Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 389
เสียงร้องโหยหวนดังออกมาอย่างต่อเนื่องจากด้านหลังภูเขาจิตวิญญาณสีฟ้า เสียงเต็มไปด้วยความสั่นกลัว !
“จะ จะ เจ้านาย คุณจะทำอะไร ?”
ไป๋เซียงรู้สึกแย่มากในขณะที่วิ่งหนีและหันไปถามข้างหลัง
‘ฉันคิดไว้แล้ว ฉันคิดไว้อยู่แล้ว ! สุดท้ายเจ้านายก็กลับคำพูดของเขา !’
ไป๋เซียงรู้สึกขาทั้ง 2 ข้างเป็นตะคริว หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถูกเป่ยเฟิงที่ใช้พลังเต็มที่ไล่ตามมาทัน
“มานี่มามะ ฉันแค่จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อนายนิดหน่อยเอง …”
เป่ยเฟิงยิ้มหน้าระรื่นก่อนจะวิ่งไปหาไป๋เซียง
“อ๊ากก ! ไหนคุณบอกว่าคุณเป็นคนใจกว้างและไม่ได้เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นไง ! เจ้านาย คุณตั้งใจเอาคืนชัด ๆ !” ไป๋เซียงกรีดร้องพร้อมกับวิ่งต่อไปด้วยใบหน้าขมขื่น ความเร็วของเขาเร็วมากขึ้น เขารีบวิ่งโดยไม่หันมามองอีก
“เอ๊ะ ? นายฉลาดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?”
ด้วยพลังจิตระดับ 5 ดาวของเป่ยเฟิง เขาได้กระจายมันออกไปรอบตัวสม่ำเสมอ แม้แต่การเคลื่อนไหวของหญ้าต้นเล็กก็ไม่สามารถหลุดรอดจากเขาได้ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าไป๋เซียงทำท่าทางแปลก ๆ แต่เขาก็ไม่สนใจ
“ดาบนภา ละอองถล่ม !”
“ดาบดิน พลิกสวรรค์ !”
เมื่อรู้ว่าเป่ยเฟิงอยู่ห่างไม่ถึง 10 เมตร ไป๋เซียงก็ระเบิดพลังออกมาฉับพลัน !
หลังจากเขาคำรามเสร็จ ทันใดนั้นเมฆฝุ่นก็พุ่งไปหาเป่ยเฟิง มันเปล่งประกายระยิบระยับแลดูน่าสนใจมาก !
แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ดาบที่ทำจากโคลนและหินจำนวนมากพุ่งออกมาจากพื้น ดาบมีความหนาและหนักมาก รัศมี 10 เมตรรอบ ๆ เป่ยเฟิงกลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยดาบดิน !
เป่ยเฟิงยิ้มจาง ๆ ในขณะมองดาบรอบตัว เด็กคนนี้ทำให้เขาแปลกใจมาก หากเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวสวรรค์คงตกตายด้วยการโจมตีครั้งนี้ !
แต่เป่ยเฟิงไม่สนใจการโจมตีด้านหน้าแม้แต่น้อย
“ปีกนภาสวรรค์ !” เป่ยเฟิงพูดเบา ๆ จากนั้นปีกคู่ขนาดใหญ่ก็ปรากฏจากด้านหลังเขา !
ปีกคู่นี้มีสีดำสนิทและขนทุกชิ้นก็แข็งเหมือนทอง ปีกมันส่องประกายสะท้อนแสงแดดของดวงอาทิตย์
ขนนกสีดำจำนวนมากพริ้วไปมาก่อนจะแทงลึกลงไปในดิน !
เมื่อการโจมตีทั้ง 2 ของไป๋เซียงมาถึง มันก็ได้ปะทะเข้ากับเป่ยเฟิงที่อยู่หลังปีกทำให้เป่ยเฟิงไม่มีอะไรให้กังวล !
“แก๊ง แก๊ง !”
ทุกครั้งที่การโจมตีของไป๋เซียงปะทะเข้ากับปีกนภาสวรรค์ มันเกิดประกายไฟจำนวนมากกระพริบออกมา !
ดาบนภามีสีขาวและมีหมอกฝุ่นบาง ๆ ลอยไปรอบ ๆ ตัวดาบ มันดูเบาบางจนเกือบมองไม่เห็น !
ดาบดินเองก็มีขนาดใหญ่และดูแข็งแกร่ง มันราวกับพร้อมบดขยี้ทุกอย่าง !
“แก๊ง แก๊ง !”
ดาบนภาปะทะเข้ากับปีกนภาสวรรค์ มันเกิดเสียงที่เสียดแก้วหู
แต่สุดท้ายก็ไม่มีดาบใดสามารถเจาะการป้องกันของเป่ยเฟิงไปได้ สุดท้ายพวกมันก็ทำได้เพียงปักจมลงไปในดินเท่านั้น
แม้ว่าดาบจะดูเหมือนไม่ค่อยคม แต่เมื่อมันแทงลงไปในดินทำให้รู้ได้เลยว่าแต่ละดาบคมขนาดไหน เพราะมันจมลงไปลึกมาก !
หลุมขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏบนดินพร้อมกับดาบที่ค่อย ๆ จมลึกลงไปก่อนจะหายไป !
“แก๊ง !”
หลังจากนั้นดาบดินที่ดูหนักกว่าและแข็งกว่าก็พุ่งไปปะทะกับปีก
ทุกครั้งที่ตัวดาบปะทะ มันทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนรวมไปถึงเสียงที่ฟังแล้วหนักหน่วงมาก
“ความสามารถในการป้องกันของปีกนภาสวรรค์นี้ไม่เลวเลย ถ้าฉันใช้พลังเต็มที่เป็นไปได้ว่าจะไม่มีอะไรทะลุการป้องกันมาได้ !”
เป่ยเฟิงใช้พลังจิตของเขาสังเกตอยู่ด้านบน เมื่อเขามองลงมาที่ปีกนกที่ห่อหุ้มเขาคล้ายกับกระดองเต่าทำให้เขาประหลาดใจมาก
นี่เป็นหนึ่งในทักษะที่อยู่ในวิชาอินทรี มันสามารถโจมตีและป้องกันได้ !
“ฉีกสวรรค์ !”
ปีกของเป่ยเฟิงสั่นอย่างรุนแรงก่อนจะพุ่งขึ้นฟ้า รัศมีคล้ายคมดาบจำนวนมากกระจายออกไปทุกทิศทาง !
หลังจากนั่นปีกนภาสวรรค์ก็เริ่มทำตัวราวกับดาบ มันโบกไปมาบนฟ้าก่อนจะส่งพลังคล้ายใบดาบพุ่งกระจายไปรอบ ๆ !
“แก๊ง !”
ประกายไฟเกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากนั้นดาบทุกอันที่กำลังพุ่งเข้ามาก็ถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ โดยปีกนภาสวรรค์ !
“ปัง !”
“อย่าต่อยที่หน้า !”
มีเสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากภูเขา 10 นาทีต่อมาไป๋เซียงก็นอนอยู่บนพื้นและมองเป่ยเฟิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยช้ำ เขาดูราวกับภรรยาที่น่าสงสารที่ถูกสามีทำร้าย
“อย่ามองฉันแบบนั้น ฉันไม่รับผิดชอบหรอกนะ !”
เป่ยเฟิงไม่สามารถทนมองชายสูง 2 เมตรที่กำลังมองเขาด้วยใบหน้าซุกซนได้อีกต่อไป เขารีบถอยหลังและนวดข้อมือจนเกิดเสียงดังออกมา
เป่ยเฟิงเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวขึ้น “ไป๋เซียง ถึงนายจะแข็งแกร่งมากแต่ก็ยังห่างชั้นกับคนวัยเดียวกันมากนัก นายถือว่าประสบความสำเร็จเล็กน้อยเท่านั้นเอง สำหรับฉันแล้ว โลกใบนี้มันเล็กเกินไป มันแตกต่างจากจักรวาลที่กว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด !”
เขาคิดย้อนกลับไปยังตอนที่เขาหล่นลงไปในอีกโลก หลิงฉีของที่นั่นมีมากมายมหาศาล สมุนไพรและพืชหายากเติบโตทุกแห่งราวกับมันเป็นกะหล่ำปลี แม้แต่คนธรรมดาที่ไม่รู้จักแม้แต่ศิลปะการต่อสู้ก็ยังเทียบเท่าได้กับผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนเมื่อพวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ !
บางคนไปถึงระดับสวรรค์เลยด้วยซ้ำเมื่ออายุมากขึ้น มีน้อยมากที่ได้ฝึกฝนในขณะยังเด็ก แต่แค่นั้นก็ทำให้เขาตกใจมากแล้ว !
‘จะว่าไปแล้ว ดูเหมือนฉันจะมีภรรยารออยู่ที่โลกนั่นใช่ไหม …’ เป่ยเฟิงคิดเงียบ ๆ
ไป๋เซียงพยักหน้าจริงจังก่อนจะลุกขึ้นนั่ง ความสำเร็จเล็กน้อยของเขามันไม่คุ้มค่าที่จะกล่าว แม้แต่ตาแก่บัดซบนั่นก็ยังบอกเขาอย่างจริงจังก่อนที่เขาจะจากไปว่าเขาก็เคยเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดคนหนึ่งในยุคของเขา !
***
ในเวลาเดียวกัน มีผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนก็เดินทางมาที่ภูเขาจิตวิญญาณสีฟ้า เขาแต่งตัวด้วยชุดสีดำและสามารถพุ่งผ่านป่าราวกับเงา
ภูเขาจิตวิญญาณสีฟ้าถูกคุ้มกันโดยทหารหลายสิบคน แต่ไม่มีใครซักคนที่สังเกตเห็นการปรากฏตัวของคน ๆ นี้
“โฮ่ง !”
เคอร์เบอรอสย่นจมูกและสูดกลิ่นในอากาศ มันรู้สึกได้ถึงคนที่อยู่ระดับเซียนเทียนขั้นกลาง จมูกของมันไวต่อกลิ่นมาก ต่อให้อยู่ห่างออกไปมากกว่าพันเมตรมันก็สามารถแยกแยะได้ว่าใครคือคนแปลกหน้า
ในไม่ช้าร่างขนาดใหญ่ก็หายตัวไป ครู่ต่อมามันก็ปรากฏตรงหน้าผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียน ดวงตาทั้ง 6 ของมันมองไปยังคนแปลกหน้าด้วยสายตาเย็นชา
“บัดซบ ทำไมถึงมีสัตว์อสูรทรงพลังอยู่บนภูเขา ?”
ทันเซียวตกใจพร้อมกับเหงื่อจำนวนมากที่ไหล่เต็มหลัง สัตว์อสูรตัวนี้แข็งแกร่งมาก ! เขารู้สึกได้ถึงอันตรายที่น่ากลัวที่แพร่ออกมาจากตัวมัน เพียงแค่การเคลื่อนไหวครั้งเดียวของมันก็เพียงพอที่จะฆ่าเขา !
แต่ในขณะที่ทันเซียวกำลังคิดเรื่องหลบหนี ทันใดนั้นน้ำเสียงเย็นชาก็ดังออกมา เด็กสาวในชุดสีแดงเดินออกมาจากไกล ๆ เธอพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแสกับเคอร์เบอรอส “ไอ้หมาโง่ แกจะเห่าทำไมหะ ? แกจะให้ฉันหลับดี ๆ ในวันที่อากาศร้อนแบบนี้ไม่ได้หรือยังไง ?”
“ยัยบัดซบ ถ้าแกกล้าพูดมากกว่านี้ นายท่านหมาผู้นี้จะกินแกซะ !”
มีเสียงหนึ่งดังออกมาจากหัวของลึกลับที่ 1 มันทำให้เธอตกใจมาก เสียงมันเต็มไปด้วยความโหดร้ายและป่าเถื่อน เธอรู้สึกกลัวอย่างมาก สำหรับความแข็งแกร่งของหมาตัวนี้เธอรู้ดีว่ามันแข็งแกร่งมากแค่ไหน !
เมื่อได้ยินคำพูดโหดร้ายของมัน ลึกลับที่ 1 ก็ไม่กล้าด่ามันเพราะเธอหวาดกลัวมันมาก
เคอร์เบอรอสเป็นสัตว์เลี้ยงของเป่ยเฟิง เขาเลี้ยงมันมานานหลายปี เขาเลี้ยงมันก่อนที่เธอจะได้ติดตามเขาซะอีก แม้ว่าเธอจะถูกมันกินแต่สุดท้ายมันก็จะถูกลงโทษบางอย่างและถูกปลดปล่อยให้กลับมาเป็นอิสระอีกครั้งในไม่ช้า
“แกเป็นใคร ?”
ลึกลับที่ 1 เต็มไปด้วยความโกรธ เธอกำลังฝึกฝนในตอนกลางคืนอยู่ และเธอก็ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงเห่าของเคอร์เบอรอส ในเมื่อเธอไม่สามารถเอาชนะมันได้ดังนั้นเธอจึงโยนความผิดทั้งหมดไปให้ชายแปลกหน้าแทน
หากเขาไม่สามารถอธิบายให้ดีพอ เธอจะระบายความโกรธของเธอทั้งหมดใส่เขาทันที !