Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 563
เป่ยเฟิงและคนของเขาส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่แต่ในห้อง พวกเขาใช้เวลาที่มีในตอนนี้เพื่อฝึกฝนทั้งหมด ในไม่ช้าก็ผ่านไปสิบวันจากนั้นเรือรบก็ค่อย ๆ จอดเทียบท่าที่แท่นขนาดมหึมา
เป่ยเฟิงและคนของเขาเดินลงจากเรือรบแล้วเดินไปที่แท่นที่เต็มไปด้วยผู้คนนับพัน
มีทั้งผู้ฝึกตนขั้นร้อยปีและราชาพันปี พวกเขาแต่ละคนมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข
“เงียบ !” ทันใดนั้นเสียงราวกับคนมีอายุก็ดังขึ้นจนทำให้พื้นที่รอบ ๆ เงียบลง จากนั้นชายชราคนหนึ่งก็ปรบมือสองข้างเข้าหากันกลางอากาศ จากนั้นก็ส่งตราประทับบนฝ่ามือลอยไปบนแท่น
หากเป็นวันธรรมดาแท่นนี้จะกลายเป็นแท่นธรรมดา ๆ แต่หลังจากที่ตราประทับได้ประทับลงบนแท่น ทันใดนั้นก็เกิดแสงสีเงินพุ่งออกมาจากแท่นพุ่งไปยังท้องฟ้าก่อนจะฉีกทะลุเมฆ !
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงพลังจากแสงนั้นจนทำให้เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“แกร๊ก “!
ท้องฟ้าที่ถูกฉีกค่อย ๆ ขยายขึ้นเพราะแสงสีเงินจนเผยให้เห็ยความมืดมิด
จากนั้นในเสี้ยววินาที แรงดึงดูดมหาศาลก็พุ่งมาจากด้านบนแล้วดูดคนที่อยู่ด้านล่างเข้าไป
หลังจากตั้งสติได้ เป่ยเฟิงก็ค่อย ๆ กระพริบตาไปมาจากนั้นจิตสำนึกของเขาก็กลับมาอยู่กับตัว ในไม่ช้าเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในหอเชื่อมสวรรค์
เครื่องหมายบนฝ่ามือของเขาหายไปพร้อมกับ HCD บางส่วน
“ดิ๊ด ดิ๊ด !”
อุปกรณ์สื่อสารของเป่ยเฟิงดังขึ้นพร้อมกับข้อความที่ไม่ได้อ่านปรากฎบนหน้าจอ
“ตระกูลเจิ้ง แกกำลังแส่หาความตายสินะ ?” ดวงตาของเป่ยเฟิงเต็มไปด้วยความดุร้ายในขณะอ่านข้อความ
“ท่านหัวหน้าตระกูล ข้าน้อยยินดีทำลายเมืองนั้นให้กับท่านเอง !” หลี่ปู้และคนอื่น ๆ กล่าวด้วยความโกรธ ตระกูลหลี่ในปัจจุบันไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลเจิ้งจะนำมาเปรียบเทียบได้อีกต่อไป
“กลับไปแล้วค่อยคุยเรื่องนี้”
เป่ยเฟิงนำคนอื่น ๆ ขึ้นไปบนเรือรบแล้วกลับไปยังเมืองซานชวน
3 วันต่อมา เป่ยเฟิงก็มาถึงเมืองซานชวน เขายิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่เย็นชา “ตระกูลเจิ้งกล้าหาญจริง ๆ ! กลับไปที่คฤหาสน์ก่อนแล้วเราค่อยมาดูแลตระกูลเจิ้งกันทีหลัง”
“ขอรับ !”
หลี่ปู้และคนอื่น ๆ ยิ้ม ท้ายที่สุดมนุษย์คือสัตว์สังคม พวกเขาจะรู้สึกสบายใจมากขึ้นในที่ที่มีอารยธรรม ไม่ต้องพูดถึงสมาชิกบางคนที่มีครอบครัวรออยู่
“หลี่ปู้ หลี่ปิง พวกเจ้ากลับมาทำไม ? ข้าไม่ได้บอกหรือไงว่าให้พวกเจ้าออกไปคอยปกป้องท่านหัวหน้าตระกูล ? เดียวก่อน ถ้าพวกเจ้ากลับมานั้นก็หมายความว่าท่านหัวหน้าตระกูลกลับมาด้วยสิ ท่านหัวหน้าตระกูลอยู่ไหน ?” เสียงระฆังดังขึ้นที่ประตูคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ จากนั้นชายชราก็รีบมาเปิดแล้วพบกับหลี่ปู้และคนอื่น ๆ
“ท่านหัวหน้าพ่อบ้านฮัว ท่านหัวหน้าตระกูลก็กลับมาแล้วเหมือนกัน”
หลี่ปู้และคนอื่น ๆ โค้งคำนับให้กับชายชราด้วยความเคาพ แม้ว่าพลังของพวกเขาจะสูงกว่าชายชรามาก แต่ทว่าตำแหน่งของชายชราในใจของพวกเขานั้นสูงมาก
หัวหน้าพ่อบ้านฮัวคือคนที่เลี้ยงดูหลี่ปู้และคนอื่น ๆ โดยลำพัง เขาถือได้ว่าเป็นบิดาของพวกเขาครึ่งหนึ่ง
“ท่านหัวหน้าตระกูลกลับมาแล้ว ?” ฮัวถามด้วยความสงสัย
ฮัวจับจ้องไปที่เป่ยเฟิงด้วยความไม่แน่ใจ เขาไม่รู้ว่าเขาจำผิดหรือไม่ แม้ว่าคนตรงหน้าจะเหมือนคนคุ้นเคย แต่ฮัวก็ไม่แน่ใจว่าเป่ยเฟิงคือใคร หลังจากผ่านมาหลายปีเป่ยเฟิงในตอนนี้ดูแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก “นายท่าน ?”
“หัวหน้าพ่อบ้านฮัว ข้ากลับมาแล้ว” เป่ยเฟิงเดินไปหาฮัวและทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
“ปะ เป็นนายท่านจริง ๆ แต่นายท่าน ทำไมท่านถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้กัน !”
เมื่อได้ยินเสียงของเป่ยเฟิง ฮัวก็ยืนยันได้ทันทีว่าคนตรงหน้าคือเป่ยเฟิงแน่นอน เป่ยเฟิงออกไปในรูปลักษณ์ของชายวัยสี่สิบ แต่ตอนนี้ดูเขาสิ เขากลับเป็นชายที่อยู่ในวัยยี่สิบเท่านั้น
“ยิ่งมีพลังสูงมากเท่าไหร่ รูปลักษณ์ก็จะยิ่งอ่อนวัยมากยิ่งขึ้น เรียกหลี่เหลียงกับคนอื่น ๆ มาที่นี่” เป่ยเฟิงอธิบายพร้อมกับเดินเข้าไปในคฤหาสน์โดยมีหลี่ปู้และคนอื่น ๆ เดินตามหลัง
“ตัดสินจากรูปลักษณ์ที่อ่อนวัยของนายท่าน ดูเหมือนพลังของท่านจะต้องสูงมากกว่าเดิมแน่ ๆ แต่ทำไมนายท่านถึงต้องกลับมาตอนนี้ด้วยนะ ? เห้อ ข้าได้แต่หวังว่านายน้อยทั้งสามจะสามารถโน้มน้าวนายท่านได้”
หลังจากที่เป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ เข้าไปข้างใน ฮัวรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังที่เล็ดลอดออกมาจากเป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ
ถึงแม้เขาจะอยู่ขั้นสองของร้อยปี แต่ฮัวก็รู้สึกได้ว่าหลี่ปู้และคนอื่น ๆ นั้นแข็งแกร่งขึ้น แต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามากแค่ไหน ดังนั้นฮัวจึงรู้สึกว่าหลี่ปู้และคนอื่น ๆ ยังไม่สามารถต่อกรกับตระกูลเจิ้งได้
เป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ เดินขึ้นมาชั้นบน หลังจากนั้นเป่ยเฟิงก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของเขา ข้างในยังคงมีหนังสือมากมาย พวกมันไม่มีฝุ่นแม้แต่น้อย ซึ้งมันบ่งบอกได้ว่าถูกดูแลดีแค่ไหน
หลี่ปู้และคนอื่น ๆ ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว พวกเขาเดินไปยืนด้านหลังเป่ยเฟิงและเฝ้ารอเงียบ ๆ ในห้องที่เงียบสงบนี่มีเพียงเสียงเดียวนั้นคือเสียงที่เป่ยเฟิงเคาะโต๊ะของเขา
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าที่นอกประตูพร้อมกับหลี่เหลียง หลี่ไป๋ยู่และหลี่ฮุยและตามมาด้วยคนหนุ่มสาวของตระกูลหลี่หลายคนรีบเดินเข้ามา
“ท่านพ่อ !”
“ท่านปู่ !”
หลี่เหลียงและคนอื่น ๆ นั่งตรงข้ามกับเป่ยเฟิงด้วยดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าพ่อบ้านฮัวจะบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของเป่ยเฟิงไว้แล้ว แต่พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะอ่อนวัยย์มากขนาดนี้ !
“พวกเจ้ามาแล้ว บอกข้าเกี่ยวกับตระกูลเจิ้งมา” เป่ยเฟิงพูดอย่างใจเย็น
“ท่านพ่อ ท่านไม่ควรกลับมาตอนนี้ ตระกูลเจิ้งพวกมันมีอำนาจมากเกินไป แต่ข้าคิดว่าการที่ท่านเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ แม้แต่ตระกูลเจิ้งก็ยังไม่รู้ ” หลี่เหลียงกล่าวติดตลกเล็กน้อย
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว ท่านพ่อ มันไม่สายเกินไปที่เราจะแก้แค้น ทรัพสมบัติส่วนใหญ่ของเราถูกพวกมันยึดไปหมดแล้ว นอกจากนี้การเงินของพวกเราก็ถูกตระกูลเจิ้งแช่แข็งอีก” หลี่ไป๋ยู่กล่าวด้วยความกังวล
พวกเขาในตอนนี้หวังว่าปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ไขด้วยการที่หลี่บู่ฮุยได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเทียนมู่
อย่างไรก็ตามหากหลี่บู่ฮุยไม่สามารถเข้าเรียนที่นั้นได้ ตระกูลเจิ้งจะฉีกกระชากตระกูลหลี่ราวกับสุนัขที่กำลังหิวโหย !
ในระหว่างที่หลี่บู่ฮุยกำลังเตรียมตัวสอบเข้านั้นมันไม่มีอะไรทำอันตรายกับเธอได้ หากใครก็ตามที่กล้าแตะต้องเธอแม้แต่ปลายนิ้ว ในฐานะคนที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยของตน ทางรัฐบาลจะไม่ปล่อยผู้บุกรุกไปแน่นอน !
หากไม่ใช่เพราะการปกป้องของรัฐบาล สมาชิกที่กล้าหาญบางคนของตระกูลเจิ้งคงลักพาตัวหลู่บู่ฮุยไปแล้ว
เป่ยเฟิงหันหน้าไปทางหลี่ปู้และสั่งเขา “หลี่ปู้ พาคนออกไปแล้วฆ่าไอ้พวกขายข้อมูลพวกนั้นซะ จากนั้นก็โยนศพพวกมันไปให้ตระกูลเจิ้งให้หมด”