Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1477
หัวหน้าผู้คุ้มกันยืนอยู่ด้านหนึ่ง ถูกท่าทางโมโหของเขา ทำให้กลัวจนตัวสั่น
สีหน้าของหรูเว่ยเสียงเองก็อึดอัดมาก เขารู้ว่าครั้งนี้เป็นความผิดของเขาจริงๆ เขาไม่อาจพูดอะไรได้
เขาก้มหน้าลง พูดด้วยเสียงอู้อี้ “ประธานหลู ผมยินดีรับผิดชอบทั้งหมด”
เสียงเขาเคร่งขรึม แต่หลูจื๋อหลินกลับไม่พอใจ
ใครจะรู้ว่าหลังจากมือสังหารขโมยเอกสารไปแล้ว ต่อจากนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เมื่อคิดว่าจะต้องถูกขังคุก ในใจของหลูจื๋อหลินก็หวาดกลัวอย่างมาก
หลูจื๋อหลินมองท่าทางลดสายตาของเขา พูดด้วยเสียงเย็นชา “พูดน่าฟัง ถึงตอนนั้นถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา แกยินดีที่จะออกหน้ารับไหม?”
เขาจ้องไปที่หรูเว่ยเสียงอย่างไม่เชื่อถือ ทำให้เขาอึดอัดมาก
อันที่จริง หรูเว่ยเสียงอยากจะพูดมากว่า เมื่อกี้ถ้าไม่ใช่เขาปล่อยฉินซีไปด้วยมือตัวเอง ตอนนี้ก็จับมือสังหารได้แล้ว เอกสารก็ตามกลับมาได้แล้ว
ทั้งหมดนี้ต้องโทษหลูจื๋อหลินที่ลุ่มหลงในความงาม ทำให้เรื่องตกมาถึงจุดที่ร้ายแรงขนาดนี้
แต่หลูจื๋อหลินกลับไม่ไตร่ตรองความผิดของตนเลยซักนิด ยังปัดความรับผิดชอบทั้งหมดมาไว้ที่เขา
ในใจหรูเว่ยเสียงรู้สึกไม่ศรัทธา เขารู้สึกว่าติดตามทำงานให้คนที่ถูกผู้หญิงล่อลวงได้ง่ายๆอย่างหลูจื๋อหลิน ซักวันจะทำให้ตัวเองพ่วงไปด้วย
แต่ว่าตอนนี้ เขาก็ไม่มีทางจะจากไปได้
หรูเว่ยเสียงรู้ความลับที่เกี่ยวข้องกับหลูจื๋อหลินมากเกินไป หลูจื๋อหลินไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆเด็ดขาด
เห็นเขาไม่อ้าปากพูดตอบ หลูจื๋อหลินก็โมโหขึ้นมาทันที
เขารู้เลยว่า คำที่หรูเว่ยเสียงพูดเมื่อกี้นั้นไม่จริง ใครจะไม่หวงแหนชีวิตของตัวเอง เขาจะออกมาช่วยตนรับโทษได้ยังไง
คิดถึงตรงนี้ สายตาที่หลูจื๋อหลินมองหรูเว่ยเสียงก็แหลมคมยิ่งขึ้น
กลิ่นดินปืนที่ไร้รูปร่างกระจายอยู่ระหว่างทั้งสองคน หัวหน้าผู้คุ้มกันยืนอยู่ด้านหนึ่ง มองดูด้วยความหวั่นเกรง
ตอนนี้เขาอยากจะหนีออกไป รอให้หรูเว่ยเสียงกับหลูจื๋อหลินจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ค่อยเข้ามา
“เอาเถอะ แกออกไปก่อน มีธุระฉันค่อยเรียกแก”
หลูจื๋อหลินเห็นว่าไม่สามารถบอกข้อสงสัยที่ชัดเจนได้ ได้เพียงโบกมือไปทางเขาอย่างช่วยไม่ได้ ส่งสัญญาณให้เขาออกไป
ตอนนี้เขาไม่อยากเห็นหรูเว่ยเสียงเลยแม้แต่น้อย แต่เขายังต้องเก็บเขาไว้เป็นแพะรับบาป
หลูจื๋อหลินได้ตัดสินใจไว้แล้ว จะให้หรูเว่ยเสียงมารับโทษ
หรูเว่ยเสียงไม่รู้เลย ในใจยังมีภาพลวงตาอยู่
จนกระทั่งเช้าตรู่วันต่อมา
เสียงแตรของรถตำรวจดังขึ้นอยู่ด้านนอกในตอนเช้า
ในห้องชุดหรูหราของประธาน
หลูจื๋อหลินได้ยินเสียงของรถตำรวจ ก็สะดุ้งตื่นจากการนอนหลับทันที
ใบหน้าของเขาเผยความตื่นตระหนก เหงื่อชื้นปรากฏขึ้นภายในใจ
หลูจื๋อหลินประหม่าอย่างมาก กระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังมาจากด้านนอก
เขาใส่เสื้อผ้าด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พลิกตัวลงจากเตียง
ต่อให้เป็นในเวลาแบบนี้ หลูจื๋อหลินก็ไม่อยากปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนด้วยสภาพดูไม่ได้
“ก๊อกก๊อกก๊อก…..”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
หลูจื๋อหลินสูดหายใจลึก บังคับตัวเองให้สงบลง
เขาเอ่ยปากถามแผ่วเบา “ใคร?”
น้ำเสียงของหลูจื๋อหลินสงบนิ่งมาก ราวกับไม่มีอะไรต่างไปจากปกติ
แต่ว่าในใจของเขากลับยุ่งเหยิง คิดหาวิธีโต้ตอบอย่างกระวนกระวาย
ในสมองของหลูจื๋อหลินเผยภาพของหรูเว่ยเสียงขึ้นอีกครั้ง ถึงอย่างไรครั้งนี้ก็เป็นหรูเว่ยเสียงที่ทำให้เขาตกมาอยู่ในจุดนี้ ตามเหตุผลแล้วเขาต้องมารับผิดชอบ
คิดถึงตรงนี้ ในใจหลูจื๋อหลินก็มีความรู้สึกผิดแวบผ่าน แต่ก็หายไปในทันที
“ตำรวจ”
เสียงที่เคร่งขรึมดังมาจากนอกประตู กระตุ้นหลูจื๋อหลิน “ประธานหลู พวกเรามีเรื่องที่ต้องถามคุณนิดหน่อย กรุณาเปิดประตูด้วย”
หลูจื๋อหลินลูบแก้มที่แข็งทื่อ ฝืนเค้นรอยยิ้มออกมา
เขาเดินไปหน้ากระจกเต็มตัว มองตัวเองที่อยู่ในกระจก มองดูท่าทางที่สง่างามมีเสน่ห์ ก็พยักหน้าอย่างพอใจ
“มาแล้ว โปรดรอซักครู่”
หลังจากหลูจื๋อหลินแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรตกหล่น ถึงเดินไปทางประตู
เขามาปลดล็อคประตู แล้วเปิดประตูห้องออก
นอกประตู เต็มไปด้วยตำรวจยืนอยู่
แม้ว่าจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ในใจหลูจื๋อหลินก็ยังคงหวาดกลัวเล็กน้อย
หลูจื๋อหลินพูดพร้อมยิ้มแข็งทื่อ “คุณตำรวจ ขอถามว่าพวกคุณมาเคาะประตูห้องผมแต่เช้า มีธุระอะไรหรือ?”
เขายืนพิงขอบประตู ยังคงรักษาท่าทางที่สุภาพตามปกติ
ตำรวจที่มาก็คือคนที่เคยเจอถังย่ามาหลายครั้ง หลอจี่หอาง
หลอจี่หอางมองท่าทางที่ที่เฉยเมยของเขา แสงเฉียบคมก็เผยขึ้นในแววตา “ประธานหลู เราได้รับรายงานจากชาวบ้าน ว่าบริษัทของคุณต้องสงสัยว่ามีการหลีกเลี่ยงภาษี ก่ออาชญากรรมร้ายแรง หวังว่าตอนนี้คุณจะไปสถานีตำรวจกับผม ให้ความร่วมมือพวกเราในการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างชัดเจน”
หลอจี่หอางแม้ว่าจะอายุน้อย แต่ก็ทำคดีในสถานีตำรวจมาหลายปีแล้ว
จากแวบแรกที่เห็นการแสดงออกของหลูจื๋อหลิน หลอจี่หอางก็วิเคราะห์ได้เลยว่า หลูจื๋อหลินไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายๆ
บางทีเขาอาจรู้อยู่แล้วว่าตำรวจจะมาถึงหน้าประตู ดังนั้นถึงได้แต่งตัวเรียบร้อยแบบนี้
มองไปที่ท่าทางที่แต่งตัวอย่างดีของหลูจื๋อหลิน ในใจหลอจี่หอางยกมุมปากยิ้มอย่างเย็นชา
ต่อให้หลูจื๋อหลินจะแต่งตัวสง่างามแค่ไหน แต่ความดำมืดที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกนั้น เกรงว่าจะเน่าเสียจนส่งกลิ่นเหม็นอยู่นานแล้ว
หลูจื๋อหลินได้ฟังเขาพูดเช่นนี้ ใบหน้าก็เผยความประหลาดใจ “อะไร? หลีกเลี่ยงภาษี! จะเป็นไปได้ยังไงกัน ฉันได้รับรางวัลพลเมืองดี หัวข้อประชาชนดีเด่น ไม่มีทางทำเรื่องฝ่าฝืนกฎหมายแบบนั้นเด็ดขาด คุณตำรวจ คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”
เขาโบกมือ พูดอธิบายอย่างวิตกกังวล
ท่าทางนั้น ดูเหมือนหลูจื๋อหลินไม่ได้ทำจริงๆ เขาถูกใส่ความ
หลอจี่หอางนึกถึงเอกสารรายงานฉบับนั้นที่เขาเห็นในกล่องจดหมายเช้าวันนี้ ด้านในยังมีหลักฐานด้วย “ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ ก็ขอเชิญประธานหลูไปกับพวกเราด้วย การให้ความร่วมมือพวกเราในการตรวจสอบก็เป็นเรื่องที่คุณในฐานะพลเมืองดีควรจะทำ ถ้าประธานหลูไม่ได้หลบเลี่ยงภาษีจริงๆ งั้นก็ต้องถูกปล่อยตัวออกมาอยู่แล้ว หรือที่ประธานหลูดึงดันอยู่แบบนี้ เพราะกำลังกลัวอะไรอยู่?”
เขาหรี่ตาที่เฉียบคม มองตรงไปที่หลูจื๋อหลิน
หลูจื๋อหลินเดิมทีคิดจะทำไม่รู้ไม่เห็น แต่ไม่คิดว่าหลอจี่หอางจะดื้อด้านแบบนี้
เขารู้ ว่าตอนนี้ตนไปกระตุ้นความสงสัยของหลอจี่หอางแล้ว
ด้วยความทำอะไรไม่ได้ หลูจื๋อหลินตอบตกลงเขาไปอย่างไม่เต็มใจ “คุณตำรวจ ที่คุณพูดก็มีเหตุผล เมื่อกี้เป็นเพราะผมตกใจจนเพ้อเจ้อ ผมเชื่อมั่นในประเทศและกฎหมาย จะต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผมได้แน่ ตลอดมาผมเป็นคนซื่อสัตย์ ใสสะอาด”
เขาพูดอย่างชอบธรรม ใบหน้าเผยความจริงใจ
ด้านหลังมีนักศึกษาฝึกงานที่พึ่งเข้าสถานีตำรวจมา เห็นท่าทางแบบนี้ของหลูจื๋อหลิน ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย
เป็นหลูจื๋อหลินจริงๆหรอ?
ทำไมเขาดูสงบนิ่งแบบนี้ คำที่พูดก็ออกมาเป็นชุดๆ
ถ้าหลูจื๋อหลินกระทำความผิดจริง ตอนนี้เห็นตำรวจมาหาถึงหน้าประตู จะต้องหอบเงินอย่างตื่นตระหนก แล้วหลบหนีไปแล้วสิ