Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 444
ความร้อนมหาศาลแผ่ออกมาจากขนสีทองของอีกาทองคำ เพียงแค่มองก็รู้สึกได้ว่ามันเหมือนถูกสร้างขึ้นมาจากทองคำศักดิ์สิทธิ์ ขนของมันสานทอกันจนดูคล้ายเสื้อคลุมสีทองที่งดงาม และที่หัวของมันก็เหมือนมีมงกุฏสีทองประดับอยู่
เทพเจ้าแห่งดวงดาวตนนี้ดูหล่อและทรงพลังมาก มันราวกับมันคือเปลวไฟที่ร้อนแรงที่พร้อมจะเผาทุกสรรพสิ่ง พลังดวงดาวมหาศาลแผ่กระจายออกมาจากร่างของมัน
อีกหนึ่งเป็นเทพธิดากระต่ายแห่งดวงจันทร์ เธอมีผมยาวพร้อมกับชุดสีฟ้าที่สวยงดงามสะท้านแผ่นดิน หูกระต่ายคู่อยู่บนหัวดูน่ารักมาก ฟันหน้าที่ยื่นออกมาจากปากน้อย ๆ ของเธอมันช่างทำให้เธอดูสวยงามไม่อัปลักษณ์ซักนิด เทพธิดากระต่ายแห่งดวงจันทร์ดูมีราศีที่สง่างามและความหยิ่งทนง เธอดูราวกับเทพธิดาที่อยู่ห่างไกลและไม่มีใครสามารถแตะต้องได้
ดูเหมือนนี้จะเป็นร่างกายขั้นที่ 2 ของเทพเจ้าแห่งดวงดาว การเแปลงร่างจากสัตว์อสูรมาเป็นมนุษย์ดูเหมือนจะอยู่ขั้นที่ 2 และไม่แน่ว่าขั้นที่ 3 อาจจะเปลี่ยนเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ !
การเคลื่อนไหวของพวกมันทำให้ดวงดาวทั้งหลายต้องสั่นสะท้าน มันราวกับมันมีความแข็งแกร่งที่ทรงพลังอยู่ข้างใน !
เมื่อร่างกายของคนจากราชวงศ์ของชนเผ่าดาบแตกเป็นชิ้น ๆ อัญมณีที่แลดูล้ำค่าก็พุ่งออกมาจากดวงตาของเขา อัณมณีมันค่อย ๆ หลอมรวมกันจากนั้นก็กลายเป็นแผนภาพไทเก๊กกลางอากาศ
จากนั้นอัญมณีทั้ง 2 ที่มีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือก็พุ่งไปหาเป่ยเฟิงช้ ๆ และจากนั้นพวกมันก็พุ่งเข้าไปปรากฏในจุดแสงดาวหลักของเป่ยเฟิง !
อัญมณีทั้ง 2 เม็ด เม็ดหนึ่งเต็มไปด้วยพลังหยาง อีกเม็ดเป็นพลังหยิน พวกมันพุ่งเข้าไปตามจุดหลักของเป่ยเฟิงตามคุณสมบัติของพวกมัน จากนั้นเมื่ออยู่ที่จุดแสงแล้วพวกมันก็กลายสภาพกลายเป็นมงกุฏปรากฏขึ้นเหนือหัวเทพเจ้าแห่งดวงดาวทั้ง 2 !
ทันทีที่มงกุฏปรากฏขึ้น ปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดก็เกิดขึ้นบนท้องฟ้า ลำแสงของดวงอาทิตย์ที่กว้างกว่า 10 จางพุ่งลงมาครอบคลุมร่างกายของเป่ยเฟิง !
ดวงจันทร์ไม่น้อยหน้า มันดูไม่ได้อ่อนแอกว่าดวงอาทิตย์แม้แต่น้อย มันปรากฏตัวในเวลาเดียวกัน จากนั้นลำแสงที่เย็นยะเยือกก็พุ่งลงมาเช่นเดียวกัน !
หากมองจากด้านนอกจะเห็นได้ว่ามีเพียงภูเขาจิตวิญญาณสีฟ้าเท่านั้นที่มีภาพงดงามที่เป็นแสงอาทิตย์และแสงจันทร์ยืนเคียงข้างกัน แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลากลางวันแต่ดวงจันทร์ไม่ได้ดูอ่อนแอกว่าดวงอาทิตย์แม้แต่น้อย
ภูเขาจิตวิญญาณสีฟ้าราวกับตกอยู่ในปรากฏการณ์ผิดปกติ ครึ่งหนึ่งของวิลล่าเต็มไปด้วยพลังหยาง ทันทีที่มันสัมผัสกับพืชทั้งหลายมันก็ได้ละลายและเผาไหม้พวกพืชเหล่านั้นจนหมด !
อีกด้านถูกห่อหุ้มด้วยชั้นน้ำแข็ง แม้แต่ตัวภูเขาเองก็ไม่สามารถทนได้ ในไม่ช้าพื้นดินก็ค่อย ๆ แตกออก !
ฉากตรงหน้ามันน่าสะพรึงกลัวมาก ทั้งภูเขาถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นน้ำแข็งอีกฝั่งเป็นไฟ การแบ่งฝั่งของพวกมันครอบคลุมไปกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งภูเขา !
ต้นส่องประกายแห่งพระเจ้าปลดปล่อยแสงสว่างที่อ่อนโยนออกมาเป็นกำแพงแสงป้องกันอยู่รอบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเปลวไฟที่ลุกโชนหรือน้ำแข็งที่เย็นยะเยือกก็ดูราวกับไม่สามารถฝ่าการป้องกันของมันมาได้
“ทรงพลังมาก ! ดูเหมือนพลังของนายท่านจะก้าวหน้าอีกแล้ว ! ปรากฏการณ์นี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยซักครั้งในประวัติศาสตร์ !”
ลึกลับที่ 1 และคนที่เหลือหนีไปและกำลังยืนอยู่อีกยอดเขาที่ห่างออกไปไกล พวกเขารู้สึกว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเป่ยเฟิงจึงหนีมานานแล้ว แม้กระทั่งไป๋เซียงเองที่กำลังเก็บตัวอยู่ยังต้องหนีมาโดยไม่ลังเล
เมื่อเห็นฉากตรงหน้า พวกเขารู้สึกยินดีอย่างมากที่หนีมาได้ทัน
ลำแสงที่น่าสะพรึงกลัวได้ปรากฏให้เห็นตลอดทั้งวัน เมื่อค่ำคืนมาถึงแสงของลำแสงทั้ 2 ยิ่งเห็นได้ชัด
ประชาชนธรรมดามองเห็นลำแสงที่งดงามจากระยะไกล พวกเขาต้องการไปดูให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่พวกเขาก็ถูกขวางโดยกองกำลังติดอาวุธที่ไม่ยอมให้ใครเข้ามาใกล้ และนั่นก็ทำให้ภูเขาน้ำแข็ง-ไฟ ของเป่ยเฟิงไม่มีใครสามารถเข้ามาใกล้ได้แม้แต่คนเดียว !
ส่วนผู้ฝึกตนแห่งโลกการต่อสู้ไม่มีใครซักคนกล้าที่จะเข้ามาใกล้ ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเจ้าของที่แห่งนั้นคือใคร
ภายในจุดแสงหลักของเป่ยเฟิงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่กับเทพเจ้าแห่งดวงดาวทั้ง 2 ขนาดของพวกมันใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับร่างของพวกมันที่ค่อย ๆ เปลี่ยนจากลำคอดูคล้ายมนุษย์มากยิ่งขึ้น !
มงกุฏทั้ง 2 ดูดกลืนพลังจากดวงดาวอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันพวกมันก็กลั่นสิ่งสกปรกจำนวนมากออกไปและจากนั้นก็กลั่นพลังให้บริสุทธิ์มากขึ้นก่อนจะส่งพลังไปให้เทพเจ้าแห่งดวงดาวทั้ง 2 เพื่อให้พวกมันเข้าสู่ขั้นที่ 3 ได้ !
‘มันกำลังจะแปลงร่างเข้าสู่ขั้นที่ 3 ? ดูเหมือนพวกมันกำลังจะหลอมรวมกับเข้าจิตวิญญาณของฉัน’
เป่ยเฟิงยังคงยืนเงียบ ๆ เขารู้สึกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในดวงวิญญาณของเขา
“โฮก !”
เสียงแผ่นดินไหว 2 ครั้งดังขึ้น จากนั้นภูเขาลูกเล็ก ๆ ก็ค่อย ๆ ทรุดตัวลง ไม่มีฝุ่นใด ๆ กระจายออกมาแม้แต่น้อย ในขณะเดียวกันเป่ยเฟิงก็นั่งลงไขว่ข้าง
เสียงคำรามครั้งนี้เต็มไปด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ถึง 2 พลัง หลังจากนั้นก็มีคลื่นกวาดกระจายไปทุกทิศทาง !
“แย่แล้ว ! เร็ว รีบปกป้องไป๋เซียง !’
ลึกลับที่ 1 มองคลื่นพลังจากดวงดาวเข้ามาใกล้พร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นน่าเกลียด เธอและเคอร์เบอรอสรีบปลดปล่อยพลังของตัวเองเพื่อสร้างเป็นบาเรียป้องกันบ้านสำรองของพวกเขา
“แกร๊ก !”
เมื่อคลื่นพลังงานเข้าปะทะ รอยแตกก็ปรากฏบนบาเรียในทันที
“โฮก !”
เลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของลึกลับที่ 1 พร้อมกับเท้าของเคอร์เบอรอสที่จมลึกลงไปในพื้นเป็นทางยาว ๆ เคอร์เบอรอสเงยหน้าขึ้นฟ้าก่อนจะคำรามขึ้นพร้อมกับร่างที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว !
ในไม่ช้ามันก็สูงกว่า 100 เมตรและยาวกว่า 50 เมตร หมา 3 หัวที่ยืนอยู่ในตอนนี้มันดูโหดร้ายอย่างมาก แรงกดดันที่ดุร้ายแผ่กระจายออกมาจากหัวของเคอร์เบอรอส
ไป๋เซียงอยู่ในสภาพใกล้ทำลายคอขวด หากคลื่นเมื่อครู่ได้ปะทะเข้ากับตัวเขา เขาจะป้องกันมันไม่ได้แน่ ๆ ต่อให้จะมีอีกซัก 10 ชีวิตเขาก็ไม่มีทางรอดไปได้ !
เมื่อเห็นว่ากำแพงเริ่มแตกสลาย เคอร์เบอรอสอ้าปากทั้ง 3 ก่อนจะเรียกแกนภายในของสัตว์อสูรที่มีขนาดเท่ากำปั้นออกมา !
เมื่อแกนภายในของสัตว์อสูรปรากฏขึ้น อากาศรอบ ๆ ก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง !
แรงกดดันที่โหดร้ายกระจายออกไปรอบ ๆ จากนั้นพื้นที่ทั้งหมดก็ตกอยู่ในความเงียบราวกับทุกอย่างถูกแช่แข็ง มีเพียงแกนภายในเท่านั้นที่เคลื่อนไหวช้า ๆ ต่อต้านพลังของคลื่นอยู่ !
ทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันและไม่มีใครยอมกัน
หลังจากทื่ได้เอาแกนภายในออกมา ร่างของเคอร์เบอรอสก็หดลงกลายเป็นหมาขนาดปกติ มันมองไปข้างหน้าด้วยความเย่อหยิ่ง
คลื่นพลังงานราวกับถูกแบ่งให้เป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งพุ่งไปที่หินข้าง ๆ และอีกส่วนพุ่งไปยังหินกลางลำธาร
แกนภายในทั้ง 3 หมุนอย่างช้า ๆ และมันดูไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ตอนนี้พวกมันปล่อยแสงริบหรี่และพื้นผิวที่ดูค่อนข้างมืดม่น แกนภายในมันลอยช้า ๆ เข้าไปในปากของเคอร์เบอรอส
เมื่อกลืนแกนภายในกลับเข้าไปในร่าง เคอร์เบอรอสก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา ต่อให้มันบาดเจ็บสาหัสแค่ไหนขอแค่มีแกนภายในมันก็ยังมีชีวิตอยู่ได้
“แข็งแกร่งมาก ! นายท่านหมาผู้นี้คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งกว่ามนุษย์มากแล้ว แต่ใครจะไปคิดกันว่าเจ้าเด็กบัดซบจะแข็งแกร่งกว่าแม้ว่านายท่านหมาผู้นี้จะใช้พลังทั้งหมดที่มีแล้วก็ตาม !”
แน่นหัวถ่มน้ำลายด้วยความตกใจ ความเร็วในการพัฒนาของมันเร็วมาก แต่เมื่อเทียบกับเป่ยเฟิงมันก็ยังคงอ่อนแอกว่า แม้แต่เรื่อง “ภายใต้ชื่อเดียวกัน” ที่น่าภูมิใจของมันก็ไร้ค่ากับเป่ยเฟิง
“แกเป็นสัตว์อสูรหรือนายท่านผู้นี้กันแน่ที่เป็นสัตว์อสูร ? เป็นไปได้ไหมว่านายท่านหมาผู้นี้เป็นสัตว์อสูรของปลอม ?”
แน่นหัวพูดด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับลิ้นที่ห้อยออกมา มันโกรธมากจนเริ่มสงสัยตัวเอง
ในเวลาเดียวกัน เทพเจ้าแห่งดวงดาวทั้ง 2 ที่อยู่ในจุดแสงหลักของเป่ยเฟิงได้เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ ร่างทั้ง 2 ถูกสร้างขึ้นมาจากพลังดวงดาวจำนวนมาก และด้วยการควบแน่นของพลังทำให้ร่างของทั้งคู่ดูไม่แตกต่างจากมนุษย์ยุคใหม่แม้แต่น้อย !
“หยิน !”
“จี้ !”
เทพเจ้าแห่งดวงดาวทั้ง 2 ยังไม่รู้วิธีพูด ดังนั้นมันจึงส่งเสียงร้องของสัตว์ออกมา เทพเจ้าแห่งดวงดาวดูเหมือนจะมีสติปัญญาของตัวเอง ในไม่ช้าพวกมันก็ไปปรากฏในดวงวิญญาณของเป่ยเฟิง !
ตราบใดที่ดวงวิญญาณไม่แตกสลาย เทพเจ้าแห่งดวงดาวก็จะไม่มีวันตาย !
แม้ว่าพวกมันจะถูกกลั่นทำลายไป แต่เทพเจ้าก็สามารถกลับมาใหม่ได้ภายในไม่กี่วัน นอกจากนี้ดูเหมือนพวกมันจะไม่มีจุดอ่อนใด ๆ !
เมื่อเทพเจ้าแห่งดวงดาวทั้ง 2 มาปรากฏในดวงวิญญาณของเป่ยเฟิง มันก็ได้ทำให้จุดแสงดาวหลักของเป่ยเฟิงหายไปโดยสมบูรณ์
หากเทพเจ้าแห่งดวงดาวยังไม่สามารถพัฒนาไปยังขั้นที่ 3 ได้ พวกมันก็ทำได้เพียงอาศัยอยู่ในจุดแสงหลักเพื่อดูดซับพลังดวงดาวต่อไป หากจุดแสงดาวหายไปพวกมันก็จะเป็นการฆ่าเทพเจ้าแห่งดวงดาวไปด้วยเช่นกัน
แต่ถึงอย่างนั้นคนที่จะทำได้ต้องแข็งแกร่งกว่าเป่ยเฟิงชนิดที่ต้องใช้นิ้วเพียงนิ้วเดียวถึงจะฆ่าเขาได้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นใครกันที่จะทำลายจุดแสงดาวหลักของเขาได้ ?