Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 649
ระดับของสมุนไพรมีความสำคัญมาก คุณค่าของแต่ละระดับแตกต่างกันมาก !
วัตถุดิบของยาแบ่งออกเป็นเก้าระดับ ซึ่งโดยทั่วไปที่ใช้กับผู้ฝึกตนระดับร้อยปีส่วนใหญ่จะไม่มีค่าเท่าไหร่
ยาทิพย์นั้นมีค่าอย่างมาก
ยาศักดิ์สิทธิ์ก็มีค่าเช่นกัน แต่มันหาได้ยากมากในตลาด โดยปกติแล้วมันจะปรากฎในงานประมูลเป็นครั้งคราวเท่านั้น
ส่วนยานิรันดร์นั้นยิ่งน่าอัศจรรย์ มันมักจะเป็นของตระกูล และจะขายหมดทันทีที่ปรากฏในตลาด
ยากึ่งนิรันดร์อยู่ระหว่างยาศักดิ์สิทธิ์กับยานิรันดร์ มันให้ผลดีกว่ายาศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังดีน้อยกว่ายานิรันดร์
แต่มีสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่านั้น นั่นก็คือยาที่มีจิตวิญญาณ !
เป่ยเฟิงไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบมันบนเกาะนี้ !
สิ่งที่น่าวิตกกว่านั้นคือเขาบอกว่าเขาจะไม่แย่งมันมาจากกู่ฉี แต่ตอนนี้เป่ยเฟิงรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
“โอ้ะ !”
ยาทิพย์ที่มีวิญญาณ สามารถทำให้เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์และฝึกฝนได้เหมือนคนธรรมดา
สำหรับยากึ่งยาทิพย์ที่วิญญาณยังไม่ตื่นเต็มที่ แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอเท่ายาทิพย์
มันมีความนึกคิดและยังสามารถเคลื่อนไหวเพื่อหลีกเลี่ยงความชั่วร้าย
ในเวลานี้ หัวไชเท้าที่ดูคล้ายกึ่งยาทิพย์กำลังด่ากู่ฉี สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความโกรธ
“กรู๊วววววว !”
หากเป็นผู้อื่นอาจจะทะนุทะนอมกึ่งยาทิพย์แต่น่าเสียดายที่กึ่งทิพย์กำลังเผชิญหน้ากับกู่ฉี
เช่นเดียวกับแมวที่ชอบปลาเป็นชีวิตจิตใจ แล้วกระต่ายมีปัญหาในการกินหัวไชเท้าหรือ ? ไม่มีปัญหาเลย !
แทนที่จะเศร้า กู่ฉีมันกลับโกรธ !
กู่ฉีคิดว่ามันกำลังถูกยั่วโมโหด้วยอาหารของมันเอง !
เหมือนกับว่าเจ้าอยากกินปลา แต่ปลากระโดดขึ้นและให้หางปลาเจ้า แถมยังด่าเจ้า เจ้าจะทนได้ไหม ?
แม้ว่าเจ้าจะทนได้ แต่กู่ฉีจะไม่ทน !
มันใช้พลังของมันทันที !
“ก๊องงงง !”
ระฆังสีแดงปรากฏบนหัวของกู่ฉี จากนั้นมันเปิดปากกว้าง แล้วมีลำแสงออกมา ในไม่ช้ารอบตัวกู่ฉีก็เต็มไปด้วยหมอกสีเลือด
ระฆังสีแดงใบใหญ่ดังขึ้นและคลื่นเสียงโจมตีไปที่กึ่งยาทิพย์ !
คลื่นเสียงไม่ได้กระจายไปทุกทิศทาง
แต่กลับควบแน่นเป็นโซ่สีแดงเข้มที่ล่ามกึ่งยาทิพย์เอาไว้ !
“โอ้ะ !”
กึ่งยาทิพย์เป็นที่รักของสวรรค์และโลก แม้ว่ามันจะมีสติปัญญาแต่ก็ไม่ได้ตื่นอย่างเต็มที่ ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงมีความลับอีกมากมาย
และหนึ่งในนั้นคือวิธีการหลบหนี
ทันใดนั้นชั้นของหมอกโผล่ออกมาครอบคลุมร่างกายทั้งหมดของกึ่งยาทิพย์
โซ่จากระฆังสีแดงเลือดกระทบกับเมฆราวกับจมดิ่งลงไปในอากาศ
“โอ้ะ !”
กึ่งยาทิพย์รู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย จากนั้นมันก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ชั้นหมอกสีเขียวก็ปรากฏขึ้นควบแน่นกลายเป็นฝนพุ่งไปหากู่ฉี
“โอ้ะ !”
ฝนตกลงมาจากเมฆสีเขียวและหมอกซึ่งเต็มไปด้วยพิษกัดกร่อน
หากเป็นผู้ฝึกตนธรรมดา พวกเขาจะป้องกันมันและหาทางหลบหนี
แต่นั้นใช้ไม่ได้กับกู่ฉี !
“โฮ่กกกกกกก !”
กลิ่นอายของกู่ฉีพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า !
มีร่างเงาปีศาจขนาดใหญ่ปรากฎครอบคลุมร่างกายของกู่ฉี
ร่างนี้ดูเหมือนกู่ฉี แต่มันมีขนาดใหญ่กว่า 100 เท่า
กู่ฉีคำรามเหมือนฟ้าร้อง !
เงาขนาดใหญ่มองไปยังก้อนเมฆแล้วคำรามออกมา
“โอ้ะ !”
กึ่งยาทิพย์ที่ซ่อนอยู่ในก้อนเมฆรับรู่ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากเสียงคำราม
ทันใดนั้น ร่างกายที่เหมือนหยกสีขาวเริ่มถูกปลกคลุมไปด้วยรอยแตก จากนั้นของเหลวที่เหมือนน้ำนมก็ไกลออกมาจากรอยแตกนั้น
ทันทีที่มันปรากฏขึ้น กลิ่นหอมและพลังสมุนไพรก็แผ่ซ่านไปทั่วรัศมีสิบกิโลเมตร !
กึ่งยาทิพย์ตกลงมาจากเมฆและฝังตัวลงในดิน
ทันทีที่มันตกลงสู่พื้นพื้นดินก็ดูเหมือนจะกลายเป็นน้ำ และกึ่งยาทิพย์ก็จมลงและหายไป !
“กรู๊ววววววว !”
ดวงตาของกู่ฉีแสดงความหงุดหงิดกับกลิ่นและพลังของยา เท้าของมันจมลงไปที่พื้นก่อนจะกระโดดออกไป มันกระโดดไกลหลายกิโลเมตรและไปหยุดบนพื้นที่กึ่งยาทิพย์หายไป
“กรู๊ววววววว !”
กู่ฉีเริ่มคลั่ง ระฆังที่ลอยอยู่เหนือหัวของมันสั่นสะเทือนและหมุนอย่างช้า ๆ
ระฆังสีเลือดขยายใหญ่ขึ้นจนมีความสูงหมื่นเมตร และมีความกว้างมากกว่าหมื่นเมตร !
ลวดลายบนระฆังสีเลือดปรากฏอักษรที่ไม่รู้จักให้เห็น
ตัวระฆังราวกับเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงในอดีต ดูเหมือนว่ามันไม่ได้ทำให้พลังน้อยลง แต่ดูแปลกประหลาดมากขึ้น
“ก๊องงงงงง !”
เสียงระฆังดังไปไกลหลายสิบกิโลเมตร
พื้นดินด้านล่างแตก เผยให้เห็นหินขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาสูงหลายสิบเมตร
ผิวน้ำทะเลอันไกลโพ้นก็เหมือนจะระเบิด กระแสน้ำใต้ทะเลที่เกิดจากการระเบิด พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า !
น้ำทะเลลดลงสามกิโลเมตร เผยให้เห็นชายหาด
ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว โลกราวกับจมลงและทะเลก็ม้วนลงมา !
“โอ้ะ !”
กึ่งยาทิพย์ถูกเขย่าออกมาจากใต้พื้นดินที่แตกหัก ดูน่าสังเวชอย่างมาก
แต่กู่ฉีไม่สนใจ มันเป็นธรรมชาติของมันเช่นแมวกินปลา หมาป่ากินเนื้อ
กู่ฉีคว้ากึ่งยาทิพย์ในอากาศ
“โฮกกกกกกกก !”
แรงกดดันทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรวดเร็ว
ในพริบตามันก็มาถึง
กู่ฉีใช้พลังฉีและเลือดเพื่อจับตัวกึ่งยาทิพย์ไว้
“โฮกกก มอบกึ่งยาทิพย์มาซะ ไม่งั้นแกตาย !”
เสือหลากสีที่มีความสูงมากกว่า 20 เมตร มีปีกสีขาวราวกับหิมะคู่หนึ่งลอยอยู่บนหลังปีกของมันกระพือปีกช้าๆ
อีกฟากหนึ่งคือสิ่งมีชีวิตที่ยาวหลายร้อยเมตรและดูเหมือนงู
สิ่งมีชีวิตนี้ดูน่าขัน ปลายแขนขาเหมือนหอกสงครามและขอบกระดองมีความคมมาก
ตัวหนึ่งมาจากบกและอีกตัวโผล่ขึ้นมาจากทะเล
แรงกดดันทั้งสองตัวเหนือกว่ากู่ฉี พวกมันมีพลังระดับราชาพันปีขั้นสูงสุด !
สัตว์อสูรทั้งสองนี้ถูกดึงดูดโดยกลิ่นยาที่ปล่อยออกมาจากยากึ่งนิรันดร์ ในเวลานี้สัตว์อสูรทั้งสองมีเป้าหมายเดียวกันคือกู่ฉี
“กรู๊วววววววว !”
กู่ฉีไม่มีความกลัว มันยืนอยู่กลางอากาศและมองไปที่สัตว์อสูรทั้งสองอย่างเย็นชาไม่ไหวติง
“จะหนีหรือตายอยู่ที่นี่ !”
เป่ยเฟิงก้าวไปข้างหน้า ยืนอยู่ในอากาศ เลือดจำนวนมหาศาลพุ่งขึ้นปกคลุมท้องฟ้าโดยรอบเป็นระยะทางสิบลี้ !
แรงกดดันอันยิ่งใหญ่ปรากฏออกมาจากร่างของเป่ยเฟิง
ชายหาดบนพื้นแตก เผยให้เห็นก้อนหินใต้ทราย
น้ำเสียงเย็นยะเยือกทำให้อุณหภูมิโดยรอบลดลงเล็กน้อย
สัตว์อสูรทั้งสองสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของเป่ยเฟิง
พลังฉีและเลือดที่แข็งแกร่งได้ยับยั้งพลังของพวกมันเอาไว้ !
“โฮกกก ! ร่วมมือกันฆ่าเจ้านั่น ไม่งั้นพวกเราแย่แน่ !”
มันเป็นเพียงชั่วขณะที่สัตว์อสูรทั้งสองที่กำลังจะลงมือฆ่า แต่กลับชะงักภายใต้แรงกดดันของเป่ยเฟิง
การร่วมมือไม่ใช่เรื่องดี แต่ถ้าศัตรูแข็งแกร่งกว่า มันจะดีหากร่วมมือ
ความปรารถนาของสัตว์อสูรต่อยาต่าง ๆ นั้นสูงกว่ามนุษย์อย่างมาก !
เนื่องจากการฝึกฝนเหล่าสัตว์อสูรนั้นเชื่องช้า เวลาที่ต้องใช้ในแต่ละระดับจึงเป็นร้อยปี !
แต่ยาเหล่านี้สามารถช่วยย่นเวลาได้มาก
ตอนนี้กึ่งยาทิพย์ปรากฏต่อหน้าต่อตา ตราบใดที่ไม่ใช่ราชาหมื่นปี สัตว์ประหลาดทั้งสองจะแย่งมาให้ได้ !
“กรู๊ววววววว !”
ความสุขของกู่ฉีที่จับหัวไชเท้าได้หายไป
“เอาล่ะ เสือตัวนี้เป็นเหยื่อของแก”
เป่ยเฟิงพยักหน้า เนื่องจากกู่ฉีต้องการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวนี้ เป่ยเฟิงจึงไม่ห้าม
เป่ยเฟิงรู้ดีว่านี่คือสีหน้าโกรธของกู่ฉี กู่ฉีดูเหมือนจะใจร้ายและไร้หัวใจ แต่ความภาคภูมิใจในหัวใจของมันแข็งแกร่งกว่าใคร !
การที่สัตว์อสูรสองตัวนี้ไม่สนใจกู่ฉี มันได้ทำร้ายความภาคภูมิใจของกู่ฉี !
หากไม่ได้เป็นเพราะความแข็งแกร่งที่จำกัดของกู่ฉี เป่ยเฟิงไม่สงสัยเลยว่ากู่ฉีมันจะเปิดฉากเริ่มก่อนแน่นอน
เป่ยเฟิงอยากรู้ว่าตอนนี้พลังของกู่ฉีอยู่ระดับไหน
แต่เป่ยเฟิงรู้ดีว่าครั้งสุดท้ายที่กู่ฉีได้เลื่อนระดับ มันได้ทำลายพลังวิญญาณอื่น ๆ และเอาทั้งหมดหลอมรวมเข้ากับระฆังสีแดง
เป่ยเฟิงไม่ได้เห็นกู่ฉีต่อสู้มาสักพักแล้ว เขาคิดว่ามันคงไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด
เนื่องจากกู่ฉีต้องการต่อสู้เพียงลำพังกับสัตว์อสูรคล้ายเสือตัวนี้ กู่ฉีจึงไม่ต้องการความช่วยเหลือ
จริง ๆ แล้วสัตว์อสูรทั้งสองนี้ไม่ได้อ่อนแอ โดยเฉพาะสัตว์อสูรอีกตัวที่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเสือที่มีปีก !
“มันเป็นสัตว์อสูรอะไรกัน ? มันเทียบได้กับราชาพันปีระดับสูงสุดที่มีเส้นเลือดและเลือดที่หลอมรวมในตัวมนุษย์มากกว่า 80% หรือว่า สัตว์อสูรตัวนี้ล้มเหลวในการก้าวข้ามพลังระดับราชาหมื่นปี !”
เป่ยเฟิงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
หลี่ปู้และคนอื่น ๆ อ่อนแอเกินไปที่จะแก้ปัญหานี้ พวกเขาอ่อนแอเกินไปจนสามารถถูกบดขยี้ได้ง่าย ๆ
ต่อให้เป็นราชาพันปีขั้นสูงสุดก็เคลื่อนไหวได้ไม่กี่ครั้งเท่านั้น
เป่ยเฟิงอยากสู้กับมันเพื่อที่จะพัฒนาตัวเอง
น่าเสียดายที่สัตว์อสูรตัวนี้อ่อนแอกว่าเขาเล็กน้อย แม้ว่าจะเปรียบได้กับอัจฉริยะในหมู่มนุษย์ แต่มันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา !
พลังของเขาไม่เพียงแต่มาจากการหลอมรวมที่สมบูรณ์แบบของเส้นเลือดสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ยังมาจากเลือดสีทอง 40 เปอร์เซ็นต์ในร่างกายของเขาเองด้วย ! นอกจากนี้ยังมีเส้นเลือดถึงสองในสิบที่ถูกเปิดออก !
กล่าวได้ว่านอกเหนือจากวิชาต่อสู้ แม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนที่มีเลือดเท่าเขา ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา !