Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 179
บทที่ 179 การวางแผนมานาน
มีคนที่เร็วกว่าฉืออี้เหิงก้าวหนึ่ง เวินจิ้งหันข้างไปก็พบกับคนอันคุ้นเคย พร้อมกับแรงลมที่เดินเข้ามาปะทะ เอวอันเรียวบางของเธอถูกโอบไว้
มือของฉืออี้เหิงถูกกั้นไว้ สายตามองขึ้นอย่างเยือกเย็น สายตาอันแข็งกร้าวของมู่วี่สิงทำให้เขากลัว
“คุณฉือจะทำอะไรภรรยาผม หะ?” น้ำเสียงของมู่วี่สิงพูดออกไปอย่างเย็นชา
ฉืออี้เหิงขมวดคิ้ว ถอยหลังออกไปครึ่งก้าว รู้สึกเกรงกลัวมู่วี่สิงตอนนี้
“ผมไม่ได้จะทำอะไร เพียงแต่ว่าการร่วมธุรกิจของผมกับเวินจิ้งเกิดความไม่เห็นพ้องกันขึ้น คุณมู่อย่าเข้ามาเกี่ยวเลย” ฉืออี้เหิงตอบอย่างเสียงเย็น
“ฉืออี้เหิง สิ่งที่คุณเรียกร้อง ฉันไม่รับปากแน่ ถ้าหากคุณต้องการจะทำลายสัญญา บริษัทการผลิตยาเทียนอีจะติดตามให้รับผิดชอบจนถึงที่สุด” หลังพูดจบ เธอก็เดินออกไป
ออกจากประตูไป เวินจิ้งถึงหยุดฝีเท้าลง มู่วี่สิงโอบตัวเธอตลอด
เธอมองขึ้น “คุณมาได้อย่างไร……”
เมื่อสักครู่เห็นมู่วี่สิง เธอยังรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
“คุณนายมู่อยู่ที่นี่ ผมไม่วางใจ” เสียงของมู่วี่สิงอบอุ่นทุ้มต่ำ
เหมือนดั่งเสียงดนตรีที่ทำให้หัวใจของเวินจิ้งเต้นรัวขึ้น
เธอเปล่งเสียงพร้อมกับใจที่เต้น “มีอะไรที่ไม่วางใจคะ……”
“ฉืออี้เหิงหาคนพึ่งพิงได้แล้ว ผมประเมินค่าเขาต่ำไป” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
ช่วงเวลานี้เขาตรวจสอบความเคลื่อนไหวของฉืออี้เหิงไม่เจอมาตลอด คิดไม่ถึงว่าจะอยู่ที่เมืองB
เมืองB เกือบจะอยู่ใต้อำนาจของตระกูลฉี
สายตาของเขาที่ดูมีแผนในใจค่อยๆแผ่ซ่านออกมา
“ช่วงนี้เหม่ยทง ที่มีข่าวยาปลอมกระจายไปทั่วนั้น จะเกี่ยวข้องอะไรกับเขาไหม?” เวินจิ้งถาม
ถึงแม้ว่าเมื่อสักครู่ฉืออี้เหิงจะปฏิเสธ แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน อีกทั้งเมื่อครู่ฉืออี้เหิงก็ได้แสดงออกถึงความเคียดแค้นอันเต็มอกที่มีต่อเธอเช่นนี้ด้วย มีเรื่องอะไรที่เขาจะทำออกมาไม่ได้……
เพียงแต่เรื่องของ เหม่ยทงนั้นมีผลกับบริษัทการผลิตยาเทียนอี อีกทั้งเรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็ทำให้เกิดความเสียหายด้านผลประโยชน์ต่อผู้ค้าปลีกทั้งหมดอย่างมาก ซึ่งฉืออี้เหิงตอนนี้ก็คือบริษัทโป๋ทงกรุ๊ปที่เป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดด้วย
“ไม่ใช่เขาที่เป็นคนปล่อยข่าวออกมาหรอก” มู่วี่สิงส่ายหัว
เวินจิ้งมองเห็นสีหน้าอันเคร่งขรึมของเขา หรือมู่วี่สิงจะสืบเจออะไรเข้าแล้ว?
แต่เมื่อเห็นเขาไม่ได้พูดอะไร เวินจิ้งก็ไม่ได้ถามต่อ
กลับไปถึงโรงแรม เวินจิ้งถึงรู้ว่ามู่วี่สิงมาถึงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว อีกทั้งยังพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกับเธออีกด้วย
ณ ตอนนี้ กระเป๋าเดินทางทั้งหมดของเธอก็ถูกย้ายมาอยู่ในห้องชุดพรีเมี่ยมที่หรูหราที่สุดของมู่วี่สิงตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้แล้ว
เวินจิ้งมองดูห้องชุดที่หรูหราฟู่ฟ่าตรงหน้าเธอ แล้วหันมามองชายข้างกายเธอ นี่เป็น……การวางแผนมานานแล้วใช่ไหม?
เห็นเวินจิ้งอึ้งเงียบไป มู่วี่สิงนวดที่ศีรษะเธอ เขายิ้มพร้อมกับริมฝีปากที่งุ้มขึ้น “อืม?”
“มู่วี่สิง ฉันว่าฉันลงไปพักกับอั้ยเถียนดีกว่านะ ยังไงก็ไม่อาจปล่อยให้เธอพักอยู่คนเดียวได้……”
“แล้วคุณจะปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวหรือ?” มู่วี่สิงโอบกอดพร้อมกับหยอกล้อเธอ
เวินจิ้งแก้มแดงขึ้น ชายหนุ่มคนนี้ทำไมดูเหมือนกำลังออดอ้อนเธออยู่……
“แต่ว่า พวกเราต้องพูดคุยเรื่องงานในบริษัทนะ” เวินจิ้งรู้สึกลำบากใจ
อีกทั้งตอนนี้ เธอดูเหมือนไม่ค่อยอยากอยู่กับมู่วี่สิง……
เป็นความรู้สึกว่า เธออยากจะรักษาระยะห่างกับเขา
“ผมมีพูดว่าไม่อนุญาตให้พวกคุณติดต่อพูดคุยกันหรือ? เพียงแต่ว่าช่วงนี้ คุณจะอยู่ได้แค่ที่นี่เท่านั้น นี่เป็นคำสั่ง” น้ำเสียงอันแข็งกร้าวของมู่วี่สิงไม่ง่ายที่จะปฏิเสธ
เวินจิ้งยังคงลังเล ขณะนั้นเสียงมือถือก็ดังขึ้น แล้วก็เป็นอั้นเถียนที่โทรเข้ามา
“จิ้งจิ้ง เธอถูกมนุษย์ต่างดาวจี้ตัวไปใช่ไหม? น้ำเสียงอันประหลาดใจของอั้ยเถียนถามเข้ามา
พอเธอกลับมา ก็เห็นว่าสิ่งของทั้งหมดของเวินจิ้งไม่อยู่แล้ว แม้แต่เตียงของเขาก็ถูกจัดระเบียบใหม่อย่างสะอาดเรียยร้อย
“ถูกหมูเผด็จการจี้ตัวมาหล่ะ” เวินจิ้งตอบอย่างโมโห
“ปัดโธ่!” อั้ยเถียนหัวเราะออกมา เข้าใจทันที “ประธานมู่มาแล้วหรอ? เขาก็คงจะเป็นห่วงเธอหล่ะสิ”
“ฉันมีอะไรให้น่าเป็นห่วง……” เวินจิ้งอึดอัดใจเล็กน้อย
“สามีเป็นห่วงภรรยาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว” อั้ยเถียนตอบอย่างยิ้มๆ นึกถึงเรื่องวันนี้ จึงถามว่า “วันนี้ฉืออี้เหิงเขาตอบกลับว่าอย่างไรบ้าง?”
“อาจจะยกเลิกสัญญา” เวินจิ้งนั่งลงด้วยสายตาที่รู้สึกหงุดหงิดออกมา
เขาส่งผลกระทบถึงตัวเธอ เมื่อนึกถึงฉืออี้เหิงที่วันนี้ได้ข่มขู่เธอต่างๆนานา สีหน้าของเวินจิ้งก็บึ้งลง
“ยกเลิกสัญญาหรอ อย่างนี้ก็ยุ่งหล่ะสิ เดิมที่ที่เคยเจรจาตกลงกับผู้จัดจำหน่ายรายต่างๆไปไม่น้อย พวกเขาก็มีความคิดจะผิดสัญญาเหมือนกัน ยอมชดเชยค่าเสียหายแต่ก็ไม่ยอมจำหน่ายยาปลอม ตอนนี้ชื่อเสียงของเหม่ยทงรู้สึกว่าจะป่นปี้เป็นแน่ ผลคะแนนการจำหน่ายครั้งนี้ของฉันก็จะต้องล้มเหลวแล้ว” อั้ยเถียนตอบอย่างขมขื่น
หากแม้แต่บริษัทโป๋ทงกรุ๊ปก็จะยกเลิกสัญญาด้วย เกรงว่ายาตัวนี้จะจำหน่ายออกไปได้ยากเป็นแน่แท้แล้ว
เวินจิ้งลดสายตาลง สีหน้าขาวซีด
“มู่วี่สิง ฉันต้องไปปรึกษาเรื่องงานของบริษัทกับอั้ยเถียน ดึกหน่อยฉันจะกลับมานะ” เวินจิ้งยืนขึ้น
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว จากเดิมที่กำลังดูคอมพิวเตอร์ก็ต้องเงยหน้าขึ้น “อืม อีกสักครู่มาทานข้าวเป็นเพื่อนผมนะ”
เวินจิ้งพยักหน้า รีบลงไปที่ห้องก่อนหน้าที่เคยพักอยู่
อั้ยเถียนกำลังหัวหมุน ข้างตัวเธอมีเอกสารกระจัดกระจายเต็มไปหมด อีเมล์ที่ส่งมาอย่างอัดแน่น พอเห็นหน้าเธอก็อดไม่ได้ที่จะแสดงอารมณ์โกรธออกมา
“จิ้งจิ้ง ในเมื่อไอ้สารเลวนั่นมันดูหมิ่นบริษัทการผลิตยาเทียนอี และหากว่าบริษัททั้งหมดยกเลิกสัญญาอีก เสี้ยงหงต้องเอาฉันตายแน่เลย” อั้ยเถียนตอบอย่างกลัดกลุ้ม
หนึ่งสัปดาห์ไม่ง่ายเลยที่เราจะเจรจากับผู้จัดจำหน่ายได้ แต่ก็มาทยอยปฏิเสธที่จะทำธุรกิจร่วมกับบริษัทการผลิตยาเทียนอีอีก ตอนนี้แม้ว่าบริษัทโป๋ทงกรุ๊ปจะไม่ได้ชี้แจงข้อสรุป แต่ก็เห็นได้ชัดว่าผลจะออกมาแย่มากว่าดีเป็นแน่
หากว่ายังคงเกิดสถานการณ์เช่นนี้อยู่อีก เหม่ยทง ยาตัวนี้ก็คงจะจำหน่ายไม่ได้เลย
อนาคตภายใน5ปีนี้ เหม่ยทง คือผลิตภัณฑ์ยาหลักของบริษัทการผลิตยาเทียนอี หากว่าปริมาณการจำหน่ายยาตัวนี้ไม่ดี ก็จะส่งผลกับบริษัทการผลิตยาเทียนอีอย่างไม่น้อยเลย
“บริษัทการผลิตยาเทียนอีช่วงนี้ได้เป็นคู่แข่งกับบริษัทไหนหรือไม่? หรือว่าจะเป็นคู่แข่งฝ่ายตรงข้าม? เวินจิ้งครุ่นคิด
อั้ยเถียนส่ายหน้า “ยาตัวนี้ในตลาดถือว่าได้เปรียบดีเลยทีเดียว ไม่มีบริษัทไหนที่มีผลิตภัณฑ์ยาใกล้เคียงกับตัวนี้ บริษัทการผลิตยาเทียนอีไม่เคยสร้างศัตรูภายนอกมาก่อน ดังนั้นถึงทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจ……”
ถึงแม้ตอนนี้สถานการณ์จะไม่ดี แต่ทั้งสองคนก็ยังคงพยายามติดต่อและพูดคุยกับผู้จัดจำหน่ายแต่ละบริษัท จนถึงตอน22.00น. เวินจิ้งได้ลืมเรื่องที่จะกลับไปทานอาหารกับมู่วี่สิงไปนานแล้ว
เพราะอั้ยเถียนเรียกให้เธอออกไปหาอะไรทาน เวินจิ้งถึงจะนึกออกมาได้
“恬恬 ฉันต้องกลับไปแล้วนะ ฉันจะลองถามมู่วี่สิงดูว่ามีวิธีการอื่นอีกไหม หรือไม่ก็ให้ทางหน่วยงานตรวจสอบด้านยาเขาออกหนังสือรับรองอย่างเป็นทางการ เหม่ยทงเป็นตัวยาที่ผ่านการตรวจสอบตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร” เวินจิ้งตอบเสียงเข้ม
“อืม ฉันก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน หากว่าไม่มีหนทางอื่นแล้ว พวกเราก็คงต้องรีบกลับไปที่เมืองหนานเฉิง ปรึกษาคุณเสี้ยงดูก่อน ไม่งั้นเรามาอยู่ที่นี่ก็เสียเวลาเปล่า” อั้ยเถียนเริ่มใจเย็นลง
เรื่องนี้มีคนต้องการทำลายบริษัทการผลิตยาเทียนอีอย่างไม่มีข้อสงสัย และตอนนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือต้องตรวจสอบหาคนที่ลอบลงมือกระทำเรื่องนี้
ขึ้นไปชั้นบน เวินจิ้งผลักประตูเข้าไป มองเห็นเงาอันสูงใหญ่ของมู่วี่สิงที่ยืนอยู่หน้ากระจกใส นิ้วอันเรียวยาวกำลังกุมมือถือไว้ น้ำเสียงเยือกเย็น
เวินจิ้งหยุดฝีก้าว ไม่ได้ยินเสียงเขาคุยโทรศัพท์ เธอนั่งลงบนโซฟา ด้านหน้าวางเอกสารอยู่จำนวนหนึ่ง เธอมองด้วยความสงสัย ชื่อของฉินเฟยเข้ามาในตาเธอ