Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1406
บทที่ 1406 การจากลาที่เจ็บปวด
ท่าทางการจากลาที่เจ็บปวดของทั้งสองคน ตอกย้ำจ้านเซินอย่างลึกซึ้ง
ใบหน้าจ้านเซินซีด เขาก้าวขาเดินไปข้างหน้า ดึงข้อมือฉินซีขึ้น : “ลุกขึ้นมา!”
เขาตะคอกเสียงดัง แววตาดำสนิทเปล่งประกายความเย็นชา
“คุณปล่อยฉันนะ”
ฉินซีพยายามขัดขืน แต่ก็สู้แรงของจ้านเซินไม่ได้
ลู่เซิ่นมองท่าทางหยาบกระด้างของเขา ในใจโกรธเป็นฟืนเป็นไฟพลิกตัวขึ้นมาอีกครั้ง : “จ้านเซิน ปล่อยเธอ”
เขาพูดอย่างโกรธแค้น อยากจะลุกขึ้นมาช่วยเหลือฉินซี
แต่เขายังไม่ทันได้ลุกขึ้นนั่ง จ้านเซินก็เตะเข้าอีกครั้ง
“หึหึ คุณเป็นใคร ถ้าฉันไม่ปล่อยฉินซีไป คุณก็ไม่มีทางได้เธอ”
จ้านเซินกัดฟันพูด
เขาตัดสินใจพาฉินซีกลับองค์กร
ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าขวางเขาไว้
ฉินซีมองลู่เซิ่นที่ล้มอยู่บนพื้น ร้องไห้พลางขอร้อง : “จ้านเซิน ฉันขอร้องคุณ อย่าทำร้ายเขาเลย”
ในใจเธอมีเลือดหยด
เธอทนเห็นลู่เซิ่นท่าทางอย่างนี้ไม่ได้ : “จ้านเซิน คุณปล่อยเขาไป ฉันยินดีกลับไปกับคุณ”
เธอพูดอย่างต้อยต่ำ เลือกใช้ตัวเองแลกกับชีวิตของลู่เซิ่น
ฉินซีรู้ดี ในกระดูกของจ้านเซินเลือดเย็นไร้ความรู้สึกมากขนาดไหน
เธอไม่อยากทนมองลู่เซิ่นตายอยู่ตรงนี้ แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย
ลู่เซิ่นมองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ : “ฉินซี หุบปาก! ฉันไม่ยอมให้คุณจากไปกับเขา”
ตอนนั้น ลู่เซิ่นรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ไร้ความสามารถ
แม้แต่คนที่เขารักก็ยังปกป้องไว้ไม่ได้ และยังต้องทนมองเธอก้มหัวให้ศัตรูเพื่อปกป้องตัวเขาอีก
ฉินซีทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเขา
เธอเงยหน้ามองจ้านเซิน กล่าวอย่างอ่อนโยน : “จ้านเซิน คุณไม่ได้อยากให้ฉันกลับไปกับคุณหรือไง? ขอแค่คุณยอมปล่อยลู่เซิ่นออกไป ฉันจะกลับองค์กรอย่างว่าง่ายทันที แต่ถ้าวันนี้คุณฆ่าลู่เซิ่น และพาฉันกลับองค์กร ถ้าคุณไม่เฝ้าฉันไว้ให้ดี ฉันจะฆ่าตัวตายทันที”
ฉินซีเอ่ยปากทีละคำทีละประโยคให้จ้านเซินเข้าใจความหมายของตัวเอง
ถ้าลู่เซิ่นตาย เธอก็ไม่สามารถมีชีวิตได้ลำพัง
หัวใจของจ้านเซินแตกสลาย
เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าฉินซีจะรักลู่เซิ่นได้ถึงขั้นนี้
จ้านเซินดึงคอเสื้อฉินซีอย่างโกรธแค้น ลากเธอมาตรงหน้าตัวเอง : “ฉินซี หรือว่าผู้ชายคนนี้สำคัญกว่าชีวิตของตัวเองอีกหรือไง?”
เขาตะคอกเสียงดัง ดวงตาทั้งสองข้างเปล่งประกายไฟ
“ใช่!”
ฉินซีพยักหน้า
น้ำเสียงของเธอแน่วแน่ขนาดนั้น ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่นิด
จ้านเซินเห็นความตั้งมั่นจากดวงตาของเธอ
มือที่จับคอเสื้อของฉินซีจับแน่นขึ้นไปอีก : “แล้วฉันล่ะ ฉินซี! คุณบอกฉัน ในสายตาของคุณ ฉันเป็นอะไร!”
จ้านเซินกัดฟันพูด ขณะเดียวกันก็เหมือนปีศาจที่กำลังบ้า
“คุณคือผู้นำของฉัน เป็นผู้มีพระคุณกับฉัน เป็นพี่ชาย เป็นครอบครัวของฉัน”
ฉินซีพูดอย่างคล่องแคล่ว สายตาที่มองจ้านเซินเต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจ : “แต่ ไม่ใช่คนรักของฉัน ความรักทั้งหมดของฉันมีแค่ลู่เซิ่นเท่านั้น”
ถึงแม้เธอไม่อยากทำร้ายจ้านเซิน แต่ใจของเธอก็ไม่โกหกใคร
คำพูดของฉินซี เหมือนหมัด หมัดหนึ่งที่ต่อยเข้าไปในใจของอย่างรุนแรง
จ้านเซินตกใจมากจนค่อยๆปล่อยมือเธอ ใบหน้าที่หล่อเหลาเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“ขอโทษ…”
เห็นท่าทีอย่างนั้นของเขา ในใจของฉินซีรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
แต่ เธอมีแค่คนเดียว จะรักสองคนในเวลาเดียวกันได้ยังไง
“จ้านเซิน พวกเราสามารถเป็นเพื่อนกัน คุณยังคงเป็นครอบครัวของฉัน เป็น…ของฉัน”
ฉินซีอยากจะพลิกสถานการณ์ แต่จ้านเซินกลับขัดจังหวะการพูดของเธออย่างเย็นชา : “พอแล้ว!”
เงยหน้าอย่างดุร้าย มองตรงไปที่ฉินซี
“ถ้ามีฉันอยู่ คุณไม่ต้องคิดจะอยู่ด้วยกันลู่เซิ่น”
จ้านเซินรู้สึกถึงการโดนหักหลัง เขากล่าวประโยคต่อไปอย่างโหดเหี้ยม
“เข้ามา เอาตัวเธอไปให้ฉัน”
เขาออกคำสั่งรุนแรง
ลู่เซิ่น” เห็นว่าเขาจะพาฉินซีไป ร้อนรนขึ้นมาทันที : “ฉินซี”
แต่ เขายังไม่ทันได้ลงมือ ก็ถูกบอดี้การ์ดของจ้านเซินตีจนสลบจากด้านหลัง
“ลู่เซิ่น” !”
“คุณทำอะไร!”
ฉินซีจ้องมองหัวหน้าบอดี้การ์ดอย่างโกรธแค้น โกรธจนขนาดอยากจะพุ่งไปฆ่าเขาให้ตาย
หัวหน้าบอดี้การ์ดไม่ตอบคำถามเธอ และเดินมาตรงหน้าจ้านเซิน
“พี่ใหญ่ จะจัดการเขายังไง?”
หัวหน้าบอดี้การ์ดมองไปที่ลู่เซิ่นที่สลบไสล เอ่ยปากตั้งคำถามเบาๆ
ถ้าไม่มีฉินซีล่ะก็ จ้านเซินอยากให้เขาตายจริงๆ
แต่ถ้าลู่เซิ่นตาย งั้นฉินซีก็จะไม่ยอมมีชีวิตอยู่
“มัดและทิ้งไว้ตรงนี้ ตอนนี้เตรียมตัวกลับองค์กรทันที”
จ้านเซินออกคำสั่งอย่างเคร่งขรึม
จ้านเซินไว้ชีวิตลู่เซิ่น ในใจของฉินซีสบายใจขึ้นมาหน่อย
“ไป!”
จ้านเซินดึงข้อมือของฉินซีเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ฉินซีมองลู่เซิ่นที่สลบอยู่อย่างอาลัยอาวรณ์ ทำได้แค่ตามเขาไปอย่างว่าง่าย
เธอแอบสาบานใจใน ต้องทำให้องค์กรล่มสลายให้ได้ และรีบกลับไปอยู่กับลู่เซิ่นอย่างเร็วที่สุด
ในขณะเดียวกัน
ถังย่าและเหยาจ้าวโดนช่วยออกมาแล้ว
เมื่อถังย่าเห็นฉินซีโดนล็อกกุญแจมือไว้ แววตาสวยงามเปล่งประกายแสงสว่าง
เธอรู้ ต่อให้ฉินซีพยายามยังไง ก็หนีไม่พ้นน้ำมือของจ้านเซิน
“เห้อ…”
ถังย่าแอบถอนหายใจในใจเงียบๆ
ความจริงแล้ว เมื่อกี้ถังย่าจงใจปล่อยไปแล้ว
ไม่งั้น วัดจากความสามารถของถังย่า จะหลบไม่พ้นเข็มของฉินซีได้ยังไงกัน
ตอนที่อยู่ในองค์กร ความสามารถของถังย่าและฉินซีไม่ต่างกันมาก ตอนนี้ฉินซีพักฟื้นมาแล้วหนึ่งปี ไม่ทำภารกิจอะไร ในด้านความว่องไวย่อมด้อยกว่าถังย่าเป็นธรรมดา
แต่ถึงแม้ถังย่าจะยอมอ่อนข้อให้ ฉินซีก็ยังหนีไม่พ้นจ้านเซินอยู่ดี
มีสองเหตุผลที่ถังย่าเลือกที่จะให้โอกาสฉินซี
หนึ่ง ทั้งสองคนโตมาด้วยกันแต่เด็ก ความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา
สอง เธอชอบจ้านเซิน ถ้าฉินซีจากไปแล้ว อาจจะมีสักวันหนึ่งที่จ้านเซินจะเห็นความดีของเธอ
ถังย่าจัดการกับอารมณ์และเดินไปหน้าจ้านเซิน : “พวกเราจะไปคืนนี้เลยไหม?”
เธอขยับคอที่โดนฉินซีจนปวดเมื่อกี้เล็กน้อย และถามอย่างนิ่งเฉย
ภายในน้ำเสียงเธอไม่ได้มีความตกใจอะไร
จ้านเซินมองเธอแวบหนึ่ง : “อืม แจ้งหมอเหยา ออกเดินทางทันที”
ถังย่ารับคำสั่ง ใช้ความรุนแรงปลุกหมอเหยาที่ยังสับสนอยู่ให้ตื่นขึ้น
“งั้นโจวซิงยังต้องพาไปด้วยไหม?”
จ้านเซินคิดแล้วคิดอีก “ไม่ต้อง พาเขากลับไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าโจวซิงเป็นคนของลู่เซิ่นแล้ว พาเขากลับไป ก็เป็นภาระเปล่าๆ
จ้านเซินมองเหยาจ้าวที่ยืนอยู่ด้านข้าง : “หมอเหยา คุณรู้สึกยังไงบ้าง?”
เขาถามอย่างตั้งใจ เหมือนกำลังทดสอบอะไรอยู่
เผชิญหน้ากับคำถามของจ้านเซิน เหยาจ้าวก้มหน้าลงในพริบตา เพื่อหลบสายตา : “พี่ใหญ่ ขอโทษ เมื่อกี้เพราะฉันทำพลาดไป ทำให้ฉินซีออกมาจากความฝันได้ ทำร้ายฉันกับถังย่าจนสลบไปและหนีออกมาได้