Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1445
บทที่ 1445 เล่ห์เหลี่ยม
“ตอนนี้ทั้งฮอลล์ ตกแต่งตามที่ ประธานหลูต้องการเกือบหมดแล้ว เหลือแค่ตรงมุมยังต้องเก็บรายละเอียดเพิ่มอีกหน่อย”
ลู่เซิ่นพูดจริงจัง ก่อนมาที่นี่ เขาท่องจำปัญหาทั้งหมดของงานเลี้ยงจนขึ้นใจแล้ว
“อึม”
ฉินซีสังเกตรอบๆ ใจลอย รู้สึกว่าการตกแต่งสวยดี
แต่เป้าหมายของเธอที่มาครั้งนี้คือสังเกตสภาพพื้นที่ เธอจำสภาพพื้นที่ภายในห้องโถงก่อน จากนั้นก็มองบนเพดาน สังเกตตรงไหนมีกล้องวงจรปิด
เธอมองขึ้นไปเพื่อสังเกตรายละเอียด แต่ต้องการทำอะไรกันแน่ มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้
ลู่เซิ่นยืนรอเงียบๆ ไม่เร่งรัดเธอ
สายตาเขามองฉินซีอ่อนโยน ใบหน้าด้านข้างที่ขาวอมชมพู ดวงตาดำขลับมีประกายรักใคร่
เวลาห่างกันเดือนครึ่ง
ความรักของลู่เซิ่นต่อเธอไม่ลดลงเลย มีแต่จะลึกซึ้งขึ้น
ระยะห่างไม่เป็นอุปสรรคกับสองคน เพราะการแยกกันครั้งนี้ทำให้ลู่เซิ่นกับฉินซีรู้ใจตัวเองชัดเจนยิ่งขึ้นว่าพวกเขาต้องการอะไรกันแน่
สายตาลู่เซิ่นที่รักใคร่และเร่าร้อน ทำให้ฉินซีรู้สึกอึดอัด
แม้ว่าปกติแล้วฉินซีออกจากบ้านก็จะถูกจับตามองเป็นประจำ แต่ไม่เคยมีใครทำให้เธอรู้สึกประหลาดอย่างนี้
ขณะที่ลู่เซิ่นจ้องมองเธอ เธอกลับไม่รู้สึกรำคาญ
ฉินซีหันไปสบตากับดวงตาดำขลับคู่นั้นของลู่เซิ่น เธอมองเห็นความคิดถึงลึกๆ ในดวงตาของเขา
ฉินซีชะงัก ในใจรู้สึกแปลกๆ
ความรู้สึกคุ้นเคยทวีขึ้นเรื่อยๆ จนเธอควบคุมไม่ได้ อยากจะเดินเข้าไปถามลู่เซิ่นเหลือเกิน
แต่สายตาที่เฝ้าจับตาเธอของจั่วยีจั่วเอ้อ ทำให้ฉินซียังอดกลั้นไว้
ฉินซีสูดลมหายใจลึก ดึงสายตากลับมา “ที่นี่ดูพอแล้ว ไปดูที่อื่นกันเถอะค่ะ”
เธอพูดเรียบๆ น้ำเสียงสงบ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“โอเคครับ”
ตามที่ลู่เซิ่นวางแผนไว้พาเธอเดินไปมุมที่ไม่มีกล้องวงจรปิด
โจวเอ้อเห็นการ์ดสองคนนั้นตามติดฉินซีตลอดเวลา อดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนใจ
ในหัวของเขามีเงาของคนหนึ่ง เกิดแผนขึ้นในใจทันที
โจวเอ้อรีบเดินไปสำนักงานด้านหลัง
แม้ว่าเขาไม่สะดวกจะออกหน้าจัดการเอง อย่างนั้นก็ให้ผู้จัดการมาจัดการเรื่องนี้ละกัน
โจวเอ้อสังเกตเมื่อครู่ ผู้จัดการโรงแรมเป็นคนที่จัดการเรื่องได้
เขาไม่ต้องการให้ผู้จัดการทำได้ดีมาก เพียงแต่ดึงเวลาจั่วยีจั่วเอ้อสองนาที เพื่อให้ลู่เซิ่นกับฉินซีได้คุยกันสั้นๆ ก็เท่านั้น
โจวเอ้อผลักประตูออฟฟิศ น้ำเสียงเร่งรีบ “แย่แล้ว ผู้จัดการ คุณช่วยไปดูทางนั้นหน่อย”
เขาแกล้งทำเป็นเกิดเรื่องสำคัญขึ้น สีหน้าร้อนใจ
ผู้จัดการกำลังเอนหลังขี้เกียจบนโซฟา เพลิดเพลินกับบุหรี่ที่เขาเพิ่งให้เมื่อครู่
เมื่อได้ยินเสียงดังกะทันหัน ตกใจจนตัวสั่น
เขาลนลานตะกายขึ้นจากโซฟา ดวงตาหยีเล็กเต็มไปด้วยความตกใจ
เมื่อเห็นคนที่มาคือโจวเอ้อ สีหน้าไม่พอใจ
เมื่อครู่เขาคิดว่าคือคนที่มาตรวจสอบ ถึงได้ตกใจลนลานเช่นนี้
ผู้จัดการไม่รีบใส่รองเท้าเดินมาหาโจวเอ้อ พูดอบรมสีหน้าเคร่งเครียด “เสียงดังอะไรกัน เอะอะทั้งวัน ไม่หยุดหย่อน”
ถ้าไม่เห็นแก่ที่เมื่อครู่โจวเอ้อให้ของขวัญ เขาก็คงตบหน้าสักฉาดแล้ว สั่งสอนกฎของลูกน้อง
น้ำเสียงของเขารำคาญเต็มทน โจวเอ้อมองเขาท่าทางโมโห ดวงตามีประกายเย็นเยือก ถ้าไม่เป็นเพราะงานสำคัญ โจวเอ้อคงฆ่าเขาไปแล้ว
โจวเอ้อหลบตา ปิดบังสายตาสังหาร ทำเป็นรีบร้อน “ผู้จัดการ คุณรีบไปดูทางนั้นเถอะ มีคนมาแล้ว ผมกับ จางหู่จัดการไม่ได้”
เขาเดินเข้าไปพูดเร่งผู้จัดการ
ผู้จัดการได้ยินว่ามีคนมา ก็ย่นคิ้ว “ใครมากัน”
เขามีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี
“เลขาของประธานหลู และลูกน้องของเธอด้วย”
โจวเอ้อพูดตรงๆ
ผู้จัดการได้ยินคนของ หลูจื๋อหลิน มาแล้ว สีหน้าลนลาน “เฮงซวย! ทำไมไม่รีบพูด!”
ต้องรู้ว่า หลูจื๋อหลิน เป็นลูกค้ารายใหญ่ของโรงแรม ถ้างานเลี้ยงนี้พัง หัวหน้าตำหนิลงมา เขารับมือไม่ไหวแน่
“ผมพูดแล้ว!”
โจวเอ้ออธิบายอย่างโมโห แต่ผู้จัดการไม่สนใจฟังแล้ว
ผู้จัดการรีบสาวเท้าออกจากห้อง
เขาเดินไปพลาง ดุเสียงดัง “แกยังยืนอึ้งอะไรอีก ยังไม่รีบพาไป!”
ผู้จัดการจ้องเขาสายตาโกรธ ร้อนใจจนยืนไม่ติด
ท่าทางวางอำนาจอย่างนี้ทำให้ความอดทนของโจวเอ้อแทบจะหมดสิ้น แต่เมื่อนึกถึงลู่เซิ่นกับฉินซีเขายังคงอดทนต่อไป
เขารีบเดินไปข้างหน้าผู้จัดการนำทาง
“ข้างหน้าครับ”
ผู้จัดการที่อยู่ไกลๆ ก็มองเห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่สองคนยืนอยู่ข้างหน้า ด้านหน้าพวกเขายังมีผู้หญิงรูปร่างอ้อนแอ้นอีกคนหนึ่ง
หญิงสาวสวมเสื้อคลุมสีขาว ผมยาวดำสลวยใช้กิ๊บไม้ติดผมมวยผมขึ้น มองดูแล้วสง่างามแต่ก็มีประสบการณ์และความสามารถ เผยเสน่ห์ของผู้หญิงออกมาอย่างมาก
แม้จะไม่เห็นหน้าตรงๆ แต่ผู้จัดการก็มั่นใจ ผู้หญิงคนนี้จะต้องสวยมากแน่ๆ ออร่าพิเศษทำให้ละสายตาไม่ได้
อีกอย่าง แม้ว่า หลูจื๋อหลิน จะอายุกว่าห้าสิบแล้ว แต่นิสัยเจ้าชู้ยังเหมือนเดิม
เขาชอบจัดงานเลี้ยงมากที่สุด เชิญสาวๆ สวยๆ มาร่วมงาน แล้วเลือกคนที่ตัวเองชอบ ไปเลี้ยงดู
ชายหนุ่มมากมายที่รักสนุกก็มาหาคู่นอน
เขาคิดว่านิสัยเจ้าชู้ของ หลูจื๋อหลิน ผู้หญิงที่อยู่ข้างเขาต้องเป็นคนสวยมากแน่ๆ
เมื่อเห็นด้านหลังของฉินซี เขาก็ยิ่งแน่ใจว่าตัวเองคิดถูก
ฉินซีได้ยินเสียงฝีเท้าก็หันไปมอง
ขณะที่ผู้จัดการเห็นฉินซีสวยโดดเด่นกว่าใคร นัยน์ตาตี่ก็มีประกายกรุ้มกริ่ม
หลายปีนี้ หลูจื๋อหลิน มาจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมพวกเขาบ่อยๆ ทุกงานจะมีสาวงามมาร่วมงานนับไม่ถ้วน แต่เขาไม่เคยเห็นใครเทียบได้กับฉินซี
เขาไม่รู้จะบรรยายความงามของฉินซีอย่างไร หน้าตาสวยงามของเธอเหมือนดอกบัวหิมะศักดิ์สิทธิ์บนเขาเทียนซัน ทำให้คนได้แต่มองไกลๆ แต่ไม่กล้าหยอกเล่นด้วย
เธอยืนนิ่งๆ ตรงนั้น ออร่าที่ออกมาจากข้างใน ทำให้หลงใหลไม่หยุดหย่อน
ผู้จัดการรู้สึกอิจฉาหลูจื๋อหลิน ไม่เข้าใจว่าเขามีดีตรงไหน หาหญิงสาวสวยหน้าตาดีขนาดนี้มาอยู่ข้างกายได้
ใจของเขาเต้นกระเพื่อม สายตาจ้องมองฉินซีไม่กะพริบ เหมือนกับหมาป่าหิวโซเจอเข้ากับอาหารโอชะก็ไม่ปา