Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 459
เห็นได้ชัดว่าเป่ยเฟิงเป็นคนที่โชคดีกว่าผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ มากเพราะเขามีทางเลือกให้เลือกหลายทาง
แต่หากเขาไปอีกโลกผ่านประตูมิติที่บ่อน้ำ เขาจะสามารถอยู่ในโลกใบนั้นได้เพียง 1 ปี และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
ตอนนี้เขาไม่มีอะไรให้กังวลเกี่ยวกับโลกใบนี้ เขาพร้อมจะไปจากมันได้ตลอดเวลา ส่วนเรื่องศพสวรรค์ปีศาจหยินน่าจะอีกนานกว่ามันจะเกิด เมื่อเขาออกจากโลกใบนี้ไปโลกอื่น เขาอาจจะกลับมาเก็บมันในทีหลังก็ได้
พันปีมันนานเกินไป เขาไม่มีทางที่จะอยู่ที่นี่ตลอดไปและไม่มีทางที่จะปล่อยมันไปได้
สำหรับซากศพปีศาจหยินที่อยู่สุสานใต้ดินในภูเขาชิงหลิง รัฐบาลได้ส่งคนจำนวนมากเข้าไปสำรวจสุสานแห่งนั้น แต่อัตราการตายของคนที่เข้าไปนั้นสูงมาก
เนื่องจากสัตว์อสูรที่อยู่ข้างในไม่ได้ถูกกวาดล้างออกไปจนหมด ดังนั้นหลังจากผ่านไปนานหลายปี พื้นที่แห่งนั้นจึงถูกพัฒนาจนกลายเป็นศูนย์วิจัยเพื่อศึกษาเกี่ยวกับสัตว์อสูร
ลึกลงไปในถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ ถ้ำแห่งนี้มันน่ากลัวมาก ยุงลายสีม่วงและค้างคาวจำนวนมากบินออกมาจากถ้ำก่อนจะพุ่งไปยังบ่อลาวาใต้โลงศพ
ยุงและค้างคาวเหล่านี้ราวกับถูกควบคุมด้วยปีศาจ พวกมันไม่กลัวความตายแม้แต่น้อย พวกมันบินลงไปในสระแล้วจมลงไปกว่า 3 เมตร จากนั้นตัวอักษรที่ตัดกันไปมาในทะเลสาบก็เปล่งแสงสีแดงที่น่าขนลุกออกมา
หลังจากนั้นตัวอักษรแปลก ๆ ก็ห่อหุ้มยุงและค้างคาวก่อนจะหมุนเป็นเกลียวพันพวกมันเอาไว้ในคลื่นแห่งเลือด หลังจากนั้นก็มีเสียงดังที่เป็นการระเบิดของยุงและค้างคาว !
“ตุ้บ ตุ้บ !”
เสียงเต้นของหัวใจดังออกมาจากโลงศพทำให้โซ่ทั้งถ้ำสั่นสะเทือนไม่หยุด
ที่ทางเข้าแม่น้ำใต้ดิน มีเรือยาง 3 ลำกำลังมุ่งหน้ามาที่โลงศพด้วยความเร็วสูง
เรือที่นำหน้าเต็มไปด้วยทหารติดอาวุธ ตรงกลางเรือมีชายแก่ 2 คนและคนอื่น ๆ อีก 3 คนนั่งอยู่
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่หน้าเรือปรับแว่นตาของเขาไปมา แสงไฟที่ส่องออกมาจากหน้าเรือสว่างอย่างมาก มันสามารถสาดแสงส่องสว่างไปข้างหน้าได้ไกลมาก พื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยความเงียบยกเว้นแต่เพียงเสียงมอเตอร์ของเรือ หลังจากนั้นไม่นานชายวัยกลางคนก็ทนไม่ได้อีกต่อไป “ศาสตราจารย์ พวกเรามาหาอะไรกัน ?”
“หลิวน้อย ที่นี่คือสุสานของผู้ยิ่งใหญ่ในโบราณ แต่เจ้าเคยเห็นโลงศพของเจ้าของแห่งนี้หรือยัง ?”
ผมของศาสตราจารย์เต็มไปด้วยสีขาว แต่จิตวิญญาณของเขากลับเต็มไปด้วยความชีวิตชีวา โลกใต้ดินแห่งนี้เต็มไปด้วยความงดงามในอดีตและเช่นเดียวกันมันก็ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมาก เพราะโครงสร้างและสิ่งประดิษฐ์ที่เคยงดงามจำนวนมากในอดีตถูกทำลายลงทั้งหมดตามกาลเวลา
ชายชราอีกคนเป็นนักวิจัยระดับสูงเกี่ยวกับพันธุ์พืช ปริมาณสายพันธุ์และความมหัศจรรย์ที่เขาค้นพบในที่แห่งนี้มันมากจนทำให้เขาเกือบจะตายเพราะโรคหลอดเลือดในสมอง !
“ศาสตราจารย์ สุสานแห่งนี้มันเหมือนกับสุสานแบบเดียวกันกับโจโฉหรือเปล่า ทำไมถึงไม่เคยมีใครหามันเจอเลย ?”
ชายวัยกลางคนถามด้วยความเคารพโดยไม่ปฏิเสธว่าคำถามก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าเขาดูเคารพชายชราอย่างมาก
ศาสตราจารย์ทั้ง 2 เป็นนักวิจัยชั้นนำของประเทศ ตลอดทั้งชีวิตของพวกเขาทุ่มเทไปกับการวิจัยทั้งหมด
“เป็นไปไม่ได้ สถานที่แห่งนี้คือสุสานที่แท้จริง นอกจากนี้ตำแหน่งของมันยังอยู่ในแม่น้ำแห่งความมืดอีกด้วย !” เสียงจากใครคนหนึ่งดังขึ้น แรงกดดันที่ป่าเถื่อนลอยอยู่รอบตัวเขา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนดีนัก
“หุบปาก ถ้าไม่ใช่เพราะพวกแกเป็นโจรปล้นสุสานละกัน ฉันไม่ได้อยากจะรู้จักกับพวกแกซักนิด !”
ชายวัยกลางคนที่เคยกล่าวด้วยความเคารพกับชายชรา หันไปด่ากับอีกทั้ง 3 คน
“เอาล่ะ เงียบได้แล้ว ฉันค้นคว้าเรื่องพวกสุสานโบราณมาทั้งชีวิตและถือได้ว่ามีความเข้าใจในเรื่องโครงสร้างของสถานที่แห่งนี้ในระดับหนึ่ง จากการศึกษาฮวงจุ้ยของที่นี่ อาจจะกล่าวได้ว่าพวกเราได้เข้ามาในปากมังกร ! แม่น้ำสายนี้มันคือน้ำลายของมังกรโดยธรรมชาติ !”
“บริเวณด้านหน้าตรงพื้นที่ขนาดใหญ่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งเพราะมันถูกผลกระทบจากน้ำลายของมังกร และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงอันตรายมาก ในตอนที่ตัวตนในอดีตค้นพบค่ายกลธรรมชาติย่อมเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่มีทางปล่อยไปได้ ดังนั้นเขาจึงสร้างสุสานขึ้นที่นี่และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่สามารถหาเส้นทางปกติมายังสุสานที่นี่ได้ตั้งแต่แรก !”
1 ในศาสตราจารย์คนหนึ่งโบกมือให้เขาและให้ทุกคนเงียบลง
“ศาสตราจารย์ ฮวงจุ้ยมันเป็นเพียงความเชื่อทางไสยศาสตร์ ทำไมคุณถึงเชื่อมัน ?” ชายวัยกลางคนอีกคนถามด้วยความสงสัย
“สิ่งต่าง ๆ ที่คนโบราณทำมันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แม้ว่าจะผ่านมาหลายพันปีแต่บรรพบุรุษสมัยก่อนกลับค้นพบเรื่องหลายอย่างที่ทำให้ต่อยอดมาถึงปัจจุบันได้ นี้ยังไม่ได้กล่าวถึงสิ่งยิ่งใหญ่จำนวนมากที่พวกเขาได้สร้างไว้อีก” ศาสตราจารย์กล่าวด้วยความเจ็บปวด ดูเหมือนการทฤษฎีในสมัยโบราณถูกทำให้หายไปตามยุคสมัย มันทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมาก
“ถ้าสถานที่ที่พวกเรากำลังเข้าไปถือว่าเป็นปากมังกร งั้นสุสานที่แท้จริงน่าจะอยู่แถว ๆ เกล็ดย้อนของมังกร น่าจะเป็นใต้ลำคอของมัน ถ้าเป็นที่ฉันคิดสุสานน่าจะอยู่ตรงนั้น”
ศาสตราจารย์คนเดิมพูดด้วยความตื่นเต้น ปกติเขาดูเหมือนคนตายครึ่งหนึ่งแต่ตอนนี้เขากลับเหมือนคนที่ถูกปลุกทำให้เขาดูสดใสมาก
“ตุ้บ !”
“ตุ้บ”
ลึกลงไปในทะเลสาบใต้ดินที่มืดมน เสียงหัวใจดังขึ้นมากระทันหัน !
ทุกคนยืนขึ้นด้วยความตกใจ บรรยากาศกลายเป็นความตึงเครียด ทหารรีบคุ้มกันคนอื่น ๆ พร้อมกับยกปืนขึ้นมาเตรียมเหนี่ยวไก
ในบรรดา “โจรปล้นสุสาน” ชายวัยกลางคนที่มีแขนและมือขนาดใหญ่กล่าวขึ้น “มันเป็นความรู้สึกที่แย่มาก จุนซี จุดไฟ !”
“รับทราบ !”
ชายหนุ่มที่ชื่อว่าจุนซีพยักหน้า พวกเขาเป็นโจรปล้นสุสานชั้นยอดในหมู่ชั้นยอด แต่โชคของพวกเขาไม่ดีในการปล้นสุสานครั้งล่าสุดและสุดท้ายพวกเขาก็หาทางออกไม่ได้จนเกือบจะตายในสุสาน โชคดีที่พวกเขาถูกค้นพบและถูกจับตัวในที่สุด
และนี้คือเหตุผลที่เขามาพร้อมกับศาสตราจารย์อีกหลายคนในภารกิจนี้ พวกเขารู้สึกแย่มากเพราะการถูกจับมันถือว่าเป็นความอัปยศที่สุดของพวกเขา
แต่หากพวกเขายอมช่วยเหลือในการค้นหาตำแหน่งของโลงศพและจากนั้นก็ช่วยให้ทุกคนออกไปได้อย่างปลอดภัย ความผิดทั้งหมดที่พวกเขาเคยก่อจะถูกยกเว้นรวมไปถึงมีโอกาสได้ทำงานกับรัฐบาลด้วย
เทียนสีดำยาวไม่ถึง 10 เซนถูกนำออกมาจุดอย่างรวดเร็ว หากใครมองเทียนนาน ๆ พวกเขาก็จะเห็นใบหน้ามนุษย์ที่เบลอเล็กน้อยบนเทียน !
เทียนดูเก่ามาก และมีมากกว่าครึ่งที่ถูกเผาไปแล้ว จุนซีจับมันอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ทำแผลเล็ก ๆ บนมือแล้วหยดเลือดลงบนยันต์ จากนั้นยันต์ก็ถูกเอามาเผาโดยเทียน
“กึง !”
ช่วงเวลาที่ยันต์สัมผัสกับเปลวไฟ ไฟสีดำก็ลุกพริบขึ้นมาก่อนจะกระจายออกไป !
“กะ … ก้า !”
เสียงหัวเราะแปลก ๆ ดังออกมาทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความตกใจ
เปลวไฟสีดำพุ่งสูงกว่า 3 เมตร จากนั้นแสงสีดำก็กระจายออกไปและกลายเป็นแสงสว่างไปทั่วถ้ำ !
ชายวัยกลางคนมองศาสตราจารย์ที่เรียกตัวเองว่าหลิวน้อย จากนั้นก็พูดด้วยความโกรธ “พวกแกคิดจะทำบัดซบอะไรกันแน่ ?”
เมื่อมองไปยังใบหน้าของ “ปล้นโจรสุสาน” พวกเขาก็ตระหนักได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ หยาดเหงื่อหยดลงมาบนคิ้วของพวกเขาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว !
เทียนสีดำถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว หลงเหลือแต่เพียงกลิ่นขึ้ผึ้งในอากาศ
มู่เต๋าพูดอย่างใจเย็น “เราจะไปต่อไม่ได้เด็ดขาด ! อันตรายที่รออยู่ข้างหน้า … มันจะทำให้ทุกคนต้องตาย !”
ถึงแม้ว่าเขาจะพูดอย่างใจเย็น แต่มันกลัวเต็มไปด้วยความหวาดกลัวในน้ำเสียง !
หนึ่งในศาสตราจารย์ไม่ปฏิเสธโดยตรงและถามขึ้น “หืม ? อันตรายรออยู่ข้างหน้า ? พวกแกรู้ได้ไง ?”
“เทียนมันบอกกับฉัน !”
ร่างของมู่เต๋าเต็มไปด้วยเหงื่อ เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าโจรปล้นสุสานระดับแนวหน้าจะมีท่าทางหวาดกลัวขนาดนี้ !
“นี้มันเรื่องตลกอะไรกัน พวกเรามุ่งหน้ามาที่นี่และเสียเวลามานาน แต่แกบอกให้พวกเราหันหลังกลับเพราะเทียนบอกแก ?”
หลิวซีเจียมองไปยังพูดที่เรียกตัวเองว่า “ปรมาจารย์เต๋า” ด้วยความสงสัย ในขณะเดียวกันเขาก็เริ่มตั้งข้อสงสัยว่าชื่อดังกล่าวอาจเป็นสิ่งที่พวกโจรเอาไว้เรียกตัวเองเพื่ออวดก็ได้
“เทียนเล่มนั้นถูกส่งต่อมาในตระกูลของฉัน และเท่าที่ฉันรู้มันอยู่มานานกว่า 400 ปี ! และ 400 ปีที่ผ่านมาตระกูลของฉันก็ใช้เทียนนี้ในการนำทางมาตลอด !”
“เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าเทียนถูกสร้างมาด้วยอะไร แต่ 400 ปีที่ผ่านมามันไม่เคยถูกเผาไปมากกว่า 5 ชุนเลยซักครั้ง เทียนนี้มีไว้ใช้เพื่อค้นหาอันตรายสำหรับการปล้นสุสานแต่ละครั้ง ยิ่งมันเผาไปเร็วแค่ไหนก็หมายความว่าอันตรายมีสูงมาก ! 150 ปีที่ผ่านมาเทียนมันเผาไปแค่ 1 ชุนเท่านั้น และในตอนนั้นคือการค้นพบพวกผีดิบบินได้และสุดท้ายคนที่รอดมาได้ก็มีเพียง 5 คนจาก 1,000 คนเท่านั้น ! แต่คราวนี้เทียนกลับถูกเผาทั้งหมดในทันที !”
มู่เต๋าพูดด้วยความหวาดกลัว ในขณะเดียวกันเขาก็หันไปรอบ ๆ ด้วยความเสียใจราวกับไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป
จุนซีและโจรปล้นสุสานคนอื่น ๆ ก็กังวลมาก บรรพบุรุษของพวกเขาใกล้ชัดกับตระกูลของมู่เต๋า ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจถึงเหตุการณ์แปลก ๆ ของเทียนเล่มนี้
ปรมาจารย์คนนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่คำอธิบายมันยากที่จะยอมรับ ก่อนหน้านี้เขาตักเตือนคนหนุ่มสาวเรื่องไม่สนใจสิ่งที่บรรพบุรุษได้สร้างมา แต่ทว่าแม้แต่เขาเองในตอนนี้ก็ยังไม่เชื่อในเรื่องสมัยก่อน
ปรมาจารย์เยี่ยที่หลงรักมังกรที่เขาเชื่อ !
“เราต้องถอยหลัง ถึงแม้ว่าพวกคุณอยากจะไปหาสุสานจริง ๆ แต่ฉันไม่ขอไปด้วยหรอก !” มู่เต๋ากล่าวอย่างจริงจัง เขายอมถูกขังอยู่ในคุกไปตลอดชีวิตดีกว่าถูกลากไปตายเพราะความคิดโง่ ๆ ของคนพวกนี้
“ไม่มีที่ให้แกไปไหนทั้งนั้น ! ศาสตราจารย์เราจะเอายังไงกันดี ? ตามความเห็นของผม ถ้ามันอันตรายจริงเราก็ไม่ต้องไปไกลขนาดนั้น เราแค่ไปแถว ๆ นั้นก็พอ”
หลิวซีเจียผลักมู่เต๋าไปข้าง ๆ
“ก็ดี เราไปอยู่ตรงขอบ ๆ และดูสิว่าเราทำอะไรได้บ้าง ถ้าพวกเราเข้าไปไม่ได้จริง ๆ ก็แค่กลับ ถึงอย่างนั้น ฉันไม่รู้หรอกว่าพวกแกอยากทำอะไร เพราะฉะนั้นอย่าเล่นตุกติกแกหนีไม่รอดหรอก”
คำพูดของหลิวซีเจียทำให้ศาสตราจารย์ที่เคยเครียดกลับมามีสติ ในเวลานั้นเขาก็ตัดสินใจแน่วแน่ ประโยคสุดท้ายคือการบอกให้ทุกคนได้ยิน
“ตาย พวกเราต้องตายแน่ ! ฉันไม่อยากอยู่แล้ว ! พวกแกมันบ้า ถ้าพวกแกอยากตายก็ไปตายกันเองเถอะ !”
ชายที่อยู่ข้าง ๆ จุนซีกรีดร้องด้วยความบ้าคลั่งก่อนจะกระโดดลงไปในน้ำ
“ปัง ปัง !”
ปืนถูกยิงออกมาจากนั้นกระสุนทั้งหลายก็เจาะเข้าไปในตัวคน ทหารเหล่านี้ไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ แน่นอน
ยังไงซะมือของพวกโจรเหล่านี้ก็ไม่ได้สะอาดอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหาหากต้องการฆ่าพวกมัน !
[1] TL/N : มันคือสำนวน ปรมาจารย์เยี่ยในสมัยโบราณเป็นผู้ที่ชื่นชอบมังกรอย่างมาก เขาประดับคฤหาสน์ของเขาด้วยมังกรทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น คาน เสา หน้าต่าง ประตูรวมไปถึงกำแพง นอกจากนี้เขายังชอบวาดภาพและแกะสลักมังกรเหล่านี้ด้วย และเมื่อมังกรตัวจริงในสวรรค์ได้ยินมันก็รู้สึกขำเล็กน้อย มันจึงลงจากสวรรค์ไปเยือนเขา เมื่อปรมาจารย์เยี่ยเห็นมังกรตัวจริงที่บินผ่านหน้าต่างพร้อมกับหางของมันที่พุ่งเข้ามาในคฤหาสน์ เขาก็กลัวที่จะออกจากบ้านไปตลอดชีวิต นั่นก็เพราะว่าเขาเพิ่งค้นพบว่าที่แท้จริงแล้วมังกรที่เขาหลงรักไม่ใช่มังกรที่แท้จริง