Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 532
ในขณะที่มองดูหัวยักษ์ค่อย ๆ โผล่ออกมา เป่ยเฟิงก็รู้สึกว่าหัวใจของเขายุ่งเหยิงเล็กน้อย
“อุ อี้ !!”
“กี้ กี้!”
ใบหน้าของ กู่ฉีแข็งค้างและมันทิ้งแครอทในมือทันที มันมองด้วยตาเบิกกว้างและปากที่อ้าค้างเมื่อเห็นยักษ์ค่อย ๆ โผล่ออกมาจากน้ำวน
แม้ว่าสติปัญญาของกู่ฉีไม่ได้ด้อยกว่ามนุษย์ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่ายักษ์ตัวนี้ออกมาจากไหน
“ขึ้นมา !” เป่ยเฟิงออกแรงในขณะที่จับคันเบ็ดด้วยมือทั้งสอง เลือดฉีจำนวนมากไหลมารวมกันที่แขนของเขาในขณะที่เขาเหวี่ยงเบ็ดอย่างแรง !
“ซู้มมม !”
ยักษ์ที่ดูเหมือนมนุษย์เมื่อโผล่ออกมามันมีขนาดเท่ามนุษย์ แต่ทันทีที่มันโดนดึงขึ้นมาบนบก ขนาดของมันก็เปลี่ยนกลับเป็นตามเดิมทันที !
ยักษ์ตัวนี้สูงกว่า 20 จางและตัวใหญ่มาก รูปร่างของมันคล้ายภูเขาลูกเล็กลูกหนึ่ง เมื่อมันหล่นมากระแทกที่พื้นมันก็ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน
“โฮก !”
หลังจากที่หล่นลงมาบนพื้น ยักษ์พยายามจะขยับร่างกาย แต่ทว่าเพียงแค่การขยับเบา ๆ มันกลับใช้พลังของมันไปจำนวนมาก
แม้แต่การกระทำง่าย ๆ อย่างลุกขึ้นนั่ง มันก็ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่ง
“ดิ๊ง ! สมบัติจันทราระดับ 9 ยักษ์โลหะ ! (สิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ที่เกิดมาจากธรรมชาติ มันมีสติปัญญาด้วยพลังลึกลับของเหล่าแร่ธาตุ !
นี่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีเลือดและเนื้อ จุดอ่อนของมันอยู่ที่แกนพลังงานด้านซ้ายของหน้าอก ตราบใดที่แกนพลังงานไม่ถูกทำลาย มันสามารถฟื้นตัวได้อย่างช้า ๆ ตราบใดที่อาการบาดเจ็บของมันไม่สามารถฆ่ามันได้ สามารถใช้เลือดสด ๆ ของตัวเองเพื่อชำระล้างร่างกายของมันและจะทำให้ท่านได้รับโลหะบริสุทธิ์จากร่างของมัน ) ประสบการณ์ที่ได้รับ : 3,000,000 แต้ม !”
เสียงของระบบดังขึ้นในใจของเป่ยเฟิงในขณะเดียวกันเขาก็เกาหัวของเขาด้วยความสับสน
“งั้นเจ้าตัวใหญ่นี้ก็คือสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาจากโลหะ แต่ไอ้การใช้เลือดของข้าชำระล้างมันนี้คืออะไร ?”
เป่ยเฟิงคิดไปคิดมาจนปวดหัว เป็นไปได้ว่าหลังจากที่ได้โลหะบริสุทธิ์เขาจะเอามันมาสร้างเป็นอาวุธบางอย่างได้ !
แม้ว่าจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ แต่อย่างน้อยมันก็ถูกจัดให้อยู่ในสมบัติจันทราระดับ 9 มันจึงมีคะแนนพิเศษให้เขา
มองความอยากรู้อยากเห็นของกู่ฉี เป่ยเฟิงหัวเราะเบา ๆ “กู่ฉี ฆ่ามันซะ จุดอ่อนของมันอยู่ที่หน้าอกด้านซ้าย”
“กี้ กี้ !”
กู่ฉีกรอกตาจากนั้นก็ดึงดาบสีแดงออกมา มันเกร็งขาแล้วกระโดดขึ้น จากนั้นมันก็ไปปรากฏเหนือหัวยักษ์แล้วแทงดาบลงไป !
“แก๊ง !”
เสียงเหล็กปะทะกันดังขึ้นจากนั้นก็ตามมาด้วยประกายระยิบระยับ
กู่ฉีมองยักษ์และขยี้ตาด้วยความสับสน การโจมตีของมันเกิดจากพลังวิญญาณ ถึงแม้มันจะไม่ได้ใช้พลังเต็มที่แต่มันก็ไม่ควรจะอ่อนแอถึงกับไม่มีบาดแผล แม้แต่บาดแผลเล็ก ๆ ซัก 1-2 เซนก็ไม่มีให้เห็น
“กี้ ! เกิดอะไรขึ้น ? เจ้านี้อ่อนแอและมันไม่มีพลังอะไรเลยในร่างของมัน แต่ทำไมร่างของมันถึงแข็งขนาดนี้ ?”
กู่ฉีพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ล้มเหลว มันถอยหลังและหันไปถามเป่ยเฟิง
เป่ยเฟิงขดริมฝีปากแล้วมองดูยักษ์ ในความเห็นของเขาไม่ใช่ยักษ์ตัวนี้อ่อนแอ แต่กลับเป็นกู่ฉีที่อ่อนแอเกินไป ถ้าเขาถอดตะขอออกไปยักษ์จะสามารถขยับตัวได้เต็มที่ และนั่นหมายความว่ามันสามารถจัดการกับกู่ฉีได้สบาย ๆ
แม้ว่าจะใช้ความสามารถของเบ็ด แต่ยักษ์ตัวนี้ก็ยังขยับได้ นั่นจึงบอกได้เลยว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน !
“ลองเล็งไปที่หน้าอกของมัน”
เป่ยเฟิงไม่ได้อธิบายใด ๆ เขาเน้นย้ำไปที่หน้าอกของมันอีกครั้ง
“กี้ !”
กู่ฉีส่งเสียงไม่พอใจจากนั้นดาบฉียาว 3 เมตรก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้แม้แต่พื้นดินก็เริ่มแตกเพราะพลังของดาบ
ดาบสีแดงเลือดค่อย ๆ หดแล้วจากนั้นก็มีความยาวน้อยกว่า 1 เมตร มันถูกห่อหุ้มด้วยพลังดาบฉีจนทำให้มันดูน่ากลัวมาก กู่ฉียืนนิ่งแล้วเหวี่ยงดาบออกไปในทันที !
“แก๊ง !”
ดาบฉีสั่นไหวอย่างแรง ด้วยการโจมตีเต็มแรงของกู่ฉีทำให้ดาบฝังลงไปที่หน้าอกของยักษ์ !
ดาบยาวเกือบ 1 เมตรแทงเข้าไปในร่างของยักษ์หลงเหลือเพียงด้ามที่อยู่ด้านนอก
เสียงระฆังดังขึ้นพร้อมกับตัวมันที่ปรากฏรอบ ๆ กู๋ฉี ระฆังขนาดใหญ่เต็มไปด้วยลวดลายแกะสลักของนก ดอกไม้และปลา มันดูเก่าแก่และโบราณมาก มันทำหน้าที่ราวกับคอยปกป้องกู๋ฉีเอาไว้
“แก๊ง !”
ร่างของกู่ฉีหายไปและมาปรากฏตรงหน้าอกของยักษ์ ขาที่ทรงพลังของมันเตะไปที่ด้ามดาบที่ปักอยู่ตรงหน้าอกของยักษ์ !
เมื่อเท้าของกู่ฉีสัมผัสกับด้ามดาบ แสงสีแดงเลือดก็ปรากฏใต้เท้าของมัน นี่คือการป้องกันของระฆัง มันเสมือนค้อนขนาดใหญ่ที่กระแทกลงไปที่ด้ามดาบจนทำให้ดาบจมลึกลงไปกว่าเดิม
นั่นไม่ใช่ทั้งหมด พลังงานสีเลือดที่รูปร่างคล้ายกรงเล็บปรากฏที่อุ้งเท้าของมัน จากนั้นมันก็ฟาดกรงเล็บไปที่ด้ามและทำให้ด้ามดาบลึกลงไปกว่าเดิม !
“วิ้ง !”
เมื่อกู่ฉีอัดพลังทุกอย่างลงไปจนหมด เสียงเฉือนเบา ๆ ก็ดังขึ้นในร่างของยักษ์ ดาบฉีระเบิดพลังออกมาทุกทิศทางจนทำให้ร่างของยักษ์แข็งทื่อ !
“ตู้มม !”
ร่างยักษ์ค่อย ๆ ร่วงลงพื้นจนทำให้เกิดฝุ่นกระจายไปบนฟ้า
ด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ลำแสงสีดำปรากฏที่ร่างยักษ์และค่อย ๆ ไปรวมกันที่หน้าอกของมัน
เป่ยเฟิงมองฉากตรงหน้าเงียบ ๆ จนในที่สุดแสงสีดำทั้งหมดก็ไปรวมกันที่หน้าอก
“งั้นนี้คือพลังงานแก่นแท้ทั้งหมดของยักษ์ ? ข้าละอยากรู้จริง ๆ ว่าอาวุธที่ทำมาจากแร่จันทราระดับ 9 นี้มันจะทรงพลังแค่ไหนเมื่อเทียบกับสายรุ้งทะยานฟ้าของข้า !”
เป่ยเฟิงเดินไปหายักษ์ จากนั้นใช้เล็บขูดแผลบนฝ่ามือของเขา หยดเลือดสีแดงเข้มจำนวนมากค่อย ๆ หยดลงไปที่พลังงานสีดำอย่างต่อเนื่อง
แร่สีดำสั่นคลอนก่อนจะดูดซับเลือดอย่างตะกละตะกลาม
หลังจากนั้นไม่นานเป่ยเฟิงก็เสียเลือดไป 40-50 % และในที่สุดเขาก็หยุดให้เลือด หลังจากนั้นไม่กี่นาทีแผลของเขาก็หายไปจนดูเหมือนไม่เคยมีแผลใด ๆ มาก่อน
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่หลังจากเขาเสียเลือดไปก็คือใบหน้าของเขาค่อนข้างซีด อย่างไรก็ตามเพียงแค่พักฟื้นซักวันมันก็จะกลับมาเป็นปกติ
แร่สีดำสั่นคลอนก่อนจะกลายเป็นพลังงานสีดำ
จากนั้นพลังงานนั้นก็ค่อย ๆ ไหลเข้าไปในจมูกของเป่ยเฟิงพร้อมกับลมหายใจของเขา
ใช้เวลาไม่นานพลังงานทั้งหมดก็ไหลเข้าไปในร่างของเป่ยเฟิง อย่างไรก็ตาม เป่ยเฟิงกลับไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับเขา ร่างของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปราวกับไม่เคยมีอะไรเข้ามาในร่างของเขา
แต่ทว่าหากเขาไปชั่งน้ำหนักตัวเองในตอนนี้ เขาจะพบว่าร่างที่สูง 1.8 เมตรของเขาที่ควรจะมีน้ำหนักแค่ 100 จิน ตอนนี้มันจะหนักมากกว่าหมื่นจิน !
การเคลื่อนไหวของเขาแข็งทื่อเล็กน้อย แต่ทดแทนกับความเร็วที่ลดลงคือความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมหาศาล !
“หมียักษ์ฟาดฟัน !”
เป่ยเฟิงก้าวออกไปและโค้งราวราวกับธนูจากนั้นก็ชกไปที่หน้าผา !
“ตู้มมม !”
หมัดขนาดใหญ่ลอยไปปะทะกับหน้าผา จากนั้นลอยกว้าง 40 เมตรและลึกกว่า 100 เมตรก็ถูกทิ้งเอาไว้ที่หน้าผาทำให้ทุกคนที่เห็นมันต้องตกใจกลัว !
“ดูเหมือนความแข็งแกร่งของข้าจะเพิ่มขึ้นถึง 1 ใน 10 แต่ทำไมข้าถึงรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ความสามาถที่แท้จริงของแร่โลหะ”
เป่ยเฟิงมองไปที่ผลงานและจมลงไปในความคิดของตัวเอง
ภายใต้การสังเกตของพลังจิตที่ทรงพลังของเขา เขามองกระบวนการต่าง ๆ ภายในร่าง เป่ยเฟิงพบว่าแร่ที่เป็นพลังงานได้ผสานเข้ากับร่างของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ การผสานของมันไม่ใช่เพียงแค่เม็ดเลือดใด ๆ แต่มันรวมไปถึงหลาย ๆ อย่าง
จากเซลล์ที่เล็กที่สุดไปจนถึงพลังจิตของเขา นอกจากนี้ยังรวมไปถึงแก่นแท้วิญญาณทั้งหมดที่ได้ผสานเข้ากับแร่นี้
หลังจากรับรู้ทุกอย่างเป่ยเฟิงก็รู้สึกได้ว่าเขาสามารถควบคุมแร่นี้ได้อย่างแน่นอน !
“ออกมา !” เป่ยเฟิงยื่นมือออกไปและปลุกเร้าแร่ในใจเงียบ ๆ จากนั้นมันก็ก่อตัวกันกลายเป็นดาบยาว
เป่ยเฟิงจ้องไปที่มือของเขาแล้วส่ายหัว “มันคือภาพลวงตา ? แต่ก็ไม่เลวเลย ถ้าจะคิดแค่ว่ามันเพิ่มความแข็งแกร่งของข้าได้ 1 ใน 10”
เป่ยเฟิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาคิดว่าเขาสามารถใช้แร่นี้สร้างอาวุธได้ แต่ใครจะไปคิดกันว่ามันจะหลอมรวมเข้ากับร่างของเขาโดยตรง
ในขณะที่เขาเอามือลง ดวงตาของเขาก็หดเกร็งจากนั้นปลายดาบสีดำก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา !
เป่ยเฟิงเริ่มมั่นใจในบางอย่างได้ ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาก เขามองสำรวจดาบสีดำที่หมุนไปรอบ ๆ ฝ่ามือของเขา
“ปัง !”
ทันใดนั้นดาบสีดำยาวครึ่งเมตรก็ระเบิดกลายเป็นพลังสีดำก่อนจะหายไป
“เกิดอะไรขึ้น ?”
เป่ยเฟิงขมวดคิ้ว การก่อตัวของดาบเกือบจะเสร็จสมบูรณ์ แต่ในพริบตามันก็ระเบิดหายไป
หากสิ่งนี้เกิดขึ้นระหว่างต่อสู้มันจะกลายเป็นภาพที่น่ารักมาก มันเหมือนกับของขวัญที่มอบให้ผู้อื่นเพื่อทำให้พวกเขาสับสน
เป่ยเฟิงทดลองซ้ำแล้วซ้ำ ตราบใดที่เขาไม่เข้าใจมันเขาก็จะรู้สึกไม่สบายใจ
กู่ฉีก็สนใจเรื่องนี้เช่นกัน มันหยุดเคี้ยวแครอทและกระโดดไปด้านหน้าเป่ยเฟิงมองคอยมองดูเขา
แต่หลังจากผ่านไประยะหนึ่งมันก็มองเห็นแค่ความล้มเหลวของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายมันก็มองเขาด้วยความดูถูกเหยียดหยามก่อนจะกระโดดกลับไปที่เดิม
เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ เป่ยเฟิงพยายามสร้างดาบในมือของเขาอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งวันผ่านไปและใบหน้าของเป่ยเฟิงก็ซีดขาว ดวงตาของเขาแดงก่ำเหมือนดวงตาสีแดงของกู่ฉีในขณะที่มองดาบทองแดงในมือของเขา รอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฏบนหน้าของเขา จากนั้นเขาก็กลับไปที่ห้องหินของเขาและหลับไป ในไม่ช้าเสียงกรนที่ดังสม่ำเสมอก็ดังขึ้น
วันหนึ่งและหนึ่งคืนผ่านไป วิธีการควบคุมเจ้าแร่ธาตุนี้คือการใช้พลังจิต แม้แต่พลังจิตมหาศาลของเป่ยเฟิงก็หมดแรงไปเยอะมากกว่าจะทำสำเร็จ เมื่อเทียบกับความเหนื่อยล้าของการใช้พลังจิตไปจำนวนมากแล้ว การนอนทั้งวันทั้งคืนนั้นยังคงไม่คุ้มอยู่ดี