Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1418
บทที่ 1418 ซื้อ
ใครจะไปคิดหลอจี่หอางกับถังย่ายังคุยกันไม่ถึงสองประโยค ก็จะแยกกันแล้ว
“อืม มีเรื่องด้วนเข้ามา ต้องการให้ฉันไปจัดการ พวกคุณค่อยๆทานเถอะ”
ถังย่าพูดพลางลุกขึ้นยืน
เธอมองหลอจี่หอางที่อยู่ตรงข้าม ยิ้มบางๆและพูดว่า : “หัวหน้าหลอ ขอบคุณมากที่วันนี้เลี้ยงข้าว ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสฉันเลี้ยงคุณ”
ถังย่าพูดอย่างเปิดเผย ทำให้หลอจี่หอางตะลึงไปสักครู่
เดิมที่เขาไม่คิดถึงขั้นนี้ คิดไม่ถึงว่าถังย่าจะเป็นเริ่มพูดเอง
“คุณถังมีธุระไปจัดการก่อนเถอะ มีโอกาสค่อยว่ากัน”
หลอจี่หอางยิ้มบางๆขอบคุณ
“โอเค”
พูดจบ ถังย่าหมุนตัวเดินออกไป
ซิวหน่ายซิงตามหลังเธอไปติดๆ
บนโต๊ะอาหาร หลิวซีหางมองท่าทางของเขาทั้งสองคน แววตาแปล่งประกายรอยยิ้ม
ว่าไปแล้ว คืนนี้ก็ไม่ถึงขนาดไม่ได้อะไรเลยสินะ!
……
ถังย่าและซิวหน่ายซิงออกจากร้านอาหารแล้ว
ซิวหน่ายซิงมองเธอและถามด้วยเสียงต่ำว่า : “พี่ใหญ่ ตอนนี้พวกเราจะไปไหนกัน?”
ขณะนี้สีท้องฟ้าดึกมากแล้ว ถึงเวลาหาที่พักพักผ่อนสักหน่อยแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถังย่าเร่งเดินมาสองวันแล้ว ยิ่งต้องการนอนหลับอย่างสงบสักคืน
แต่ถังย่า กลับไม่มีอารมณ์แม้แต่น้อย
“ตอนนี้ลู่เซิ่นอยู่ที่ไหน?”
เพื่อป้องกันการคิดอะไรไปเรื่อยของตัวเอง ถังย่าตัดสินใจใช้การทำงานมาบำบัดตัวเอง
ซิวหน่ายซิงได้รับรายงานจากลูกน้องมาแล้วว่า : “อยู่ในโรงพยาบาลตลอด เขาบาดเจ็บไม่น้อย ถึงจะถูกช่วยออกมาจากประตูนรก”
ถึงแม่เขาจะกลับไปที่องค์กรกับถังย่ามาแล้วรอบหนึ่ง แต่งานที่นี่ก็ไม่ขาดตกบกพร่อง
ถังย่าได้ยินข่าวจึงขมวดคิ้ว
“ไปดูลู่เซิ่นกัน”
วันนั้นถึงแม้ถังย่าไม่เห็นภาพเหตุการณ์จ้านเซินกับลู่เซิ่นต่อสู้กัน แต่ก็พอจะนึกภาพออก
สำหรับศัตรู จ้านเซินไม่มีทางออมมือแน่นอน
ถ้าไม่ใช่เพราะฉินซีอยู่ในเหตุการณ์ ช่วยลู่เซิ่นร้องขอ งั้นที่เหลือไว้ให้ลู่เซิ่นคงมีแค่เส้นทางความตายเท่านั้น
ถ้าลู่เซิ่นตายไป ตามนิสัยของฉินซีแล้ว ต้องไม่ยินดีชีวิตอยู่ต่อย่างโดดเดี่ยวแน่นอน
คิดได้อย่างนี้ ถังย่ารู้สึกว่าจำเป็นต้องดูสถานการณ์ในโรงพยาบาลให้เห็นเห็นกับตาเพื่อความมั่นใจ
“ได้”
ซิวหน่ายซิงเปิดประตูรถให้ถังย่าเข้าไปนั่ง
รถวิ่งอย่างเร็วไปในทิศทางที่ลู่เซิ่นพักอาศัยอยู่
ขณะเดียวกัน
คนที่เหยาจ้าวส่งไปสำรวจ ซื้อพยาบาลได้แล้ว
พยาบาลมาที่ห้องพักผู้ป่วยของลู่เซิ่น : “คุณลู่”
เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้ว พยาบาลหาโอกาสเข้ามาที่เตียงผู้ป่วยของลู่เซิ่น
ลู่เซิ่นได้ยินเสียงคนเรียก ค่อยๆลืมตาขึ้น : “มีธุระอะไรไหม?”
เขาขมวดคิ้ว มองพยาบาลที่แต่งตัวเข้มงวด
“คุณลู่ มีคุณผู้หญิงท่านหนึ่งให้ฉันมาบอกคุณว่า ตอนนี้เธอสบายดีมาก คุณไม่ต้องเป็นห่วง รักษาตัวเองให้หายดีก่อน เรื่องหลังจากนี้ค่อยคิดหาวิธี”
พยายบาลเอาคำพูดของเหยาจ้าว มาพูดซ้ำอีกครั้ง
ตอนนี้ฉินซีไม่ได้เจอลู่เซิ่น ทำได้แค่ใช้วิธีนี้ให้ทั้งสองคนสงบสติกันก่อน
หลังได้ยินแบบนั้น ตาทั้งสองข้างของลู่เซิ่นโตขึ้นมาทันที
เขาไม่คิดว่าฉินซีอยู่ที่นั่น ยังระลึกถึงเขา
การป้องกันขององค์กรเข้มงวดมาก เธอสามารถหาคนมาบอกข่าวกับเขาได้ ต้องไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน
“งั้นตอนนี้เธอสบายดีจริงๆใช่ไหม?”
ลู่เซิ่นถามอย่างตื่นเต้น แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย
นิสัยของจ้านเซินไม่มีขนาดนั้น ลู่เซิ่นไม่เชื่อว่าเขาจะเมตตาฉินซี
พยาบาลพูดอีกครั้ง : “ใช่”
เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำแค่เพียงพูดซ้ำตาคำพูดของเหยาจ้าวเท่านั้น
ในฐานะที่เหยาจ้าวเป็นจิตแพทย์ พอจะเดาออกว่าลู่เซิ่นจะถามอะไรบ้าง
ดังนั้น เมื่อเขาทราบข่าวว่าตอนนี้ลู่เซิ่นพ้นขีดอันตรายมาแล้ว จึงตั้งใจจัดการเรื่องนี้มา
“งั้นก็ดี”
ความกังวลในแววตาลู่เซิ่นหานไปนิดหน่อย
เขารู้สึกว่าคำพูดของพยาบาลน่าจะจริง ไม่งั้นฉินซีจะส่งข่าวออกมาได้ยังไงกัน
“คุณลู่ ฉันบอกหมดแล้ว ทางนั้นยังมีธุระ ฉันขอตัวก่อน”
พยาบาลไม่กล้าอยู่นาน พูดจบก็รีบออกมา
ลู่เซิ่นมองด้านหลังของเธอ จำลักษณะเธอไว้ คิดว่ารอให้โจวซิงมาก่อนจะถามว่าพยาบาลคนนั้นชื่ออะไร ครั้งต่อไปจะได้ให้เธอส่งต่อคำพูดได้ง่ายหน่อย
พยาบาลเพิ่งจะเดินออกไป ถังย่าก็มาพอดี
เธอผลักประตูเดินเข้ามา
“ใครอนุญาตให้เฮเข้ามา!”
ขณะนั้นโจวซิงกำลังจะเปลี่ยนยาให้ลู่เซิ่น เห็นถังย่าเข้ามา สีหน้าปรากฏความโกรธแค้น
สองของเขากำหมัดแน่น วางผ้าพันแผลลง มองถังย่าด้วยความเป็นปรปักษ์
ครั้งที่แล้วได้รับความอัปยศอดสูจากถังย่าที่นั้น โจวซิงจำไม่ลืมไปตลอดชีวิตนี้
ถังย่ามองท่าทางตื่นเต้นของเขา ยิ้มมุมปากน้อยๆ : “เจอกันอีกแล้ว คุณหมอโจว”
เธออย่างเกรงอกเกรงใจ ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
“ไสหัวออกไป!”
โจวซิงตะโกนเสียงดังรุนแรงท่าทางขับไล่คนออกไป
เขารีบเดินไปหน้าประตู ยื่นมืออกไป แต่ยังไม่โดนถังย่า เธอก็หลบไปได้ก่อนแล้ว
ถังย่ายืนพิงกำแพง มองท่าทางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟของเขา ริมฝีปากแดงขยับ : “คุณหมอโจว วันนี้ฉันไม่ได้มาทะเลาะ”
เธอพูดอย่างนิ่งเฉย สายตามองไปที่ร่างของลู่เซิ่น
ฉินซีหมายถึงอะไร ได้บอกอย่างชัดเจนแล้ว
แต่ โจวซิงไม่หวังว่าถังย่ากับลู่เซิ่นจะติดต่ออะไรกัน
เขารู้สึกว่าถังย่ามาเพื่อหาเรื่อง ถึงเวลานั้นถ้าลู่เซิ่นเกิดบากเจ็บสาหัสขึ้นมาอีกครั้ง เขามารู้จะบอกโจวเอ้อยังไง
ลู่เซิ่นมองเธอพูดเบาๆว่า : “โจวซิง ให้เธอเข้ามา”
ถึงแม้เมื่อกี้พยาบาลได้บอกเขาแล้วว่าฉินซีไม่เป็นอะไร แต่ลู่เซิ่นก็ยังไม่วางใจอยู่ดี
เขาอยากรู้ข่าวเกี่ยวกับฉินซีมากกว่านี้ ลงมือจากถังย่าที่นี่ เป็นคู่ต่อสู้ที่ดีที่สุด
“ลู่เซิ่น!”
โจวซิงหมุนตัวทันที มองเขาด้วยสายตาไม่เห็นด้วย
เขารู้สึกว่านี้คือการตัดสินใจที่ผิดผลาด
ใครจะรู้ถังย่ามาที่นี่ในเวลาแบบนี้ จริงแล้วในใจคิดอะไรอยู่
“ฉันรู้ตัวดี”
ถึงแม้เสียงของลู่เซิ่นจะเบามาก แต่ภายใต้น้ำเสียงก็ไม่ยอมให้ใครมาหักล้างเหตุผล
ปกติแล้วลู่เซิ่นจะใช้ตัวตนกดดันคนน้อยมาก อำนาวจในตัวจะถูกเก็บซ่อนไว้ตลอด
ตอนนี้ เมื่อลู่เซิ่นปล่อยออกมา ทำให้โจวซิงตกใจเล็กน้อยไม่กล้าขัดขวาง
“งั้นก็ได้”
โจวซิงเห็นเขายืนยันหนักแน่น ทำได้แค่ถอนหายใจอย่างไม่มีทางเลือก
เขาปกป้องอยู่ข้างตัวลู่เซิ่นอย่างไม่วางใจ ถ้าถังย่าคิดจะลงมือ เขายังพอขัดขวางไว้ได้
ถังย่าเห็นท่าทางเตรียมตัวป้องกันของเขา เผยรอยยิ้มบางๆออกมา : “คุณลู่ ร่างกายคุณเป็นยังไงบ้าง?”
เธอเดินมาด้านหน้าสองก้าว มาถึงข้างเตียงผู้ป่วยของลู่เซิ่น
“ทำให้คุณถังผิดหวังแล้ว ฉันไม่ตายและยังมีชีวิตดีอยู่”
ลู่เซิ่นกลับไม่รู้สึกว่าถังย่ามาเยี่ยมตัวเอง
อย่างแรก พวกเขาสองคนไม่สนิทกัน ที่รู้จักกันก็เป็นเพราะฉินซี
อย่างที่สอง คนที่ไหนจะมาเยี่ยมมือเปล่า ถังย่าทำตามคำสั่งของจ้านเวินจะมาฆ่าเขา ก็เป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง