Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 1520
เมื่อสักครู่เขาสั่งให้ถังย่าปิดปากแล้วแท้ๆ แต่ถังย่ากลับจะพูดออกมาให้ได้
ถังย่ารู้ว่าเขาไม่ชอบฟัง แต่กลับจะขัดคำสั่งเขาให้ได้ เขาจะไม่โกรธได้อย่างไร
แบบนี้ไม่ดีแน่ เพราะรู้ว่ามีเสืออยู่บนภูเขาแท้ แต่ก็มักจะไปที่เขาเสือโคร่งเสียให้ได้
คำถามของจ้านเซิน ถังย่านิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะกล่าวช้าๆ “ฉันแค่ไม่อยากให้นายเป็นแบบนี้ต่อไปเท่านั้นเอง”
เธอกล่าวอย่างจริงใจ นัยน์ตาสั่นคลอน
จ้านเซินขมวดคิ้วแน่น “ตอนนี้ผมเป็นยังไง?”
ตอนนี้เขาเริ่มไม่มั่นใจในสถานะตนเองขึ้นมา
ถังย่ากล่าวอย่างหนักแน่น “นายในอดีตทุกอย่างองค์กรต้องมาก่อน เฉลียวฉลาด แต่ตอนนี้เพราะฉินซี นายทำเรื่องที่ทำให้สมาชิกในองค์กรลำบากใจ นายสามารถให้ทางรอดกับฉินซีได้แท้ๆ อวยพรเธอกับลู่เซิ่น แต่กลับจะไล่ล่าเธอกลับมาที่องค์กรให้ได้ ทำให้วุ่นวายไปทั่ว ทุกคนต่างไม่มีความสุข นายไม่ได้เป็นหัวหน้าที่ชาญฉลาดแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว”
แม้ว่าคำพูดของเธอจะโหดเหี้ยม แต่ทุกคำเป็นความจริง
แต่ ทุกคนในโลกโดยส่วนใหญ่มักจะฟังในสิ่งที่น่าฟัง ไม่ยอมรับฟังความจริง
เมื่อถังย่าพูดออกไปแบบนั้น จ้านเซินสีหน้าบูดบึ้ง
จ้านเซินเก็บกดความโมโห กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ผมเปล่า”
เขาไม่ยอมรับว่าตัวเขาจะเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องอย่างที่ถังย่าว่า
ถังย่าเลิกคิ้วขึ้น ยืนยันคำเดิม “หากนายไม่เชื่อฉัน นายสามารถไปถามคนอื่นในองค์กรได้เลย ว่าความคิดของพวกเขาเหมือนกับฉันหรือไม่”
เธอกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ทุกคำเสมือนกับเข็ม ที่ทิ่มแทงหัวใจของจ้านเซิน
จ้านเซินค่อยๆ ได้สติกลับคืนมา เขาคำรามเสียงดัง “พอได้แล้ว!”
ดวงตาที่ดุกร้าวถลึงใส่ถังย่า วางขวดยาในมือลง
ถังย่าจ้องมองทีท่าที่โมโหของเขา เผยรอยยิ้มเยาะเย้ย
เธอรู้อยู่แล้ว ความดีของจ้านเซินที่มีต่อเธอ อยู่ได้ไม่นาน
ดูสิ เธอเดาถูกแล้ว
จ้านเซินเปลี่ยนไปจากเมื่อสักครู่ พลันลุกขึ้นกะทันหัน
เขายืนเต็มความสูงมองไปที่ถังย่า ขณะที่ถังย่าคิดว่าจ้านเซินจะใส่อารมณ์กับเธอ มอบหมายให้เธอไปทำภารกิจที่ไกลที่สุด เลือกที่จะไม่เจอจะได้ไม่เบื่อนั้น จ้านเซินกล่าวขึ้นกะทันหัน “ถังย่า เธอคิดว่าฉันควรจะทำยังไง?”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง หากตั้งใจฟังให้ดี สามารถได้ยินเสียงที่ไร้หนทาง
ถังย่าไม่คิดเลย ว่าจ้านเซินที่อยู่สูงส่งมาโดยตลอด วันหนึ่งจะถามความคิดเห็นเธอด้วยเรื่องแบบนี้ สิ่งนี้ทำให้เธอตื่นตระหนก
“จ้านเซิน นายอยากจะฟังความคิดเห็นของฉันจริงหรือ?”
ถังย่ากล่าวถามอย่างไม่มั่นใจ
“อืม”
เมื่อเห็นจ้านเซินพยักหน้า ถังย่าจึงค่อยๆ กล่าว “ฉันคิดว่า ถ้านายหวังดีต่อฉินซีจริงๆ ชอบเธอจริงๆ ก็ควรที่จะเลือกให้เธอไปมีความสุข เมื่อก่อนเธอใช้ชีวิตไม่ง่ายเลย ชีวิตที่เหลือได้อยู่กับคนที่รัก เป็นเรื่องที่มีความสุขมากแค่ไหน”
ถังย่ากล่าว แววตาที่โหยหาปรากฏขึ้นบนใบหน้า
บอกตามตรง ในใจของเธอ สักวันเธอเองก็หวังว่าจะได้ไปจากองค์กรนี้กับจ้านเซิน ไปใช้ชีวิตของคนธรรมดา ไม่ใช่ทั้งวันมัวแต่ถือดาบถือปืน
แต่ เธอรู้ดี ว่าความฝันนี้ไม่มีทางเป็นจริง
อย่าว่าแต่เธอ ต่อให้เป็นจ้านเซิน ที่เป็นหัวหน้า ไม่สามารถละทิ้งองค์กรโดยไร้ความรับผิดชอบได้ แล้วสมาชิกกว่าเป็นพันเป็นหมื่นจะทำยังไง ที่มากไปกว่านั้น คนที่จ้านเซินชอบคือฉินซี ไม่ใช่เธอ ต่อให้จ้านเซินวางทุกอย่างลงได้ หนีไปพร้อมกับความรัก เหตุผลนั้นก็ไม่มีทางที่จะเป็นเธอไปได้
เพราะงั้น เธออย่านึกถึงอะไรที่เป็นไปไม่ได้จะดีกว่า
ถังย่าเผยรอยยิ้มที่ขมขื่น จ้านเซินไม่เข้าใจ
จ้านเซินขมวดคิ้วแน่น “เธอหมายความว่า ให้ผมปล่อยฉินซีและลู่เซิ่นไป?”
เขากล่างด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ บรรยากาศที่เป็นอันตรายในน้ำเสียง
ถังย่าพยักหน้า ภายในสายตาของเขา “ใช่”
ยังไงซะวันนี้นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอล่วงเกินลู่เซิ่น ตอนนี้ถือโอกาสพูดให้รู้เรื่องรวดเดียวเลย
ขมับของจ้านเซินกระตุก ไม่รู้ว่าจะอธิบายถึงความเจ็บปวดในตอนนี้อย่างไร “แล้วกฏขององค์กร จะทำยังไง? หากไม่ลงโทษฉินซีและลู่เซิ่น จะโน้มน้าวสมาชิกอื่นได้อย่างไร”
เขายังคงไม่สามารถผ่านอุปสรรค์ในใจ
ถังย่าเองก็มองเห็นความลังเลของเขา จึงกล่าวแนะนำ “ลงโทษส่วนลงโทษ แต่ในองค์กรก็ไม่มีกฎชัดเจน ว่าคนที่ออกจากองค์กรต้องตาย นายสามารถเลือกวิธีได้”
ยากนักที่เธอจะได้เจรจากับจ้านเซินในเรื่องนี้ หากเป็นเวลาปกติ จ้านเซินเบือนหน้าหนี ไล่เธอออกไปตั้งนานแล้ว
จ้านเซินค่อยๆ ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินอย่างนั้น “พอได้แล้ว!ผมไม่อยากได้ยินเรื่องนี้อีก”
เขากล่าวอย่างเย็นชา นัยน์ตาสีเข้มประกายด้วยความอดทน
จ้านเซินยังคิดไม่ได้ จึงไม่สามารถปล่อยวางได้
เสียงแหลมคม ทำให้ถังย่าสะดุ้งโหยง
เธอคิดว่าจ้านเซินอยากจะฟังความเห็นของเธอจริงๆ เสียอีก ที่แท้แล้วทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม
ถังย่าเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยตนเอง เธอรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรยุ่งเรื่องของคนอื่น
จ้านเซินที่มองเธอหลบหน้าหลบตา พลันหมดอารมณ์ขึ้นมา
“โอเค เธอออกไปเถอะ”
เขาขับไล่ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ถังย่าได้ยินเสียงที่เศร้าสลด
เธอสูดหายใจเข้า พยายามขมความเจ็บปวดในใจ กลั้นน้ำตาที่กำลังจะร่วงหล่นเอาไว้
ถังย่ารู้สึกว่าเธออ่อนแอลงทุกที เมื่อก่อนต่อให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอก็ไม่เคยหลั่งน้ำตาเลยแม้สักหยด แต่ตอนนี้เพราะประโยคเดียวของจ้านเซิน ก็ขอบตาแดงแล้ว
เธอรู้สึกว่าที่นี่ช่างน่าหดหู่ ทำให้เธอหายใจไม่ออก
ถังย่าลุกขึ้น แสร้งเข้มแข็ง “ได้”
เธอก้าวขาที่เรียวยาวออก ก้าวไปที่หน้าประตูอย่างมั่นคง
ต่อให้เธอเสียใจมากแค่ไหน ถังน่าก็ไม่ยอมให้ตนเองหันกลับไป
ถังย่ารู้ดี ต่อให้เธอหลั่งน้ำตาต่อหน้าจ้านเซิน จ้านเซินก็ไม่มีทางเห็นใจเขาแม้แต่น้อย ไม่เช่นนั้นเมื่อสักครู่เขาก็จะไม่มีทางลงคือบีบคอเธอจนแทบตาย
จ้านเซินยืนอยู่ที่เดิม จับจ้องแผ่นหลังที่ไกลออกไป นัยน์ตาสีดำฉายแววสลัวอย่างไม่เข้าใจ
ไม่รู้จะบอกความรู้สึกในใจยังไง ในหัวของเขาตีกันให้วุ่น
กระทั่งร่างของถังย่าหายลับไปต่อหน้า จ้านเซินถึงได้ค่อยๆ ละสายตา
จ้านเซินนั่งอยู่บนโซฟานิ่ง สายตาพร่ามัว
ถังย่ามุ่งไปยังด้านนอก แหงนหน้าชนเข้ากับซิวหน่ายซิง แต่เธอกลับผ่านเขาไปอย่างใจลอย
เมื่อซิวหน่ายซิงเห็นเธอเดินออกมาอย่างปลอดภัยดี บนใบหน้าของเขาเผยความยินดี ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เขาไล่ตามไป หากแต่เขาก็ได้เห็นดวงตาที่ร่องรอยที่ถังย่า