Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 647
วาฬอสูรเหล่านี้มีอายุมากแล้ว ไฟแห่งชีวิตในร่างอาจจะดับลงได้ทุกเมื่อ
วาฬอสูรทั้ง 11 เผยให้เห็นร่างกายของมัน การว่ายน้ำแต่ละครั้งนั้นลำบากไม่น้อย
“วอวววววววววววว”
วาฬอสูรตัวใหญ่ส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความอ่อนแรง
ความเร็วของวาฬอสูรขนาดใหญ่ตัวหนึ่งเคลื่อนที่ช้ากว่าวาฬอสูรอีกสิบตัวอย่างเห็นได้ชัด จิตวิญญาณในดวงตาของมันค่อย ๆ หายไป
ในที่สุด มันก็ไม่เคลื่อนไหวและลอยอยู่บนผิวน้ำทะเลห่างจากทะเลสีดำไม่กี่ลี้
“วอววววววววววววว”
วาฬอสูรอีกสิบตัวที่เหลือที่ว่ายน้ำอยู่ข้างหน้า พวกมันหันไปมองดูเพื่อนร่วมทางที่ตายแล้ว ต่างก็ส่งเสียงร้อง
วาฬอสูรที่ใหญ่ที่สุดหันกลับมาและว่ายไปหาเพื่อนที่ตายแล้ว และค่อย ๆ โค้งให้กับศพของเพื่อนด้วยความอ่อนโยน
วาฬอสูรอีกเก้าตัวที่เหลือมองไปที่ทะเลสีดำใกล้ ๆ ในที่สุดมันก็หันกลับมาและรวมตัวกันรอบ ๆ วาฬอสูรตัวใหญ่ที่ตายแล้ว
วาฬอสูรหลายตัวแหวกว่ายอยู่ภายใต้ร่างเพื่อนร่วมทางที่ตายไป และช่วยกันพยุงศพเพื่อนมุ่งสู่ทะเลสีดำด้านหน้า
“ว่อวววววววววว”
ไฟแห่งชีวิตของวาฬอสูรฝูงใหญ่นี้กำลังจะดับลง แต่ตอนนี้พวกมันกลับไปหาเพื่อนร่วมทางที่ตายในขณะที่พวกมันเองก็เริ่มจะหมดลมหายใจเช่นกัน
โดยเฉพาะวาฬอสูรตัวใหญ่ที่ไม่มีมือและเท้าในการพยุงร่างของเพื่อนที่ตายไปนั้นยากแค่ไหน
ในบางครั้ง เจ้าก็ต้องปล่อยวางเพื่อนร่วมทางของเจ้า
วาฬอสูรตัวใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่สัมผัสถึงความอ่อนแอของพวกมันได้แล้ว มันกลัวว่ามันจะไม่มีพลังพอที่จะเข้ามาในพื้นที่นี้อีก
“ว่อวววววววว”
วาฬอสูรกลุ่มหนึ่งไม่มีพลังที่จะเคลื่อนไหว พวกมันลอยไปตามทะเลอย่างเงียบ ๆ
ดวงตาคู่หนึ่งแสดงความเศร้าโศก และพวกมันจ้องไปที่ทะเลสีดำที่ห่างออกไปหนึ่งลี้
“เฮ้อ บางครั้ง คนก็แย่กว่าสัตว์จริง ๆ”
เป่ยเฟิงเห็นทั้งหมดนี้ด้วยสายตาของเขา แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมวาฬอสูรใหญ่กลุ่มนี้พยายามจะเข้าสู่ทะเลสีดำอย่างไม่ลดละ แต่สามารถมองเห็นได้ว่าทะเลสีดำนี้มีความสำคัญต่อพวกมันมาก
เห็นได้ชัดว่ามีร่างของเพื่อนมันที่ตายแล้วไม่สามารถเข้าสู่ทะเลสีดำได้
แต่วาฬอสูรกลุ่มนี้ไม่ยอมแพ้ มันกลับไปหาเพื่อนร่วมทางที่ตายไป และต้องการที่จะนำเพื่อนของพวกมันไปสู่ทะเลสีดำ
แม้ว่าวาฬอสูรเหล่านี้จะดูอ่อนแอในสายตาเป่ยเฟิง แต่ความคิดของพวกมันก็ยังไม่เปิดกว้าง นี่คือสิ่งที่ทำให้เป่ยเฟิงตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของวาฬอสูรเหล่านี้มากขึ้น
“กรงเล็บมังกร !”
เป่ยเฟิงขยับร่างกายและงอมือขวาเหมือนกรงเล็บมังกร
กรงเล็บมังกรขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าหนึ่งหมื่นเมตรปรากฏขึ้นบนผิวน้ำทะเลและทันใดนั้นก็พุ่งเข้าหากลุ่มวาฬอสูรใต้ทะเล !
พลังงานทั้งหมดถูกยับยั้งไว้ในกรงเล็บมังกร ไฟแห่งชีวิตของวาฬอสูรกลุ่มนี้อ่อนแอเกินไป มันจะดับลงหากเขาไม่ใส่ใจ
วาฬอสูร 11 ตัวไม่ขัดขืนเพราะไร้แรงต่อต้านอีกแล้ว
กรงเล็บเข้ามาหามันก่อนจะจับมันขึ้นไปในอากาศ พวกมันไม่กลัวแม้แต่น้อย ดวงตาของพวกมันยังคงมองทะเลสีดำ
เป่ยเฟิงจับวาฬอสูรทั้ง 11 ด้วยกรงเล็บเดียว และค่อย ๆ ย้ายวาฬอสูรลงไปในทะเลสีดำ และเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ
“ว่อววววววววว”
“ว่อวววววววว”
ความพากเพียรในดวงตาของวาฬอสูรหายไป แทนที่ด้วยดวงตาขอบคุณ
วาฬอสูรทั้งสิบตัวดูเหมือนจะเจรจากันได้ดีและหวีดเสียงต่ำดังขึ้นพร้อมกันเผยให้เห็นความสุขและความขอบคุณ
หลังจากหวีดสิบครั้ง วาฬอสูรทั้งสิบตัวก็ไม่หยุดพักและร่างของพวกมันก็จมลงในทะเลสีดำ
วาฬอสูรเหล่านี้ไม่รู้ว่าพวกมันอพยพมาไกลแค่ไหน ร่างกายพวกมันถึงขีดจำกัดมานานแล้ว และเป็นเพราะความพยายามมันถึงมาตรงนี้ได้
เป่ยเฟิงยืนอยู่ท่ามกลางอากาศและลมทะเลอ่อน ๆ พัดผมสีดำของเป่ยเฟิง
หลังจากเงียบไปนาน เป่ยเฟิงก็กลับขึ้นเรือ มองดูสัตว์อสูรทะเลที่มาจากทุกทิศทางอย่างเงียบ ๆ
“นี่มันฉลาดกว่าที่คิด ?”
เป่ยเฟิงพึมพำกับตัวเอง
ตรงกันข้ามกับสัตว์อสูรทะเลเหล่านี้ พวกมันไม่เข้าใจว่าเพื่อนคืออะไร และการยอมแพ้หมายความว่าอะไร
การฉลาดเกินไปบางทีมันก็ไม่มีผลอะไรกับมัน
อีกฝ่ายจะยอมช่วยพวกมันข้ามทะเลหรือไม่ ?
ถ้าไม่ พวกมันก็คงทำอะไรไม่ได้
บางทีพวกมันก็คิด ถ้าเขาช่วยพวกมันแล้ว บางทีพวกมันอาจจะช่วยเขาในอนาคตก็ได้ ?
นี่เรียกว่าการขอความร่วมมือเพื่อประโยชน์ในอนาคต
ประโยคนี้ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน แต่สามารถอธิบายให้คนส่วนใหญ่ฟังได้
อาจมีไม่กี่คนที่สนใจและไม่ได้หวังมากเกินไป แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่สนใจ
ในเวลาต่อมา สัตว์อสูรทะเลหลายสิบกลุ่มต่างเผ่าพันธุ์เริ่มทยอยเข้ามา ทั้งหมดเป็นสัตว์อสูรทะเลที่มีอายุมากและกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ทะเลสีดำ
ในหมู่พวกมันมีสัตว์อสูรทะเลธรรมดาเช่นปลาตัวใหญ่ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก แต่ไม่มีพละกำลังที่จะต่อสู้กับผู้ฝึกตนได้
นอกจากนี้ ยังมีสัตว์อสูรทะเลที่มีพลังระดับราชาพันปี ซึ่งว่ายเข้าไปในทะเลสีดำและหายไปในส่วนลึกของทะเล
ทั้งยังมีสัตว์อสูรทะเลที่ทรงพลังเทียบได้กับผู้ฝึกตนที่มีพลังระดับหมื่นปี ก่อนเข้าสู่ทะเลสีดำ มันเหลือบมองไปที่เป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ
การมองของมันทำให้เป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ รู้สึกราวกับว่าถูกแช่แข็ง เซลล์ในร่างกายทั้งหมดส่งสัญญาณอันตรายอย่างไม่สามารถควบคุมได้
แต่ในที่สุด สัตว์อสูรทะเลที่เทียบได้กับผู้ฝึกตนที่มีระดับพลังหมื่นปีก็ไม่สนใจเป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ และหายไปในทะเลสีดำ
“ทะเลแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ไม่ว่าพวกมันจะมีพละกำลังมากแค่ไหน พวกมันก็จะเข้าสู่ทะเลสีดำเมื่อพวกมันกำลังจะตาย”
เป่ยเฟิงยืนเงียบ ๆ บนดาดฟ้าพร้อมพึมพำกับตัวเอง
ในเวลาเดียวกัน เมื่อสัตว์อสูรทะเลบางตัวไม่สามารถเข้าสู่ทะเลสีดำ เป่ยเฟิงก็ไม่ลังเลที่จะให้ความช่วยเหลือ
การกระทำนี้ใช้เวลากว่าสามวัน
หลี่ปู้และคนอื่น ๆ งุนงง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
เป่ยเฟิงไม่เพียงแต่ช่วยเหลือสัตว์อสูรทะเลที่กำลังจะตายเหล่านี้ แต่ยังตระหนักถึงวิธีการของตัวเองด้วย
เมื่อดูรูปลักษณ์ของสัตว์อสูรทะเลเหล่านี้ เป่ยเฟิงก็ยืนยันในความเชื่อของเขา !
หากเจ้าไม่อยากตายเหมือนสัตว์อสูรทะเลเหล่านี้ เจ้าต้องยืนอยู่เหนือหัวผู้อื่น !
เมื่อความแข็งแกร่งถึงจุดสูงสุด มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ยิ่งใหญ่
“ไปกันเถอะ”
เป่ยเฟิงช่วยให้ฝูงปลาสีแดงที่มีความยาวไม่เกินสองหรือสามเมตรเข้าไปในทะเลสีดำอีกครั้ง จากนั้นจึงสั่งให้หลี่ปู้ออกเรือ
หลี่ปู้พยักหน้า
สิบวันผ่านไปในพริบตา
ในช่วงสิบวันไม่มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่เป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ อยู่
ในทางตรงกันข้าม พื้นที่ทะเลนอกบริเวณนี้สามารถอธิบายได้ว่าเป็นท้องฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น
มีคลื่นขนาดใหญ่ลอยขึ้นเหนือทะเลหลายพันเมตรแทบจะเชื่อมติดกับเมฆดำบนท้องฟ้า !
ผลก็คือ ฟ้าร้องบนท้องฟ้าแต่เชื่อมโยงโดยตรงกับทะเล !
ฟ้าร้องที่รุนแรงสว่างวาบในน้ำทะเล คลื่นลูกใหญ่นี้ทรงพลังแค่ไหนกัน ?
พลังที่น่ากลัวนั้นเพียงพอที่จะสังหารสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ที่อยู่ในทะเล !
ในบางครั้ง จะมีพายุฝนฟ้าคะนองขนาดใหญ่เท่าบ้านปรากฎบนผิวน้ำทะเล จากนั้นก็มีหลุมลึกขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางหลายแสนจางปรากฏบนผิวน้ำ
ไม่อาจจินตนาการถึงความรุนแรงของมันได้เลยแม้แต่น้อย !
แม้แต่ผู้มีพลังระดับหมื่นปีชั้นสูงก็ตายได้ !
เป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ ไม่ได้เร่งรีบในช่วงสิบวันที่ผ่านมา ความเร็วของเรือพวกเขาไม่ได้เร็วนัก
“หืม ? เกาะ ?!”
เป่ยเฟิงประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อมองไปที่แนวชายฝั่งขนาดใหญ่ที่ปรากฏในระยะไกลที่ไม่สามารถเห็นจุดสิ้นสุด
“ไปดูกันเถอะ”
เป่ยเฟิงไม่เคยเห็นเกาะในทะเลสีทอง ในเวลานี้เกาะที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันก็ทำให้เป่ยเฟิงเกิดความอยากรู้อยากเห็น
เป่ยเฟิงไม่คิดว่าผืนดินเป็นจุดสิ้นสุดของทะเลสีทอง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลลงสู่ทะเลสีทอง
แม้แต่รัฐบาลก็จัดกองเรือ แต่หลังจากผ่านไปกว่า 800 ปีก็ไม่สามารถข้ามทะเลสีทองไปได้
เวลากว่า 800 ปี สำหรับราชาพันปีก็ไม่ใช่ช่วงเวลาสั้น ๆ
ว่ากันว่า หลังจากการกลับมาของกลุ่มราชาพันปี ผู้ใดกล้าที่เอ่ยคำว่า “ทะเล” ต่อหน้าพวกเขา มันจะถูกไล่ล่าจนตาย
นึกภาพออกว่าเงาที่น่าหวาดกลัวนั่นยิ่งใหญ่แค่ไหน
เป่ยเฟิงเบื่อที่จะอยู่บนเรือ ในช่วงแรกอาจรู้สึกว่าทุกอย่างตื่นเต้น แต่พอนานไปเป่ยเฟิงเริ่มคิดถึงแผ่นดินที่คุ้นเคยมากกว่า
หลี่ปู้สั่งการและเรือก็แล่นไปยังทวีปที่ห่างไกล
“ท่านหัวหน้าตระกูล เรือจอดได้แค่นี้ ไม่สามารถไปต่อได้แล้ว”
หลี่เหว่ยก้าวไปข้างหน้าและกล่าวด้วยความเคารพ
“ดี อย่างนั้นตามข้ามา”
เป่ยเฟิงพยักหน้า ทะเลที่อยู่ข้างหน้าตื้นเกินไป เรือไม่สามารถเข้าไปได้เลย และทำได้เพียงเกยตื้น
เป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ ลอยขึ้นไปในอากาศ ยืนอยู่บนที่สูง พวกเขาสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตของเกาะนี้
แม้ว่าจะมองไม่เห็นตัวเกาะทั้งหมด แต่ก็ยังเห็นภูเขาในส่วนลึก บางครั้งมีเสียงสัตว์อสูรร้ายคำราม และมีต้นไม้โบราณสูงตระหง่าน