Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 167
บทที่ 167 จับมารร้ายยั่วยวยคนหนึ่ง
ลู่หวั่นตกใจเล็กน้อย แต่ก็กลับมาใจเย็นต่อ “ประธานมู่ งั้นฉันรีบไปเตรียมตัว “
เห็นลู่หวั่นจากไป ลี่หนานเฉิงเข้าใกล้ “ ลูกพี่ทำอะไรเนี่ย ? ลู่หวั่นไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไปนะ “
“ อืม แล้วไง ? “ มู่วี่สิงพิงไปที่หลังเก้าอี้อย่างขี้เกียจ น้ำเสียงจืด
“ เพราะฉะนั้นลูกพี่ก็ควรพาเวินจิ้งไป ถ้าคืนนี้ลูกพี่ออกงานกับลู่หวั่น ไม่รู้ว่านักข่าวนอกจะเขียนยังไง ! “ลี่หนานเฉิงเตือน
ครั้งที่แล้วกับงานแถลงข่าว มู่วี่สิงและลู่หวั่นก็โดนนักข่าวเขียนจน จะเป็นสามีภรรยากันแล้ว ถ้าบวกกับคืนนี้อีก …….
โถโถ สถานะลู่หวั่นก็คงชัดเจนกว่าเดิม
“ งั้นก็ให้ผู้สื่อข่าวด้านนอกเขียน “ ท่าทีมู่วี่สิงดูไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ลี่หนานเฉิงโกรธ เขายังคิดว่ามู่วี่สิงกับเวินจิ้งรักกันมาก แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ใช่แบบนี้ …..
กลางคืน เวินจิ้งยังคงทำงาน ไม่นานอั้ยเถียนก็โทรเข้ามา
“ จิ้งจิ้ง วันนี้ไม่ใช่งานเลี้ยงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปหรอ ทำไมเธอไม่มา ? “
อั้ยเถียนออกงานกับเสี้ยวหง รู้ว่าเวินจิ้งไม่มา จึงรีบโทรหาเวินจิ้งอย่างกังวล
“ คืนนี้ฉันต้องทำงานอีก “ เวินจิ้งขมวดคิ้ว
“ ทำงานบ้าอะไร ! ห้ามทำ เธอไม่รู้ ข้างมู่วี่สิงมีผู้หญิงมารร้ายคนหนึ่ง …. “
คิ้วของเวินจิ้งยิ่งขมวดนานขึ้น มารร้าย ?
เธอคิดถึงลู่หวั่นอย่างเร็ว
“ ฉันปฏิเสธมู่วี่สิงไปแล้ว อีกอย่างพรุ่งนี้ต้องเดินทางอีก ฉันกำลังเตรียมเอกสารอยู่ “
“เวินจิ้ง เธอต้องให้ฉันไปลากเธอมาเองใช่ไหม ! ฉันดูไม่ลงแล้วจริงจริง เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้น เธอคิดว่าตัวเองเป็นคุณนายแล้ว …. “
อั้ยเถียนยังพูดไม่จบ มือถือก็โดนเสี้ยวหงที่อยู่ข้างดึงไป
เธอจ้องไปที่เขาอย่างโกรธ เสี่ยวหงพูดเบาเบา“ เรื่องคนอื่นเขา เธอสนใจอะไร ? “
“ จิ้งจิ้งเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ฉันจะไม่สนได้ยังไง ! “
“ ลู่หวั่นแค่มาเป็นคู่มู่วี่สิง เธอคิดมากไปแล้ว “
“ ไม่ได้ มู่วี่สิงแต่งงานแล้ว คู่ร่วมงานก็มีไม่ได้ ! “
เสี้ยวหงขมวดคิ้ว นำมือถือของเธอเก็บไว้ที่กระเป๋ากางเกง “ เธอยังดื้ออีก ฉันจะส่งเธอออกไปนะ “
อั้ยเถียนโกรธอย่างทำอะไรไม่ได้ อยากจะอยู่แล้วคอยสังเกตมู่วี่สิง จึงไม่กล้าพูดอะไรแล้ว
ตอนนี้ บริษัทผลิตยาเทียนอี
เป็นเวลาแปดโมงกลางคืน เวินจิ้งเก็บของเตรียมกลับ มือถือมีข้อความเด้งมา
อั้ยเถียนเป็นคนส่งให้เธอ เป็นรูปภาพที่ลู่หวั่นควงมู่วี่สิงกำลังสนทนากับแขก ร่างของลู่หวั่นเกือบทั้งตัวที่อยู่ในอ้อมกอดของมู่วี่สิง ดูสนิทสนม
สีหน้าเวินจิ้งนิ่งไป ทั้งทั้งที่บอกตัวเองว่าจะไม่สน แต่สุดท้ายก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
“ จิ้งจิ้ง อยู่โรงแรมมู่ไห่ รีบมาจับมาร ! “
ยืนอยู่หน้าโรงแรมมู่ไห่ เวินจิ้งถึงพึ่งได้สติกลับมา
บอกไม่มาแท้แท้
ยืนอยู่หน้า เวินจิ้งยังคงไม่ก้าวขาออก ด้านข้างก็มีเสียงที่คุ้นเคย
“โถ คุณนายมู่ อยู่ที่นี่คนเดียวได้ยังไง ? “ ฉีเซินเดินเข้ามาใกล้
“ ไม่มีอะไร “ เวินจิ้งพูด หันหลังแล้วจะไป
ฉีเซินรั้งเธอไว้ ขมวดคิ้วถาม “ ฉันจำได้ว่าข้างในเป็นงานเลี้ยงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เธอคือคุณนายมู่ คืนนี้ไม่ออกงาน ? “
เวินจิ้งเงียบ สายตามีความเย็น
“ ฉันจะออกหรือไม่ออกงาน เหมือนจะไม่เกี่ยวกับคุณฉี หรอกนะ ? “ น้ำเสียงเวินจิ้งเย็นเย็นชาชา
“ เธอมักจะเมินฉันแบบนี้ ฉันจะเสียใจมาก “ ฉีเซินทำสีหน้าที่ผิดหวัง
“ พวกฉันก็ไม่ได้สนิทกันอยู่แล้ว ไม่ใช่หรอ ? “ เวินจิ้งก็ไม่มีความอดทนอะไร
“ ฉันช่วยเธอหลายรอบนะ เวินจิ้ง ฉันน่าพึ่งพากว่ามู่วี่สิง ไม่ใช่หรอ ? “ ฉีซานเข้าใกล้ ระยะห่างของทั้งสองใกล้กัน
เวินจิ้งขมวดคิ้ว สายตามีความระแวง “ เพราะฉะนั้น คุณต้องการพูดอะไร ? “
ฉีซานหัวเราะอย่างลึกซึ้ง “ เวินจิ้ง คราวหลังเธอต้องการฉันอยู่ “
พูดจบ ฉีซานก็ไม่อยู่ต่อ
เวินจิ้งไม่เข้าใจความหมายในคำพูดเขา เธอกับฉีซาน …. จะมีความสัมพันธ์อะไรได้ ?
เวลานี้ มีรถโรลส์รอยซ์คันหนึ่งกำลังค่อยค่อยจอดอยู่ไม่ไกล รถนี้ คุ้นเคยนัก
เธอเคยเห็นที่โรงรถของบ้านใหญ่ตระกูลมู่
หรือว่าคุณปู่มา ?
เวินจิ้งมองไปทางนั้น ประตูรถเปิดออก ร่างสูงวัยของมู่ฉิงเดินลงมา เขาจับไม้ค้ำไว้ แม้ผมจะขาว แต่เสน่ห์ก็ไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย ออร่าในการเดินค่อนข้างมีความน่ากลัวนัก
เห็นเวินจิ้ง มู่เฉิงเดินมาทางนี้ “ หลานสะใภ้ ทำไมยืนอยู่ตรงนี้ ? “
สีหน้าเวินจิ้งจืดจืด “ คุณปู่ คืนนี้ฉันยังมีงาน แค่สวนทางมาที่นี่ “
“เธอคือหลานสะใภ้ งานเลี้ยงบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปคืนนี้ ทำไมเธอถึงออกงานไม่ได้ วี่สิงก็เหมือนกัน “ มู่เฉิงไม่หยุดที่จะด่าว่า
“หลานสะใภ้ เธอเข้าไปกับปู่ ฉันจะไปสั่งสอนยัยบ้านั้นสักครั้ง ! “ พูดอยู่ แล้วสั่งให้เวินจิ้งเข้าไปด้วยกัน
ปฏิเสธคุณปู่ ไม่ได้ เวินจิ้งพยุงคนแก่เข้าไป แต่บนตัวเธอใส่แค่เสื้อที่ธรรมดาและกางเกงที่สบายตัว ไม่เข้ากับงานหรูหราสง่าแบบนี้เลย
เพราะตัวตนของมู่เฉิง ทั้งสองเดินเข้าไปก็เป็นจุดสนใจของคนไม่น้อย มู่เฉิงตอนนี้แม้จะถอยออกจากบริษัมมู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นคนที่สร้างจักรวรรดิบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมากับมือ อยู่ในเมืองหนานเฉิง มีอำนาจพอที่จะควบคุมได้บ้าง
ลี่หนานเฉิงเห็นทั้งสองก่อน แล้วรีบเดินมา “ คุณปู่ ท่านถึงแล้ว “
ถึงแม้ว่าลี่หนานเฉิงปกติจะขี้เล่นไม่สนอะไร แต่อยู่หน้ามู่เฉิง ก็ต้องเคารพ และมีมารยาท
“ ยัยเด็กนี่ เธอกลับมาแล้วหรอ “ มู่เฉิงหยี่ตา แล้วตบไหล่ลี่หนานเฉิงเบาเบา
เวินจิ้งมองชายทั้งสองตรงหน้า ตั้งแต่ครั้งที่แล้วเคยเห็นเขาที่บริษัทผลิตยาเทียนอี หลังจากนั้น ก็ไม่เคยเห็นเขาเลย
หรือว่า เขาเป็นคนของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ?
สบสายตาที่กำลังทบทวนของเวินจิ้ง ลี่หนานเฉิงจับแก้วไวน์ ขมวดคิ้วไปทางเธอ “ พี่สะใภ้ ฉันคิดว่าพี่จะไม่มาแล้ว “
พี่สะใภ้คำเดียว เวินจิ้งมีความอึดอัดเล็กน้อย
เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์เขา และมู่วี่สิงคงจะสนิทกันมาก
“หลานสะใภ้ ของฉันต้องมาอยู่แล้ว ยัยนั่นไปไหน ! “ มู่เฉิงถาม
“ เขาน่าจะอยู่ที่ห้องอาหารเปิดโล่งทางนู้น คุณปู่ มีผู้ถือหุ้นเก่าหลายคนอยากจะคุยกับท่าน “ ลี่หนานเฉิงชี้ไปตรงหน้า
เวินจิ้งรีบพูดอย่างรู้ตัว “ คุณปู่ ท่านไปก่อนเถอะ “
“ ได้ เดี่ยวฉันจะสั่งสอนยัยนั่นเองแน่นอน ! “
มู่เฉิงเจอผู้ถือหุ้นเก่าหลายคน สนทนาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยพลัง มีแค่เวินจิ้งที่ยืนอยู่หน้าประตู รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ลี่หนานเฉิงยื่นแก้วไวน์ให้เธอ แนะนำตัวเอง “ ฉันลี่หนานเฉิง มู่วี่สิงเป็นลูกพี่ฉัน “
“ สวัสดี ฉันคือเวินจิ้ง “ เวินจิ้งยิ้มออกมา
ลี่หนานเฉิงยังคงสำรวจเธอ คิดมานานก็ไม่เข้าใจ มู่วี่สิงชอบเธอตรงไหน !
“ มีอะไรหรอ ? “ เวินจิ้งสบตาที่กำลังสำรวจของเขา
“ เธอบอกฉัน เธออยู่กับมู่วี่สิง ใครจีบใครก่อน ? “
เวินจิ้ง นิ่งไป มีสีหน้าที่อึดอัดออกมา
“ มู่วี่สิงไม่ได้บอกคุณ ว่าพวกฉันแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ แต่งงานอย่างเร็ว “
“ แต่งงานอย่างสายฟ้าแลบ ? สมองมู่วี่สิงบ้าไปแล้ว ? “ ลี่หนานเฉิงพูดอย่างเหมือนจะหัวเราะ
“ คุณก็รู้สึกใช่ไหม ? “ ถ้าไม่ใช่ว่าสมองมู่วี่สิงไม่ปกติ คนที่จะแต่งงานด้วยคงน่าเป็นลู่หวั่นมั้ง? จะเป็นคนปานปานกลางกลางอย่างเธอได้ยังไง ?