิงดูสงบราวกับกำลังพูดถึงเรื่องธรรมดา ๆ
“ทำลาย !”
เป่ยเฟิงรวบรวมบอลเลือดฉีแล้วส่งตรงไปยังหน้าอกของเขา
ภายในนั้นมีดินจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์
มันเป็นเหมือนโลกเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่มีเลือดฉีลอยอยู่กลางอากาศเพื่อปลดปล่อยแสงแดดและความร้อนออกมา
เมื่อเลือดฉีของเป่ยเฟิงกระแทกเข้ากับมิติด้านใน มันทำให้มิติเกิดความปั่นป่วนจากนั้นมิติก็ขยายกว้างออกไป ตอนนี้มันขยายกว้างกว่า 20,000 เมตรแล้ว !
ตรงกลางทะเลสาบน้ำกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ต้นกำเนิดของแหล่งน้ำจากที่มีขนาดเพียงกำปั้นของเด็กทารก ตอนนี้มันมีขนาดเท่ากำปั้นของผู้ใหญ่แล้ว
แหล่งน้ำนี้กำลังพ่นน้ำพุที่เหมือนน้ำในฤดูใบไม้ผลิออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ้งจริง ๆ แล้วน้ำที่มันพ่นออกมานั้นก็คือหลิงฉีของสวรรค์และโลกที่ถูกกลั่นออกมา !
ทะเลสาบนี้แปลกมาก มันดูเหมือนไม่ได้เกิดจากที่ใด มันราวกับมันปรากฎขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ
เป่ยเฟิงมองแล้วเห็นบัวไม่กี่ต้นกำลังลอยอยู่บนผิวน้ำ ใบบัวแต่ละใบมีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือของเด็ก พวกมันมีสีทองเข้มแทนที่จะเป็นสีเขียว มันราวกับพวกมันทำมาจากเหล็ก
เป่ยเฟิงสับสน การปรากฎตัวของทะเลสาบและบัวนี้มันกระทันหันเกินไป
“ดูเหมือนความรู้ของข้ายังน้อยเกินไป … บางทีนิกายสวรรค์นิรันดร์อาจจะให้คำตอบกับข้าได้” เป่ยเฟิงพึมพำกับตัวเอง ไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับการหลอมรวมเลือดฉีที่สมบูรณ์แบบ
“ต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์กำลังเติบโตได้ดี อีกไม่นานมันก็จะครบกำหนด 6,000 ปี ในตอนนั้นหลิงฉีของที่นี่ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น”
เป่ยเฟิงมองดูต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ด้วยความพึงพอใจ แต่เดิมเขายังกังวลไม่น้อยว่าต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์จะปลูกที่นี่ได้หรือไม่ เพราะสภาพของมันไม่น่าจะเข้ากับที่นี่ได้
ตอนนี้ปริมาณหลิงฉีที่มันกลืนกินเข้าไปทุกวันนั้นเทียบเท่ากับหินวิญญาณระดับสูงสุดหลายร้อยหรือหลายพันก้อน
เมื่อมันอายุครบ 6,000 ปี มันก็จะดูดซับพลังได้มากกว่านี้
เป่ยเฟิงไม่ได้หวังพึงพาหลิงฉีของต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์เพื่อนำมาฝึกฝน กลับกันเขากลับหาหลิงฉีมาให้มันดูดซับแทน
ท้ายที่สุดแล้วหลิงฉีของไผ่จักรพรรดิสวรรค์นั้นย่อมส่งผลต่อการเติบโตของตัวมันเอง
หากหลิงฉีของมันถูกดูดออกไปจนหมดทุกวัน มันก็จะไม่สามารถเติบโตได้
แม้ว่าต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ในตอนนี้จะเทียบกับต้นที่ซุยหยุนเทียนเอาไปไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้ด้อยกว่ากัน
อีกไม่กี่เดือนมันก็จะครบ 6,000 ปี
เป่ยเฟิงไม่รู้ว่ามิติแห่งนี้มีอะไรดี แต่เนื่องจากมันถูกสร้างขึ้นจากการหลอมรวมเลือดฉีที่สมบูรณ์แบบของเขา มันไม่น่าจะมีไว้เพียงเพื่อปลูกพืชแน่นอน
เป่ยเฟิงลืมตาขึ้นแล้วลงไปอาบน้ำในอ่างไม้
ตอนนี้พลังของเขามาถึงราชาพันปีขั้นห้าแล้ว ผู้ที่มีพลังระดับราชาพันปีไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป
“ดูเหมือนข้าไม่จำเป็นต้องสร้างหอคอยดวงดาวเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งอีกต่อไป คู่ต่อสู้ที่ข้าจะเอาชนะไม่ได้ในตอนนี้คงมีเพียงผู้มีพลังระดับหมื่นปีเท่านั้น !”
เป่ยเฟิงควบคุมร่างกายได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาจึงเข้าใจดีว่ามันแข็งแกร่งแต่ไหน
ผู้ที่มีพลังระดับราชาพันปีที่หลอมรวมเลือดฉีได้ 90% จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ดังนั้นนิกายขนาดตั้งแต่เล็กถึงกลางย่อมไม่คู่ควรกับเขาอีกต่อไป
เป่ยเฟิงค่อนข้างมั่นใจว่าต่อให้ศิษย์หลักของนิกายใหญ่ที่หลอมรวมเลือดฉีได้ 90% มาเป็นคู่ต่อสู้ของเขา เขาก็สามารถจัดการกับอีกฝ่ายได้ !
คงเหลือแต่นิกายโบราณและนิกายระดับสูง รากฐานของพวกเขาลึกอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาไม่เคยขาดการฝึกฝนและทักษะต่อสู้ พวกเขาไม่ใช่สิ่งที่นิกายขนาดเล็กและกลางจะเทียบได้
‘ตอนนี้ข้ายังอ่อนแอเกินไป ข้ายังมีเวลาอีกมาก ตอนนี้พลังของข้าอยู่ที่ราชาพันปีขั้นห้า ยังมีเวลาอีกมาให้พัฒนาตัวเองต่อไปได้’
เป่ยเฟิงยิ้ม เขายังเหลืออีกสี่ขั้นกว่าจะไปถึงขั้นสูงสุด เพียงแค่สี่ขั้นก็เพียงพอที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้มากแล้ว
เป่ยเฟิงเงยหน้าแล้วยืนขึ้นจากอ่างน้ำจากนั้นก็สะบัดผมสะดำของเขาไปข้างหลัง
ผิวของเขาดูนุ่มนวลราวกับมันสามารถแตกสลายได้ด้วยการแตะ ผิวนี้แน่นอนว่าทำให้ผู้หญิงที่เห็นรู้สึกคลั่งอยากได้มาก
อย่างไรก็ตาม พลังป้องกันของเป่ยเฟิงนั้นแข็งแกร่งมาก มันขนาดที่ต่อให้เขายืนนิ่งอยู่กับที่โดยไม่ทำอะไร ผู้มีพลังระดับร้อยปีขั้นสูงสุดก็ยังไม่สามารถทำอะไรเขาได้
“ท่านหัวหน้าตระกูล พวกเราค้นพบร่องรอยของปลาวิญญาณนิรันดร์ !” ทันทีที่ใส่เสื้อผ้าเสร็จ เสียงตะโกนแห่งความสุขของหลี่เหว่ยก็ดังออกมา
“ข้ากำลังไป”
เป่ยเฟิงโคจรเลือดฉีโดยไม่รีบร้อน ในไม่ช้าผมของเขาที่เปียกโชกก็แห้ง จากนั้นเขาก็ผูกผมของเขาด้วยริบบิ้นสีขาวแล้วมุ่งหน้าไปยังดาดฟ้า
ทะเลสีทองที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดนั้นเต็มไปด้วยทรัพยากรจำนวนมหาศาล นอกจากนี้มันยังดึงดูดมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนให้ออกมาตามล่าทรัพยากรที่มีอยู่ในที่แห่งนี้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้วทะเลแห่งนี้ก็คือเวทีสำหรับสัตว์อสูรน้ำ
ทุก ๆ ปีจะมีผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนถูกฝังลงไปในทะเลสีทองตลอดกาล
แม้แต่หลี่เหว่ยและคนอื่น ๆ ก็กังวลไม่น้อย
ในฐานะผู้คุ้มกัน หลี่ปู้และพวกเขาจะต้องเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสัตว์อสูรระดับหมื่นปี พวกเขากลัวว่ามันจะปรากฎตัวออกมาแล้วกลืนกินเรือทั้งลำในขณะที่พวกเขาหลับอยู่
ดังนั้นเมื่อพวกเขาค้นพบร่องรอยของปลาวิญญาณนิรันดร์ มันทำให้หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย
เป่ยเฟิงขึ้นมาบนดาดฟ้าและมองออกไปยังฝูงปลาที่อยู่ห่างออกไปไกลหลายหมื่นเมตร
เขาเห็นปลาหลากสีมากกว่า 100 สี
ปลาวิญญาณนิรันดร์นั้นดูสวยงามอย่างมาก แม้ว่าร่างกายของมันจะถูกปกคลุมไปด้วยสีที่แตกต่าง มันไม่ได้ดูน่าเกลียดหรือทำให้สับสน กลับกันมันดูเข้ากันโดยสมบูรณ์แบบจนดูแปลกตา
มีปลาอยู่ร้อยกว่าตัว แต่ละตัวยาวกว่าห้าเมตร มันเป็นปลาวิญญาณนิรันดร์ที่โตเต็มที่
ปลาวิญญาณนิรันดร์จะเติบโตได้ช้ามาก มันจะโตเพียงปีละ 1 เซนติเมตร ! การที่พวกมันโตถึงห้าเมตรนั้นหมายความว่ามันมีอายุ 500 ปี !
ปลาวิญญาณนิรันดร์ที่โตมากกว่าสี่เมตรถือว่าโตเต็มที่ และมันก็สามารถนำไปขายเป็นหินวิญญาณระดับสูงสุด 60 ก้อนได้
ขนาดของปลาเป็นตัวกำหนดราคา ตัวที่โตกว่า 4 เมตรและน้อยกว่า 5 เมตรมีค่าเท่ากับหินวิญญาณระดับสูงสุด 60 ก้อน
ตัวที่โตกว่า 5 เมตรและน้อยกว่า 7 เมตรมีค่าเท่ากับหินวิญญาณระดับสูงสุด 100 ก้อน
ตัวที่โตกว่า 7 เมตรและน้อยกว่า 10 เมตรมีค่าเท่ากับหินวิญญาณระดับสูงสุด 300 ก้อน
สำหรับปลาวิญญาณนิรันดร์ที่โตกว่า 10 เมตร พวกมันมีค่าประเมินไม่ได้ !
อย่างน้อยพวกมันก็มีค่าเทียบเท่ากับหินวิญญาณระดับสูงสุด 10,000 ก้อน !
และนั่นก็เป็นเพียงการประมาณค่า หากโชคดีก็จะได้มากกว่านั้น !
มันยากที่จะเห็นปลาวิญญาณนิรันดร์ที่ยาวกว่า 10 เมตร เมื่อพวกมันปรากฎตัว จะมีคนจำนวนนับไม่ถ้วนแย่งพวกมันอย่างบ้าคลั่ง
มีเพียงดวงตาของปลาวิญญาณนิรันดร์ที่ยาวกว่า 10 เมตรเท่านั้นที่สามารถนำมาสร้างเป็นยาพลังวิญญาณเนตรปลาแห่งความโกลาหลได้ !
นอกจากนี้ เลือดและเนื้อของปลาวิญญาณนิรันดร์ที่ยาวกว่า 10 เมตรนั้นไม่ได้มีพลังด้อยไปกว่าสัตว์อสูรที่มีพลังระดับหมื่นปีเลยแม้แต่น้อย ผิวของมันยังสามารถนำไปสร้างเสื้อผ้าป้องกันชั้นเลิศได้อีกด้วย !