Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 381
ภูเขามังกรเสือไม่ได้สวยงามมากไปกว่าภูเขาที่มีชื่อเสียง แต่เพราะมันเป็นสถานที่ตั้งของเหล่าบรรพบุรุษเต๋าทำให้มันมีสถานะพิเศษ !
ทั้งภูเขามังกรเสือมันเสมือนสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ด้วยการใช้ประโยชน์จากสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่แบบนี้จึงสามารถดึงดูดหลิงฉีที่อยู่รอบ ๆ เข้ามารวมตัวกันได้ ในขณะเดียวกันสนามแม่เหล็กแห่งนี้ยังทำให้ฝึกฝนด้านพลังจิตได้ก้าวหน้าขึ้นมาก
หากหลิงฉีรอบ ๆ ภูเขามังกรเสือเปรียบเสมือนมหาสมุทร ภูเขามังกรเสือก็เปรียบเสมือนน้ำวนขนาดใหญ่ภายในมหาสมุทร !
หลิงฉีจำนวนมหาศาลได้มารวมตัวกันที่ภูเขามังกรเสือแห่งนี้ทำให้หลิงฉีมันมากกว่าที่อื่นถึง 10 เท่า !
และหลังจากที่นิกายเต๋าได้ตั้งถิ่นฐานบนภูเขา พวกเขาก็รีบแก้ไขตัวภูเขาทันที วัสดุล้ำค่าจำนวนมากถูกนำมาใช้สร้างเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋า !
เป่ยเฟิงคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นสุดยอดค่ายกลธรรมดา ๆ เพราะมันสามารถใช้โจมตีได้ด้วย แม้แต่เขาก็ไม่กล้าประมาทมัน !
หนึ่งจะต้องรู้ว่าผู้ที่บุกเบิกสถานที่แห่งนี้คนก่อนต้องมีพลังเหนือระดับสวรรค์ มันเป็นพลังที่แม้แต่เป่ยเฟิงก็ยังเทียบไม่ได้
บางทีพวกเขาอาจจะอยู่เหนือระดับว่างเปล่าหรือไม่ก็ระดับหลุดพ้นไปแล้วก็ได้ !
แต่ตามบันทึกโบราณที่เป่ยเฟิงอ่านมา อย่างน้อยผู้บุกเบิกคนแรกจะต้องมีพลังไม่ต่ำกว่าระดับหลุดพ้น !
ความแข็งแกร่งมันอยู่สูงจนเกินกว่าเป่ยเฟิงจะจินตนาการได้ เขาต้องเป็นตัวตนที่ทรงพลังขนาดไหนถึงมีชื่ออยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ได้ !
เป่ยเฟิงไม่ได้รอนานนัก ในไม่ช้าพระหนุ่มก็รีบกลับมาและพาเป่ยเฟิงไปหาตานเจียซี
“แอ๊ดด !”
ยังคงเป็นบ้านที่เดิม เป่ยเฟิงเดินไปเปิดประตูด้วยตัวเอง
เป่ยเฟิงเดินเข้าไปและหยุดยืนอยู่ใต้ต้นไม้ มีโต๊ะหินและที่นั่ง 3 ที่เหมือนเดิม มีชุดชาสีม่วงอยู่ตรงกลางโต๊ะ
บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างขอบหน้าผาสูง 3 เมตร ต้นไม้ที่ดูเก่าแก่จำนวนมากอยู่ตามริมขอบหน้าผา
“ตานเจียซี ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ดูแล้วเจ้ายังสบายดีนะ”
เป่ยเฟิงเดินไปที่โต๊ะหินและนั่งลง
ตานเจียซีมองเป่ยเฟิงด้วยความแปลกใจ แต่เขาไม่ได้ถามอะไรมากนักนอกจากกรอกตาและตอบกลับ “หึหึ ข้าอายุมากแล้ว ไม่ได้หนุ่มแน่นเหมือนเจ้าที่สามารถสร้างชื่อเสียงสะท้านทั่วแผ่นดินได้ ! ตอนแรกข้าคิดว่าข้านำหน้าเจ้าไปแล้ว ใครจะไปคิดกันว่าเจ้าไปถึงระดับสวรรค์แล้ว !”
“เจ้าก็ไม่ได้น้อยไปกว่าฉันหรอก แค่ 3 ปีแต่เจ้าพัฒนามายังระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุดได้ นอกจากนี้รากฐานของเจ้าก็เสถียรมาก ความเร็วในการฝึกฝนของเจ้าไม่ได้แย่เลย จริงไหม ?”
เป่ยเฟิงสำรวจพลังของตานเจียซีและบอกได้ถูกต้องเพียงแค่เหลือบมองครั้งเดียว ครั้งสุดท้ายที่เขาพบกับตานเจียซีตอนนั้นเขายังมีพลังเพียงวิวัฒนาการขั้นสูงสุดที่อยู่ในช่วงทำลายคอขวดไปยังระดับเซียนเทียน แต่ผ่านไป 3 ปี เขากลับพัฒนามายังระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุด ความเร็วของเขาถือว่าเร็วมาก !
“ทำไมเจ้าไม่ดูหันมาดูตัวเอง ! แค่ 3 ปี แต่เจ้าสามารถพัฒนาไปยังระดับสวรรค์ได้แล้ว แล้วเจ้ายังบอกว่าข้าพัฒนาได้เร็วงั้นรึ ? เจ้านี้มันต่ำช้าจริง ๆ !”
ตานเจียซีส่ายหัวและเทชาให้เป่ยเฟิง
“ชาดี !”
ดวงตาของเป่ยเฟิงสว่างไสวด้วยความประหลาดใจ นี้อาจจะเป็นชาที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยดื่มมา
แม้ว่าชาจะพ่นไอน้ำร้อน ๆ ออกมาแต่มันมีรสความเย็นค่อนข้างมาก กลิ่นหอมของมันค่อย ๆ กระจายไปทั่วพร้อมกับกระจายความมีชีวิตชีวาไปทั่วช่องปากของเขา
ในขณะเดียวกันเขารู้สึกได้ถึงน้ำค้างที่เต็มไปด้วยพลังงานเย็น ๆ ไหลเข้ามาในจิตใจทำให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมาก
เป่ยเฟิงสามารถบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่ชาธรรมดาเพราะมันสามารถพัฒนาจิตวิญญาณได้ แม้ว่ามันจะไม่ได้เพิ่มมากให้มากนักแต่อย่างน้อยรสชาติของมันก็ไม่ธรรมดา
“ฉันยังไม่ได้ทำลายคอขวดไปยังระดับสวรรค์หรอก แต่ฉันก็สามารถสู้กับคนที่อยู่ระดับสวรรค์ได้” เป่ยเฟิงพูดช้า ๆ อย่างที่เขาได้บอก เขาไม่ได้มีพลังเพียงพอที่จะเรียกตัวเองว่าอยู่ระดับสวรรค์แต่อย่างน้อยก็สามารถสู้อีกฝ่ายที่อยู่ระดับสวรรค์ได้
“ปุ๊ !”
ตานเจียซีพ่นชาออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของเป่ยเฟิง เขามองเป่ยเฟิงด้วยความตกใจและไม่สามารถพูดอะไรได้
“เจ้านี้มันสัตว์ประหลาดชัด ๆ ! เจ้าบอกยังว่าตัวเองไม่ได้มีพลังระดับสวรรค์แต่สามารถต่อสู้กับคนระดับนั้นได้ ? ถ้าเจ้ามีพลังระดับสวรรค์ ไม่ได้หมายความว่าเจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงท่ามกลางคนที่อยู่ระดับสวรรค์หรือไง !”
ตานเจียซีเช็ดปากด้วยความตกใจ ดูเหมือนเขาจะเป็นกบในกะลามานาน เขาสงสัยจริง ๆ ว่าเจ้าบัดซบตัวน้อยนี้ฝึกฝนยังไง
“อ่อใช่ เจ้ามาที่นี่ทำไม ? อย่าบอกนะว่ามาดื่มด่ำกับชาและระลึกถึงอดีต ?”
ตานเจียซียกถ้วยชาสีม่วงขึ้นมาจิบอีกครั้ง
“ฉันมาขอยามังกรเสือ ฉันขอซัก 50 เม็ด” เป่ยเฟิงกล่าวตอบ หลังจากที่ได้เห็นความยิ่งใหญ่ของภูเขามังกรเสือ เขารู้ได้ทันทีว่ารากฐานของภูเขามังกรเสือแห่งนี้หยั่งลึกมาก เขาสงสัยจริง ๆ ว่าภูเขามังกรเสือแห่งนี้มีเม็ดยามังกรเสือจำนวนมากแค่ไหนที่ไม่ได้บอกให้โลกภายนอกรับรู้ !
“ปุ๊ !”
“แค่ก แค่ก แค่ก !”
ตานเจียซีพ่นชาออกมาอีกครั้งและสำลึกอย่างหนัก
หยดน้ำชาสีเขียวพุ่งไปหาเป่ยเฟิงแต่พวกมันถูกบางสิ่งบางอย่างป้องกันเอาไว้ก่อนที่จะไปถึงเป่ยเฟิง
เป่ยเฟิงยิ้มอย่างมีความสุขและถามขึ้น “เป็นอะไรไป ? เจ้าเป็นระดับเซียนเทียนแล้วนี่ ! อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่สามารถหายใจได้แม้กระทั่งตอนดื่มชา ?”
“บัดซบ ! เจ้ากล้าพูดออกมาได้ อ่า เม็ดยามังกรเสือ 50 เม็ด ? ทำไมเจ้าไม่ปล้นข้าไปเลยล่ะ ?” ตานเจียซีตอบกลับ น้ำลายของเขาปลิ่วว่อนไปทั่วทุกทิศ เขาไม่สามารถรักษาภาพพจน์ของเขาได้อีกต่อไป
“เอ๊ะ ? เดียวนะ คงไม่ใช่ว่าเจ้ามาที่นี่เพื่อปล้นจริง ๆ หรอกนะ ด้วยพลังที่สามารถสู้ระดับสวรรค์ได้เจ้าคงไม่คิดจะทำแบบนั้นใช่ไหม ?”
ตานเจียซีมองเป่ยเฟิงด้วยความสงสัย ตอนนี้เขาราวกับกำลังมองหัวขโมยที่จะขโมยของสำคัญของเขาไป
“ฮ่าฮ่า … ฉันจะไปทำอะไรต่ำ ๆ แบบนั้นได้ยังไง ? ต่อให้ฉันลอง ฉันกลัวว่าจะไม่สามารถออกไปจากภูเขามังกรเสือแห่งนี้ได้ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสุดยอดค่ายกลแบบนี้แล้ว”
เป่ยเฟิงหัวเราะออกมา
“เจ้ารู้สึกถึงมันได้ ?”
ใบหน้าของตานเจียซีเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เขาไม่คิดเลยว่าเป่ยเฟิงจะสัมผัสความลับของภูเขามังกรเสือได้
“เอ๊ะ ? มองอะไรของเจ้า ? อย่าบอกนะว่าเจ้าจะฆ่าปิดปาก ?’
หลังจากที่ได้มาถึงภูเขามังกรเสือ เป่ยเฟิงรู้สึกสงบจิตใจอย่างมาก ในเวลาเดียวกัน ตานเจียซีรู้สึกได้ว่าขนในร่างของเขากำลังลุกชัน
“เม็ดยามังกรเสือ 50 เม็ดมันมากเกินไป มันเป็นเรื่องใหญ่ที่ฉันไม่สามารถตัดสินใจได้เองแม้ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวก็ตาม แต่ธุรกิจก็ยังคงเป็นธุรกิจ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะเอาอะไรมาแลกกับเม็ดยามังกรเสือ 50 เม็ด ?”
ตานเจียซีเลิกเอาเรื่องค่ายกลมาใส่ใจ ตอนนี้ความสนใจของเขากลับมาที่เม็ดยามังกรเสือ
เป่ยเฟิงยิ้มเบา ๆ จากนั้นหยกขนาดเท่าไข่นกพิราบก็โผล่ออกมาจากแขนเสื้อของเขา เขาวางมันด้านหน้าตานเจียซี
เป่ยเฟิงชี้ไปที่หินวิญญาณระดับกลางด้านหน้าและพูดขึ้น “ฉันจะแลกกับมัน”
“มันคือ ?”
ตานเจียซีมองไปที่หินวิญญาณตรงหน้าด้วยความสับสน เขาไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่เขาไม่เชื่อว่าเป่ยเฟิงจะมีอารมณ์ล้อเล่นนการเอาหยกมาแลกกับเม็ดยามังกรเสือ
“ถือมันไว้ในมือ จากนั้นใช้พลังจิตของเจ้าตรวจสอบมัน” เป่ยเฟิงกล่าวช้า ๆ ก่อนจะกลับมาเงียบอีกครั้ง
ตานเจียซีทำตามที่เป่ยเฟิงบอก พลังจิตของเขาแม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่าเป่ยเฟิงแต่ก็สามารถขยายออกไปได้ไกลกว่า5 เมตร ทันทีที่พลังจิตของเขาแตะกับหินเขารู้สึกได้ถึงพลังงานมหาศาลที่อยู่ข้างใน !
ที่สำคัญคือพลังงานมันบริสุทธิ์มาก และมันก็อ่อนโยนมากเช่นกัน !
“เป็นไปได้ไหมว่ามันคือหินวิญญาณ ? แต่พลังงานข้างในมันยอดเยี่ยมกว่าที่บันทึกโบราณเคยบอกเอาไว้ มันยังไงกัน ?”
ตานเจียซีสับสนมึนงง ไม่ใช่ว่าหินก้อนสุดท้ายมันได้สลายไปแล้วเมื่อพันปีก่อนงั้นรึ ? ทำไมถึงมีอีกก้อน ?
ตานเจียซีเคยอ่านคำอธิบายเกี่ยวกับหินวิญญาณในตำราโบราณมาก่อน หินวิญญาณก้อนสุดท้ายได้หมดไปแล้วเมื่อพันปีก่อน แม้แต่เกล็ดเล็ก ๆ ของหินวิญญาณก็เพียงพอที่จะให้ 2 ตระกูลชั้นสูงต่อสู้เป็นตายเพื่อแย่งมัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหินวิญญาณระดับกลางเลยด้วยซ้ำ !