Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 395
แขนเสื้อของเป่ยเฟิงปลิวไปตามสายลม เขามองสัตว์ประหลาดตรงหน้าด้วยความสนใจ
“น่าสนใจจริง ๆ นี่คือความแข็งแกร่งที่แกมี ?”
เป่ยเฟิงยิ้มเบา ๆ จากนั้นก็เอามือไขว้หลังมองดูมาโล้เปลี่ยนร่างจนสมบูรณ์โดยไม่คิดจะขัดขวาง
“มดบัดซบ ข้าจะฉีกแกเป็นชิ้น ๆ !”
ร่างทั้งร่างของมาโล้ปกคลุมไปด้วยรอยแตกจนไม่สามารถมองเห็นตัวเขาได้ แสงสีแดงเรืองแสงออกมาภายใต้รอยแตกพร้อมกับลาวาที่พ่นออกมาตลอดเวลา !
เสียงของเขาดังสะท้อนไปทั่วถ้ำ เสียงมันเก่าแก่ราวกับเป็นปีศาจโบราณ
‘มันต้องมีความสามารถพิเศษอะไรซักอย่าง ถึงทำให้มันสามารถสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ได้ ! หืม ไหนขอฉันดูหน่อยสิมีอะไรอยู่ในร่างของแกกันแน่’
“ปีกนภาสวรรค์ !”
เป่ยเฟิงปรากฏตรงหน้ายักษ์ลาวาพร้อมกับปีกคู่ยาวหลายเมตรปรากฏด้านหลังราวกับเป็นใบมีดของสวรรค์ !
ขนนกสีดำกระพริบเบา ๆ พวกมันราวกับทำมาจากทองดำที่สามารถส่องแสงออกมาได้
ขนของปีกดูคมมาก มันราวกับสามารถแยกอากาศออกจากกันได้ !
“ฟิ้ว !”
ก่อนที่ยักษ์ลาวาจะทันได้ตอบสนองทัน ปีกนภาสวรรค์ก็พุ่งตัดอากาศก่อนจะตัดแขนของมันออก !
“ฟู่ ฟู่ !”
“โฮก !”
ส่วนแขนตั้งแต่ไหล่ลงมาของมาโล้หล่นลงกับพื้นจนทำให้พื้นที่เต็มไปด้วยความร้อนมหาศาล สิ่งที่ไหลออกมาจากบาดแผลไม่ใช่เลือด แต่มันคือลาวา !
พื้นเต็มไปด้วยลาวาสีแดงจากนั้นมันก็ค่อย ๆ หลอมละลายพื้น
“กึง กึง !”
มาโล้แกว่งแขนไปข้างหน้าพุ่งไปหาเป่ยเฟิง
กำปั้นที่เต็มไปด้วยอุณหภูมิสูงลอยมาหาเป่ยเฟิง แม้มันยังไม่ถึงข้างหน้าเขาแต่มันก็ส่งคลื่นความร้อนออกมามหาศาล !
เป่ยเฟิงไม่ได้หลบหรือตกใจแม้แต่น้อย ต่อหน้ายักษ์ที่สูงกว่า 10 เมตรเขาเป็นเสมือนมดตัวเล็ก ๆ เท่านั้น !
“ฟุ้บ !”
เป่ยเฟิงกำหมัดและปะทะเข้ากับหมัดของยักษ์ลาวา !
“ปัง !”
“แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก”
ขนาดของร่างกายทั้ง 2 ต่างกันมหาศาล แต่ใครจะไปคิดกันว่ายักษ์ลาวาเป็นฝ่ายถูกบังคับให้ถอย แขนที่ทำมาจากหินของมันค่อย ๆ แตกสลาย !
“มดบัดซบ ! แกทำให้ข้าโกรธ ….”
“หนวกหูชะมัด”
เป่ยเฟิงไม่ได้อยู่ในอารมณ์ต้องฟังคำพูดของมาโล้ ร่างของเขาพุ่งไปข้างหน้าเหมือนลูกธนูจากนั้นก็มาปรากฏตรงหน้ายักษ์ลาวา หลังจากนั้นเขาก็บิดร่างก่อนจะใช้ขาของเขาเตะไปที่หัวของยักษ์
ขาเล็ก ๆ ปรากฏตรงหน้ายักษ์ลาวา แต่ในสายตาของมัน มันราวกับเป็นการมาถึงของขาราชาปีศาจ !
“ปัง !”
“ตูม ตู้ม !”
หัวถูกเตะโดยตรงโดยที่ยักษ์ไม่สามารถหลบได้ ก้อนหินขนาดใหญ่พุ่งกระจายไปรอบทิศพร้อมกับประกายไฟที่กระจายตัวออกไป
“นี้คือทั้งหมดที่แกมี ? อ่อนแอสิ้นดี !”
เป่ยเฟิงไม่ค่อยพอใจนัก ยักษ์ลาวามีเพียงเกือบเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ แต่ความเร็วของมันอ่อนแอมาก มันมีเพียงความแข็งแกร่งเกือบเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์เท่านั้น
“ปุ้ป ปุ้ป”
ก่อนที่เป่ยเฟิงจะหมดความสนใจและจากไป ทันใดนั้นเสียงเหมือนการรวมตัวกันของน้ำก็ดังขึ้นข้างหลังเขา
เมื่อเขาหันกลับไปก็เห็นยักษ์ลาวาที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง นอกจากนี้แรงกดดันของมันยังเพิ่มมากกว่าเดิม !
“เอ๊ะ ? แกเป็นแมลงสาปที่ฆ่าไม่ตาย ?”
เป่ยเฟิงมองยักษ์ลาวาที่กำลังรวมตัวกัน เขาโจมตีออกไปทันทีโดยไม่รอให้มันฟื้นตัวได้สำเร็จ !
หมียักษ์คือตัวแทนความแข็งแกร่งของเป่ยเฟิง สวนอินทรีคือตัวแทนความเร็วของเขา !
พลังงานมหาศาลพุ่งออกมาจากร่างผอม ๆ ของเป่ยเฟิง หมียักษ์ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา
“มันน่าจะตายได้แล้วมั่ง ?”
เป่ยเฟิงใช้ทุบยักษ์ลาวากว่าร้อยครั้งในหนึ่งวินาที ทุกการระเบิดพลังของเขาทำให้การแตกตัวของยักษ์ลาวากระจายไปทุกทิศทาง !
“บูม !”
ยักษ์ลาวาราวกับรูปปั้นน้ำแข็งที่ถูกตีให้แตกกระจาย ร่างของมันส่ายไปมาก่อนจะระเบิดกลายเป็นฝุ่นผงจำนวนนับไม่ถ้วน !
เป่ยเฟิงยืนเงียบ ๆ ขณะมองฝุ่นผงรอบ ๆ แต่ก่อนที่เขาจะจากไปเขาก็เห็นฝุ่นผงพวกนี้ราวกับถูกบางอย่างหยุดเอาไว้ จากนั้นก็มีระลอกคลื่นขนาดใหญ่ปรากฏรอบ ๆ ตัวเป่ยเฟิง
“อ๊าก ! เจ็บ เจ็บโคตร ไอ้บัดซบเอ้ยโคตรเจ็บ !”
มาโล้ร้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นลาวาก็ค่อย ๆ ไหลไปรวมกันอย่างช้า ๆ ก่อนหินรอบ ๆ ก็ค่อย ๆ มารวมกับลาวาก่อนจะกลายเป็นยักษ์ลาวาอีกครั้ง
“ยังไม่ตาย ? ดูเหมือนทุกครั้งที่มันถูกทุบกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เมื่อมันรวมตัวกันก็จะแข็งแกร่งขึ้น ?”
เป่ยเฟิงขมวดคิ้วเบา ๆ ความสามารถนี้เขาไม่คิดเลยว่ามันจะมี แต่มันก็ทำให้ความสนใจของเป่ยเฟิงเพิ่มมากขึ้น ‘ฉันไม่เชื่อว่าฉันไม่สามารถฆ่าแกได้ !’
“หมัดหมียักษ์ !”
เป่ยเฟิงปรากฏตรงหน้ายักษ์ลาวาพร้อมกับรูปแบบหมี หมียักษ์ปรากฏปรากฏด้านหลังเป่ยเฟิงพร้อมกับอุ้งเท้าที่กว้าง 7-8 เมตร !
“โฮก !”
ยักษ์ลาวาไม่สามารถหลบได้ทัน ในไม่ช้ามันก็ถูกอุ้งเท้าหมีตบทะยานไปอีกทิศ !
หมียักษ์ราวกับภูเขา 5 นิ้วที่ขังซุนหงอคงเอาไว้ มันฟาดไม่ช้าไม่เร็วไปที่ยักษ์ลาวาเบา ๆ แต่ก็ส่งยักษ์ลาวาปลิวไปในอากาสโดยการตบครั้งเดียว !
“ปัง !”
คลื่นกระแทกกระเพื่อมออกไปทุกทิศทางจนทำให้ทั้งฐานทัพสั่นสะเทือน
น่าแปลกที่ยักษ์ลาวาแม้จะถูกฟาดไปขนาดนั้นแต่มันก็ไม่ได้แตกสลายไป !
สภาพของยักษ์ลาวาตอนนี้ย่ำแย่มาก ถึงแม้ร่างกายของมันจะแตกสลายลงไปแต่มันก็สามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว
“หมียักษ์อินทรีสังหาร !”
พลังงานเลือดและฉีของเป่ยเฟิงพุ่งขึ้นสูงราวกับมหาสมุทรที่โกรธแค้น
นกอินทรีสีดำและหมียักษ์ปรากฏขึ้นที่มือของเป่ยเฟิง จากนั้นความสามารถทั้ง 2 ก็ค่อย ๆ ผสานเข้ากันกลายเป็นเกลียวพลังงาน !
“บูม !”
หมียักษ์อินทรีสังหารเป็นวิชาสังหารที่ดีที่สุดในวิชาสัตว์อสูร พลังทำลายล้างของมันไม่ใช่สิ่งที่จะหาวิชาหรือทักษะใดมาเทียบได้ !
แรงกดขี่มหาศาลพุ่งออกมาจากเกลียวพลังงานราวกับมันต้องการกำราบท้องฟ้าด้วยตัวเอง !
เสียงน้ำอินทรีและเสียงคำรามของหมีดังออกมา เสียงทั้ง 2 ราวกับสามารถผสานเป็นเสียงเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
การพุ่งมาของเกลียวพลังงานเร็วเกินไป มันเร็วจนยักษ์ลาวาไม่สามารถหลบได้ทัน ทันใดนั้นร่างใหญ่ ๆ ของมันก็ถูกทุบทำลายกลายเป็ยฝุ่นผงทันที !
“บูม !”
หมียักษ์อินทรีสังหารยังไม่หยุดแค่ไหน มันพุ่งไปต่อพร้อมกับฉีกกำแพงโลหะออกจากกัน อุโมงค์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจนสามารถมองเห็นทางเดินที่ทะลุไปด้านข้างภูเขา !
เป่ยเฟิงรู้ว่ามันไม่จบแค่นี้ จากนั้นเขาก็ใช้มือปัดออกไปรอบ ๆ จนกลายเป็นคลื่นพลังพัดฝุ่นผงทั้งหมดออกไป
“ตุ้บ ตุ้บ”
เสียงแปลก ๆ ดังสะท้อนไปทั่วห้อง
เป่ยเฟิงขมวดคิ้วพร้อมกับหัวใจของเขาที่เต้นไปพร้อมกับเสียงนี้ !
ดูเหมือนจะมีพลังงานที่มองไม่เห็นจับหัวใจของเขาไว้ทำให้เขาไม่สามารถหายใจได้
เลือดและฉีของเป่ยเฟิงกระเพื่อมพร้อมกับระเบิดพลังงานที่อยู่ในร่าง เพราะการฝึกฝนแบบเส้นทางกลั่นร่างกายทำให้ร่างกายของเป่ยเฟิงแข็งแกร่งมาก เสียงเหล่านี้ไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
“ปัง !”
เมื่อพลังที่อยู่ภายในระเบิดออกทันใดนั้นก็มีบางอย่างพุ่งออกมาจากร่างของเขา เป่ยเฟิงมองมันด้วยความตกใจ เขารีบใช้หมีตบพลังนั่นไปทันที
“ตุ้บ !”
เป่ยเฟิงเดินไปข้างหน้าหลายก้าว จนทิ้งรอยเท้าไว้ที่แผ่นโลหะหนา ๆ !
‘มันแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว ไม่ใช่แค่นั้น ความเร็วของมันก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน !’
เป่ยเฟิงขมวดคิ้ว ฝ่ายตรงข้ามทำให้เขาลำบากไม่น้อย มันราวกับการต่อสู้ที่โหดร้ายที่เขาได้ฆ่าอีกฝ่ายไปหลายครั้งแต่ไม่ตาย แต่อีกฝ่ายกลับสามารถฆ่าเขากลับได้เพียงครั้งเดียว !
ดูเหมือนเขาจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสู้ด้วยความระวังมากขึ้น เป่ยเฟิงราวกับกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาไม่เชื่อว่าเขาไม่สามารถฆ่ายักษ์ลาวาตัวนี้ได้ !
บางทีมันอาจจะมีคนที่มีความสามารถอยู่เป็นอมตะได้ แต่มันไม่ใช่คน ๆ นี้ !
“จุดอ่อนของแกอยู่ที่ไหนกัน ?” เป่ยเฟิงพึมพำกับตัวเอง