Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 538
“ตู้ม ตู้ม !”
“อ๊าวว !”
เสียงการต่อสู้ทำให้ฮานกุยกลับมาสู่ความเป็นจริง เมื่อมันมองขึ้นไปก็เห็นเพียงเจ้าตัวนิ่มกำลังถูกทุบตี ฮานกุยมองด้วยสายตาเบิกกว้างและไม่เชื่อว่ามันคือความจริง
บัดซบ ไร้เหตุผลสิ้นดี ! เพียงพริบตาเจ้าตัวนิ่มก็แพ้เจ้ากระต่ายแล้ว ? อย่างน้อยแกเป็นถึงราชาพันปีแกก็ไม่ควรจะอ่อนแอไม่ใช่รึ ?
ฮานกุยรู้สึกสมองมันกำลังทำงานผิดปกติ เจ้ากระต่ายตัวนี้แข็งแกร่งเกินไป ? สัตว์อสูรที่มีพลังราชาพันปีขั้นสองกลับถูกมันทุบตีเหมือนหลานชายได้ง่ายขนาดนี้ได้ยังไงกัน ?
ในขณะเดียวกันฮานกุยเห็นเจ้ากระต่ายใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียยบบนหัวตัวนิ่ม มันทำให้ฮานกุยรู้สึกคุ้ยเคยอย่างมาก นี่มันน่ารังเกียจมาก พวกเราทั้งหมดเป็นสัตว์อสูรและพวกเราก็พยายามเอาชีวิตรอดมาตลอด … กับการที่แกแข็งแกร่งกว่าแค่นี้กลับ ….
“กี้ กี้ !”
เจ้ากระต่ายเปิดปากและมองฮานกุยด้วยรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้ม
“มอออ !” เมื่อเห็นว่าทรราชผู้ชั่วร้ายหันมามอง ฮานกุยก็สั่นอย่างแรง ด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ มันก้มลงไปหาเจ้ากระต่ายจากนั้นก็คว้าขาข้างหนึ่งของเจ้ากระต่ายพร้อมกับทำหน้าน่าเกรงขาม
“กี้ กี้ !” เจ้ากระต่ายยิ้มจนเผยให้เห็นฟันแหลมคมของมัน หูสองข้างของมันกระตุกเล็กน้อยและดูเหมือนมันจะอารมณ์ดีมากเมื่อเห็นการสยบของฮานกุย
“มออ !” ฮานกุยถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีที่มันหลอกเจ้ากระต่ายได้ ถึงอย่างนั้นมันก็ต้องหาโอกาสหนีไปให้เร็วที่สุด ถ้ามันติดตามเจ้านี้ ในอนาคตมันคงไม่มีหน้าจะใช้ชื่อว่าราชาสัตว์อสูรที่มีพลังขั้นราชาพันปีอีกต่อไป
ดวงตาของฮานกุยเต็มไปด้วยน้ำตาจากความอัปยศ เคยมีใครเคยเห็นสัตว์อสูรราชาพันปีขั้นสองต้องมากอดขาสัตว์อสูรราชาพันปีอีกตัวหรือไม่ ? นี่มันน่าอายเกินไป
“อ่าวว !”
เจ้าตัวนิ่มใต้เท้ากระต่ายคำรามดิ้นรน แต่เจ้ากระต่ายกลับไม่เคลื่อนไหวใด ๆ ราวกับมันคือเสาที่แข็งแกร่ง
“มออ !” ฮานกุยรู้สึกว่าโอกาสของมันมาถึงแล้ว มันไม่รู้อะไรนอกจากเคาะไปที่หน้าเจ้าตัวนิ่ม
“อย่าตีหน้าข้า ! ” ใบหน้าเจ้าตัวนิ่มร้องไห้ในขณะที่ถูกอีกฝ่ายทุบตี
ใบหน้าของตัวนิ่มนั้นอ่อนไหวและบอบบางมาก หลังจากถูกทุบตีไม่นานมันก็ร้องขอความเมตตาทันที
“มออ ห้ามพูดภาษามนุษย์ !” ฮานกุยคำราม ในตอนนี้แผนของมันคือต้องหนีไปจากเงื้อมมือเจ้ากระต่ายบ้านี้ก่อน และดูจากลักษณะแล้วดูเหมือนเจ้าตัวนิ่มตรงหน้ากำลังจะกลายเป็นหนึ่งในน้องใหม่ที่เข้าร่วมขบวนรถไฟของมัน
เจ้าตัวนิ่มเงยหน้าและถามโดยไม่คิด “อ่าววว ทำไมอะ ?”
“โอ้ย เฮ้ อย่าตี อย่าตีหน้าข้า ! ถ้าตีหน้าข้าอีกทีข้าจะสู้กับแกจนตาย !”
“โอ้วว ! นายท่าน อย่าตีหน้าข้าได้ไหม ? โอ้ยยย !”
ก่อนที่จะตอบสนองได้ทัน ทันใดนั้นหมัดสีแดงจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งจากทุกทิศทางทำให้เจ้าสัตว์อสูรทั้ง 2 ถูกทุบตีจนร้องโหยหวน
หลายนาทีต่อมาเจ้ากระต่ายก็กลับมานั่งเคี้ยวแครอทอย่างขึ้เกียจโดยมีฮานกุยยืนช้ำ ๆ อยู่ข้าง ๆ เงียบ ๆ
“แฮ่ก แฮ่ก !”
สำหรับตัวนิ่ม เกล็ดสีเงินบนร่างของมันแตกจำนวนมาก สามารถมองเห็นรอยอุ้งเท้าขนาดใหญ่บนร่างและจมูกของมันได้ ในขณะเดียวกันมันได้แต่ทำหน้าเศร้าพร้อมกับรีบขุดพื้นให้เร็วยิ่งขึ้น
ที่ด้านบนสุดของหุบเขา ซู่หยุนจงมองลงมาด้วยความกังวลและออกคำสั่ง ด้วยเสียงเบา ๆ เขาและศิษย์ทั้ง 6 ของเขาก็กระโดดลงมา แรงกดดันทั้ง 7 ระเบิดขึ้นจนดูน่ากลัวพร้อมกับลมที่พักกระหน่ำรอบตัวพวกเขา
“โฮ่ง โฮ่ง !”
“อาวู้วววววว !”
เมื่อพวกเขาลงมาถึงยอดเขา สัตว์อสูรที่รับผิดชอบดูแลสวนสมุนไพรก็ต่างบ้าคลั่งและวิ่งหนีไปทุกทิศทาง
“อ่าวว !”
ภายในถ้ำหุบเขาลึกสูง 30 เมตรและยาวกว่า 70 เมตร มีเสือดำตัวหนึ่งค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ ประกายแสงสีแดงเล็ดลอดออกมาจากดวงตาของมัน
มันเงยหน้าขึ้นและคำราม ถ้ำเริ่มส่ายไปมาพร้อมกับก้อนหินที่ร่วงหล่น
“เป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังมาก !”
“ไม่น่าแปลก ทำไมท่านอาจารย์ถึงจริงจังขนาดนี้ !”
เมื่อได้ยินเสียงคำราม นอกเหนือจากซู่หยุนจงแล้วใบหน้าคนอื่น ๆ ซีดจางทันที
ต่อจากนั้นพวกเขาก็มองเห็นเสือดำยาวกว่า 3 เมตรก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขา แรงกดดันที่ปลดปล่อยออกมานั้นมหาศาลมาก
แรงกดดันของมันแข็งแกร่งมากและร่างกายของมันก็เงางามพร้อมกับตัวอีกษรสีทองที่โดดเด่นอยู่บนหน้าผากของมันทำให้มันดูอันตรายยิ่งขึ้น หางยาวของมันแกว่งไปมาด้านหลังจนทำให้อากาศกรีดเสียงและแตกกระจายทุกครั้งที่มันแกว่ง
“มนุษย์ นี่ไม่ใช่สถานที่ที่พวกเจ้าจะมา จงทิ้งแขนไว้คนละข้างเพื่อเป็นขนมเคี้ยวเล่นของราชาผู้นี้ แล้วข้าจะปล่อยยพวกเจ้าไป”
เสือดำเปล่งเสียงคำรามเยือกเย็น การแสดงออกของมันช่างสูงส่งและหยิ่งผยอง มันไม่ได้เก็บมนุษย์เหล่านี้มาอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
“แกเป็นแค่สัตว์อสูรบัดซบเท่านั้น ถ้าแกตัดสินใจมอบสมุนไพรจิตวิญญาณให้ข้า ข้าจะไว้ชีวิตแก” ซู่หยุนจงเย้ยหยัน เขารอโอกาสนี้มานานมาก เขาจะปล่อยให้มันไปได้อย่างไงกัน ตราบใดที่ราชาสัตว์อสูรตัวต่าง ๆ ไม่อยู่เขาก็ไม่มีอะไรให้กลัว แต่ถ้าพวกมันกลับมาต่อให้เป็นนิกายสิบเส้นทางก็เป็นได้แค่อาหารค่ำของพวกมันเท่านั้น
‘มันมีพลังราชาพันปีขั้น 7 เป็นที่รู้กันว่าสัตว์อสูรแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ ราชาพันปีขั้น 8 อย่างข้าดูเหมือนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันแน่นอน’
ซู่หยุนจงถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อรู้ถึงพลังของเสือดำตัวนี้ มันอยู่ที่ราชาพันปีขั้น 7 เท่านั้น แม้ว่ามันจะค่อยข้างลำบากในการจัดการกับมัน แต่เขาก็สามารถถ่วงเวลามันได้ ช่วงเวลานี้แหละคือช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบที่สุด
“กรรร ! งั้นตายซะ !” เสือดำคำคามด้วยความโกรธจากนั้นมันก็ปลดปล่อยพลังงานสีดำออกมาจากปากไปยังซู่หยุนจง ตอนแรกพลังงานสีดำนี้เป็นลูกบอลเล็ก ๆ แต่เมื่อมันพุ่งไปข้างหน้าขนาดของมันก็ขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดเท่ารถม้า !
ในไม่ช้ามันก็ขนาดใหญ่กว่า 15 เมตร ทุกที่ที่มันผ่านไปมันทำให้อากาศกระเพื่อมอย่างรุนแรง
“ก็แค่อุบายเล็ก ๆ ถึงมันจะดูทรงพลังแต่ไร้ประโยชน์สำหรับข้า พวกเจ้ารีบไปเก็บสมุนไพรทั้งหลายซะ !” ซู่หนุยนจงมองไปยังสวนสมุนไพรขนาดใหญ่ด้วยดวงตาเปล่งประกาย
“ขอรับ !”
รวมลูกสาวซู่หยุนจง พวกเขาทั้ง 7 ปลดปล่อยพลังแล้วพุ่งกระจายไปทุกทิศทาง
“สับ !”
ซู่หยุนจงมองดูบอลพลังงานที่เข้ามาใกล้โดยไม่เปลี่ยนสีหน้า กระบี่ขนาดใหญ่ปรากฏในมือของเขาและมันยาวกว่า 4 เมตร !
“ปุ้ป !”
ด้วยการสับเพียงครั้งเดียว บอลพลังงานถูกแย่งออกแล้วกระแทกใส่สวนสมุนไพรข้าง ๆ จนทำลายสวนสมุนไพรไปจำนวนมาก
ปากของซู่หยุนจงกระตุกด้วยความปวดใจ จากนั้นเขาก็หันไปมองเสือดำที่กำลังจะลงมือ !
“กรรร ! เหล่าสมุนรับใช้ของเสือ !”
แสงสีดำกระจายออกมารอบ ๆ ร่างของเสือจากนั้นเงา 3 ร่างที่ไม่เด่นชัดก็ก่อตัวขึ้น แต่ละเงามีพลังเทียบเท่าราชาพันปีขั้น 6 !
เมื่อเห็นว่าความแข็งแกร่งของซู่หยุนจงมีมากกว่าที่คิด มันจึงตัดสินใจใช้ความสามารถของพลังวิญญาณทันที !
ชายคนหนึ่งและสัตว์อสูรตัวหนึ่งสู้กันและทำให้ระลอกคลื่นพลังงานขนาดใหญ่กระจายออกไปทุกทิศทาง !
ร่างทั้ง 2 ปะทะกันไปมาเหมือนภูเขาสองลูกปะทะกัน การปะทะกันแต่ละครั้งมันเสมือนการสั่นสะเทือนสวรรค์และทำลายปฎพี !
อีกด้าน ฮวงหลินและคนอื่น ๆ กำลังเก็บสมุนไพรด้วยความเร็วสูง พวกเขาไม่ปล่อยให้หลุดไปได้แม้แต่ต้นเดียว ไม่ว่าพวกมันจะถึงเวลาหรือไม่ถึงเวลาก็ตาม พวกมันต่างถูกยัดเข้าไปในแหวนมิติที่ใช้เก็บสมุนไพรของพวกเขา
พวกเขาตื่นเต้นอย่างมาก นี่มันทรัพยากรมหาศาล ! แม้แต่นิกายสิบเส้นทางก็คงจะตกใจอย่างมากสำหรับทรัพยากรเหล่านี้ เป็นไปได้มากว่าปริมาณของสมุนไพรทั้งหมดที่นี่มันยิ่งกว่าสมบัติทั้งหมดของนิกายสิบเส้นทาง
นิกายสิบเส้นทางไม่ได้มีเพียงกลุ่มของซู่หยุนจงเท่านั้น พวกเขายังมีเหล่าผู้อาวุโสหลายสิบคนและมีเหล่าศิษย์อีกนับหมื่นชีวิต
แต่ตอนนี้ทรัพยากรทั้งหมดกำลังจะเป็นของพวกเขาทั้งหมด ด้วยทรัพยากรขนาดนี้มันเพียงพอที่จะทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มขึ้นมหาศาลจนเหนือกว่าเหล่าศิษย์ของผู้อาวุโสคนอื่น ๆ
พวกเขาทำงานอย่างรวดเร็ว เพียงเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงมันก็ทำให้สมุนไพรทั้งหมดถูกหยิบออกไป
จากนั้นพวกเขาก็มารุมล้อมจี่ฉีและกล่าวขึ้น “ศิษย์พี่สาม สมุนไพรจิตวิญญาณทั้งหมดถูกเก็บหมดแล้ว”
“ศิษย์พี่สาม ไปกันเถอะไปช่วยท่านอาจารย์ ภูเขาแห่งนี้อาจจะมีราชาสัตว์อสูรตัวอื่นอยู่ด้วย ถ้าพวกเราล่าช้าไปกว่านี้มันอาจจะเป็นโชคร้ายของเราได้”
เมื่อเห็นพวกเขาปรึกษากัน ฮวงหลินค่อย ๆ รวบรวมพลังอย่างช้า ๆ โดยที่ใบหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลง
‘ทั้งหมดเป็นของข้า ! ของข้า ! ‘ ฮวงหลินกรีดร้องในใจ เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่เขาใช้ชีวิตที่นี่ ศักดิ์ศรีทั้งหมดที่เขาสร้างมานั้นถูกศิษย์น้องทั้งหลายทำลายไปนานแล้ว
จี่ฉีเงยหน้าขึ้นมองการต่อสู้ระยะไกล เมื่อเห็นว่าซู่หยุนจงกำลังกดดันเสือดำ เขาก็ผ่อนคลายและพูดขึ้น “ไม่ต้องรีบ เห็นได้ชัดว่าท่านอาจารย์กำลังได้เปรียบ ไม่นานเจ้าสัตว์อสูรตัวนั้นต้องถูกท่านอาจารย์สังหารแน่นอน นอกจากนี้มันไม่มีราชาสัตว์อสูรอยู่รอบ ๆ อีกแล้ว นี่เป็นโอกาสที่พวกเราจะหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ได้ !”
“ศิษย์พี่ มันไม่ค่อยดีนัก ทำไมเราไม่ไปช่วยท่านพ่อก่อนล่ะ ? จากนั้นเราค่อยไปหาสมบัติในรังราชาสัตว์อสูรก็ได้” ซู่ซินยี่พูดด้วยความกังวล
“ศิษย์น้องหญิง ไม่ต้องห่วง ท่านอารจารย์แข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรตัวนั้นมาก ไม่ต้องกังวลหรอก ตอนนี้พวกเราไม่มีเวลาเหลือมากนัก”
“ใช่แล้วศิษย์น้องหญิง สมบัติที่แท้จริงต้องอยู่ในรังของราชาสัตว์อสูรตัวนั้นแน่ ๆ ถ้าหากท่านอาจารย์อยู่ตรงนี้เขาต้องเห็นด้วยแน่นอน”
โดยไม่ต้องรอให้จี่ฉีพูด คนอื่น ๆ ก็สนุบสนันให้ไปหาสมบัติที่อยู่ในรังของราชาสัตว์อสูรทันที
“ถ้าอย่างนั้น … ก็ได้” เมื่อเห็นคนอื่นพูดแบบนั้น เธอก็พยักหน้าด้วยความไม่เต็มใจ
สิ่งที่ซู่ซินยี่และคนอื่น ๆ ไม่รู้ก็คือซู่หยุนจงที่ปะทะกันเสือดำอยู่นั่นกำลังจะร้องไห้ออกมา สัตว์อสูรตัวนี้แข็งแกร่งมาก แม้ว่าเขาจะดูเหมือนกำลังได้เปรียบ แต่ความจริงแล้วเลือดฉีของเขากำลังถูกใช้ออกไปอย่างมหาศาล
หากเขาไม่ได้เผาผลาญเลือดฉีอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายที่จะถูกกดดันคือเขาแทนที่จะเป็นเจ้าเสือดำ
เมื่อเห็นว่าศิษย์ของเขาจัดการสวนสมุนไพรเรียบร้อยและกำลังจะรวมตัวกันเพื่อมาช่วยเขา เขาได้แต่สรรเสริญการมองการณ์ไกลของพวกเขา
แต่ในเวลาต่อมาเขาก็เกือบจะกระอักเลือดออกมา เขากำลังมองดูอะไรกัน ? ไม่ใช่แค่นั้น เจ้าพวกศิษย์ที่โง่เขลาเหล่านั้นกลับไม่มาช่วย แต่พวกมันกลับมุ่งหน้าไปอีกทางแทน !