Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 571
ฮันโต้วเหลือบมองด้วยความลังเลเพราะเขาไม่อยากสร้างปัญหาในที่แห่งนี้มากนัก
‘ข้าจะเข้าไปยุ่งก็ต่อเมื่อตระกูลเจิ้งผลักตระกูลหลี่ไปถึงขอบเหว จากนั้นหลี่บู่ฮุยก็จะเต็มใจที่จะมาเป็นของข้า’ ฮันตั๋วคิดกับตัวเอง หลี่บู่ฮุยคือคนสำคัญสำหรับเขา เธอคือตัวแปรที่จะทำให้เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยเทียนมู่ได้ เขาจึงไม่มีทางปล่อยเธอไปง่าย ๆ
หากเขาได้พลังหยินของหลี่บู่ฮุยมา มันจะเพิ่มโอกาสที่เขาจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเทียนมู่เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า หรืออีกความหมายก็คือมันเพิ่มโอกาสที่เขาจะสอบเข้าได้ถึง 80 % หากดูดซับพลังหยินของเธอ !
“หือ ?”
ทันใดนั้นหลี่ปู้ก็หันมามองพวกเขาจากระยะไกล
“นั่นใครกัน ? มันมีผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ในตระกูลหลี่ได้ยังไงกัน !”
เมื่อเห็นเขามองมา ฮันโต๋วและคนของเขาถึงกับสั่นสะท้านเมื่อพื้นที่รอบ ๆ พวกเขาเต็มไปด้วยคลื่นพลัง หากไม่ใช่เพราะพวกเขามีรากฐานที่มั่นคง พวกเขาคงกระอักเลือดไปแล้ว
“เป็นไปไม่ได้ ! ข้าตรวจสอบความเป็นมาของตระกูลหลี่อย่างละเอียด พวกเขาไม่เคยมีคนที่มีพลังระดับราชาพันปีมาก่อน แล้วคน ๆ นี้มาจากไหนกัน ?”
ชายชราที่สวมชุดสีดำตกตะลึง เขาเกือบจะเผยตัวตนออกมาเมื่อเห็นชายคนนั้นมองจากระยะไกล ระดับพลังขนาดนี้มันแน่นอนแล้วว่าอีกฝ่ายมีพลังระดับราชาพันปี !
“ตาแก่ แกถามข้าแล้วข้าถามใคร ? แล้วแกไม่คิดจะรับผิดชอบเรื่องนี้เลยหรือยังไง ? อธิบายมาสิว่าชายคนนั้นเป็นใคร !” ฮันโต้วตะคอกใส่ชายชราราวกับกำลังตำหนิเขา
“นายน้อย พวกเราสืบประวัติความเป็นมาของตระกูลหลี่จนละเอียดถึงที่สุด ตระกูลหลี่ในตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาอีกต่อไปแล้ว มีความเป็นไปได้ว่าชายคนนี้อาจจะถูกจ้างมา ดังนั้นมันจึงไม่มีเหตุผลที่เขาจะหาเรื่องเรา” ชายชรายังคงสับสน เขารีบอธิบายออกมาทันที
“มันก็ควรจะเป็นแบบนั้น”
ฮันโต้วฟังและปล่อยผ่านมันไป ท้ายที่สุดชายชราคนนี้ก็มาจากตระกูลของเขาเอง มันไม่ดีนักที่เขาจะลงโทษอีกฝ่ายราวกับคนรับใช้
“บู่ฮุย ดีแล้วที่เจ้ากลับมา ปล่อยเรื่องนี้ให้ลุงจัดการเอง” หลี่เหลียงดึงตัวบู่ฮุยไว้ข้างหลัง ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกถึงความกังวลและความสับสนของเธอ
เจิ้งจี้โบกมือไปมาก่อนจะออกคำสั่งอย่างช้า ๆ “ไอ้พวกอวดดี ฆ่าทุกคนยกเว้นผู้หญิง”
“ฟึบ …”
ทันใดนั้นบาดแผลก็ปรากฎขึ้นที่คอของเจิ้งจี้ก่อนจะตามมาด้วยเลือดที่พุ่งออกมาพร้อมกับตัวเขาที่ค่อย ๆ ทรุดตัวลงกับพื้น มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป ! ดวงตาของเจิ้งจี้กระพริบด้วยความกลัวราวกับเขาไม่รู้ว่าตัวเองตายได้ยังไงกัน
สิ่งที่เขาได้ยินเป็นเสียงสุดท้ายนั่นคือเสียงแกว่งดาบที่ดังเข้ามาจากนั้นคือภาพที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เก็บดาบเข้าไปในฝักอย่างช้า ๆ ทำไมเขาถึงไม่เคยสังเกตเห็นเธอมาก่อนกัน
“หัวหน้า !”
“เป็นไปได้ยังไงกัน !”
“เจิ้งจี้ !”
ความเงียบครอบคลุม ไม่มีใครคิดเลยว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
“นี้มันนักบุญดาบ ! นี่คือตระกูลหลี่จริง ๆ งั้นหรอ ?”
ดวงตาของถังหลี่เบิกกว้างพร้อมกับเปิดปากด้วยความตกใจ แม้ว่ามันจะเป็นการโจมตีแบบตรงไปตรงมา แต่ทว่าการเคลื่อนไหวนั้นมันเร็วเกินไป มันเร็วจนขนาดที่ว่าอีกฝ่ายยังไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าศัตรูของเขาเคลื่อนไหวแล้ว !
“บัดซบ ฆ่ามัน ล้างแค้นให้ท่านหัวหน้า !
“ทำลายพวกมันให้หมด !”
กลุ่มผู้ฝึกตนโกรธอย่างมาก การที่หัวหน้าของเขาถูกสังหารตรงหน้านี้มันราวกับตบหน้าพวกเขา !
ในไม่ช้าความกลัวก็เปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง พวกเขาสาบานว่าจะแก้แค้นเป่ยเฟิงและคนของพวกเขาให้ได้
เป่ยเฟิงโบกมือและออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “เลิกเสียเวลาได้แล้ว ฆ่าพวกมัน !”
ถึงแม้เขาจะไม่ได้มีพลังระดับราชาพันปี แต่เขาก็ไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อยหากอีกฝ่ายเป็นถึงราชาพันปี มันจึงเป็นเรื่องปกติที่คนเหล่านี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามของเขาแม้แต่น้อย
หลังจากได้รับคำสั่ง หลี่ปู้และหลี่ปิงก็เป็นฝ่ายที่เปิดฉากโจมตี ทั้งสองคนพุ่งออกไปโดยมีคนอื่นติดตามมาด้านหลัง !
จากนั้นสิ่งที่น่าประหลาดใจก็เกิดขึ้นต่อหน้าทุกคน !
ผู้ฝึกตนชั้นยอดที่น่ากลัวของตระกูลเจิ้งกลับถูกคนของตระกูลหลี่ไล่สังหารอย่างง่ายดาย !
หลี่ปู้และหลี่ปิงนั้นราวกับหัวลูกศรที่พุ่งไปข้างหน้า ทั้งคู่โจมตีอีกฝ่ายโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ป้องกันหรือเคลื่อนไหวใด ๆ ได้ทัน
ส่วนอีกด้าน ผู้คุ้มกันของตระกูลหลี่นั่นพวกเขารวมตัวกันเป็นกลุ่มจากนั้นก็ไล่สังหารอีกฝ่ายด้วยการเคลื่อนไหวสบาย ๆ !
“เป็นไปไม่ได้ !’
“คนพวกนี้แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไงกัน !”
“พวกเราคือตระกูลเจิ้ง ! แกกล้าฆ่าข้างั้นรึ !”
“ฟุ้บ !”
“ใช่ ข้ากล้าฆ่าแก แกควรจะติดตามตระกูลดี ๆ ในชีวิตหน้านะ !”
การสังหารยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าอีกฝ่ายจะอ้อนวานมากแค่ไหนก็ตาม เจิ้งหลี่ตกตะลึงในความแข็งแกร่งของตระกูลหลี่มาก ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นลูกแกะที่อ่อนแอ แต่ใครจะไปคิดกันว่ามันคือหมีที่ดุร้ายในคราบลูกแกะ !
นอกจากหลี่ปู้และหลี่ปิง ผู้คุ้มกันคนอื่น ๆ เองก็ได้รับทรัพยากรจากเป่ยเฟิงเช่นกัน เป่ยเฟิงยังไม่ได้มอบทรัพยากรที่เขามีให้กับทางตระกูลซึ้งแตกต่างจากผู้คุ้มกันที่ไปกับเขา ซึ้งพวกเขาในตอนนี้มีเลือดฉีที่บริสุทธิ์และมีพลังมากกว่าเดิมอย่างมาก !
ดังนั้นในไม่ช้าตระกูลหลี่จึงได้เปรียบตระกูลเจิ้งอย่างมาก !
“จับเจ้านั่นก่อน !” เจิ้งหลี่ตะโกนและชี้ไปทางเป่ยเฟิง การจับเป่ยเฟิงเป็นตัวประกันมันจะทำให้หลี่ปู้ลังเลแน่นอน หัวใจของเจิ้งหลี่กำลังเจ็บปวดอย่างหนักเมื่อเห็นว่าเขากำลังสูญเสียคนไปจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงหาวิธีทำอะไรซักอย่างเพื่อหยุดการตาย
หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปนั้นเท่ากับพวกเขาจะถูกกำจัดจนหมด ดังนั้นจึงต้องจับราชาเพื่อควบคุมทหาร และนั่นก็คือการจับเป่ยเฟิงเพื่อหยุดหลี่ปู้ !
“ฆ่า !”
เมื่อได้ยินคำสั่งของเจิ้งหลี่ คนของตระกูลเจิ้งก็รีบพุ่งเข้าหาเป่ยเฟิง !
“ฮ่า ถามหาความตาย !” หลี่ปู้ล้อเลียน เขาไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายให้ทำตามใจชอบ ในไม่ช้าฉีในร่างของเขาก็ปะทุจนทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน !
“อ๊ากก !”
“อุก !”
“นี้มันราชาพันปี !”
“ตระกูลหลี่เก่งในเรื่องการปิดบังความลับไว้ หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์ตรงหน้า พวกเราคงไม่รู้ว่ามีตัวตนระดับราชาพันปีอยู่ในคฤหาสน์หลังเล็ก ๆ นี้ !”
ทันทีที่หลี่ปู้ปลดปล่อยพลังฉีของเขาออกมา พลังของเขาก็พุ่งพร่านก่อนจะพุ่งทะลุชั้นฟ้าออกไป
คนที่มอบอยู่รอบ ๆ รู้สึกตกใจมาก แม้แต่คนของตระกูลเจิ้งก็ถึงกับชะงักเท้าลง ตอนนี้พวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจนไม่กล้าก้าวต่อไป
“เป็นไปไม่ได้ ! จริงอยู่ที่เจ้านี้มีพลังระดับราชาพันปี แต่เขาไม่มีทางสู้กับท่านเจ้าเมืองได้ !” มีคนพูดด้วยน้ำเสียงกังวล มันราวกับเขากำลังอธิษฐานครึ่งหนึ่งและปลอบใจตัวเองครึ่งหนึ่ง
“บัดซบ !
ซู่เหม่ยที่มองเหตุการณ์ทั้งหมดจากระยะไกลยังตกตะลึง ในตอนแรกเธอคิดว่ามีเพียงความตายเท่านั้นที่รอตระกูลหลี่อยู่และเธอก็ได้ละทิ้งพวกเขาออกมาเพื่อตัดสินว่าพวกเขาไม่มีค่าพอให้เธออยู่ด้วยอีกต่อไป แต่ใครจะไปคิดกันว่าจะมีตัวตนระดับราชาพันปีอยู่ในตระกูลหลี่ !
ใบหน้าของซู่เหม่ยกระตุกอย่างแรง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธและเกลียดชัง จากมุมมองของเธอ เธอคิดว่านี้คืออุบายที่ตระกูลคิดขึ้นเพื่อขับไล่เธอออกไป !
เธอจำไม่ได้แล้วว่าเป็นเธอเองที่ตัดสินใจออกมาเพราะเธอไม่อยากตายไปพร้อมกับตระกูลหลี่
“ฝ่าวงล้อมเลือดสังหาร !” เสียงของหลี่ปู้ดังขึ้น จากนั้นแสงสีเงินขาวก็ส่องประกายออกมาจากตัวเขาแล้วก็หายไป
พื้นที่ทั้งหมดเงียบลงชั่วครู่ จากนั้นก็เกิดเสียงแตกเหมือนกระจกแตกดังขึ้น ในไม่ช้าทุกคนก็หันไปมองที่ใต้เท้าของพวกเขาพร้อมกับเหงื่อที่เต็มหลัง …
“ดิ๊ง ดิ๊ง !”
พื้นที่ทั้งหมดเงียบสนิท ทันใดนั้นก็เกิดเสียงหยดเหมือนหยดน้ำที่หยดลงมา
“ตุ้บ !”
ในไม่ช้าก็มีเสียงกระแทกดังขึ้น 10 คนที่พุ่งเข้าหาเป่ยเฟิงเมื่อครู่ค่อย ๆ ทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมกับรูขนาดใหญ่กว่า 10 ซม. ที่ปรากฎระหว่างคิ้วของเขา
“อึก !”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนกลืนน้ำลายก่อน แต่ในไม่ช้าเสียงของทุกคนก็ดังขึ้นเนื่องจากกำลังกลืนน้ำลายตาม ๆ กันไป
พลังของการโจมตีเพียงครั้งเดียวด้วยง้าวนั่น … มันน่ากลัวเกินไป !
“วิ่ง ! รีบไปรายงานเรื่องนี้ !”
“ปกป้องนายน้อย !”
“เร็ว รีบแยกย้ายกัน !”
“ต้องให้ท่านเจ้าเมืองมาเป็นคนจัดการ !”
คนของตระกูลเจิ้งที่เหลือนิ่งไปชั่วครู่ นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน ? ต่อหน้าราชาพันปี พวกเขาราวกับมดตัวน้อยที่พร้อมจะตายทุกเมื่อ ในไม่ช้าพวกเขาก็รีบวิ่งหนีไปทันที !
หลี่ปิงปรากฎตัวด้านหลังผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งและพูดอย่างช้า ๆ “แกคิดมาก่อนหรือเปล่าว่าถ้ามาแล้วจะหนีออกไปได้ ? มันไม่ใช่วิธีที่ตระกูลหลี่จะใช้ปฎิบัติกับแขกของเรา ! จงอยู่ที่นี่ตลอดไปซะ !”
คนที่กำลังเตรียมตัววิ่งรู้สึกราวกับร่างกายแข็งค้าง เสียงของหลี่ปิงมันดังข้างหูราวกับลมหายใจของเธอนั้นแนบอยู่กับหูของพวกเขา !
แต่ทว่าสหายที่โชคร้ายคนนั้นไม่มีเวลาว่างให้คิดถึงสิ่งใด เพราะหลังจากได้ยินเสียงของเธอแล้ว ในไม่ช้าหัวใจของเขาก็เต้นถี่ด้วยความกลัวก่อนจะค่อย ๆ สงบลงพร้อมกับดวงตาที่ค่อย ๆ ดับแสงไป
คนของตระกูลเจิ้งวิ่งหนีกระจายออกไปทุกทิศทาง แต่ร่างกายของหลี่ปิงนั้นกระพริบไปมา เธอไปปรากฎด้านข้างของพวกเขาราวกับเธอใช้วิชาแยกร่าง !
แต่ทว่าร่างแต่ละร่างนั้นมีท่วงท่าที่แตกต่างกันออกไป บางร่างเป็นการเหวี่ยงดาบ บางร่างใช้มือชี้ออกไปและบางร่างกำลังทำตราประทับใส่มือ
“ฟุ้บ !”
ในไม่ช้าร่างของหลี่ปิงก็มาปรากฎตัวที่จุดเดิม ใบหน้าของเธอซีดจางและเธอก็ค่อย ๆ เก็บดาบเข้าฝัก ในไม่ช้าผู้เชี่ยวชาญ 10 กว่าคนก็เริ่มกลายเป็นน้ำแข็งก่อนจะแตกเป็นสองส่วนและมีบางคนถึงกับแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นอกจากนี้ยังมีบางคนที่ภายนอกดูดีแต่ทว่าสมองของพวกเขากลับเหลวเหมือนน้ำเนื่องจากถูกทักษะนิ้วของหลี่ปิงเข้าไป
“ตระกูลเจิ้งจะไม่ … ปล่อยพวกแกไว้แน่ !”
ชั้นน้ำแข็งค่อย ๆ แพร่กระจายจากใต้เท้าของเจิ้งหลี่แล้วลามขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความโกรธแค้น หลังจากนั้นร่างของเขาก็ค่อย ๆ กลายเป็นน้ำแข็งทั้งร่างก่อนจะค่อย ๆ หล่นลงมา ทันทีที่ร่างของเขากระแทกกับพื้นมันก็แตกกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วนพร้อมกับเลือดที่ค่อย ๆ กระจายออกมาตามชิ้นส่วนของเขา
หลี่ปู้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาไปในทิศหนึ่ง เขาบีบเสียงเป็นเส้นและส่งมันออกไป “แกดูพอหรือยัง ? ต้องให้ข้าไปส่งเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า ?”