Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1028
บทที่ 1028 ไม่ว่าจะแก้ต่างอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น
ถอดเสื้อผ้า……ถ่ายรูป……
คำไม่กี่คำนี้เชื่อมกันในหัวสมองของเห้อเสียง ชี้ให้เห็นความเป็นไปได้ที่น่ากลัวมากอยู่รางๆ
เห้อเสียงก้มศีรษะลง
แต่ผ่านไปสักพักหนึ่ง ฉินซึ่งเทียนก็ถอดเสื้อของตัวเองออกจนหมดจด และเหยาหมิ่นก็ล่อนจ้อนแล้ว
เห้อเสียงไม่กล้าเงยศีรษะขึ้นมอง ทำได้แค่ถามขึ้น “นายอยากถ่ายรูปอะไรกันแน่……”
สีหน้าฉินซึ่งเทียนสงบกว่าเขามาก “นายเปิดโหมดกล้องถ่ายรูป เดินเข้ามาจากทางประตู ถ่ายมาตลอดทางก็พอ เดินให้เร็วหน่อย มือสั่นนิดๆ ก็ได้ ถ่ายเธอเข้าไปให้หมด ไม่ต้องถ่ายเห็นหน้าฉัน”
พอฉินซึ่งเทียนพูดจบ เห้อเสียงก็เข้าใจทั้งหมดว่าเขาต้องทำอะไร
……เขาต้องใช้วิธีนี้ ทำให้เหยาหมิ่นชื่อเสียงป่นปี้โดยสมบูรณ์ โดนกล่าวหาว่ามีชู้ จะได้ทำให้ฉินซึ่งเทียนหย่ากับเธอได้อย่างราบรื่น
“นายทำแบบนี้……” เห้อเสียงเอ่ยปากขึ้นมาอย่างยากที่จะเข้าใจ “เธอเป็นภรรยานายนะ……”
ฉินซึ่งเทียนหัวเราะ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรังเกียจ “ภรรยา……ภรรยาก็เหมือนเสื้อผ้า เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนหรือทิ้ง มีคนเสียดายเสื้อผ้าหนึ่งตัวด้วยเหรอ?”
เห้อเสียงพูดไม่ออก แค่ถือโทรศัพท์แล้วก้มศีรษะลง
ฉินซึ่งเทียนค่อนข้างรำคาญนิดหน่อย “ตอนปลอบฉัน บอกว่าจะมีวิธี ตอนนี้ทำได้แล้วคิดจะถอยเหรอ? เห้อเสียง ตอนนี้เราทำความผิดด้วยกัน นายคิดว่านายไม่ถ่าย มันจะไม่เป็นอะไรงั้นเหรอ?”
เห้อเสียงตัวสั่น สุดท้ายก็ค่อยๆ เงยศีรษะขึ้นมองฉินซึ่งเทียน
เขาพูดถูก
ตัวเองตั้งแต่เริ่มวางยานอนหลับ ก็กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดโดยสมบูรณ์แล้ว
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เมื่อครู่นี้ฉินซึ่งเทียนตั้งใจให้เขาเดินนำหน้าตลอด ถ้ามีคนดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็ต้องคิดแน่ๆ ว่าเขาเป็นคนชี้แนะฉินซึ่งเทียนมา
เหมือนเขาเป็นผู้บงการเรื่องทั้งหมดนี้
ตอนนี้ใจอ่อน มันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว
ฉินซึ่งเทียนเห็นท่าทางเขาหวั่นไหว พูดขึ้นอีกครั้ง “นายก็แค่ถ่าย ถ่ายเสร็จแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นนาย ฉันจะจัดการสิ่งเหล่านี้ให้ดี ไม่ให้นายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ถ้านายคิดจะหนีตอนนี้……”
เขาไม่ได้พูดจบ แต่เห้อเสียงก็รู้อย่างชัดเจนว่าเขาหมายถึงอะไร
ถ้าตอนนี้ตัวเองออกไป หลักฐานในมือฉินซึ่งเทียน มันก็มากพอที่จะทำลายเขา
ตอนนี้เขาโดนบังคับให้ผูกติดกับฉินซึ่งเทียน ต้องการการช่วยเหลือจากฉินซึ่งเทียน
คิดถึงตรงนี้ เห้อเสียงก็สูดหายใจเข้าลึกๆ สุดท้ายก็เงยศีรษะขึ้นมาอย่างเต็มที่ “อย่าลืมสิ่งที่นายพูดล่ะ ฉินซึ่งเทียน”
ฉินซึ่งเทียนยิ้ม “แน่นอน”
……
พูดถึงตรงนี้ เรื่องราวมันก็ชัดเจนอย่างมากแล้ว
อย่าว่าแต่ฉินซี แม้แต่จ้าวจิ้งก็รู้สึกว่ามันลวงโลก
ฉินซีมองเห้อเสียง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรบ้างไปชั่วขณะหนึ่ง
เธอตามหามานานมาก อยากตามหาร่องรอยการมีอยู่ของ “ชู้” นั้น สิ่งนี้ถือเป็นความคืบหน้า แต่หนึ่งปีเต็ม กลับไม่ประสบความสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่า
เธอมีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเอง แต่ไม่คิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง
ไม่มีชู้อะไรนั่นเลย
ภาพเหล่านั้นที่เผยแพร่ออกมา ชายที่นอนเปลือยอยู่บนเตียงกับเหยาหมิ่น ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นฉินซึ่งเทียนจริงๆ
กลเม็ดคนเลวแบบนี้ ไม่มีใครเก่งเท่าฉินซึ่งเทียนแล้ว
เขาเปิดโปงข่าวที่เหยาหมิ่นมีชู้ด้วยตัวเอง โดยธรรมชาติคงไม่มีใครสงสัยว่าข่าวนี้จริงหรือเท็จ เมื่อทุกคนบนโลกไปตามหา “ชู้” คนนี้แต่กลับหาไม่เจอ ก็ไม่มีใครไปสงสัยว่าคนข้างบนคือฉินซึ่งเทียนเอง
นอกจากนี้รูปภาพเหล่านั้นยังเน้นไปที่ใบหน้าของเหยาหมิ่น คนข้างๆ เผยแค่หน้าอกนิดเดียวเท่านั้น ไม่ว่าคนที่คุ้นเคยกับเขาแค่ไหน ก็ไม่สามารถจำเขาได้ด้วยวิธีนี้
ไม่มีอยู่จริงบนโลก แต่อยู่ในใจคนอื่นตลอดไป “ชู้รัก” ของเหยาหมิ่นก็คือเขาเอง
นี่มันละครไร้สาระชั้นสูง
ถ้าไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเหยาหมิ่น ฉินซีแทบจะต้องยกย่องว่าฉินซึ่งเทียนผู้มีหัวใจบิดเบี้ยวนี้คืออัจฉริยะจริงๆ
ฉินซีไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองทำหน้าแบบไหน แต่ดูจากความกังวลบนใบหน้าจ้าวจิ้งแล้ว มันอาจจะบิดเบี้ยวน่าเกลียดที่เธอไม่สามารถควบคุมได้
จ้าวจิ้งเห็นสีหน้าเธอผิดปกติจริงๆ หันข้างไปถามเสียงทุ้มต่ำ “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ฉินซีผลุบตาลง ส่ายศีรษะ “ฉันไม่เป็นไร เธอถามต่อเถอะ”
จ้าวจิ้งช่วยไม่ได้ เวลาเยี่ยมมีจำกัด ถึงจะเป็นห่วงฉินซีแค่ไหน ก็ทำได้แค่ค่อยออกไปถาม ดังนั้นจึงทำได้แค่ลูบไหล่เธออย่างปลอบโยน แล้วหันศีรษะไปจ้องมองเห้อเสียง “คุณก็เลยทำตามคำแนะนำของฉินซึ่งเทียน ถ่ายวิดีโอใช่ไหม?”
เห้อเสียงพยักหน้า “ใช่ มันให้ฉันวิ่งเข้ามาจากประตูทางเข้า เข้าไปถ่ายใบหน้าเหยาหมิ่นใกล้ๆ ตอนแรกฉันถ่ายไม่ถนัด มันก็ให้ฉันถ่ายหลายรอบ จนสุดท้ายพอใจแล้วถึงหยุดทำ”
“จากนั้นล่ะ? ” จ้าวจิ้งขมวดคิ้วถามขึ้น
เห้อเสียงยักไหล่ “จากนั้นมันก็ลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้า ใส่เสื้อผ้าให้เหยาหมิ่น แล้วออกไปจากห้องนั้นพร้อมกับฉัน”
“หลังจากที่พวกคุณไปแล้ว ก็เหลือแค่เหยาหมิ่นคนเดียว ใช่ไหม? ” จ้าวจิ้งพูดซ้ำ
เห้อเสียงพยักหน้า “แน่นอน ตอนนั้นเรามีทั้งหมดสามคน ออกไปแล้วสองคน ก็ต้องเหลือเธอคนเดียว”
ฉินซีเงียบ
นี่มันเหมือนสิ่งที่เหยาหมิ่นเหล่าให้เธอฟังตอนนั้นเลย
หลับไปในล็อบบี้ที่โรงแรมอย่างลึกลับ ตื่นมาอยู่คนเดียวในห้อง
เธอไม่มีโอกาสได้รู้ ภายในไม่กี่ชั่วโมงที่เธอหลับไป ฉินซึ่งเทียนได้ทำเรื่องเลวร้ายมากมาย
“หลังจากที่พวกคุณออกไปแล้ว ก็แยกทางทันทีเหรอ? ” จ้าวจิ้งยังคงถามขึ้น
เห้อเสียงส่ายศีรษะ “พวกเราไปที่ห้องทำงานของฉัน”
……
ช่วยถ่ายวิดีโอเสร็จ เห้อเสียงรู้สึกไร้ทางเลือกต้องยอมรับชะตากรรม เผชิญหน้ากับฉินซึ่งเทียนก็ไม่รู้สึกประหม่าอีกแล้ว
ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้อง เขาก็ถามขึ้นก่อน “นายจะไปไหน?”
ไม่คิดว่าฉินซึ่งเทียนจะยิ้ม “ไปนั่งที่ห้องทำงานนายสักหน่อย”
สีหน้าท่าทางของเห้อเสียงระแวดระวังขึ้นมาอีกครั้ง “นายจะทำอะไรอีก?”
ฉินซึ่งเทียนยิ้ม โบกมือให้เหล่าบอดี้การ์ดออกไป “แค่เพื่อนคุยกัน ไม่ต้องประหม่า”
แค่ความเชื่อใจของเห้อเสียงที่มีต่อเขามันหายไปหมดแล้ว แต่เห้อเสียงรู้ว่าถ้าตัวเองปฏิเสธฉินซึ่งเทียน เขาก็จะหาข้ออ้างอื่นเพื่อบรรลุเป้าหมายตัวเอง เลยไม่อยากเสียเวลาอีก พาเขากลับไปที่ห้องทำงาน
ทั้งคู่นั่งลง เห้อเสียงก็ไม่เกรงใจแล้ว ไม่ให้แม้แต่ชาสักแก้ว ถามขึ้นโครมๆ “ฉินซึ่งเทียน นายวางแผนให้ฉันมาด้วยตั้งแต่แรกใช่ไหม?”
สีหน้าท่าทางฉินซึ่งเทียนกลับสงบนิ่งมาก เขาเงยศีรษะขึ้นมองเห้อเสียง “ใช่ เดิมทีฉันรู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนกัน เรื่องเล็กๆ แค่นี้ นายคงไม่น่าจะปฏิเสธฉัน”
เห้อเสียงกัดฟันกรอด “เรื่องเล็กๆ เหรอ? ถ้าเรื่องนี้มันถูกเปิดเผย ไม่ว่าฉันจะแก้ต่างยังไงก็ฟังไม่ขึ้น!”
ฉินซึ่งเทียนหัวเราะเบาๆ “เห้อเสียง ทำไมนายยังไม่เข้าใจอีกล่ะ? ตอนที่นายตกลงจะช่วยฉันวางยา นายก็กำจัดอาชญากรรมของตัวเองไม่ได้แล้ว นอกจากฉัน จะมีใครสามารถพูดได้อย่างชัดเจนว่านายทำอะไรในห้องของโรงแรม? นายใส่อะไรลงไปในน้ำของเหยาหมิ่น?