Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 411
หมอกสีดำปกคลุมทุกอย่างในระยะ 10 เมตร แม้แต่อากาศก็ไม่สามารถเข้ามาได้
เป่ยเฟิงพยายามปกป้องหัวใจของเขาสุดกำลังแม้ว่าใบหน้าของเขาตอนนี้จะเต็มไปด้วยความชั่วร้าย แต่มันก็ทำอะไรหัวใจเขาไม่ได้
ในขณะเดียวกันพลังชั่วร้ายในร่างของเป่ยเฟิงราวกับเสือที่หิวกระหายและต้นท้อหน้ามนุษย์ก็เหมือนสัตว์ตัวเล็ก ๆ !
เกิดแรงดูดมหาศาลและดูดพลังชั่วร้ายทั้งหมดในระยะ 10 เมตรจนหายไปทั้งหมด !
เห็นได้ชัดว่าพลังชั่วร้ายในร่างของเป่ยเฟิงนั้นแข็งแกร่งกว่าพลังชั่วร้ายของต้นท้อหน้ามนุษย์มาก !
เมล็ดต้นท้อหน้ามนุษย์มีใบหน้าเล็ก ๆ ที่มีความชั่วร้ายปรากฏ แม้ว่ามันจะถูกดูดพลังไปแต่มันก็ยังทำหน้าแปลก ๆ !
เป่ยเฟิงไม่สามารถหยุดการกระทำของพลังของเขาได้ เขาได้แต่มองดูพลังชั่วร้ายในตัวเขาที่เพิ่มมากขึ้นด้วยความไม่เต็มใจ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและพลังชั่วร้ายของเขาก็ยังคงดูดพลังชั่วร้ายจากเมล็ดต้นท้อไม่หยุด ในไม่ช้าพลังชั่วร้ายในตันเถียนของเขาก็มีขนาดใหญ่เท่ากำปั้น !
พลังชั่วร้ายค่อย ๆ รวมตัวกันและมันดูไม่แตกต่างจากแกนทองคำของเขาแม้แต่น้อย ความแตกต่างเดียวก็คือพลังชั่วร้ายมันเป็นสีดำสนิท !
“แกร๊ก !”
เสียงรอยแตกเกิดขึ้นจากแกนสีดำในร่างของเป่ยเฟิง มันราวกับกำลังจะมีบางอย่างแตกออก
“บูม !”
พลังชั่วร้ายหลั่งไหลออกมาจากรอยแตกจากนั้นแกนสีดำก็ระเบิดออกมา !
เงาสูงกว่า 3 ชุนปรากฏตรงที่แกนสีดำระเบิด เงามันดูสง่างามและคล้ายเป่ยเฟิงย่อส่วนมาก เงานั้นมีสีดำแดงทั้งตัวและมันมีรูนปีศาจแปลก ๆ ที่อยู่ระหว่างคิ้วของมัน
พลังชั่วร้ายจำนวนมากแพร่กระจายออกมาจากเงาเล็ก ๆ นี้
ส่วนโลกภายนอกของเป่ยเฟิงราวกับว่างเปล่า ตัวเขาราวกับถูกแขวนไว้กลางอากาศที่ถูกล้อมรอบด้วยหมอกสีดำที่ปกคลุมทุกอย่างในระยะ 10 เมตร
จากนั้นรอยแปลก ๆ ก็ปรากฏระหว่างคิ้วของเขาจนมันดูราวกับตาที่สาม
“กี้ กี้ !”
รอยแปลก ๆ ราวกับมีชีวิต มันกระพริบด้วยแสงสีดำจากนั้นก็เปิดออกมาทำให้มองเห็นภายในที่มืดมิด
ลำแสงสีดำพุ่งออกมาจากรอยแปลก ๆ จากนั้นอากาศรอบ ๆ ก็กระเพื่อมแปลก ๆ
หลังจากนั้นไม่นานหมอกที่ล้อมรอบเป่ยเฟิงก็ค่อย ๆ หายไปจนทำให้มองเห็นร่างของเขา
เป่ยเฟิงลืมตาขึ้นและหล่นลงมาที่พื้น สิ่งแรกที่เขาทำคือส่งพลังจิตเข้าไปสำรวจภายในร่างจากนั้นก็ไล่สำรวจทั่ว ๆ ร่างของเขา
“เอ๊ะ มันคืออะไร ? วิญญาณอีกด้านของฉันงั้นรึ ?”
เป่ยเฟิงมองเห็นเงาสูง 3 ชุนในตันเถียนด้วยความตกใจ แม้แต่พลังจิตของเขาก็ไม่สามารถเข้าไปสำรวจใกล้ ๆ มันได้
หลังจากสำรวจจนละเอียดแล้วเขาก็ค้นพบว่าร่างกายเขายังคงเหมือนเดิม ในที่สุดเขาก็พ่นลมหายใจด้วยความโล่งอกออกมา
สำหรับการเปลี่ยนแปลงของพลังชั่วร้ายในร่าง เป่ยเฟิงไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเฝ้าดูมัน แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือหนามที่คอยตำคอของเขาอยู่
เป่ยเฟิงยื่นมือออกมาสัมผัสกับรอยแปลก ๆ ที่ระหว่างคิ้วของเขา ผิวตรงรอยดูยื่นออกมาเล็กน้อยทำให้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงลายเส้นของรอยสัก
“ดูเหมือนฉันจะเปิดมันได้ !”
ความคิดดังกล่าวปรากฏในจิตใจของเขา หลังจากนั้นเขาก็ใช้พลังจิตส่งเข้าไปในรอยนั่น
“กี้ กี้ !”
เมื่อพลังจิตของเขาไหลเข้าไปในรอย รอยที่เหมือนเปลือกตาสีแดงเข้มก็ค่อย ๆ เปิดออกมาอย่างช้า ๆ มันดูสูงส่งราวกับการมองของสวรรค์ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งใด !
“ปัง !”
ลำแสงสีดำพุ่งออกมาจากดวงตาก่อนจะเจาะทะลุต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ 2 คนโอบ หลังจากนั้นลำแสงก็ยังคงพุ่งต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีการชะลอตัวแม้แต่น้อย ในไม่ช้ามันก็พุ่งทะลุภูเขาที่อยู่ห่างไกลออกไป !
ในไม่ช้าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็ตามมา ต้นไม้ที่ถูกลำแสงสีดำพุ่งผ่านค่อย ๆ เหี่ยวลงด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หลังจากนั้นมันก็ค่อย ๆ หดตัวลงแล้วสลายกลายเป็นฝุ่นผง !
ส่วนภูเขาที่ถูกแสงสีดำพุ่งทะยุมันค่อย ๆ ล่วงหล่นก่อนจะระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ในไม่ช้าภูเขาที่ดูเหมือนคงอยู่มาพันปีก็หายไปตลอดกาล
“นี่คือพลังแห่งการลบล้าง ?”
เป่ยเฟิงตกใจมาก ลำแสงสีดำมันทรงพลังเกินไป !
ยังไม่ทันที่เป่ยเฟิงจะได้ดีใจไปมากกว่านี้ ทันใดนั้นความเหนื่อยล้าก็ถาโถมเข้ามาหาเขา หน้าของเขาซีดราวกับกระดาษ สมองของเขาราวกับถูกแทงด้วยเข็มจำนวนนับไม่ถ้วน !
“มันกินพลังจิตมากเกินไป !”
เป่ยเฟิงรีบตัดการเชื่อมต่อทันที ในขณะเดียวกันดวงตาสีแดงเข้มของเขาก็ค่อย ๆ ปิดตาลงก่อนจะกลับไปเป็นรอยสักแปลก ๆ อีกครั้ง
‘เพียงแค่พริบตาแต่มันทำให้พลังจิตระดับ 5 ดาวของฉันหมดเกลี้ยง ดูเหมือนความแข็งแกร่งในตอนนี้ยังอยู่ห่างไกลจากความแข็งแกร่งที่แท้จริงของมัน ! แต่การโจมตีเพียงครั้งเดียวเมื่อครู่ต่อให้ระดับสวรรค์ก็ไม่สามารถป้องกันได้ !’
เป่ยเฟิงเดาะลิ้น พลังทำลายล้างเมื่อครู่ถือว่าเป็นไพ่ลับที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา !
แต่น่าเสียดายที่เขาปลดปล่อยมันได้เพียงครั้งเดียว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ต้องกลัวอะไรแม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์หลายสิบคน !
เมื่อมาถึงตอนนี้ เป่ยเฟิงไม่รู้เหมือนกันว่าพลังชั่วร้ายในร่างของเขาเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี แต่ก่อนที่เขาจะจัดการมันก็มีสิ่งต่าง ๆ เข้ามาหาเขาทำให้พลังชั่วร้ายมันแข็งแกร่งมากขึ้น และเมื่อนำมาเปรียบเทียบก็ดูเหมือนมันจะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย !
“เพราะมันมีความสามารถในการทำลายล้างทุกอย่างแม้แต่ชีวิต งั้นฉันขอเรียกมันว่า ดวงตาแห่งพระเจ้า !”
เป่ยเฟิงคาดหวังอย่างมากถึงพลังที่เขาสามารถปลดปล่อยออกมาได้เต็มที่จากดวงตาแห่งพระเจ้า !
เป่ยเฟิงนั่งลงอย่างหมดแรง จากนั้นเขาก็เริ่มฟื้นฟูพลังจิตของเขา
หลายชั่วโมงผ่านไปเขาก็ลืมตาขึ้นและลุกขึ้นยืน แม้ว่าพลังจิตของเขาจะฟื้นตัวมาได้ 1 ใน 3 แต่ความเจ็บปวดในหัวของเขาได้หายไปแล้ว
เขายังคงมีเมล็ดต้นท้อหน้ามนุษย์อยู่ สมุนไพรจิตวิญญาณที่น่ามหัศจรรย์ชนิดนี้เป็นสิ่งที่เขาได้มาด้วยความบังเอิญ แม้ว่าผลข้างเคียงจะหนักหนาสาหัสแต่สิ่งที่ได้รับกลับมานั้นมหาศาลมาก
เป่ยเฟิงส่งพลังจิตของเขาออกไปครอบคลุมรอบ ๆ ในระยะ 20 เมตร เดิมที่เขาสามารถขยายออกไปได้ 100 เมตร แต่หากเขาใช้เพียงระยะเท่านี้ ต่อให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ไม่สามารถหลบหนีการรับรู้ของเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นการสั่นไหวของใบหญ้า การเคลื่อนที่ของแรงลมรวมไปถึงการสั่นไหวในอากาศ
เป่ยเฟิงหยิบเมล็ดต้นท้อที่อยู่บนพื้นขึ้นมาและมองมันในมือของเขา
“ดิ๊ง ! สมบัติระดับ 1 ที่แปรเปลี่ยน ต้นท้อหน้ามนุษย์กลายพันธุ์ ! (ใช้แสงในการเจริญเติบโตและใช้พื้นดินของจิตวิญญาณแห่งโลกเป็นรากฐานเพื่อออกผลผลไม้แห่งพระเจ้า !
หยินและหยางต่างสนับสนุนกัน ต้นท้อหน้ามนุษย์มีพลังหยินที่ชั่วร้ายแต่ภายในมันกลับเต็มไปด้วยพลังหยางที่บริสุทธิ์ที่เกิดจากพลังหยิน ! เมื่อต้นท้อหน้ามนุษย์หันหน้าเข้าหาแสงสว่างจะทำให้มลทินของมันถูกลบล้างออกไปจนหมด ! สมุนไพรจิตวิญญาณต้นนี้ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 8,293,100 ในอันดับสมุนไพรจิตวิญญาณของโลกแห่งสวรรค์ลึกลับ !) ประสบการณ์ที่ได้รับ : 0 แต้ม !”
เสียงระบบดังขึ้นในหัวของเป่ยเฟิงอีกครั้ง ดูเหมือนเขาจะได้ทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้แล้ว
“นี่อาจเป็นสิ่งที่พวกหลวงจีนสมัยก่อนเคยพูดเอาไว้ว่า ‘ในหยางมีหยิน ในหยินมีหยาง’ สิ่งใดก็ตามที่มีพลังแข็งแกร่งกว่าในท้ายที่สุดพวกมันก็จะปรับสมดุลกันและกันจนสุดท้ายก็ทำให้มันสามารถวิวัฒนาการได้ ?” เป่ยเฟิงพึมพำกับตัวเอง