Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 378
กลุ่มของผู้ที่อยู่ระดับเซียนเทียนนั่งจับกลุ่มอยู่รอบ ๆ เพื่อเฝ้ามองโชดี ๆ พร้อมกับรอยยิ้มบนหน้า ทุกคนเป็นแขกที่มีอิทธิพลที่เป็นพันธมิตรกับตระกูลหวัง
การตบของหวังฮงเต็มไปด้วยความโกรธที่หวังหยุนทำลายบรรยากาศดี ๆ ในวันสำคัญเช่นนี้
เนื่องจากเรื่องนี้ถูกตัดสินไปแล้วและหวังฮงเองก็พยายามเต็มที่แล้ว อย่างน้อยเขาก็พยายามทำให้ลูกสาวของเขาได้ใช้ชีวิตได้สบายยิ่งขึ้นหลังจากแต่งงานออกไปแล้ว
หลังจากเห็นเหตุการณ์แบบนี้ หากเฮลันฉินจุนเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย หวังหยุยจะไม่ต้องลำบากกว่าเดิมงั้นหรือในอนาคต ?
แต่ก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะได้ตบ ทันใดนั้นมือที่ขาวเหมือนหยกก็จับข้อมือของเขาไว้แน่นราวกับครีมเหล็ก
หวังฮงหรี่คามองและถามขึ้น “เจ้าอยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องตระกูลหวังของข้างั้นสินะ ?’
การเคลื่อนไหวของเป่ยเฟิงเร็วเกินไป ทุกอย่างที่เขาเห็นคือภาพเบลอจากนั้นเขาก็ปรากฏตรงหน้าเขาแล้ว
ในขณะเดียวกันหวังฮงก็ไม่ได้มีความกลัวให้ปรากฏแม้แต่น้อย ไม่ว่ายังไงตระกูลหวังเองก็ยังมีระดับเซียนเทียนอีก 10 คนอยู่ที่นี่ !
ผู้คุ้มกันของหวังฮงที่อยู่ด้านหลังรีบวิ่งออกไปเรียกกำลังเสริมโดยไม่ลังเล เป่ยเฟิงมองพวกเขาอย่างใจเย็นและเขาไม่มีอะไรให้กลัวเพราะไม่มีอะไรหยุดเขาได้
“ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะยุ่งหรอก แต่ฉันติดหนี้บุญคุณลูกสาวเจ้าไว้ 3 อย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือการใช้มันเพื่อยุติการแต่งงานครั้งนี้” เป่ยเฟิงยิ้มจาง ๆ
เมื่อคำพูดของเขาออกจากปาก ทุกคนก็สบถด้วยความโกรธ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นคนบ้า ! คนบ้าที่ทำอะไรตามใจตัวเอง !
“ไอ้นรกนี้มันเป็นใครกัน ? มันกล้ารุกรานทั้งชนเผ่าเฮลันและตระกูลหวัง มันบ้าไปแล้วใช่ไหม ?”
“ฮี่ฮี่ รอดูว่าตาแก่บัดซบหวังฮงจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไง น่าสนุกจริง ๆ !”
ผู้ที่อยู่รอบ ๆ ไม่ได้เข้ามายุ่งด้วย พวกเขาทำเพียงนั่งเฉย ๆ รอดูความวุ่นวายที่จะตามมา
หวังฮงยิ้มและพูดต่อ “เพื่อตอบแทนสำหรับเม็ดยามังกรเสือ ข้าจะแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเจ้าออกไปแล้ว”
ในขณะเดียวกันเขาก็หันไปมองหวังหยุนที่หลบอยู่ข้างหลังหวังหยุย
“หึหึ น่าสนใจจริง ๆ ไม่มีใครพูดกับฉันแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ ?”
เป่ยเฟิงปล่อยมือหวังฮงนานแล้ว เขาไม่ได้มีความ “กลัว” เลยแม้แต่น้อย เขาทำเพียงทำหน้าตาใสซื่อและหันไปมองหวังฮง
“เพ้ย ! มันกำลังท้าทายตระกูลหวัง !”
“อ๊า ไอ้หนุ่มนั่นยอดเยี่ยมจริง ๆ เลือดของมันช่างร้อนแรงเหมือนข้าสมัยหนุ่ม ๆ เลย !”
“แปลก ทำไมข้าเหมือนเคยเห็นเขามาก่อน ?”
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญยังคุยกันด้วยความสนใจ ในหมู่พวกเขามีคนหนึ่งที่กำลังสับสนอยู่
“หนุ่มน้อย ถึงเจ้าจะแข็งแกร่งแต่เจ้าคิดจะเป็นศัตรูกับตระกูลหวังของข้า ?”
พลังฉีของหวังฮงเร่งสูงขึ้นพร้อมกับกระจายไปรอบ ๆ เสื้อผ้าของเขาพริ้วสะบัดไปตามสายลม
“ในเมื่อแกกล้าสร้างปัญหาให้กับตระกูลหวัง ในฐานะผู้อาวุโสของตระกูล ข้าคงจะปล่อยไปไม่ได้ !”
เสียงสูงวัยดังออกมาตามมาด้วยระดับเซียนเทียน 12 คนที่เดินผ่านสวนเข้ามา ในหมู่พวกเขามีชายชราเดินนำหน้าพร้อมกับประกายแสงในดวงตา
“ฉันเคยพูดไปแล้วว่าการแต่งงานครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้น แน่นอนว่ายกเว้นแต่หวังหยุยจะตกหลุมรักคนของชนเผ่าเฮลันในอนาคต ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเมื่อถึงตอนนั้น” เป่ยเฟิงกล่าวสบาย ๆ ราวกับผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย
เมื่อมาถึงจุดนี้ ชนเผ่าเฮลันทำได้เพียงเป็นแค่ผู้ชม ผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียน 4 คนที่ยืนข้างหลังเฮลันฉินจุนต้องการแก้ไขปัญหานี้แต่พวกเขาก็ถูกหยุดโดยเฮลันฉินจุน
“โอ้ ? ไม่เลว 1 อยู่ระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุดระดับกลาง , 2 ระดับเซียนเทียนขั้นกลาง , 10 ระดับเซียนเทียนขั้นต้น ไม่เลวจริง ๆ แต่น่าเสียดาย มันยังอ่อนแอเกินไป”
ไม่มีใครสามารถซ่อนพลังจากดวงตาของเป่ยเฟิงได้
เป่ยเฟิงระเบิดพลังออกมาพร้อมกับแรงกดดันของเขาที่กระจายทั่วฟ้า !
เลือดและฉีของเขาปกคลุมทั่วท้องฟ้าจนทำให้เกิดระเบิดขนาดใหญ่ที่กระจายเมฆออกไป
“กึก !”
แรงกดดันมหาศาลที่เต็มไปด้วยความอันตรายแพร่กระจายไปทั่วคฤหาสน์
“แตะ แตะ”
บรรดาผู้ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ เป่ยเฟิงทำได้เพียงถอยหลังหลายก้าวพร้อมกับมองเป่ยเฟิงด้วยความตกใจ
ในสายตาของพวกเขา เป่ยเฟิงราวกับสัตว์อสูร ร่างกายของเขาแผ่แรงกดดันที่น่ากลัวออกมา
“เขาแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ?”
“เขาเป็นใครกัน ? แรงกดดันนี้มัน … อย่าบอกนะเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวสวรรค์ ?”
ผู้คนตกใจกับการระเบิดพลังของเขา สหายผู้นี้เก็บซ่อนพลังงานได้ยอดเยี่ยมมาก !
ทุกคนมองเขาด้วยความสนใจ แต่ก็เท่านั้น ในสายตาพวกเขามันก็แค่เด็กหนุ่มประหลาด ๆ เท่านั้น
“ไม่ใช่ เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวสวรรค์ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์เลยต่างหาก ! เขาเป็นตำนานที่ยังมีชีวิต ! เฮลันฉินจุนคารวะผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ !”
ใบหน้าของเฮลันฉินจุนซีดลงอย่างรวดเร็ว ที่เขารู้ว่ามันไม่ใช่แรงกดของผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวสวรรค์เพราะในชนเผ่าของเขามีผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวสวรรค์ถึง 3 คน แต่แรงกดดันของพวกเขาอ่อนแอกว่าเป่ยเฟิงมาก มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวสวรรค์จะมาเทียบได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะทำความเคารพและก้มหัวลง
“อะไรนะ ? ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ ? ไม่ใช่ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นมีพลังระดับครึ่งก้าวสวรรค์งั้นรึ ?”
“เดียว ! ข้าจำได้แล้ว ! ในตอนนั้นมีข่าวว่าที่หุบเขากงหมิง ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ได้ปรากฏตัวและมอบความพ่ายแพ้ให้กับวูเนี้ยงละวูยอง จากนั้นเขาก็ปะทะกับกงหมิงซีได้อย่างสูสี !” คนที่เพิ่งจำเป่ยเฟิงได้ตบหน้าผากของเขาและพูดออกมาในขณะที่นึกถึงเหตุการณ์นั้น
ภาคตะวันตกเฉียงเหนืออยู่ห่างจากหุบเขากงหมิงมาก ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญของภูมิภาคนี้เลยไม่ได้ไปเข้าร่วมในตอนนั้น แม้ว่าจะมีข่าวลือเรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วประเทศแต่ก็มีหลายคนที่ไม่เชื่อ
“คารวะผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ !”
ทุกคนรีบทำความเคารพด้วยความไม่สบายใจ
เมื่อมีเฮลันฉินจุนนำหน้า คนอื่น ๆ ก็ทำตามทันที เขาเป็นผู้ที่มีคุณค่ามากที่สุดในโลกศิลปะการต่อสู้ เขาเป็นผู้ที่คอยนำทางและชี้แสงสว่างให้กับคนนับไม่ถ้วนได้เดินตาม !
ไม่มีอะไรที่เขาไม่รู้ บรรดาผู้ที่บรรลุก่อนถือว่าเป็นอาจารย์ ! ในเวลาเดียวกันไม่มีใครสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของพวกเขาแม้แต่น้อย ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เป็นตัวตนในตำนานที่พวกเขายากจะพบเจอ !
หากมีใครคนหนึ่งกล้าท้าทายเขาในขณะที่พลังของเขาอยู่ต่ำกว่าอีกฝ่าย นั่นถือว่าเป็นการถามหาความตายชัด ๆ !
ด้วยการตอบรับในปัจจุบัน ถือว่าเป่ยเฟิงคุ้มค่ามากที่ยิงธนูดอกนี้ออกไป !
“ไม่เลว เจ้ามีสายตายอดเยี่ยมมาก สามารถแยะแยกทุกอย่างได้ดีเยี่ยม ตอนแรกฉันคิดจะใช้ความรุนแรงแก้ปัญหานี้แต่ดูเหมือนตอนนี้เรื่องจะง่ายขึ้นแล้ว”
เป่ยเฟิงชมเชยเฮลันฉินจุน มันยอดเยี่ยมเช่นกันที่เขาสามารถบรรลุระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุดได้ด้วยอายุดังกล่าว หากคำนวณจากอายุปัจจุบันของผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุดแล้ว เฮลันฉินจุนถือว่ายังหนุ่มมาก !
ผู้อาวุโสของตระกูลหวัง ไม่ว่าจะอยู่ระดับสูงสุดหรือระดับต้นทำได้เพียงก้มหัวและพูดด้วยเสียงเบา ๆ “เรียนนายท่านที่เคารพ นายหญิงน้อยได้หมั้นหมายกับชนเผ่าเฮลันและกำลังจะเดินทางติดตามพวกเขากลับไปในเทือกเขาเฮลัน ….”
“ฉันไม่สน ฉันบอกไปแล้วว่าฉันแค่ทำตามสัญญา”
เป่ยเฟิงหรี่ตามองชายชรา ชายชราเมื่อเห็นเป่ยเฟิงมองเขามันก็ทำให้ขนทั้งหมดในร่างของเขาลุกขึ้น เขาทำได้เพียงเปิดปากและปิดลงหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“เว้นเสียแต่ว่าหวังหยุยจะแต่งงานกับเจ้าด้วยความเต็มใจ เรื่องนี้ถือว่าจบลง” เป่ยเฟิงกล่าวในขณะที่หันไปมองเฮลันฉินจุน เสียงของเขาไม่ได้มีความโกรธเคืองใด ๆ ทั้งนั้น
เฮลันฉินจุนทำได้เพียงพยักหน้าด้วยความไม่เต็มใจในขณะก้มหัวให้เป่ยเฟิง เขาไม่กล้าต่อต้านเมื่ออยู่ภายใต้ดวงตาที่น่ากลัวของเป่ยเฟิง
“พอใจหรือยัง ? นี้ก็ถือว่าฉันทำตามคำขอของเธอแล้ว ไม่มีอะไรคัดค้านสินะ ?”
เป่ยเฟิงหันไปถามหวังหยุน แม้ว่าอายุของทั้งคู่จะไม่ต่างกันมากนักแต่เป่ยเฟิงมักรู้สึกว่าตัวเองแก่กว่า เขาจึงพูดกับหวังหยุนราวกับกำลังพูดกับเด็กน้อย
“ยังมีคำขออีกอย่างที่เหลืออยู่ เธออยากให้ฉันทำอะไรให้หรือเปล่า ?” เป่ยเฟิงถาม ตราบใดที่เขาสามารถตอบแทนหนี้บุญคุณได้ทั้งหมด เขาจะถือว่าไม่ได้เป็นหนี้เธออีกต่อไป