Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 253
บทที่ 253 นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะเลือกได้
แม้ว่าสถานะของเวินจิ้งจะแต่งงานแล้ว หลิงอี้เกี่ยวข้องกับเธอ และทำลายชื่อเสียงของตัวเอง
“เธอไร้เดียงสาจริงๆ เวลานี้ยังนึกถึงคนอื่น” มู่วี่สิงไม่พอใจ
เขาหวังอยากให้ผู้หญิงคนนี้นึกถึงตัวเองให้มาก
มักนึกถึงแต่คนอื่น คนที่กังวลเป็นเขา
เวินจิ้งยิ้ม คุณรักฉัน ไม่อยากให้ฉันไร้เดียงสา?”
แววตาของมู่วี่สิงเปียมไปด้วยความรัก บีบคางของเธอ ก้มลงจูบเธออยาดูดดื่ม
อืม เขาอนุญาต
…
สามวันต่อมา เวินจิ้งเช็คผลการสอบระดับบัณฑิตศึกษา ในการสอบข้อเขียนครั้งที่สาม และผ่านการเข้าสัมภาษณ์
แม้ว่าเธอจะมีความมั่นใจในตัวเอง แต่ว่าผลสอบนี้ ก็ทำให้เธอประหลาดใจ
ในนี้ต้องมีมู่วี่สิงมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้
ประเด็นสำคัญที่เขาทบทวนให้เกือบจะถูกหมด ต่อมาก่อนสอบหนึ่งเดือนเธอโกรธเขา เขาก็แยกประเด็นสำคัญเตรียมการสอบให้เธออย่างเงียบๆ
มุมปากของเธอค่อยๆโค้งขึ้น ข่าวดีแบบนี้เธออยากบอกให้เขาเป็นคนแรก
ขณะนี้ มือถือของเวินจิ้งดังขึ้น เป็นสายจากคนไม่รู้จัก
“สวัสดี?”
“เวินจิ้ง ฉันเป็นคุณปู่ของเธอ
หน้าประตูยริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เลสลี่ละเอียดสูงที่สง่างามจอดอยู่ข้างๆ
แวบเดียวเวินจิ้งก็เห็น
คุณปู่…
เธอไม่เคยคิด นอกจากหลินเวย ญาติคนอื่นๆก็จะเกิดขึ้นเช่นกัน
เธอไม่ทันเตรียมตัว
ภายในรถกว้างขวาง เวินจิ้งก้าวเข้ามาอย่างสงบ หลินเจิ้งอายุมากแล้ว มีผมขาว แต่บนใบหน้าเผยความสง่านั้นทำให้คนตะลึง
เมื่อตอนยังหนุ่มเป็นผู้ชายที่มีอำนาจในแวดวงธุรกิจ
คำว่า “คุณปู่” ติดอยู่ที่ลำคอ เวินจิ้งไม่ได้เอ่ยออกมา
สำหรับชายวัยชราตรงหน้า เธอไม่รู้จักเลย
“ฉันรู้ว่าเธอประหลาดใจ แต่ว่าเวินจิ้ง ปีนั้นตระกูลหลินไม่มีลูก แต่ตามกฎระเบียบของตระกูลหลิน ตระกูลหลินจำเป็นต้องลูกผู้ชายมาสืบทอด ฉันกำลังพูดถึงลูกสาวทั้งสองคน ใครคลอดบุตรชายก่อน คนนั้นสามารถสืบทอดบริษัทหลินซื่อ และปีนั้นเวยเวยถูกควบคุมโดยตระกูลฉี เลยต้องรับเด็กผู้ชายมาเลี้ยง เรื่องนี้ ฉันเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้”
เพียงไม่กี่คำ ใบหน้าของเวินจิ้งขาวซีด
คำพูดนี้ กับความจริงที่มู่วี่สิงบอกเธอไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่
แต่ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ สาเหตุเพราะเธอไม่ใช่เด็กผู้ชาย ดังนั้นจึงถูกทิ้ง
และตระกูลฉีก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
เพียงแต่เธอไม่รู้สึกลำบากใจ เติบโตข้างกายเจี่ยนอีมาตั้งแต่เด็ก เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดสำหรับเธอ
“ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอยังยอมรับตัวตนของตัวเองไม่ได้ แต่ว่า เธอเป็นหลานสาวของฉัน ตัวตนนี้เป็นสิ่งที่แน่นอน” หลินเจิ้งน้ำเสียงดัง
“คุณปู่ ฉันยังไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ทั้งหมด” เวินจิ้งพูดตรงๆ
ก่อนหน้านี้ยุ่งกับการเตรียมตัวสอบบัณฑิต เธอสามารถหยุดคิดถึงเรื่องนี้ได้ชั่วคราว
แต่เมื่อการสอบบัณฑิตเสร็จสิ้น เธอยังคงต่อต้านมาก
ในใจคิดว่า เจี่ยนอีเป็นคนใกล้ตัวของเธอ
“เธอแปลกใจใช่ไหม ทำไมฉันต้องมาหาเธอด้วยตัวเอง” หลินเจิ้งมองเธอ
ระหว่างการพูดคุย เขาถอนหายใจตลอด หายใจถี่ตลอด สุขภาพไม่ค่อยดี
พ่อบ้านข้างกายคอยดูแลเขา
“ฉันมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึงครึ่งปี ปีนั้นฉันสับสนจนทำให้เธออยู่ข้างนอก ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลหลิงที่ฉันทิ้งไว้ ให้เธอมาสืบทอด”
เวินจิ้งอึ้ง ไม่ได้สติอยู่นาน
ขณะนี้เธอไม่รู้ แม้ว่าหลินเจิ้งจะมีทรัพย์สินของครอบครัวในช่วงแรกๆของเขา แต่ตอนนี้เขายังคงควบคุมห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั้งหมดของบริษัทหลินซื่อในยุโรป ความมั่งคั่งเพียงพอที่จะซื้อไม่กี่ประเทศ!
โรลล์รอยซ์ถูกขับไปยังบ้านพักในเขตชานเมือง หัวสมองของเวินจิ้งสับสนมาก
เธอไม่เคยนึกถึงตัวตนของหลินเวย คิดมาโดยตลอดว่าเธอเป็นเจ้าของตระกูลฉี
แต่ว่า เมื่อเห็นบ้านพักตากอากาศคล้ายปราสาทที่หรูหราตั้งอยู่ในเขตชานเมืองตะวันตก เวินจิ้งอึ้งอีกครั้ง
งดงามและสง่างามราวกับราชวัง ทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน
“ที่นี่คือ…”
“ที่นี่เป็นบ้านเก่าหลังใหญ่ของตระกูลหลิน หลานสาว เข้ามากับปู่”
เท้าเหยียบบนก้อนหินที่ประณีตบนทางเดิน ต้นไม้และดอกไม้ทุกชนิดล้วนถูกคนใช้ตัดแต่งอย่างละเอียด
“ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม…” เวินจิ้งตบใบหน้ารูปไข่ของตัวเองเบาๆ
เธอต้องฝันไปแน่นอน!
แต่ว่า เจ็บจังเลย
รู้สึกชัดเจนมาก
“เวินจิ้ง เธอเป็นหลานสาวคนเดียวของตระกูลหลิน ต่อไปที่นี่ก็จะเป็นบ้านของเธอ”
หลินเจิ้งยันไม้เท้า ข้างกายมีพ่อบ้านพยุงไว้เดินเข้าไป
สมองของเวินจิ้งสับสน หลินเจอ้งไม่ได้ให้ความประหลาดใจกับเธอ แต่เป็นความตกใจ
“คุณปู่ ฉัน…”
เธอถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ต้องการออกไปจากที่นี่
ต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่เลย
แต่รปภ.ที่ประตูหยุดเธอไว้ เวินจิ้งไม่มีทางหนีไปได้
พ่อบ้านเชิญเวินจิ้งไปที่ห้องรับแขก หลินเจิ้งนั่งลง ด้วยใบหน้าที่จริงจัง
“นั่งลง ปู่ยังพูดไม่เสร็จ”
เวินจิ้งสับสน ค่อนข้างคับแคบ
จนถึงตอนนี้ เธอรู้สึกว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องจริง
“ฉันรู้ว่าเธอเพิ่งสอบบัณฑิตวิทยาลัยไป แต่มหาวิทยาลัยหลินไห่ ไม่เหมาะกับเธอ นี่เป็นสามวิทยาลัยยอดนิยมในต่างประเทศ เธอเลือกมาอันหนึ่ง ปู่ไปยื่นเรื่องสมัครวิทยาลัยให้หลาน”
“คุณปู่…ฉันไปสมัครสอบที่มหาวิทยาลัยหลินไห่แล้ว ฉันจะไม่เปลี่ยนที่ได้เลือกไว้” ไม่ง่ายที่อารมณ์ของเวินจิ้งจะสงบลงได้ แต่ระเบิดลูกนี้มาแล้วก็มาอีก
“เธอเป็นลูกของตระกูลหลินของเรา ต้องไปมหาลัยชั้นนำ จำเป็นต้องเลือก!” หลินเจิ้งทำหน้าโหด
มือของเวินจิ้งสั่น เธอไม่เคยคิดจะออกนอกประเทศ
เธอไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น เธอก็ไม่อยากต้องพึ่งมู่วี่สิง
แตว่า ตอนนี้เหมือนว่าหลินเจิ้งจะเป็นคนเลือกให้เธอแล้ว
เธอส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ “คุณปู่ ถ้าหากคุณเห็นว่าฉันเป็นหลาน โปรดเคารพการตัดสินใจของฉันด้วย”
ที่เธอเตรียมสอบคือมหาวิทยาลัยหลินไห่ เธอก็มีความมั่นใจว่าตัวเองจะสอบผ่าน
เธอไม่อยากพึ่งความสัมพันธ์ใด
“ไม่ว่าเธอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลินไห่ ปู่ก็ไม่มีทางให้เธอไปเรียน!”
หลินเจิ้งก็ดื้อไม่แพ้กัน
เวินจิ้งลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ “ถ้าหากเป็นคนของตระกูลหลินจำเป็นต้องมีคนเข้ามาแทรกแซงทุกอย่าง อย่างนั้นฉันก็ขอเป็นแค่คนธรรมดา”
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะเลือกได้” หลินเจิ้งทุบไม้เท้าอย่างหนัก
คำพูดของเวินจิ้งทำให้เขาหงุดหงิดอย่างไม่ต้องสงสัย สีหน้าของเขาซีดเผือดมาก เสียงลมหายใจยิ่งอยู่ยิ่งถี่ขึ้น
เวินจิ้งขมวดคิ้ว จ้องมองอารมณ์ของปู่ที่ดูแปลกๆ ก็ไม่กล้าพูด
พ่อบ้านรีบเอายามาให้ หลินเจิ้งทานยา สีหน้าถึงจะกลับมาปกติบ้าง
แต่เวินจิ้งกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของคุณปู่ ก็ไม่กล้าพูดอะไรที่กระตุ้นเขา
แต่ว่า เธอก็มีการตัดสินใจของเธอ
“คุณปู่ คุณพักผ่อนให้ดี ฉันไปก่อน”
ทุกสิ่งอย่างที่ไม่รู้จัก อยู่ในนอกเหนือที่เธอสามารถทนรับได้
แม้จพอยู่ในสถานที่หรูหรา เธอก็ไม่รู้สึกว่าเป็นเจ้าของ
เวินจิ้งแทบจะวิ่งออกไป หามือถือ เธอกดโทรเบอร์ของมู่วี่สิง
ในเวลานี้เขาเพิ่งกลับจากอาหารค่ำมาที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป และรับสาย
“มู่วี่สิง คุณอยู่ไหน…”
“เธออยู่ไหน?” มู่วี่สิงสีหน้าเงียบ แม้จะถามแบบนี้ แต่อีกครู่ก็สามารถค้นตำแหน่งที่อยู่ของเวินจิ้งได้แล้ว
ปราสาทตระกูลหลิน…
ดวงตาของเขาเย็นชา