Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1065
บทที่ 1065 ถูกรักกลับไม่รู้ตัว
“แต่ว่าสิ่งที่พลิกผันสุดๆ หลังจากแต่งงานกันแล้ว?” ลู่เซิ่นเอ่ยปากถาม
ฉินซีพยักหน้า:”ใช่แล้ว”
หากนับดูจริงๆ ทั้งคู่แต่งงานกันแค่ไม่กี่เดือน แต่ว่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ มากพอที่จะทำให้ชั่วชีวิตของเธอจดจำไปอย่างไม่มีวันลืม
ฉินซีเงยหน้าขึ้นมาจ้องตากับลู่เซิ่น มองเห็นความอ่อนโยนที่เปล่งประกายในสายตาของเขา ชั่วขณะหนึ่งลืมไปเลยว่าทีแรกตัวเองต้องการจะพูดอะไร
ทั้งคู่เหมือนกับแม่เหล็ก เข้าใกล้ซึ่งกันและกันอย่างควบคุมไม่ได้
ริมฝีปากติดกัน ลมหายใจหลอมละลายเป็นหนึ่งเดียวกัน การจูบแบบนี้ไม่ได้มีความใคร่ใดๆร่วมด้วย แต่ทั้งคู่กลับนัวเนียมากกว่าการพัวพันเมื่อในอดีต
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ทั้งคู่ถึงค่อยๆห่างกันไป
ใบหูของฉินซีแดงมาก เธอก้มหน้าก้มตา เปลี่ยนเรื่องทันที:” แต่ว่าคุณมองฉันที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ไม่รู้สึกหรือว่า……น่าเบื่อหน่าย?”
“เบื่อหน่าย?” ลู่เซิ่นไม่เข้าใจ “ทำไมผมต้องเบื่อหน่ายด้วยหล่ะ?”
ฉินซีต้องการแสดงตัวตนออกมาให้ชัดเจนอย่างเสียแรง:” ยังไงซะที่คุณพบเจอฉันในอดีตคนนั้น และฉันที่คุณคบหาในเวลาต่อมา แทบจะเป็นคนละคน คุณไม่เสียใจบ้างเลยหรือ ที่ให้ฉันอยู่ข้างๆคุณ?”
รอยยิ้มของลู่เซิ่นอ่อนโยนมาก:” ไม่นะ เพราะผมรู้ว่า คุณก็แค่ปิดกั้นตัวเองเท่านั้น คุณคนนั้นที่ถูกคุณซ่อนเอาไว้ ต้องมีลักษณะนิสัยที่พิเศษทำให้ผมหวั่นไหวแน่นอน ที่ผมจะทำ ก็คือรอให้คุณค่อยๆเปิดใจตัวเองและทำให้คุณคนนั้นที่ถูกซ่อนเอาไว้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง”
ฉินซียักคิ้ว:” คุณมั่นใจขนาดนี้เชียว?”
ลู่เซิ่นพยักหน้า:” ผมแน่ใจและมั่นใจมาก”
ชั่วขณะหนึ่งฉินซีไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี ทำได้แต่ จับมือของลู่เซิ่นให้แน่นมากขึ้นอีกนิดนึง
ตอนที่เธอตกต่ำสุดๆ เป็นลู่เซิ่นที่อยู่ข้างๆเธอ และช่วยเธอกลับมา
ตอนที่เธอคิดว่าตัวเองไม่สามารถเดินออกมาจากความมืดไปตลอดกาล แต่ลู่เซิ่นกลับมั่นใจกว่าเธอเสียอีก เธอต้องลุกขึ้นมาต่อสู้อีกครั้งแน่นอน
ที่แท้ข้างกายเธอ มีคนแบบนี้อยู่ และรอคอยเธอมาโดยตลอดอีกด้วย
ส่วนเธอผ่านมาจนถึงป่านนี้ ถึงจะเข้าใจ
“คุณดูคุณตอนนี้สิ ค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นเหมือนเดิมแล้วไม่ใช่หรอ?” ลู่เซิ่นรู้สึกถึงแรงซึ่งอยู่ที่ปลายเล็บของเธอ ยิ้มแย้ม “เริ่มคบเพื่อนใหม่ๆ เริ่มจำได้แล้วว่ายิ้มแย้มยังไง และเริ่มหัดเปิดเผยกับตัวเอง ซึ่งไม่ใช่ซ่อนเร้นเอาไว้”
ฉินซีมองตาเขา และพยักหน้า
การเปลี่ยนแปลงของตัวเธอเอง สามารถรู้สึกได้ด้วยตัวเองเช่นกัน
“ในนี้…… มีเครดิตของคุณอยู่นะ” ฉินซีซาบซึ้งใจ” ถ้าหากไม่มีคุณคอยสนับสนุนฉัน และช่วยฉัน ฉันจะเดินมาจนถึงขั้นนี้ เป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญมาก”
ลู่เซิ่นยิ้มแย้ม:” ไม่มีผม คุณก็ทำได้อยู่แล้ว ผมแค่รอไม่ไหว เพราะฉะนั้นจึงเร่งความเร็วให้ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วอีกหน่อยก็แค่นั้นเอง”
ฉินซียกคิ้วขึ้นมา:”เร่งความเร็ว? ”
ลู่เซิ่นวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน:” คุณดูสิ เอาตัวอย่างที่ผ่านมาในหลายวันนี้มาพูด คุณเอาหลักฐานที่ปลอมแปลงงบการเงินของบริษัทฉิน เพื่อจู่โจมฉินซึ่งเทียน ผมกับพ่อผมก็แค่เร่งความเร็วให้เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วอีกนิดแค่นั้นเอง คุณเกือบถูกลักพาตัวไป และคิดหาวิธีเอาตัวรอดได้เยี่ยมเลยทีเดียว ผมแค่ให้ทุกคนรู้กันหมด ความคิดของคุณเท่านั้นเอง ฉินซี คุณทำดีที่สุดแล้ว ต่อให้ไม่ต้องการคนอื่น คุณก็สามารถทำทุกอย่างในสิ่งที่คุณต้องการ”
ฉินซีมองหน้าลู่เซิ่นอย่างอึ้งกิมกี่
สีหน้าท่าทางที่มั่นใจของเขา และน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้เป็นคนที่เรื่องมากและจุกจิกมาได้ยิน แป๊บเดียวก็เข้าใจแล้ว คำพูดเหล่านี้ที่ลู่เซิ่นพูดออกมา ออกมาจากใจจริงๆ
” ฉัน……ฉินซีอยากพูด” ตัวเองนั้นไม่ได้ดีอย่างที่ลู่เซิ่นคิดขนาดนั้น
แต่ว่าคำพูดมาถึงปากแล้ว กลับถูกลู่เซิ่นยัดเข้าไปซะงั้น
“เพียงแต่ว่า” ฉินซี ผมรู้ว่าคุณสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง แต่ผมแค่รู้สึกว่า คุณทำได้มั้ย พึ่งพาผมให้มากขึ้นอีกนิดนึง?” ลู่เซิ่นพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ฉินซีมีความสงสัย:” ฉันคิดว่า……. ฉันพึ่งพาคุณมากพอแล้วนะ เงินที่แม่ฉันติดค้างคุณเป็นคนชดใช้ ธุรกิจของบริษัทฉินคุณเป็นคนทำให้เสียแผนการ ความคิดเห็นออกจากบ้านตระกูลฉินก็เป็นคุณเสนอให้กับฉันเอง ฉันรู้สึกว่าฉันพึ่งพาคุณมาโดยตลอด”
ลู่เซิ่นกลับยิ้มแย้ม:”คุณไม่ได้พึ่งพา แค่ยืมแรงของผมเท่านั้นเอง”
เห็นว่าฉินซีจะโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ ลู่เซิ่นเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า:” เอาหล่ะ คืนนี้ไม่ได้จะมาคิดบัญชีกันนะ ข้อตกลงระหว่างเราก็มากพอแล้ว คิดจริงจังขนาดนั้น จะมีประโยชน์อะไร?”
ฉินซีถูกวิธีการพูดของเขาจนทำให้ยิ้มแย้มออกมา และหุบปากไปซะทีเดียว
ลู่เซิ่นหันหน้าไปดูเวลา กลับพบว่าถึงเช้าตรู่แล้ว รอยยิ้มที่หน้าก็จางหายไปเล็กน้อย:” คุณเพิ่งออกจากโรงพยาบาล คุณหมอพูดว่าคุณต้องพักผ่อนให้มากๆ ถ้าไม่ใช่คุณยืนกราน ผมอาจจะหาเวลาที่เพียงพอ ค่อยบอกกับคุณเรื่องเหล่านี้”
ฉินซีกลับส่ายหน้าอย่างยิ้มแย้ม:” แต่ว่าวันนี้ฉันได้ยินเรื่องราวมากมายก่ายกองขนาดนี้ ฉันดีใจมากเลยทีเดียว”
ความสงสัยที่ผ่านมาในตลอดเวลาได้คลี่คลายลงไปแล้ว
ที่แท้ที่เธอไม่สบายใจมาโดยตลอด และไม่เข้าใจว่าทำไมลู่เซิ่นถึงดีกับตัวเองมากขนาดนี้ และไม่รู้ว่าเขาชอบเรือนร่างของตัวเอง หรืออย่างอื่นกันแน่
ความไม่สบายใจแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่มีความปลอดภัย รู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่ารีสอร์ทชิงหยวนไม่ใช่บ้านของเธอ
ข้อตกลงของทั้งคู่ขาดช่วงไปปุ๊บ เธอก็จะถูกไล่ออกจากบ้านทันที
ส่วนผู้ถือข้อตกลงหลักๆ อยู่ในกำมือของลู่เซิ่น
ฐานะของทั้งคู่ไม่ได้เท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้สือสารกันดีๆ
แต่ว่าวันนี้พูดทุกอย่างให้ชัดเจนแล้ว เธอถึงได้พบว่า ที่แท้ฐานะของเธอกับลู่เซิ่นเท่าเทียมกันมาโดยตลอด
เขารักกลับไม่ได้รับ ส่วนตัวเองถูกรักกลับไม่รู้ตัว
ทั้งสองคนเป็นคนโง่จริงๆ
ลู่เซิ่นยื่นมือไปจับหัวของเธอ และประทับตรารอยจูบ:” ดีใจก็ดีแล้ว นอนเถอะ”
ฉินซีเหนื่อยแล้ว ปิดตาปุ๊บ ก็รู้สึกว่าสะลึมสะลือ
ระหว่างสะลึมสะลืออยู่นั้น เธอรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองยังมีหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ถามให้ชัดเจน
อย่างเช่นทำไมเขาต้องหย่าร้างกับตัวเอง และอย่างเช่นเขาพูดกับอานหยันว่าไม่ได้หย่าร้างกันซึ่งมันหมายความว่าไง
แต่ว่าในสมองอีกส่วนมีเสียงปลอบใจดังขึ้นมา:” วันข้างหน้ามีโอกาสอีกตั้งมากมาย ค่อยๆพูดก็ได้”
ฉินซีก็เลยไม่ขัดขืนกับความง่วงของตัวเอง หลับไปอย่างเชื่อฟัง
……….
แต่ว่าตอนที่ฉินซีลืมตาขึ้นมาในวันที่สอง บนเตียงเหลือแค่เธอคนเดียวเท่านั้นแล้ว
เธอลุกขึ้นมานั่ง และมองดูรอบๆ พบว่าบนหัวเตียงตัวเองมีกระดาษแปะไว้หนึ่งแผ่น
ดูปุ๊บก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นลายมือของลู่เซิ่น
“เมืองหนานเฉิงทางโน้นมีธุระ ต้องกลับไปด่วน คุณรักษาตัวดีๆที่บ้าน ไปหาหมอตรงตามเวลา และอย่าลืมโทรหาผมทุกวัน——ลู่เซิ่น”
ฉินซีดูกระดาษ มุมปากอดที่จะยกขึ้นมาไม่ได้ เปิดลิ้นชักออกมา และเก็บกระดาษให้เรียบร้อย
แต่ว่าตอนที่ลงไปทานอาหารที่ข้างล่างตึก เธอถึงได้รู้ว่า”เมืองหนานเฉิงมีธุระต้องกลับไปด่วน”เรื่องอะไรกันแน่
พ่อบ้านช่วยเธอหั่นไข่ดาวไปด้วย และบ่นๆไปด้วยว่า:” ประธานลู่ออกไปเมื่อคืนกลางดึก คนขับรถส่งไปที่สนามบินโดยตรง ทีแรกวางแผนว่าจะไปหนึ่งเดือนเต็ม เขากลับมาอย่างกะทันหันแบบนี้ เรื่องหลายอย่างล้วนเป็นผู้ช่วยคอยจับตามองอยู่ทางโน้น หากไม่ไหวจริงๆ ก็วีดีโอคลอเรื่องงาน”
พ่อบ้านพูดแบบนี้ปุ๊บ ฉินซีถึงได้รู้ว่า ลู่เซิ่นกลับมาครั้งนี้ ข้างกายไม่มีร่างเงาของหลินหยังจริงๆด้วย
ที่แท้ก็คือ…… ถูกทิ้งไว้ที่เมืองหนานเฉิงเพื่อจัดการธุระ