Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 644
สัตว์ทะเลในทะเลลึกที่มีร่างกายใหญ่โตขนาดเท่าเกาะเล็ก ๆ โผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำ
พลังฉีและเลือดของมันแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ทว่ามันกลับไม่สามารถฝึกฝนได้ ถึงแม้มันจะมีขนาดใหญ่แต่มันมีพลังเพียงระดับราชาหมื่นปีธรรมดาเท่านั้น
เนื่องจากขนาดร่างกายใหญ่เกินไป เลือดและฉีในร่างของมันจึงมีมากกว่าผู้ฝึกตนมนุษย์
อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นจุดอ่อนเช่นกัน การเคลื่อนไหวของมันเร็วพอ ๆ กับราชาพันปีขั้น 5-6 เท่านั้น
อีกอย่างคือมันชอบโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำเพื่ออาบแดด
จุดอ่อนเหล่านี้ ทำให้กองเรือสามารถมองเห็นมันได้ง่ายในทะเลอันกว้างใหญ่
วิญญาณทะเลที่โตเต็มวัยจะมีวิญญาณทะเลในร่างกายโดยมีน้ำหนักประมาณ 100 – 150 จิน
กลิ่นของวิญญาณทะเลเพียงตัวเดียวก็เพียงพอที่จะติดตามเจอพวกมันอีกหลายร้อยตัว !
กล่าวคือมูลค่าของวิญญาณทะเลนั้นมีมากกว่าหินวิญญาณชั้นยอดหลายสิบล้านก้อน !
หินวิญญาณชั้นยอดหลายสิบล้านก้อนเพียงพอที่จะใช้ชีวิตอย่างมหาเศรษฐีได้สบาย ๆ ไปตลอดชีวิต
ปืนใหญ่ทำลายล้างมีไว้เพื่อล่าวิญญาณทะเล อาศัยเพียงการโจมตีของผู้มีพลังระดับราชาพันปีคงไม่เพียงพอที่จะทำลายการป้องกันของมัน
แต่ปืนทำลายล้างต่างออกไป เมื่อเห็นวิญญาณทะเลอยู่ไกล ๆ มันสามารถทำลายหรือสังหารได้ในทันที
“หวังว่าสภาพอากาศจะเปลี่ยนไปตามที่เจ้าพูด”
ในห้องประชุมขนาดใหญ่บนเรือรบ มีราชาพันปีหลายร้อยคนมารวมตัวกันและมีราชาพันปีคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“พายุนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ทะเลที่เป็นทางผ่านข้ามทะเลที่หลายร้อยปีจะปรากฎ มันต้องปรากฎแน่นอน”
“ข้าเกรงว่าคราวนี้เมืองทองคำจะได้รับผลกระทบอย่างมาก”
“ผลกระทบจะยังไงนั่นไม่ใช่ปัญหา แต่อย่าลืมว่าเบื้องหลังพวกเขามีผู้มีพลังระดับราชาหมื่นปีหลายสิบคนปกป้องอยู่ เพียงแค่คลื่นเหล่านี้มันทำอะไรเมืองทองคำไม่ได้หรอก”
ทุกคนพูดคุยกัน แต่ก็ยังมีความกังวลบางอย่างอยู่ในใจ
“เมื่อสามร้อยปีก่อน เรือล่าสัตว์อสูรประจำตระกูลของข้าถูกทำลายในทะเลทองคำเพราะพายุ เหตุการณ์ในครั้งนั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายแสนคน นอกจากนี้ยังมีบางคนที่ตกไปในทะเล ข้ากังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น”
“เลิกคุยเรื่องนี้เถอะ อย่าพูดเรื่องนี้ให้คนอื่นได้ยินจะดีกว่า”
ราชาพันปีอีกคนพูดขึ้น
พายุแบบนี้หายากในรอบหลายร้อยปี ถ้าไม่ระวังตัวให้ดี ต่อให้มีพลังระดับราชาหมื่นปีก็สามารถเพลี่ยงพล้ำได้ !
“สาวน้อย เจ้ายังไม่พบพื้นที่ที่เจ้ากำลังพูดถึงอีกหรือ ?”
มีคนนั่งด้านบนดาดฟ้า 18 คน แต่ละคนสวมใส่ชุดแตกต่างกัน ชุดพวกเขาเป็นสีน้ำเงินและมีการรูปปักบ่อน้ำโบราณขนาดเล็กที่หน้าอก
ชุดของราชาพันปีที่เหลือก็เป็นสีน้ำเงินเช่นกัน แต่มีหยดน้ำคล้ายคริสตัลปักอยู่ที่หน้าอก
มันบ่งบอกได้ว่าที่นั่งอยู่ด้านบนคือผู้ที่มีพลังมากที่สุดในที่แห่งนี้ พวกเขามีพลังระดับราชาพันปีขั้นสูงสุด แม้แต่แรงกดดันรอบ ๆ ตัวพวกเขาก็ยังรุนแรงกว่าที่อื่น ๆ
ไม่น่าแปลกเพราะพวกเขาคือผู้ที่ก้าวข้ามระดับราชาหมื่นปีล้มเหลว ทำให้ติดอยู่ที่ระดับครึ่งก้าวหมื่นปี
แม้ว่าพวกเขาจะล้มเหลว แต่มันคือเรื่องปกติสำหรับมนุษย์ที่จะก้าวข้ามล้มเหลวในครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม จำนวนความล้มเหลวไม่เท่ากันเสมอไป เพราะทุกครั้งที่ล้มเหลวก็จะสูญเสียรากฐานของตนเองไป
หลังจากล้มเหลวห้าครั้งแล้วยังไม่สามารถก้าวข้ามระดับหมื่นปีได้ ก็เป็นไปได้ที่จะติดอยู่ในระดับครึ่งก้าวราชาหมื่นปีไปตลอดชีวิต
ในทำนองเดียวกัน พวกเขาต้องใช้เวลาในการฟื้นความแข็งแกร่งไม่น้อยในการล้มเหลวแต่ละครั้ง
หากใครล้มเหลวในการก้าวผ่านระดับราชาหมื่นปีครบ 5 ครั้ง ก็จะมีพลังเพียงระดับครึ่งก้าวหมื่นปี แม้จะไม่แข็งแกร่งเท่าราชาหมื่นปี แต่ก็ไม่มากนัก
แน่นอนว่าพวกเขายังคงเป็นที่เคารพ นอกจากนี้พวกเขายังมีความแข็งแกร่งขนาดที่ว่าสามารถสังหารผู้มีพลังระดับราชาพันปีชั้นยอดได้อย่างง่ายดาย
สมาชิกของตระกูลซุยมีระดับที่แตกต่างกัน การปักลายทะเลบนชุดคือหัวหน้าตระกูล
ระดับต่อไปคือผู้อาวุโสและอื่น ๆ จะปักลายแม่น้ำอยู่บนเสื้อผ้า
ลายทะเลสาบจะถูกปักบนเสื้อผ้าของศิษย์หลัก
ลายบ่อน้ำจะถูกปักไว้ที่หน้าอกของศิษย์สายใน
ลายหยดน้ำที่เหมือนคริสตัลจะถูกปักลงบนเสื้อผ้าของศิษย์สายนอก
สำหรับผู้ที่มีพลังระดับร้อยปีธรรมดา จะไม่มีคุณสมบัติที่จะกลายเป็นศิษย์สายนอกของตระกูลซุย
“เจ้าค่ะ ข้ายังไม่พบพื้นที่นั้น ข้าหลงเข้าไปในบริเวณนั้นเมื่อหลายปีก่อน ยังต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยในการหา”
ผู้หญิงหน้าตาดียืนขึ้นและตอบอย่างเคารพ
“เร็วเข้าเถอะ เวลาของเรากำลังจะหมดลง พายุกำลังจะมาและเมื่อเจ้าไม่พบพื้นที่ที่เจ้ากำลังพูดถึง ทุกคนที่นี่ก็อาจตายได้”
วู่หยานกล่าวด้วยความหนักแน่น
“เจ้าค่ะ !”
สาวน้อยผมแดงพยักหน้าแล้วเดินไปที่ห้องประชุม
วู่หยานเป็นศิษย์สายในของตระกูลชุย และล้มเหลว 3 ครั้งในการก้าวข้ามระดับหมื่นปี หากเขายังคงล้มเหลวจนครบ 5 ครั้ง ตัวตนของเขาในฐานะศิษย์สายในของตระกูลซุยจะถูกปลดและกลายเป็นศิษย์สายนอก
สำหรับพายุที่พวกเขาเผชิญหน้าอยู่ วู่หยานไม่ได้มองว่ามันคือจุดจบของโลก วู่หยานรู้ว่านี่เป็นเพียงแค่การเปิดฉาก
พายุที่แท้จริงยังอยู่เบื้องหลัง ในเวลานั้นพื้นที่ทั้งหมดที่ถูกพายุปกคลุมจะเปี่ยมไปด้วยแรงกดดันมหาศาล
สิ่งมีชีวิตมากกว่า 90% จะถูกทำลาย !
สำหรับการให้เรือดำน้ำ ?
มันไม่ใช่เรื่องยาก ผู้ที่มีพลังระดับร้อยปีสูงสุดสามารถใช้ชีวิตใต้น้ำได้ 3-5 วันโดยไม่มีปัญหา
ส่วนราชาพันปีการมีชีวิตในน้ำเป็นเวลา 1 เดือนก็ไม่ใช่ปัญหา
ทิ้งเรือแล้วดำดิ่งลงไปซักหมื่นเมตรแล้วรอหลายวันรอพายุผ่านไป เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ทำไมจะคิดไม่ได้ ?
และแน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้
ไม่ใช่ว่าไม่มีใครไม่เคยคิด แต่พวกเขาไม่กล้าทำ
ไม่ต้องพูดถึงว่าพายุดังกล่าวที่มักกินเวลาอย่างน้อยหลายเดือน
อาศัยเพียงแค่น้ำทะเลสีทองก็เพียงพอที่จะทำลายแผนการเหล่านี้
มีประโยคหนึ่งในโลกนี้ที่สรุปถึงอันตรายของสถานที่อันตรายทั้งสี่
น้ำทะเลสีทองที่เป็นอันตรายต่อผู้คน
ไฟบนภูเขาอัคคีที่ไม่มีวันดับ
ปีศาจแห่งภูเขาเป่ยต้วนที่ไม่มีวันตาย
ทะเลทรายที่ราวกับหลุมดำ
น้ำทะเลสีทองอาจดูเหมือนธรรมดา แต่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ธรรมดามาก
น้ำทะเลมีองค์ประกอบพิเศษ และมันไม่สำคัญว่าคุณจะสัมผัสกับมันในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่เมื่อผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สารพิเศษในน้ำทะเลจะหลอมรวมเข้ากับร่างกายมนุษย์คนนั้น
สารนี้จะดูดซับพลังฉีและเลือดในร่างกายของผู้ฝึกตน และในที่สุดก็จะปิดกั้นเส้นลมปราณทั้งหมดที่วิ่งอยู่ในร่างกาย
มันเท่ากับการทำลายชีวิตอันยืนยาวของมนุษย์ผู้นั้น นอกจากนี้มันยังไม่มีอะไรสามารถแก้พิษมันได้ ยกเว้นแต่เพียงยานิรันดร์บางอย่างเท่านั้น
แม้แต่ผู้มีพลังระดับร้อยปีขั้นสูงสุดก็ยังช่วยไม่ได้ ต่อให้เป็นระดับราชาพันปีหรือหมื่นปีก็ไม่สามารถช่วยได้เช่นกัน !
นี่คือเหตุผลที่แท้จริง และยังเป็นเหตุผลที่เป่ยเฟิงและตระกูลซุยไม่ละทิ้งเรือ
สำหรับการบินไปบนท้องฟ้า ?
หึหึ ดูสายฟ้าที่รุนแรงเหนือท้องฟ้านั่นสิ มันมีสายฟ้าที่รอพุ่งลงมาหามนุษย์ที่บินขึ้นมาอยู่เช่นกัน !