Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 569
หลังจากนั้นการประชุมก็สิ้นสุด สายตาของทุกคนหันไปมองอาจารย์ใหญ่ มีอาจารย์หลายคนถอนหายใจเบา ๆ และพยายามให้กำลังใจตัวเอง
อาจารย์เหล่านี้รู้ว่าถึงแม้นักเรียนของพวกเขาจะไม่ได้รับเลือก แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังหาผลประโยชน์จากมันทีหลังได้
ส่วนที่ปรึกษาเองก็กำลังรอการตัดสินใจของอาจารย์ใหญ่ด้วยความกระตือรือร้น ถึงแม้อาจารย์หลายคนจะเห็นด้วยกับเขา แต่ท้ายที่สุดแล้วการตัดสินทั้งหมดขึ้นอยู่กับอาจารย์ใหญ่
เมื่อเห็นว่าได้ข้อสรุปกันแล้ว อาจารย์ใหญ่ก็ได้แต่ทำใจ ถึงแม้หลี่บู่ฮุยจะมีพรสวรรค์ แต่มันสายเกินไปแล้วที่เธอจะเอาทรัพยากรไปในตอนนี้
เฟิงหยางนั้นถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เขามีบรรพบุรุษที่เคยมีพลังสูงสุดที่ระดับหมื่นปี แม้ว่าจะห่างมาหลายรุ่น แต่ตราบใดที่เขายังมีสายเลือดของตระกูล บางทีมันอาจจะมีวันที่สายเลือดของเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับตัวเขาที่พลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลก็ได้
‘เฮ้อ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นคงได้แต่ตำหนิตัวเราเองที่ทรัพยากรมันไม่เพียงพอ ดูเหมือนข้าจะดูแลได้เพียงแค่เฉินซุยตง ไป๋หยู่ฮานและเฟิงหยาง’ อาจารย์ใหญ่ถอนหายใจก่อนจะประกาศ “ถ้ายังงั้นเราจะมุ่งเน้นมอบทรัพยากรที่เรามีทั้งหมดไปที่ เฉินซุยตง ไป๋หยู่ฮานและเฟิงหยาง”
เมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์ใหญ่ ที่ปรึกษาก็รู้สึกโล่งอก ในที่สุดเขาก็ได้สิ่งที่ตระกูลเฟิงได้สัญญากับเขาเอาไว้ !
ที่ปรึกษารู้สึกหนักใจมากในตอนที่คิดว่าเฟิงหยางจะไม่ได้รับเลือก ดังนั้นเขาจึงทำพยายามทำทุกอย่างที่ทำให้สถานการณ์มันย่ำแย่จนเฟิงหยางถูกรับเลือก
“อาจารย์ใหญ่ หลี่บู่ฮุยเองก็เป็นต้นกล้าที่ดี นี้มันไม่ยุติธรรมเลยที่เราละทิ้งเธอ !” ถังหลี่อารมณ์เสียมาก เธอลุกขึ้นและพูดกับอาจารย์ใหญ่ที่ไม่ให้ความยุติธรรมกับนักเรียนของเธอ
“มิสถัง พวกเราทุกคนเข้าใจดีว่าคุณให้ความสำคัญกับนักเรียนของคุณมาก แต่เนื่องจากทรัพยากรของเราไม่เพียงพอดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะมอบให้กับคนที่สามารถคาดหวังได้เพื่ออนาคตระยะยาวสำหรับโรงเรียนของเรา !” ที่ปรึกษารีบตอบโต้ทันทีก่อนที่ถังหลี่จะพูดไปมากกว่านี้
อาจารย์ใหญ่ทำได้เพียงไกล่เกลี่ยพวกเขา “พอแล้ว ข้ารู้ดีว่าทุกคนหวังดีกับโรงเรียนของเรา แต่ข้าได้ตัดสินใจไปแล้ว ไปเรียกนักเรียนทั้งสามคนมาพบข้า ข้าจะแนะนำพวกเขาเป็นการส่วนตัวสำหรับเวลาที่เหลือ”
ในไม่ช้าเหล่าอาจารย์ก็เดินออกไป มันมีทั้งคนมีความสุขและบางคนที่ไม่มีความสุข
ในห้องทำงาน ถังหลี่มองเด็กสาวที่ยืนด้านหน้าเธอก่อนจะพูดขึ้น “บู่ฮุย อาจารย์พยายามที่สุดแล้ว แต่ว่า …”
“ขอบคุณมากค่ะอาจารย์ถัง แต่หนูเข้าใจดี หนูไม่ยอมแพ้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเทียนมู่เด็ดขาด !” หลี่บู่ฮุยตอบพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
‘เฮ้อ พวกแกทุกคนจะต้องเสียใจ’ ถังหลี่ถอนหายใจในขณะมองเด็กสาวเดินออกไปจากห้องทำงาน
ในห้องเรียน เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาข้าง ๆ หลี่บู่ฮุยก่อนจะส่งแหวนมิติให้กับเธอพร้อมกับกระซิบข้าง ๆ “บู่ฮุย ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่ติดหนึ่งในสามคนที่ถูกรับเลือก ฉันมีทรัพยากรอยู่ เธอเอามันไปใช้ก่อนสิ”
หลี่บู่ฮุยส่ายหัวและปฎิเสธมัน “ไม่จำเป้น ฉัน หลี่บู่ฮุยไม่ต้องการพึ่งพาใครในการเข้ามหาวิทยาลัยเทียนมู่ !”
“ทำไมเธอต้องพึงพาตัวเองขนาดนี้ ? ถ้าแค่เธอพยักหน้าซะ ต่อให้ตระกูลเจิ้งก็ไม่มีค่าที่จะกล้าเผชิญหน้ากับฉัน” เด็กหนุ่มที่หล่อเหลาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มปลอบโยน
แต่หลี่บู่ฮุยรู้สึกรังเกียจเขามาก ถึงแม้ว่าเขาจะดูไม่อันตราย แต่เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เขาต้องการจากเธอจริง ๆ นั่นคือตัวเธอ
“เธอคิดว่าตัวเองจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเทียนมู่ได้จริง ๆ งั้นหรอ ? หยุดฝันได้แล้ว ! มีเพียงหมื่นคนจากหนึ่งร้อยล้านคนที่จะเข้าไปได้ แล้วเธอรู้ไหมตระกูลเจิ้งจะทำอะไรต่อไปหากเธอสอบเข้าไม่ได้ ? รับข้อเสนอของฉันดีกว่าน่า !” ฮันโต้วพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าเธอจะกล้าปฎิเสธเขา นี้มันราวกับตบหน้าเขาชัด ๆ
เทคนิคการฝึกฝนของฮันโต้วคือวิถีหยินหยาง หยินฉีของผู้หญิงนั้นจำเป็นในการกลั่นหยางฉีของผู้ฝึก หลังจากได้มาโรงเรียนซานชวนและพบกับหลี่บู่ฮุย ฮันโต้วก็รู้สึกได้ว่าหยางฉีของเขากำลังเดือดพร่านเมื่อเจอเธอ
“ไม่ใช่ธุระของนาย” หลี่บู่ฮุยหงุดหงิดมาก เธอพละจากเขาแล้วเดินออกมาจากห้องเรียนทันที
“ฮึ่ม !” ฮันโต้วเค้นเสียงอย่างเย็นชา
หลี่ปิงและผู้คุ้มกันหลายคนปรากฎตัวที่ทางเดิน เมื่อเห็นหลี่บู่ฮุย หลี่ปิงก็ทักทายเธอด้วยความเคารพทันที “สวัสดีค่ะ คุณหนู !”
โรงเรียนซานชวนไม่ได้ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป นักเรียนหลายคนทำเพียงหันไปมองหลี่บู่ฮุยและคนของเธอก่อนจะเดินจากไปราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่ มันดูเหมือนกับนี้คือเรื่องปกติในโรงเรียนแห่งนี้
“ผู้คุ้มกันของตระกูลหลี่ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่กัน ? เดี๋ยวสิ ไม่ใช่ว่าคุณออกไปพร้อมกับท่านปู่หรอกหรอ ? หรือว่าท่านปู่กลับมาแล้ว ?”
เมื่อเห็นหลี่ปิง มันทำให้เธอประหลาดใจไม่น้อย
“คุณหนู ท่านหัวหน้าตระกูลต้องการให้คุณกลับไปที่คฤหาสน์” หลี่ปิงตอบอย่างตรงไปตรงมา เสียงของเธอราวกับน้ำแข็งที่เย็นชา
“อะไรนะ ?” หลี่บู่ฮุยสับสน เธอไม่เข้าใจว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะให้เธอกลับบ้านงั้นหรอ เธอสงสัยว่าท่านปู่ของเธอได้ตกลงอะไรกับตระกูลเจิ้งหรือเปล่า
ใบหน้าของหลี่บู่ฮุยสับสนในขณะที่เธอคิดไปคิดมา
ตัดสินจากใบหน้าที่ซีดของเธอ หลี่ปิงรู้ดีว่าเธอเข้าใจผิดไปดังนั้นจึงอธิบายอย่างรวดเร็ว “คุณหนู กรุณาอย่าได้เข้าใจผิด สาเหตุที่ท่านหัวหน้าตระกูลต้องการให้คุณกลับมานั้นก็เพราะเขาได้จัดหาทรัพยากรจำนวนมากมาให้เพื่อให้คุณหนูสอบเข้ามหาวิทยาลัยเทียนมู่ได้”
“แต่ตระกูลเจิ้ง …”
“คุณหนู อย่าได้กังวล ท่านหัวหน้าตระกูลจะเป็นคนจัดการเอง” หลี่ปิงกล่าวเสริมก่อนที่หลี่บู่ฮุยจะพูดจบ
“การสอบมันใกล้เข้ามาแล้ว ฉันต้องไปบอกกับอาจารย์ก่อน”
หลี่บู่ฮุยพยักหน้าก่อนจะพาหลี่ปิงและคนอื่น ๆ ไปที่ห้องทำงานของถังหลี่
“ก๊อก ! ก๊อก !”
หลี่บู่ฮุยเคาะประตูห้องทำงานของถังหลี่เบา ๆ
‘เข้ามา”
เมื่อพวกเขาเข้ามาแล้ว ถังหลี่จึงถามขึ้น “มีอะไรงั้นหรอบู่ฮุย ?”
“อาจารย์ ตระกูลของหนูต้องการให้หนูกลับไปฝึกซ้อมที่ตระกูล แล้วหนูจะกลับมาเมื่อถึงเวลาสอบ” หลี่บู่ฮุยตอบโดยตรง
“บู่ฮุย อาจารย์รู้สถานการณ์ของตระกูลเธอดี อาจาร์คิดว่าเธอควรจะอยู่แต่ในโรงเรียนและเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยเทียนมู่ดีกว่า หากมีอะไรเกิดขึ้นที่ตระกูลของเธอมันจะทำให้เธอเสียเวลาได้ อาจารย์มีทรัพยากรอยู่ เธอสามารถเอามันไปใช้ก่อนได้” ถังหลี่ตอบด้วยใบหน้าจริงจัง
เธอสงสัยว่าสมาชิกในตระกูลของบู่ฮุยได้ทำข้อตกลงบางอย่างกับตระกูลเจิ้งไปแล้ว เธอไม่ต้องการให้ต้นกล้าที่ดีสูญเสียโอกาสไป
ดวงตาของหลี่บู่ฮุยเต็มไปด้วยความตื้นตัน “อาจารย์ไม่ต้องห่วง หนูแค่กลับไปฝึกเท่านั้น หนูจะกลับมาก่อนสอบ”
เธอรู้สึกขอบคุณอาจารย์ถังมาก ๆ ที่คอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจเธอในช่วงที่ยากลำบาก ซึ้งมันแตกต่างจากเพื่อน ๆ ของเธอที่พยายามตัดความสัมพันธ์กับเธอและมีบางคนถึงกับหลีกเลี่ยงที่จะเจอหน้ากับเธอ