Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 433
ตอนนี้เป่ยเฟิงมีตัวเลือกแค่ 2 ทางคือสู้กับตาย เขาไม่มีทางให้หนี !
แรงกดดันในร่างของเขาเพิ่มมากขึ้นมหาศาล ในขณะเดียวกันร่างที่สูงกว่า 3 ชุนในตันเถียนของเขาก็ลืมตาขึ้น ใบหน้าของร่างนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา
“บูม !”
คลื่นพลังชั่วร้ายระเบิดขึ้นราวกับสัตว์ร้ายที่ถูกปล่อยออกมาจากกรง มันห่อหุ้มร่างกายของเป่ยเฟิงก่อนจะกระจายออกไปรอบ ๆ !
“อะไรกัน ?”
หลิงวู่ร้องด้วยความตกใจ เขามีชีวิตอยู่มานานหลายปีและด้วยนิกายคุนหลุนที่หนุนหลังทำให้น้อยครั้งมากที่จะมีสิ่งที่ทำให้เขาตกใจได้ แต่เมื่อเขาเห็นพลังชั่วร้ายพุ่งออกมาจากร่างของเป่ยเฟิงเขาก็รู้สึกราวกับแมวตัวหนึ่งที่ถอยหลังเหยียบหางตัวเอง
เขาไม่สนใจภาพลักษณ์อีกต่อไป เขารีบวิ่งออกไปให้ไกลก่อนจะหันมามองเป่ยเฟิงด้วยความตกใจ สามารถมองเห็นความหวาดกลัวในดวงตาของเขาได้อย่างชัดเจน
‘พลังปีศาจชั่วร้ายอะไรขนาดนี้ ! หรือว่าเขากำลังถูกครอบงำ ?’
ดวงตาหลิงวู่สั่นสะเทือนด้วยความตกใจ อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้เป่ยเฟิง พลังชั่วร้ายนั่นน่ากลัวเกินไป หลิงวู่รู้สึกว่าหากเขาเข้าไปใกล้เขาจะต้องตายแน่นอน !
ในเวลาเดียวกันรอยสักที่อยู่ระหว่างคิ้วของเป่ยเฟิงก็เปิดขึ้นและเผยให้เห็นดวงตาสีดำสนิท
พลังดึงดูดมหาศาลพุ่งออกมาจากดวงตา จากนั้นเลือดสีม่วงก็ถูกดูดเข้าไปในดวงตา
“กึก กึก !”
เลือดไหลเข้าไปในดวงตาอย่างรวดเร็ว หมอกสีแดงค่อย ๆ ปรากฏในส่วนที่ลึกที่สุดของดวงตาจากนั้นก็กลายเป็นเส้นเลือดจำนวนมากที่เชื่อมต่อเข้ากับสมอง !
ตอนนี้ตามันไม่เหมือนรอยสักอีกต่อไป มันดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ราวกับเกิดมาพร้อมกับเขา !
หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน ดวงตาก็ปิดลงช้า ๆ ราวกับมันได้ดูดซับพลังมามากพอแล้ว มันถึงเวลาที่มันจะได้กลับไปนอนหลับพักผ่อนอีกครั้ง
รอยสักสีดำระหว่างคิ้วของเป่ยเฟิงกระพริบด้วยแสงสีดำ-ม่วงไปมา แม้ว่าแสงที่กระพริบจะดูดำสนิท แต่มันก็สามารถมองเห็นสีม่วงเข้มที่ปรากฏอยู่ในความมืดได้ !
สภาพของเป่ยเฟิงในตอนนี้ดีขึ้นมาก การเปลี่ยนแปลงของร่างกายทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมาก แต่ดูเหมือนตอนนี้เขาจะได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากความตายแล้ว
หากดวงตาไม่ได้ดูดเลือดสีม่วงในร่างกว่าครึ่งหนึ่งเข้าไป เขาคงจะระเบิดกลายเป็นเศษขยะกระจายไปรอบ ๆ
เป่ยเฟิงใช้แรงเฮือกสุดท้ายชักนำเลือดและฉีเพื่อหมุนเวียนไปในร่าง จากนั้นก็ชักนำให้เลือดสีม่วงที่เหลือไหลไปตามการไหลเวียนของเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์
“ตุ้ม !”
เลือดสีม่วงจากที่ดูสงบเมื่อครู่กลับมาต่อต้านอีกครั้งราวกับมันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากมันไหลเวียนไปตามเส้นทางเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์ !
ในขณะเดียวกัน เลือดสีม่วงเริ่มรวมตัวกันจากนั้นก็กลายเป็นมังกรดุร้ายที่เตรียมจะอาละวาด
“จี้ !”
ในตันเถียนเป่ยเฟิง ร่างที่สูง 3 ชุนหัวเราะด้วยเสียงเล็ก ๆ จากนั้นร่างของมันก็แยกเป็น 2 ส่วนโดยครึ่งบนเป็นร่างกาย ส่วนครึ่งล่างกลายเป็นของเหลวไหลไปตรงมังกรสีม่วง
ของเหลวสีดำพุ่งทะลุชั้นเลือดและฉีที่เป่ยเฟิงสร้างเอาไว้อย่างง่ายดาย จากนั้นมันก็ไปปรากฏตรงหน้ามังกรก่อนจะไหลเข้าไปในหัวของมัน !
มังกรสีม่วงดิ้นรนต่อสู้อยู่ชั่วขณะก่อนจะหยุดเคลื่อนไหว หลังจากนั้นมันก็ไหลไปตามเส้นทางการหมุนเวียนของเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์อย่างเชื่อฟัง
เป่ยเฟิงรู้ได้ทันทีว่าเลือดสีม่วงไหลเวียนไปทั่วร้างของเขาแล้ว พลังงานจำนวนมากถูกทำลายโดยมันและตอนนี้มันก็กำลังกลืนกินร่างกายของเขา !
หลังจากผ่านไป 1 นาที เคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์ของเป่ยเฟิงก็มาถึงจุดสูงสุดของขั้นแรก !
มันยังอีกห่างไกลกว่าจะถึงจุดสิ้นสุด มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่านี้คือพลังงานจากหยดเลือดมังกรเพียงหยดเดียว !
สิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุดคือปริมาณเลือดของมังกรมีพลังงานจำนวนมหาศาลที่มากกว่าจำนวนจุดสีแดงที่เป่ยเฟิงได้ดูดซับมาเสียอีก
หลังจากนั้นไม่นานพลังงานภายในร่างของเขาก็ถูกปรับเปลี่ยนไปจนทำให้ร่างกายของเป่ยเฟิงแข็งแกร่งขึ้นมาก ตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าทั้งพลังจิตและร่างกายแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก !
ใช่แล้ว ตอนนี้มันเพิ่งเริ่มเท่านั้น เขายังสามารถแข็งแกร่งได้ขึ้นอีก !
ผนึกเลือดในอากาศเริ่มเข้มมากขึ้น ในไม่ช้ามันก็มีลูกบอลสีแดงปรากฏออกมา !
ห่างออกไปตรงแท่นหยกขาว มังกรขนาดใหญ่ราวกับกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ การเคลื่อนไหวของมันทุกครั้งจะเกิดหมอกสีดำขึ้นมา หมอกเหล่านั้นจะค่อย ๆ ไหลเข้าไปในร่างของเป่ยเฟิงอย่างช้า ๆ !
“สหายผู้นี้เขาฝึกเคล็ดวิชาอะไรกันแน่ ? น่าแปลกจริง ๆ ! ช่างมัน ดูเหมือนสถานที่แห่งนี้จะอันตรายเกินไป ข้าออกไปรอข้างนอกดีกว่า”
เหมือนคำพูดที่ว่าคนฉลาดจะไม่อยู่ใกล้อันตราย หลิงวู่รู้สึกได้ว่าเป่ยเฟิงในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสถาวะปกติ แม้ว่าเขาจะพยายามคาดคิดไปต่าง ๆ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเป่ยเฟิง บางทีตัวเป่ยเฟิงเองอาจจะกำลังพัฒนาตัวเองหรือไม่ก็กำลังตัดผ่านระดับอยู่ก็ได้
นอกจากนี้ทุกอย่างในถ้ำใต้ดินมันแปลกมาก แม้แต่หลิงวู่ก็ไม่สามารถมองทุกอย่างได้ชัดเจน หากไม่ใช่ว่าสถานที่แห่งนี้ผนึกพลังของเขาเอาไว้ หลิงวู่อาจจะเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเป่ยเฟิงไปแล้ว !
“ฮา … ฮู่ !”
พลังชั่วร้ายที่เหลือครึ่งร่างเริ่มหอบหายใจจากนั้นมันก็เริ่มดูดซับหมอกสีดำที่ไหลเข้ามาในร่างของเป่ยเฟิง
เป่ยเฟิงอยู่ในสถานะกึ่งหลับ เขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างแต่ก็เหมือนไม่รู้สึก อย่างไรก็ตามการหมุนเวียนพลังงานในร่างของเขาไม่ได้หยุดลงแต่กลับกันมันกลับหมุนเวียนเร็วมากขึ้น !
ตอนนี้เป่ยเฟิงราวกับตัวเองเหมือนภูเขาไฟ ก่อนที่ภูเขาไฟจะปะทุมันจะต้องรวบรวมลาวาจำนวนมากเอาไว้ราวกับกำลังหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะระเบิดออกมา !
หลังจากที่ครึ่งหนึ่งของพลังชั่วร้ายได้ผสานเข้ากับเลือดสีม่วงแล้วมันก็ได้ไหลเวียนไปตามเส้นทางเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์ก่อนจะถูกดูดซึมเข้าไปในร่าง และด้วยเหตุบังเอิญเป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าพลังงานจากพลังชั่วร้ายส่งผลต่อการกลั่นร่างกายของเขามากเพราะมันมีพลังมากกว่าเลือดสีม่วง !
รอยสักแปลก ๆ ปรากฏบนร่างสูง 4 เมตรก่อนจะค่อย ๆ ลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ บนร่างกาย จากนั้นบนหน้าอกของเขาก็เกิดรอยสักแปลก ๆ ขึ้น !
รอยสักค่อย ๆ สว่างไสวจากนั้นมันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนกลายเป็นเกราะที่ดูโหดร้ายปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา หากมองด้วยตาเปล่าจะสามารถมองเห็นแสงสีดำที่สะท้อนออกมา
ชุดเกราะนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากพลังชั่วร้าย มันมีพลังป้องกันที่น่ากลัวมาก !
เพียงแค่มองก็ทำให้รู้สึกถึงลางไม่ดี ชุดเกราะมีน้ำหนักเบาจนเกือบจะไร้น้ำหนัก นอกจากนี้มันยังไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดหรือว่าขัดขวางการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นเสียงคำรามที่น่ากลัวก็ดังขึ้นข้างหลังเป่ยเฟิง ! พื้นที่ด้านหลังของเขาสั่นอย่างรุนแรง จากนั้นหมียักษ์ก็ปรากฏตัวด้านหลังพร้อมกับกางกรงเล็บที่ดูโบราณออกมา กรงเล็บของมันในตอนนี้ยาวและคมมาก !
ในขณะเดียวกัน เป่ยเฟิงก็เริ่มหมุนเวียนเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์ รูปร่างที่ไม่แน่ชัดก็ค่อย ๆ ปรากฏด้านหลังของเขาอีกร่าง ร่างมันค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นและสมจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้ร่างของมันค่อย ๆ เผยให้เห็นว่าเหมือนมังกรสีเขียวอย่างมาก