Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 640
รสชาติที่แตกต่างกันนับไม่ถ้วนรวมตัวกันราวกับฝนกระหน่ำทำร้ายรสสัมผัสของเป่ยเฟิง แม้ว่าเขาจะมีพลังจิตจำนวนมหาศาล แต่มันก็ยังทำให้เขาต้องตกตะลึง
ก่อนที่รสชาตินี้จะหมดไป รสชาติอื่นก็เข้ามาแทนที่
เมื่อมาถึงจุดนี้ เป่ยเฟิงได้ละทิ้งความคิดเดิมของเขาไปในทันที ไม่น่าแปลกเลยทำไมปลาวิญญาณนิรันดร์ถึงมีราคาสูงมาก
รสชาติของเนื้อปลาเป็นรสที่หาได้ยากมาก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด อาจจะหนึ่งนาทีหรือในพริบตา
ในไม่ช้ารสชาติในปากก็ค่อย ๆ หายไป เป่ยเฟิงค่อย ๆ ได้สติกลับมา
แต่มันยังไม่หมดแค่นั้น ! ในไม่ช้าคลื่นรสชาติอันใหม่ก็พุ่งออกมาอีกครั้ง
รสชาติอันนี้มีเอกลักษณ์พิเศษมากจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
รอยยิ้มแสนสุขปรากฎบนใบหน้าของเป่ยเฟิง เขารู้สึกได้ถึงความสุขในปากที่สมบูรณ์แบบ
“ไม่น่าเชื่อ” เป่ยเฟิงถอนหายใจ รสชาติแต่ละอย่างมันมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน
เป่ยเฟิงเคี้ยวปลาอย่างเพลิดเพลิน เนื้อของมันเรียบเนียน แต่มันให้รสชาติไม่เลว ความอ่อนโยนของเนื้อปลามันช่างเข้ากับรสนิยมการกินของเขามาก
ในไม่ช้าปลาวิญญาณนิรันดร์ทั้งตัวก็หายเข้าไปในห้องของเป่ยเฟิง อย่างไรก็ตาม ท้องของเขายังคงดูปกติไม่ได้พองออกมาแม้แต่น้อย
ความสามารถในการย่อยอาหารของผู้ฝึกตนนั้นน่าตกตะลึงอย่างมาก อย่าว่าแต่เนื้อและเลือดเลย ต่อให้พวกเขากินเหล็กหรือหินมันก็ยังถูกย่อย !
ในขณะเดียวกัน ความอยากอาหารของพวกเขาก็น่ากลัวมาก เมื่อฝึกฝนเสร็จ การกินวัวทั้งตัวก็เปรียบเสมือนการกินของว่าง
สภาพอากาศของทะเลสีทองเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
เมื่อไม่นานมานี้ท้องฟ้ายังคงแจ่มใสเต็มไปด้วยสายลมอ่อนโยน แต่ในวินาทีต่อมามันก็เต็มไปด้วยเมฆสีดำที่ปกคลุมแสงอาทิตย์
น้ำนิ่งมาก แต่มันให้ความรู้สึกที่น่าสะพรึงกลัว นกนางนวลที่บินไปมาตอนแรกหายไปหมดแล้ว แม้แต่ปลาในน้ำก็หายไปเช่นกัน
นี้คือสัญญาณของความผิดปกติ
มันเป็นความสงบก่อนพายุมา
เป่ยเฟิงเริ่มรู้สึกกังวลเช่นกัน แต่ในฐานะผู้นำ เขาไม่ควรตื่นตระหนกมากนัก
พายุลูกเล็ก ๆ ไม่เป็นปัญหากับผู้มีพลังระดับราชาพันปี แต่พายุของทะเลสีทองมันมีขนาดที่ไม่แน่นอน
พายุที่น่ากลัวมักมาพร้อมกับสายฟ้า ซึ้งแม้แต่ตัวตนระดับหมื่นปีก็มีโอกาสที่จะตายได้
“รีบไปเร็ว” เป่ยเฟิงสั่ง
ในสถานการณ์แบบนี้ เป่ยเฟิงและคนของเขาเปรียบเสมือนมดที่รอคอยให้เหยียบ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นั่นอีกต่อไป
หลังจากออกคำสั่งหลี่ปู้และคนอื่น ๆ เสร็จ เป่ยเฟิงก็มองน่านน้ำที่เริ่มดูอันตราย
พายุทะเลไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในพริบตา เพราะพายุมันจะค่อย ๆ สะสมพลังก่อน
ยิ่งใช้เวลาในการสร้างนานแค่ไหน พายุก็ยิ่งรุนแรงเท่านั้น
หลังจากผ่านไป 3 ชั่วโมง เป่ยเฟิงและคนของเขาก็เดินทางมาไกลหลายพันลี้ แต่พวกเขายังไม่สามารถออกจากเขตที่เมฆปกคลุมได้ นอกจากนี้มันยังมีออร่าแห่งลางร้ายหนาแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ
ออร่านี้มันราวกับผู้ฝึกตนที่ทรงพลังอยู่ที่นี่ แต่ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือมันถูกส่งมาจากสวรรค์
เป่ยเฟิงรู้สึกอึดอัดไม่น้อย ออร่านี้มันกดดันพลังของเขาจนทำให้พลังของเขาลดลงไปอย่างน้อย 30% !
‘พื้นที่ที่พายุครอบคลุมมันกว้างเกินไป แม้ว่าจะวิ่งหนีด้วยพลังทั้งหมดก็ยังไม่สามารถหนีออกไปได้’
เป่ยเฟิงขมวดคิ้ว เขาจินตนาการได้เลยว่าพายุมันกว้างแค่ไหน
‘นี่ไม่ใช่แม้แต่ตาของพายุ หากเราอยู่ในจุดศูนย์กลางของมัน บางทีพลังของข้าอาจจะหลงเหลือเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น’
ในสุดท้ายเป่ยเฟิงก็เข้าใจว่าเหตุใดแม้แต่ตัวตนระดับหมื่นปียังมีโอกาสตายได้ในสถานที่แห่งนี้
ในสถานการณ์ที่พวกเขาไม่สามารถแสดงพลังออกมาได้เต็มที่ แม้แต่ผู้มีพลังระดับหมื่นปีก็มีโอกาสตายได้เพราะความโชคร้ายของพวกเขา
หลายชั่วโมงผ่านไป แต่มันไม่มีแม้แต่ลมกระเพื่อมในทะเล
อย่างไรก็ตาม น้ำจากที่สงบเริ่มเคลื่อนไหว
มหาสมุทรเริ่มปั่นป่วน คลื่นขนาดใหญ่สูงนับสิบเมตรลอยขึ้น ฉากดังกล่าวมันงดงามมากราวกับกำลังดูปลาหมึกยักษ์วาดภาพ
อันตรายที่ร้ายแรงที่สุดมักจะซ่อนอยู่ในความงามอันยิ่งใหญ่ และตอนนี้ก็เป็นแบบนั้น
ถึงแม้ฉากตรงหน้าจะดูยิ่งใหญ่และสวยงาม แต่ไม่มีใครอยู่ในอารมณ์ที่จะชื่นชมมัน
สองชั่วโมงผ่านไป มหาสมุทรเต็มไปด้วยคลื่นขนาดใหญ่ที่สูงกว่า 10 เมตร !
คลื่นพัดตามหลังคลื่น ปะทะเข้ากับพวกเขาอย่างน่ากลัว
เมฆดำบนท้องฟ้าหนาและหนักเหมือนภูเขา มันราวกับท้องฟ้าพร้อมจะถล่มลงมา
ดวงอาทิตย์ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆ แม้ว่ามันจะเป็นตอนกลางวันแต่พื้นที่ทั้งหมดกลับเต็มไปด้วยความมืดมิด
สำหรับคนทั่วไป พวกเขาไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ทุกคนที่ยืนอยู่ที่นี่มีพลังระดับราชาพันปี
พวกเขาไม่ได้รับผลกระทบจากธรรมชาติในเรื่องนี้ พวกเขายังมองเห็นชัดเจนราวกับตอนกลางวัน
“ท่านหัวหน้าตระกูล เราพบฝูงปลาวิญญาณนิรันดร์ขนาดใหญ่ !” เสียงกระวนกระวายของหลี่ปู้ดังขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“มีมากแค่ไหนกัน ?” เป่ยเฟิงถามด้วยความสงสัย การที่ทำให้หลี่ปู้ที่มักนิ่งสงบสูญเสียความสงบได้นั้นมันคงไม่มีทางเป็นเพียง 1-200 ตัวแน่
“เยอะมาก ! พวกมันรวมตัวกันเป็นกลุ่มเยอะมาก ข้านับไม่ไหว !” หลี่ปู้บอก นี่เป็นฝูงปลาวิญญาณนิรันดร์ขนาดใหญ่ มีแต่ปลาที่โตเต็มที่แล้วทั้งนั้น !
“โอ้ ? ไหนข้าดูเอง” เป่ยเฟิงยกคิ้วและปล่อยให้หลี่ปู้เป็นผู้สั่งการนำทาง “เยอะมาก !”
แม้ว่าเขาจะคาดหวังว่าจะพบฝูงปลาวิญญาณขนาดใหญ่ แต่เขาเมื่อเห็นฝูงปลาเขาถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
ห่างออกไปหนึ่งพันกิโลเมตร มันเป็นฝูงปลาขนาดใหญ่กำลังว่ายเข้าหาเรือ
ฝูงปลาวิญญาณนิรันดร์ปกคลุมไปทั่วผิวน้ำทั้งหมด มันมีหลายตัวที่กระโดดขึ้นมาจากน้ำ
ร่างกายของพวกมันแข็งแกร่งและถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสะท้อนแสงอาทิตย์
“ท่านหัวหน้าตระกูล เราควรจะจับปลาวิญญาณนิรันดร์พวกนี้ไหม ?”
แม้ว่าหลี่ปู้จะรู้ว่าพายุเข้ามาใกล้ แต่เขาก็ไม่สามารถทนต่อการล่อลวงของปลาวิญญาณนิรันดร์ได้
ปลาวิญญาณนิรันดร์เพียงตัวเดียวมีค่าเท่ากับหินวิญญาณระดับสูง 60 ก้อน มันคือภูเขาหินวิญญาณกองหนึ่ง !
“ไม่ พวกเราจะไม่ยุ่งกับมัน” เป่ยเฟิงกล่าวหลังจากคิดดีแล้ว
“ท่านหัวหน้าตระกูล นี้เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต ถ้าหากเราปล่อยพวกมันไป มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นฝูงปลาขนาดใหญ่แบบนี้อีก”
หลี่ปู้ไม่อยากปล่อยโอกาสหายากแบบนี้ไป เขารู้สึกว่ามันง่ายมากที่จะจับฝูงปลาทั้งหมด
เป่ยเฟิงมองหลี่ปู้และกล่าว “ในฐานะผู้ฝึกตน เจ้าควรจะคำนึงสิ่งสำคัญที่สุดไว้ มันไม่ใช่ทักษะการฝึกฝนหรือทรัพยากร แต่มันคือชีวิตของเจ้า ! โอกาสย่อมเข้ามาหาเจ้าตลอดเวลาตราบใดที่เจ้าไม่ตาย !”
หลี่ปู้ราวกับรู้แจ้ง เขาจึงสงบลงทันที
“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” หลี่ปู้ตอบกลับด้วยความเคารพเมื่อเขาตระหนักได้ว่าตัวเองทำผิดพลาดแค่ไหน
เขารู้สึกสบายใจขึ้นมากเมื่อได้รับการรู้แจ้งจากเป่ยเฟิง ผู้ฝึกตนไม่ใช่ว่าควรจะระมัดระวังตัวเองและเอาชีวิตรอดไปให้ได้งั้นหรือ ?
หลี่ปู้ราวกับเห็นถึงความผิดพลาดของเขา ในขณะเดียวกันมันราวกับวิถีแห่งเต๋าของเขาได้พัฒนาไปอีกขั้น
“ปลาวิญญาณนิรันดร์พวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ขึ้อาย ดังนั้นพวกมันจึงรู้วิธีหลีกเลี่ยงปัญหา มีความเป็นไปได้ว่าพวกมันกำลังพยายามหนีจากพายุโดยการว่ายน้ำหนีไปที่อื่น” เป่ยเฟิงสันนิษฐานเมื่อเห็นฝูงปลาวิญญาณนิรันดร์ว่ายไปอีกทาง
“ตามฝูงปลาไปแล้วดูว่าพวกมันกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน” เป่ยเฟิงกล่าวขึ้น “ในเมื่อเรายังอยู่ในพื้นที่อันตรายและไม่มีทางให้หนีแล้ว เราควรตามฝูงปลาไปและดูว่ามันมีสถานที่ปลอดภัยหรือไม่ ยังไงซะเราก็คงหนีอันตรายครั้งนี้ไม่พ้นแน่นอน”
“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” หลี่ปู้คำนับด้วยความเคารพก่อนจะเดินจากไป
วินาทีต่อมาเรือก็เปลี่ยนเส้นทาง เรือหันไปทิศทางของฝูงปลาวิญญาณนิรันดร์ที่กำลังว่ายอยู่
คลื่นสูง 10 เมตรปรากฎขวางทางเรือเอาไว้
แม้แต่ปลาวิญญาณนิรันดร์ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ความเร็วในการว่ายน้ำของมันลดลงไปครึ่งหนึ่ง
“ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ชนคลื่นนั่นไปซะ !”
เป่ยเฟิงยืนอยู่บนดาดฟ้า เขายืนมั่นคงโดยไม่สะทกสะท้านกับการสั่นไหวของเรือ มันราวกับว่าเขายึดติดเข้ากับดาดฟ้าเรือไปแล้ว
“ขอรับ !” หลี่ปู้พยักหน้าและแล่นเรือปะทะเข้ากับคลื่น !
คลื่นมันสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นมันก็ค่อย ๆ ล่วงลงมาจากท้องฟ้าใส่เรือ !
มันราวกับฉากการฆ่าตัวตายโดยการขี่เรือพุ่งเข้าชนกับคลื่นที่สูงตระหง่า !