Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 453
ผลไม้ขนาดเท่ากำปั้นดูเรียบง่าย หากเป่ยเฟิงไม่ได้อยู่ดูจนมันสุกเต็มที่และไม่ได้เห็นมันก่อนหน้านี้กับตา เขาคงไม่คิดจะมองมัน
ผิวของผลไม้ราวกับหินที่ผ่านลมฝนมามากมาย มันดูขรุขระและหยาบกร้าน
ไม่มีกลิ่นหอมใด ๆ เล็ดลอดออกมา ราวกับมันไม่ต่างไปจากหินปกติ
“ตุ้บ !”
ผลไม้หล่นลงบนพื้นด้วยเสียงเหมือนหินปกติ
เป่ยเฟิงยื่นมือออกไปคว้ามันขึ้นมา
“ดิ๊ง ! สมบัติจันทราระดับ 1 ผล 9 ดารา ! (นี่คือผลไม้ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากเถาวัลพันดาราโดยการดูดซับลาวาจำนวนนับไม่ถ้วน เนื้อและเลือดของสัตว์อสูรเป็นปุ๋ย ทุก ๆ วงแหวนหมายถึงเวลาทุก ๆ 100 ปี ผลไม้ที่มีพลังระดับสูงสุดจะเกิดจากเถาวัลพันดาราที่อยู่ในระดับสูงสุดและสามารถกำเนิดผลไม้ที่มีวงแหวนได้มากที่สุด 1,000 วงแหวนจากนั้นมันก็จะกลายเป็นผลไม้ศักด์สิทธิ์หรืออีกชื่อว่าผลพันดารา !
ต้องการหลิงฉีของสวรรค์และโลกจำนวนมากรวมไปถึงเนื้อและสัตว์อสูรระดับสูงเพื่อทำให้เถาวัลพันดาราเติบโตขึ้น !
ผล 9 ดาราหรืออีกชื่อคือผลไม้หิน เมื่อปอกผิวออกจะสามารถกินเนื้อด้านในได้ เนื้อของผลไม้จะช่วยทำให้เลือดและฉีเพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงพลังจิตด้วย !) ประสบการณ์ที่ได้รับ : 0 แต้ม !”
เสียงที่ไร้อารมณ์ของระบบดังขึ้นในหัวของเป่ยเฟิง
“น่าเสียดาย ดูเหมือนเถาวัลพันดาราจะเติบโตผิดที่ ถ้ามันได้เติบโตในที่ที่เต็มไปด้วยหลิงฉีของสวรรค์และโลกที่หนาแน่นและอยู่บนดวงดาวที่เหมาะกับการฝึกตน มันคงกลายเป็นผลพันดาราที่แท้จริงได้ !” เป่ยเฟิงพึมพำกับตัวเอง ดูเหมือนคุณค่าของต้นเถาวัลนี้จะดูสูงมาก บางทีมันอาจจะไม่น้อยไปกว่าต้นส่องประกายแห่งพระเจ้าก็ได้ !
มันเป็นเพราะหลิงฉีของสวรรค์และโลกบนโลกใบนี้มันอ่อนแอเกินไป ทำให้มันอยู่รอดได้เพียง 900 ปีเท่านั้นสำหรับต้นเถาวัลพันดาราต้นนี้
หลิงฉีของที่นี่มันไม่เพียงพอที่จะทำให้ต้นเถาวัลพันดาราเติบโตอีกต่อไป สุดท้ายมันจึงเปลี่ยนตัวเองให้เป็นฝุ่งผงเพื่อที่จะเป็นอาหารครั้งสุดท้ายให้กับผล 9 ดารา
‘ผล 9 ดารามันน่าจะอยู่ห่างไกลจากระดับสูงสุดมาก ดูเหมือนมันน่าจะเหมาะกับพลังปัจจุบันของฉัน มันน่าจะช่วยทำให้เลือดและเนื้อของฉันแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมไปถึงพลังจิตด้วย !’
เป่ยเฟิงเสียใจเล็กน้อยกับผลไม้ลูกนี้ แต่ผลไม้ลูกนี้มันมีความพิเศษของตัวมันเองอยู่แล้วทำให้เขาทำอะไรมากไม่ได้ นอกจากนี้ผล 9 ดาราลูกนี้ยังเหมาะกับเขาในตอนนี้อีกด้วย แม้ว่าผลพันดาราที่แท้จริงจะอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็ไม่กล้ากินมัน พลังมหาศาลที่อยู่ในผลไม้ศักดิ์สิทธิ์มันน่าจะระเบิดตัวเขาได้ในทันทีที่กินเข้าไป !
ด้วยความคิด ผล 9 ดาราก็หายเข้าไปในแหวนมิติของเขา ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะกินมัน
ผลไม้นี้อาจเป็นผลไม้ที่มีค่าที่สุดที่เขาครอบครองในตอนนี้ แม้ว่าต้นส่องประกายแห่งพระเจ้าจะมีค่ามากกว่า แต่ผลไม้จากต้นส่องประกายแห่งพระเจ้ายังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่ามันจะออกผลได้เหมือนผล 9 ดารา !
ตอนนี้ร่างกายของเป่ยเฟิงเต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บที่ซ่อนอยู่ภายใน นอกจากนี้เขายังมีสภาพร่างกายที่อ่อนแอเนื่องจากผลข้างเคียงของวิชาลับกายาผสานหยวน การกินผล 9 ดาราในตอนนี้มันจะทำให้เสียของได้ !
เป่ยเฟิงเก็บผลไม้เสร็จแล้วก็ไม่ได้ออกไปไหน ก่อนหน้านี้เขามัวแต่ระวังเถาวัลพันดารา แต่ตอนนี้มันแห้งเหี่ยวไปแล้วทำให้ไม่มีอะไรที่เขาต้องกลัว ในไม่ช้าเขาก็กระโดดลงไปในบ่อลาวาตื้น ๆ
บ่อลาวาขนาดใหญ่ยังคงแผ่อุณหภูมิที่ไหม้เกรียมออกมาแม้ว่าลาวาจะหายไปแล้ว อย่างไรก็ตามความร้อนเล็กน้อยแค่นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเป่ยเฟิง
ลึกลับที่ 1 และคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าเป่ยเฟิงทำอะไร แม้ว่าจะเห็นเขาโดดลงไปในบ่อลาวาแต่พวกเขาก็ไม่ได้ถามอะไร พวกเขาทำเพียงรออยู่ด้านข้างบ่อลาวาเท่านั้น
บ่อลาวามีความกว้างกว่าพันเมตร ยิ่งไปกว่านั้นมันยังทอดยาวออกไปไกล ดูแล้วมันน่าจะกว้างกว่า 5 กิโลเมตรได้ !
ด้านล่างของบ่อลาวาเต็มไปด้วยหินสีแดงเข้ม ความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุดแต่กลับมีแสงสีแดงจาง ๆ เปล่งประกายออกมา หินกำแพงสีดำที่อยู่รอบ ๆ เองก็มีแต่สีแดงเข้ม
อุณหภูมิในที่นี่เกินหนึ่งพันองศาแล้ว เป่ยเฟิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้พลังของเทพเจ้าแห่งดวงดาวเพื่อต้านทานมัน – ในไม่ช้าเสื้อคลุมสีทองก็ปรากฏรอบตัวเขา
อุณหภูมิที่ไหม้เกรียมรอบ ๆ ตัวเขาถูกสะท้อนออกไปทั้งหมดทำให้เป่ยเฟิงไม่รู้สึกร้อนซักนิด
“พลังดวงดาวธาตุไฟแข็งแกร่งมาก ! ดูเหมือนมันจะเป็นชิ้นส่วนดาวตก !” เป่ยเฟิงพึมพำกับตัวเองหลังจากได้ข้อสรุป หลังจากนั้นเขาก็เห็นหินก้อนใหญ่ขนาดเท่าบ้านอยู่ตรงหน้า และเมื่อนึกถึงความลึกของบ่อลาวารวมไปถึงความร้อนก็ดูเหมือนจะสมเหตุสมผล
“หรือว่าเถาวัลพันดาราจะมากับอุกกาบาตลูกนี้ ? นั่นมัน … ดาบหัก !”
เป่ยเฟิงตกใจมากขึ้นเมื่อมองไปที่อุกกาบาต ด้านข้างของอุกกาบาตยังคงมีซากของเถาวัลพันดาราอยู่ รากมันแห้งไปแล้ว แต่มันไม่ได้ถูกเผาด้วยความร้อนที่น่ากลัวเลยซักนิด ตรงกลางของอุกกาบาตมีชิ้นดาบสีเงินขาวปักอยู่ ความคมที่แผ่ออกมามันน่าตกใจมาก !
ไม่รู้เหมือนกันว่าดาบเล่มนี้อยู่ที่นี่มากี่ปี แต่มันยังคงส่องสว่างเหมือนเดิม แรงกดดันที่เต็มไปด้วยความคมแผ่ออกมารอบ ๆ จนแม้แต่เป่ยเฟิงยังรู้สึกเจ็บปวด !
โซ่สีแดงที่ยื่นออกมาดูเหมือนมีอายุมากกว่าพันปีได้ยื่นออกมาจากอุกกาบาตยักษ์ มันดูเก่ามากและดูเหมือนไม่ได้รับความเสียดายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย
“ดิ๊ง ! สมบัติระดับดวงดาวระดับ 9 เหล็กดำแห่งพระเจ้า ! (นี่คือโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยสภาพแวดล้อมอากาศที่โหดร้าย ไม่สามารถทำลายได้และมีความสามารถในการผูกมัดดวงวิญญาณ !) ประสบการณ์ที่ได้รับ : 0 แต้ม !”
เป่ยเฟิงได้รับคำอธิบายเหล็กดำแห่งพระเจ้า โซ่มันมีความหนาเท่ากำปั้นเด็กเท่านั้น แต่มันดูหนักมากเมื่อยกขึ้นมา ความหนาแน่นของมันสูงมาก !
‘ใครเป็นคนสร้างโซ่นี้ ? และมันทำมาเพื่ออะไรกัน ?’
เป่ยเฟิงสับสนและรู้ว่าไม่มีใครตอบคำถามของเขาได้
เหล็กดำแห่งพระเจ้าเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของอุกกาบาตลูกนี้ มันต้องมีเพิ่มมาภายหลังแน่นอน
‘แล้ว อุกกาบาตลูกนี้หนักแค่ไหนกัน ? มันมีคุณสมบัติพิเศษอะไรหรือเปล่า ?’
เป่ยเฟิงมองอุกกาบาตขนาดใหญ่ด้วยความประหลาดใจ ความแข็งแกร่งของบอสงูเหลือมมีมากกว่าล้านจิน แต่มันก็ยังติดอยู่ที่นี่มานานหลายปี โซ่เหล็กดำแห่งพระเจ้าดูเหมือนจะยึดติดเข้ากับอุกกาบาตลูกนี้เอาไว้ หากอุกกาบาตนี้เป็นอุกกาบาตปกติน้ำหนักของมันไม่น่าจะหนักขนาดนี้ และมันไม่น่าจะขังบอสงูเหลือมลาวาได้เด็ดขาด
“ช่างมัน ถือซะว่ามาเจอความโชคดีโดยบังเอิญละกัน”
เป่ยเฟิงหยุดคิดเรื่องนี้ บอสงูเหลือมแข็งแกร่งมากแต่มันก็ถูกขังเอาไว้โดยโซ่เส้นนี้ทำให้มันไม่สามารถขยับหางได้ ไม่อย่างนั้นมันคงหนีไปได้นานแล้ว
หากไม่ใช่เพราะเป่ยเฟิงมีวิชาลับกายาผสานหยวน เขาคงไม่มีทางสู้กับมันได้
ตอนนี้เขาไม่ได้พยายามที่จะสัมผัสหรือขยับอุกกาบาตแม้แต่น้อย เขาทำเพียงลอยไปข้าง ๆ และใช้เคล็ดการหายใจด้วยแสงดาว
แสงดาวขนาดใหญ่สีแดงจำนวนมากไหลเข้าไปในหน้าอกของเป่ยเฟิงทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและสบายมาก
หัวใจของเป่ยเฟิงเรืองแสงสีแดงเข้มและจากนั้นหน้าอกของเขาก็สว่างขึ้น !
จากภายนอกสามารถมองเห็นพลังดวงดาวสีแดงเข้มไหลเข้ามาในร่างของเขาได้ มันเป็นลูกบอลแสงขนาดเล็กเท่าเล็บและเมื่อมันถูกกระตุ้นมันก็จะหัดตัวจากนั้นก็ขยายตัวขึ้น !
เส้นเลือด กล้ามเนื้อและกระดูกในร่างของเป่ยเฟิงสามารถมองเห็นผ่านผิวหนังได้ เลือดสีทองไหลเวียนไปตามหลอดเลือดดำ เลือดสีทองในตอนนี้มีมากถึง 1 ใน 3 ของเลือดทั้งหมด
กระดูกแต่ละชิ้นโปร่งใสคล้ายกับหยกและไร้สิ่งสกปรกใด ๆ
ภายในจุดรูรับแสงหลักเต็มไปด้วยพลังงานดวงดาวสีแดงเข้มจำนวนมากที่ผสานกันจนกลายเป็นของเหลวนับไม่ถ้วน จากนั้นมันก็กลายเป็นบ่อน้ำที่กว้างกว่าร้อยจาง !
พลังจิตของเป่ยเฟิงลอยไปโดยไร้สติ มันได้ถูกดูดเข้าไปในจุดรูรับแสงก่อนจะจมลงไปในบ่อสีแดงเข้ม
พลังดวงดาวจำนวนมากไหลเข้าไปในร่างของเป่ยเฟิงไม่หยุด เป่ยเฟิงลืมทุกอย่าง เขาลืมเวลา ลืมว่าอยู่ที่ไหนและลืมว่าเขาเป็นใคร
สิ่งเดียวที่เขารู้สึกได้คือความมืดก่อนหน้านี้ที่จำกัดเขาเอาไว้และเขาในตอนนี้ต้องการจะทำลายความมืดเพื่อพบแสงสว่างอีกครั้ง
แต่ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนยังไงความมืดก็ยังคงแข็งแกร่งและยากที่จะทำลายไปได้
พลังสีแดงเข้มไหลเข้ามาในความมืด ไม่มีใครรู้ว่ามันไหลเข้ามานานแค่ไหน บางทีอาจจะ 1 วินาทีหรืออาจจะพันปี แต่เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าเขาสะสมพลังได้มากพอแล้ว !
“บูม !”
หลังจากปะทะซ้ำแล้วซ้ำเล่าในที่สุดรอยแตกเล็ก ๆ ก็ปรากฏในความมืดและเผยให้เห็นบ่อสีแดงเข้ม !
พลังจิตของเป่ยเฟิงจากที่สับสนก็เริ่มตื่นขึ้น ในที่สุดเขาก็จำได้ว่าเขาเป็นใคร เขามาทำอะไร พลังจิตของเขาเองก็ถูกเหมือนจะถูกกลั่นด้วยไฟและน้ำจนมันได้ยกระดับมากขึ้น เมื่อพลังจิตของเขาตื่นขึ้นมาแล้วเป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงความเบาสบายที่กระจายไปทั่วร่างของเขา
พลังจิตของเขากระจายออกไปรอบ ๆ แม้ว่าจะมีระยะรอบ ๆ เพียง 500 เมตรแต่เป่ยเฟิงกลับสามารถมองเห็นได้ทุกอย่างแม้แต่รายละเอียดเล็ก ๆ แม้แต่พลังงานดวงดาวที่เล็กจนยากจะมองเห็นที่อยู่ในอากาศเขาก็ยังมองเห็น !
ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าความมืดที่ขังเขาคืออะไร เม็ดบัวขนาดเล็กหลังจากที่ได้ดูดซับพลังดวงดาวจำนวนมากเข้าไปในที่สุดมันก็แตกหน่อออกมาแล้ว !
‘นี่คือเวทมนตร์ที่แท้จริงของเคล็ดการหายใจด้วยแสงดาว ? การเกิดของเทพเจ้าแห่งดวงดาวก็คือจุดเริ่มต้นของการวิวัฒนาการจิตสำนึกของฉันงั้นสิ !’
เป่ยเฟิงจะไม่เข้าใจได้อย่างไร ? จิตสำนึกของเขาได้จมลงไปในเม็ดบัวขนาดเล็ก และเมื่อมันแตกหน่อนั้นเท่ากับได้ผ่านความตายมาและนั่นทำให้เขามีสติ !
ในขณะเดียวกันเป่ยเฟิงในตอนนี้ราวกับคนนอกที่เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงเม็ดบัวจากด้านข้าง หัวใจของเขายังคงสงบและไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เม็ดบัวเจริญเติบโตด้วยความเร็วมหาศาล มันดูดซับพลังดวงดาวด้วยความเร็วมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า ! พลังจำนวนมากถูกดูดซับเข้าไปในดอกบัว !
ความเร็วในการดูดซับเร็วมากจนกลายเป็นอ่างน้ำวนขนาดเล็กที่อยู่บนผิวบ่อพลัง !
ส่วนโลกภายนอก เป่ยเฟิงนั่งไขว่ข้างและมีริบบิ้นสีแดงเข้มพาดไปมารอบตัวเขา ริบบิ้นเหล่านี้คือพลังแห่งดวงดาว ในขณะเดียวกันพลังดวงดาวจากอุกกาบาตเองก็เหมือนน้ำที่ถูกปล่อยออกมาจากเขื่อน มันพุ่งลอยเข้ามาในร่างของเป่ยเฟิงไม่หยุด !
พลังดวงดาวสีแดงเข้มคล้ายกับเมฆสีแดงที่ปกคลุมท้องฟ้าอยู่ภายในจุดรูรับแสงหลัก พลังดวงดาวจำนวนมากตกเป็นฝนลงไปในบ่อเพื่อเติมเต็มการดูดซับที่คอยดูดพลังงานลงไป
ต้นบัวในตอนนี้โตเร็วมาก จำนวนรากของมันก็เริ่มมากขึ้น มันค่อย ๆ ขยายออกไปรอบ ๆ โดยไม่ลืมที่จะกลืนกินพลังงานรอบ ๆ อย่างตะกละตะกลาม ก้านดอกเองก็เติบโตเร็วมากจนเผยให้เห็นใบดอกบัวสีแดงเข้ม !
บัวมีความสวยงามอย่างมาก มันราวกับดอกไม้คริสตัลที่ไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดได้ !
บัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ่อที่ใหญ่กว่าพันจางในตอนนี้เริ่มถูกเติมเต็มไปด้วยบัว ในไม่ช้าบัวก็ค่อย ๆ บานออกจนกลายเป็นดอกบัวสีแดงราวกับไฟ
พลังดวงดาวยังคงไหลเข้าไปในดอกบัวที่สดใส ดอกบัวแต่ละดอกมีขนาดเท่าชามและดูสะดุดตามาก โดยดอกบัวแต่ละดอกมันราวกับลูกไฟขนาดใหญ่ !
ในไม่ช้าดอกบัวก็เริ่มลอยเข้ามาใกล้กันเรื่อย ๆ จนกลายเป็นลูกบอล จากนั้นดอกบัวก็เริ่มเหี่ยวเฉาและจมลงไปแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานดอกบัวสีเขียวเข้มลอยไปรวมกับอีกดอกเพื่อกลายเป็นดอกบัวขนาดใหญ่มากขึ้น
เวลาผ่านไปช้า ๆ ความสว่างของอุกกาบาตจากด้านนอกเริ่มสลัวขึ้นช้า ๆ และจากนั้นในไม่ช้าเศษก้อนหินก็ค่อย ๆ ล่วงหล่นลงมา