Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1219
บทที่ 1219 เขาเป็นตัวอะไร
คนที่ถ่ายคลิป ฟังเสียงแล้ว เป็นผู้ชาย
ลู่เซิ่นแทบไม่ต้องเดา คนนั้นคือ จ้านเซินแน่นอน
เมื่อนึกถึงจุดนี้ ลู่เซิ่นรู้สึกว่าความโกรธที่ควบคุมไม่ได้ปะทุขึ้นในใจ
เขาอยู่ที่นี่คิดถึงฉินซีแทบขาดใจ เพราะฉินซีเขาไม่กล้าทำอะไรมาก แต่ผู้ชายคนนั้นมายืนอยู่ต่อหน้าฉินซีง่ายๆ อยู่ตรงหน้าเธอ มองเห็นเธอ พูดกับเธอ กระทั่งสัมผัสเธอ…
ลู่เซิ่นหลับตา ห้ามตัวเองไม่ให้คิดต่อไป
รอจนอารมณ์กลับมาปกติแล้ว เขาค่อยกดเปิดคลิปอีกครั้ง
รอจนคลิปเล่นจบ เขาก็กดให้คลิปเล่นอีกครั้ง
คลิปสั้นๆ ไม่ถึงหนึ่งนาที เขาดูไปเกือบชั่วโมง
จนสุดท้าย เขาจดจำทุกคำพูดของฉินซีได้ทุกคำไม่ผิดเพี้ยน
คิ้วของเขายังคงขมวดแน่นเหมือนผูกโบว์
เพราะเขาเข้าใจเจตนาของถังย่าที่ส่งคลิปนี้ให้เขาแล้ว
ในคลิป จ้านเซินถามฉินซีอยากจะออกทะเลไหม ฉินซีปฏิเสธจ้านเซินก็พูดว่าอยากไปเมื่อไหร่ให้ไปหาเขาได้ตลอด ฉินซีรับคำ
นี่หมายความว่าอย่างไรกันนะ
คำตอบชัดเจนมากกว่าไปนี้ไม่มีแล้ว
ฉินซีมีอิสระ
อย่างน้อยเธอเลือกได้ว่าจะทำอะไร
ลู่เซิ่นรู้แล้วว่าพวกเขาอยู่ที่เกาะห่างไกลแห่งหนึ่ง ถ้าหากต้องการออกจากเกาะนั้น ถ้าหากต้องการออกจากเกาะ ต้องนั่งเรือเท่านั้น
ฉินซีสามารถเลือกได้
เธอเลือกไม่ออกไปได้ และอยากออกจากเกาะเมื่อไรก็ไปหาจ้านเซินได้
ลู่เซิ่นรู้สึกว่าภาพตรงหน้าพร่ามัว มือกำหมัดโดยไม่รู้สึกตัว
ถ้าหากฉินซีมีอิสระ อย่างนั้นที่เขาเป็นห่วงกังวลและทุ่มเทตลอดสามเดือนที่ผ่านมา เขาเป็นตัวอะไร
เธอเหมือนกันกับถังย่าหรือไม่ มองดูเขาถูกองค์กรปั่นหัวอย่างไม่แยแส หรือถึงขั้นรวมหัวกับถังย่าเยาะเย้ยเขากันนะ
เมื่อลู่เซิ่นคิดถึงตรงนี้ ขนาดหายใจยังลำบาก
เขาโยนมือถือไปทางหนึ่ง ดื่มน้ำอึกใหญ่ สูดลมหายใจลึกหลายครั้ง ค่อยฝืนสงบสติอารมณ์ได้
ใจเย็น เขาพูดกับตัวเอง
อย่าลืมถังย่าเป็นคนส่งคลิปนี้มา
ถ้าหากเขาเกรี้ยวกราด ก็จะเข้าทางเธอ
เธออยากจะบอกเขาไม่ใช่หรือ ตอนนี้ฉินซีเป็นอิสระ แต่ไม่กลับมาหาเขา
ลู่เซิ่นก้มมองปฏิทินที่วางบนโต๊ะทำงาน เม้มปาก
เขาวงวันที่ของวันนี้ไว้
ไม่ใช่เพียงเพราะวันนี้เป็นวันที่ฉินซีหายตัวไปสามเดือนเต็ม ยังเป็นเพราะ…เขาเคยสัญญากับหลินยี่
ถ้าหากสามเดือนแล้วยังคงไร้เงาของฉินซี เขาจะเชื่อคำแนะนำของหลินยี่ ปล่อยข่าวเรื่องที่เขาจะแต่งงานกับเวินจิ้ง
พิจารณาทุกอย่างในตอนนี้ เขาควรจะทำเช่นนี้จริงๆ
เขาไม่มีทางยอมปล่อยฉินซีไปง่ายๆ
ดังนั้น ถึงแม้ฉินซีจะเป็นอิสระ เขาใช้วิธีนิดหน่อย ล่อให้เธอปรากฏตัว ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไร้ศีลธรรมอะไร
ในเมื่อเธอ…หายตัวไปสามเดือนแล้ว
ลู่เซิ่นหลับตา ตัดสินใจแน่วแน่
……
ด้านฉินซี ไม่ระแคะระคายตอนนี้ลู่เซิ่นตัดสินใจทำอะไร
เธอนอนบนเตียง จ้องมองฝ้าเพดาน ในใจคำนวณเวลา
สามเดือนแล้ว
เธอครุ่นคิดในใจ
เธอมาอยู่ที่นี่ครบสามเดือนเต็มแล้ว
ในตอนแรกเธออยากจะไปจากลู่เซิ่น ต่อให้ไม่มี จ้านเซินเข้ามาวางแผน เธอก็ต้องย้ายออกแน่
แต่ทำไมนะ…ไม่ได้เจอเขาสามเดือน ในใจกลับรู้สึกเจ็บแปลบๆ
เหมือนกับมีอาการตรอมใจ
ฉินซีถอนหายใจ พลิกตัว
สามเดือนที่เธออยู่ที่นี่ ทั้งกายและใจเหนื่อยล้า
สองวันแรก จ้านเซินกักบริเวณเธอในห้อง มาส่งข้าวส่งน้ำตามเวลา ให้เธอเคลื่อนไหวเฉพาะในห้องพัก มีคนเฝ้าหน้าประตูสองคนตลอดเวลา จนเธอไม่มีทางหนี
ในช่วงสองวัน นอกจากอาหารมื้อแรกที่เขามาส่งเอง ฉินซีก็ไม่เห็นเขาอีก
ฉินซีคิดว่าเขาใช้วิธีกักบริเวณเพื่อทำลายขวัญกำลังใจ เช้าวันที่สาม จู่ๆ จ้านเซินก็ปรากฏตัวที่ห้อง
ตอนนั้นฟ้ายังไม่สว่าง เขาแต่งตัวเต็มยศแล้ว
เขาเรียกฉินซีตื่นโดยไม่เกรงใจ ออกคำสั่ง “ตื่นมาอาบน้ำ เตรียมไปฝึก”
ฉินซีสะลึมสะลือตื่นนอน อาบน้ำเสร็จแล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า จ้านเซินเคยพูด…เธอต้องรับการฝึกใหม่อีกครั้ง
ฉินซีนึกถึงคลาสที่ตัวเองต้องเจอ เซลล์ทั่วร่างกายของเธอพากันปฏิเสธ
แต่ตอนนี้เธอไม่มีอิสระ ปฏิเสธไปก็ไม่ได้ผล
จ้านเซินอยู่ข้างๆ มองอย่างบังคับให้เธอกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็จับเธอส่งไปหาอาจารย์
ส่วนที่ต่างกับคลาสเมื่อก่อนก็ตรงที่ เธอรับการฝึกครั้งนี้ แบบตัวต่อตัว
ห้องเล็กมาก ไม่มีหน้าต่าง ไฟส่องสว่างขาวซีด
อาจารย์ที่มาสอนไม่ใช่คนที่เธอเคยเห็นหน้า แต่เนื้อหาก็แทบไม่มีอะไรต่างกัน
ทำไมพวกเขาต้องเข้าร่วมกับองค์กร ทำไมต้องสร้างประสิทธิภาพให้องค์กร
คำพูดพวกนี้สำหรับฉินซีเมื่อก่อนนี้ เป็นเรื่องสดใหม่ ตอนนั้นเธอตั้งใจเรียน จดบันทึก
แต่สำหรับฉินซีในวันนี้ เป็นเพียงคำพูดที่มีรูปแบบซ้ำๆ ไม่เข้าไปในหัวของเธอสักนิด
จังหวะที่อาจารย์ไม่เห็น ฉินซีหาว ประกอบกับต้องตื่นเช้ามากจึงรู้สึกเหนื่อยล้า เธอค่อยๆ ผล็อยหลับไป
ไม่รู้หลับไปนานเท่าไร เป็นจ้านเซินนั่นเองที่ปลุกเธอให้ตื่น
“คุณยืนดูเธอหลับหรือไง” ฉินซีสะลึมสะลือเงยหน้า เห็นแต่สีหน้าจ้านเซินตึงเครียด กับอาจารย์ที่ยืนตัวสั่นอยู่มุมหนึ่ง
“ฉัน…ระดับของเธอสูงกว่าฉัน…จึงไม่กล้าเรียก…” น้ำเสียงของอาจารย์คนนั้นสั่น ก้มหัวงุด ไม่กล้าเงยหน้า
ฉินซีขมวดคิ้ว แย้งขึ้น “ฉันเป็นคนหลับ คุณดุเธอทำไม”
จ้านเซินค่อยๆ หันมามองเธอ “คุณก็ต้องถูกลงโทษด้วย ไม่ต้องรีบพูดแทนคนอื่น”
ฉินซียักไหล่ไม่แยแส “อ้อ”
จ้านเซินเห็นเธอทำท่าดื้อดึง เหมือนหัวหน้าชั้นมองเด็กไม่เชื่อฟัง สีหน้าผิดหวัง
แต่ยังดีเขาไม่ได้ทำให้ครูคนนั้นลำบากอะไร เพียงแต่เหลือบมองฉินซี กำชับเสียงต่ำ “ไป”
จากนั้นไม่หยุดสักวินาที ก้าวเท้าออกไปนอกห้อง
ต่อมาฉินซีถึงรู้ ตั้งแต่วันนั้น จ้านเซินก็สั่งครูทุกคน ตอนที่สอนเธอ ไม่ต้องสนใจระดับของเธอ คลาสเรียนหลังจากนั้น ครูไม่หดหัวเหมือนครูคนแรกอีก
แต่เวลานี้เธอยังคงไม่รู้
เธอเพียงแต่เดินตามหลังจ้านเซินออกไปนอกห้องเล็ก
เธอใจลอยและหาวอีก เกือบชนเข้ากับจ้านเซินที่หยุดเดินกะทันหัน