Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 560
วิญญาณวีรชนนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันจนกลายเป็นนายพลสวมชุดเกราะพร้อมกับง้าวขนาดใหญ่ที่กำลังขี่ม้าแห่งฝันร้าย มันร้องโหยหวนในขณะวิ่งอยู่กลางอากาศ !
“ติ๊ง ติ๊ง !”
ม้าแห่งฝันร้ายมีหมอกรอบตัวและใต้กีบเท้าแต่ละอันมีเปลวไฟสีน้ำเงินปะทุออกมา ทุกก้าวที่มันวิ่งนั้นทำให้มิติแตกออก !
“รวมกองกำลัง !”
วิญญาณวีรชนคำรามจากนั้นก็พุ่งเข้าหาหยานไป๋พร้อมกับง้าวที่ถูกเผาจนเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับโชกไปด้วยเลือด !
“โฮก !”
ใบหน้าของหยานไป๋เปลี่ยนเป็นสีขาวด้วยความกลัวเมื่อเห็นง้าวตวัดลงมา ลำแสงสีทองพุ่งออกมาจากเกล็ดบนร่างของเขาปะทะเข้ากับง้าวที่ตวัดลงมา การปะทะกันมันทำให้มิติและอากาศรอบ ๆ แตกกลายเป็นสีดำ !
“แก๊ก !”
เมื่อทั้งสองปะทะกัน แม้ว่าวิญญาณจะไม่สามารถสัมผัสหรือรู้สึกถึงมันได้ แต่การโจมตีของพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าการโจมตีทางกายภาพใด ๆ ง้าวเปลี่ยนเป็นสีทองพร้อมกับตวัดลงมาทำลายหาง เกล็ดและกระดูกของหยานไป๋ !
เลือดไหลออกมาจากหางของหยานไป๋พร้อมกับตัวเขาที่ถูกผ่าครึ่งตั้งแต่ด้านล่างลงมา !
หลังจากโจมตีสำเร็จ วิญญาณวีรชนพร้อมกับม้าแห่งฝันร้ายก็หายไป
แม้ว่าหยานไป๋จะป้องกันการโจมตีบางส่วนไว้ได้ แต่พลังทำลายล้างส่วนใหญ่ก็ยังส่งผลทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส !
“ชีวิตหลังความตาย !”
โดยปราศจากความรู้สึกจากพลังฉี ทันใดนั้นพลังฉีที่แข็งแกร่งก็ปะทุออกมาจากด้านหลังหยานไป๋
“ปุก !”
ลำแสงดาบพร้อมกับวิถีแห่งเต๋าแห่งความเชื่อมั่นพุ่งเข้าไปที่หัวของหยานไป๋ หลังจากที่หยานไป๋ล้มลงก็เผยให้เห็นหลี่ปิงที่อยู่ห่างออกไป 30 เมตร !
หยานไป๋ตัวแข็งค้างพร้อมกับใบหน้าที่แทนที่ด้วยความเสียใจและความโกรธ
ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เขาจะตาย สัตว์อสูรในร่างได้คืนสติของเขามาอย่างเต็มที่ มันจึงทำให้เขารู้สึกเสียใจมากที่ไม่รีบฆ่าทั้งสามคนตั้งแต่ตอนแรก ! ถ้าหากเขารีบฆ่าทั้งสามแต่แรก เขาคงไม่ต้องดื่มเลือดสัตว์อสูร !
น่าเสียดายที่ไม่มีคำว่า ‘ถ้า’ ในโลกใบนี้ ดวงตาของหยานไป๋เต็มไปด้วยความเกลียดชังก่อนจะค่อย ๆ จางหายไปพร้อมกับตัวเขาที่ล้มลงพื้นอย่างไร้ลมหายใจ !
ในตอนที่หยานไป๋กำลังสู้กับหลี่ปู้ หลี่ปิงก็ได้ปรากฎตัวด้านหลังและรอลอบโจมตีในตอนที่เขาสูญเสียพลังจนประมาทไปในที่สุด !
การโจมตีถึงตายของหลี่ปิงมันคือทักษะการโจมตีของเธอที่เต็มไปด้วยพลังฉี ความเชื่อมั่น และความแข็งแกร่ง !
การโจมตีที่ทรงพลังนี้มันไม่น่าแปลกที่แม้แต่ผู้มีพลังระดับราชาพันปีขั้นสามจะตายได้ !
ยิ่งไปกว่านั้นคือหยานไป๋ผู้ซึ้งสูญเสียความนึกคิดไปเพราะถูกสัตว์อสูรครอบงำ !
“แค่ก แค่ก !”
ถึงแม้จะไอเป็นเลือด แต่หลี่ปิงก็ยิ้มกว้างจนเผยให้เห็นริ้วรอยและรอยยุบที่เหมือนผู้หญิงวัยกลางคน
หลังจากเฝ้ามองการรวมพลังโจมตีของพวกเขา เป่ยเฟิงก็ลุกขึ้นมาแล้วยื่นเม็ดถั่วที่เต็มไปด้วยพลังชีวิตให้หลี่ปิง “กินมันซะ !”
“ขอบคุณท่านหัวหน้าตระกูล !”
หลี่ปิงบอกได้เลยว่าโอรสที่เหมือนเม็ดถั่วนี่เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต เธอจึงกลืนมันอย่างรวดเร็ว
พลังแห่งชีวิตระเบิดในท้องของหลี่ปิงจากนั้นก็กระจายไปทั่วร่างเพื่อฟื้นฟูเซลล์ที่ตายแล้วจำนวนนับไม่ถ้วนของเธอ รอยย่นบนหน้าหลี่ปิงเริ่มกลับมาเนียนขึ้น ผมหงอกบางเส้นของเธอเริ่มกลับมาเป็นสีดำ
เมื่อเห็นการฟื้นตัวของหลี่ปิง เป่ยเฟิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขามีความสุขมากที่หลี่ปิงสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตกลับมาได้
หมอกสีเขียวหลายชั้นถูกปล่อยออกมาจากร่างของหลี่ปิง มันรายล้อมร่างของเธอเอาไว้ ในขณะเดียวกันคนที่อยู่รอบ ๆ ตอนนี้กำลังตกใจกลัวอย่างมาก
“เป็นยังไง ? สู้ไหวไหม ?” เป่ยเฟิงถามหลี่ปู้ที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นพร้อมกับง้าวที่อยู่ข้าง ๆ
“สู้ไหวขอรับ !” หลี่ปู้ตะโกนออกมาโดยไม่ลังเล !
อย่างไรก็ตาม เป่ยเฟิงยังคงส่งโอรสแห่งชีวิตเข้าไปในปากของหลี่ปู้เพื่อฟื้นฟูเขาอยู่ดี
แม้ว่าตอนแรกเขาจะเต็มไปด้วยความกลัวที่ถูกขัดขวางในตอนบรรลุ แต่หลู่ซีมู่ในตอนนี้เริ่มสงบและกังวลอย่างมาก
‘เป็นไปได้ยังไงกัน ! สัตว์อสูรที่มีพลังแค่ราชาพันปีขั้นสองแต่กลับมีเลือดฉีมากกว่าข้า !’ หลู่ซีมู่รู้สึกหวาดกลัวในใจ หลังจากต่อสู้กับอีกฝ่ายมานานมันทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมาก กระนั้นฝ่ายตรงข้ามกลับยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นทุกนาที มันไม่ได้แสดงอาการเหนื่อยล้าหรือความเร็วที่ช้าลงแม้แต่น้อย !
ที่จริงแล้วเหตุผลที่กู่ฉีไม่มีความเหนื่อยล้าใด ๆ นั้นก็เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนมันเพิ่งล้มเหลวในการบรรลุไปยังราชาพันปีขั้นสาม
แก่นแท้ของพลังที่หลงเหลือในร่างมันช่วยกระตุ้นกู่ฉี ทำให้มันไม่เพียงไม่เหนื่อย แต่มันยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้มัน !
‘ไม่ ข้าจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ! ข้าต้องรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ ! แม้ว่าหยานไป๋และพานหยุนเฟ่ยจะตาย แต่ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิต หอการค้าชิงโจวก็จะไม่มีวันล้มลง รอหลังจากที่ข้าฟื้นตัวและบรรลุระดับราชาพันปีขั้นสี่ได้เมื่อไหร่ หอการค้าชิงโจวจะต้องกลับเป็นเมื่อก่อนแน่ !’
หลังจากที่เห็นพานหยุนเฟ่ยและหยานไป๋ถูกสังหาร หลู่ซีมู่ไม่ต้องการที่จะสู้กับกู่ฉีอีกต่อไป ท้ายที่สุดมันยากที่จะบอกว่าเขาจะเอาชนะมันได้หรือไม่ นอกจากนี้อีกฝ่ายยังมีอีกสามคนที่รอเข้าร่วมการต่อสู้อีกด้วย
ใบหน้าของหลู่ซีมู่เต็มไปด้วยความผิดหวัง เพราะเขาไม่คาดคิดเลยว่าจะสูญเสียมากขนาดนี้
เมื่อเห็นหลี่ปู้และคนอื่น ๆ พุ่งเข้ามา หลี่ซีมู่ก็รีบถอยหลังทันที จากนั้นก็ปลดปล่อยพลังออกมาผลักเจ้ากระต่ายให้ถอยหลัง
ในไม่ช้าเขาก็บินไปอีกทางโดยไม่ลังเลและก็หายไปในไม่กี่วินาที
“อะไรกัน ? เขาหนีไปแล้ว !”
“น่าเสียดายกับหอการค้าชิงโจวจริง ๆ”
“ไม่ผิดที่จะพูดแบบนั้น แต่ว่าหลู่ซีมู่เลือกที่จะหนีนั่นถูกแล้ว หากหลู่ซีมู่บรรลุได้อีกครั้ง เมื่อถึงตอนนั้นหอการค้าชิงโจวก็น่าจะกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อน”
เมื่อตระหนักได้ว่าอยู่ไปก็ไม่ได้อะไร กลุ่มคนรอบ ๆ ก็รีบแยกย้ายหนีไปคนละทิศทางทันที