Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 275
บทที่275 มีเธอ ก็ไม่มีฉัน
“ส้งวี่ ภายในวันนี้ จะต้องหาให้เจอ!” น้ำเสียงของมู่วี่สิงพูดอย่างเยือกเย็น
“ผมทราบแล้ว”
เมื่อได้วางสาย มู่วี่สิงได้สั่งเกาเชียน “ เพิ่มความปลอดภัยของปราสาทตระกูลหลิน และส่งเจ้าหน้าที่ไปหาที่อยู่ของซือซือ”
ในปราสาท มีแขกจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้ามา
บริเวณประตู รถสีดำได้จอดอย่างช้าๆ
“จากนี่คุณสามารถไปที่อาคารเสริมได้เลย ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ชั้นสาม”
มู่ซือซือเงยหน้าขึ้น กัดริมฝีปากอย่างแรง และผลักรถเข็นออกจากรถ
ในรถ เมื่อมองไปที่ด้านหลังมู่ซือซือ ดวงตาของผู้หญิงบอบบางได้เปล่งประกายความเย็นชาออกมาชั้นสาม ณ ห้องแต่งตัว
อั้ยเถียนได้ช่วยเวินจิ้งทำผมจนเสร็จ และยืนอยู่หน้ากระจก เวินจิ้งนั้นงดงามมากจนผู้หญิงทุกคนจะต้องอิจฉา
“จิ้งจิ้ง เธอทำให้ฉันหลงจะตายอยู่แล้ว” อั้ยเถียนยิ้ม
แก้มของเวินจิ้งเริ่มแดง และได้มองตัวเองในกระจก อย่างกับคนแปลกหน้า แต่เมื่อได้แต่งตัวเสร็จแล้วก็น่าทึ่งมาก
ปกติเธอมักจะไม่ได้แต่งหน้า และการแต่งตัวก็เรียบง่าย
แต่ตอนนี้ เธอได้สวมชุดแต่งงานอย่างเต็มตัว แต่งหน้าอย่างสดใส และเธอได้สวมมงกุฎดอกไม้ ความงดงามละเมียดละไมของเธอนั้นก็ได้ปรากฏขึ้น
“น้องอั้ย มาช่วยฉันหน่อยได้ไหม” ตอนนั้นช่างแต่งหน้าก็เข้ามา
“มีอะไรเหรอ”
“คุณนายหลินยังไม่ได้แต่งหน้า ฉันคนเดียวดูแลไม่ทัน ไม่มีเวลาแล้ว”
“จิ้งจิ้ง งั้นเธออยู่กับตัวเองไปก่อน เดี๋ยวฉันมา”
ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงแปลกๆจากนอกประตู เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นได้เห็นมู่ซือซือ สีหน้าเวินจิ้งก็ได้เปลี่ยนไป
มู่ซือซือกำลังนั่งอยู่บนรถเข็น พร้อมสีหน้าที่ซีดเซียว แต่ดวงตาเขากลับเยือกเย็นอย่างน่ากลัว
“เฮ้ เธอยิ้มมีความสุขจังเลยนะ ฉันดูแล้วรู้สึกว่ามันน่าตลกมากกว่า” น้ำเสียงของมู่ซือซือก็ได้ดังขึ้น
เวินจิ้งขมวดคิ้วอย่างหนัก มู่ซือซือมาอยู่นี่ได้อย่างไร
“เธออยากจะแต่งงานกับพี่ชายฉัน แต่ฉันไม่เห็นด้วย”
“ซือซือ ฉันได้แต่งงานกับมู่วี่สิงแล้ว” เวินจิ้งพูดอย่างหนักแน่น
“แต่งได้ก็ต้องหย่าได้หนิ เธอรู้ไหมว่าทำไมตอนนี้ฉันถึงต้องมานั่งรถเข็น นั่นคือสิ่งที่น้องชายที่แสนดีของเธอได้ทำเอาไว้ เขาได้ทำรุนแรงกับฉัน——–”
เมื่อได้ยิน สีหน้าของเวินจิ้งก็ซีดเซียว
ฉีเซิน ………
เขาเป็นคนแบบนั้นเหรอ
เธอไม่ได้รู้สึกดีอะไรต่อฉีเซิน แต่กลับคิดไม่ถึงว่า เขาได้กลายเป็นคนสกปรก
“ฉันฆ่าเขาไม่ได้ แล้วเธอคิดว่าฉันจะฆ่าเธอได้ไหมล่ะ” มู่ซือซือก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆ
ไม่รู้ว่าบนมือของเธอถือมีดออกมาเมื่อไหร่!
เวินจิ้งเบิกตากว้าง และเมื่อเธอได้เหวี่ยงตัวลงไป จากนั้นได้หยิบหมอนที่อยู่ข้างๆเหวี่ยงไปที่ตัวเขา เพียงเพื่อเป็นการปกป้องกันตัวจากมู่ซือซือเท่านั้น
แต่เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ยอมปล่อยเวินจิ้งไปแน่ๆ และเวินจิ้งได้สะดุดเข้าหาเธอ
เวินจิ้งมองไปที่เท้าของเธอ แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอก็ยังสามารถเดินได้
“เป็นเพราะน้องชายของเธอ ฉันถึงได้ใส่ขาเทียมมาตลอดชีวิต ผู้หญิงอย่างเธอ ไม่สมควรแต่งงานกับพี่ชายฉัน เธอมีสิทธิ์อะไร——” มู่ซือซือตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“ซือซือ ฉันไม่รู้จะปฏิเสธยังไงว่าฉันกับฉีเซินมีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด แต่ฉันคิดเหมือนกับเธอ ฉันก็เกลียดเขา” เวินจิ้งพูดเสียงดัง
มือของเวินจิ้งค่อยๆจับข้อมือของมู่ซือซือ และต้องการจะเอามีดออกจากมือของเธอ
แต่มือของมู่ซือซือได้ยกขึ้น และต้องการจะแทงที่ใบหน้าอันอ่อนโยนของเวินจิ้ง!
เธอไม่ได้เชื่อกับคำพูดของเวินจิ้งอยู่แล้ว “เกลียดเหรอ ทำไมเธอถึงเกลียดเขา เวินจิ้ง เธออย่ามาโกหกฉัน พวกเธอเป็นคนของตระกูลฉี ฉันขอให้พวกเธอไม่ตายดี——–”
มู่ซือซือปีนขึ้น แล้วก็กระโจนเข้ามาอีกครั้ง
เวินจิ้งได้หมุนตัว มู่ซือซือยากที่จะขยับตัว และเหวี่ยงกระแทกไปกับกำแพง
เวินจิ้งคว้ามีดในมือของเธอทันที แต่ไม่ทันได้ระวังมู่ซือซือ มีดเลยแทงไปยังเวินจิ้ง
กลิ่นเลือดที่ส่งออกมา เวินจิ้งมองไปที่ฝ่ามือตัวเอง ความเจ็บปวดก็ได้ปรี๊ดขึ้นมาทันที
แต่มู่ซือซือก็ไม่ยอม ได้กระโจนตัวจับมีดขึ้นอีกครั้ง——
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดีงเข้ามา ประตูถูกเปิดออก มู่วี่สิงเดินเข้ามาในชุดสูทสีดำพลางมีออร่าที่เย็นชา
เมื่อได้เห็นเลือดบนมือของเวินจิ้ง ก็ยิ่งทำให้ดวงเขม็ง และได้ดึงมีดในมือของมู่ซือซือออก
มู่ซือซือสั่นเทา แล้วล้มตัวลงบนโซฟา
เวินจิ้งที่ได้ถูกมู่วี่สิงสวมกอดอยู่นั้น สีหน้าของเธอก็ซีดมาก
มองที่หลังมือของตัวเอง เลือดสดก็ไหลนอง
“มู่ซือซือ เธอไม่ได้สนใจคำพูดของฉันเลยใช่ไหม” มู่วี่สิงมองดูเธออย่างโหดเหี้ยม
มู่ซือซือยิ้มอย่างเย็นชา “พี่คิดจะปกป้องเธอเหรอ พี่ชาย ฉันไม่อนุญาต!”
“เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับเธอ”
พูดจบ มู่วี่สิงหันมาสั่งเกาเชียนให้พามู่ซือซือออกไป
มือของเวินจิ้งได้รับบาดเจ็บ มู่วี่สิงได้เรียกหมอส่วนตัวให้มาทันที
ในห้องพักรับรอง อั้ยเถียนและหลินเวยต่างก็รีบมา
“จิ้งจิ้ง เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“มู่ซือซือมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง คนในตระกูลมู่ไม่เห็นเขาบ้างรึไง!” หลินเวยมองดูมู่วี่สิงด้วยความโกรธ
มู่วี่สิงยืนข้างๆเวินจิ้ง และได้กอดเธอตลอดเวลา
เมื่อได้รู้ว่ามู่ซือซือหายตัวไป เขาก็มาหาเวินจิ้งที่ปราสาททันที แต่ก็มาสายเพียงนิดเดียว
“แม่ ฉันไม่เป็นไร แล้วก็ไม่ได้เจ็บอะไรมาก”
เวินจิ้งเข้าใจอารมณ์ของมู่ซือซือดี หากฉีเซินไม่ได้ทำเรื่องอะไรแบบนั้นกับเธอจริงๆ เธอก็คงจะไม่ทำอะไรที่รุนแรงขนาดนี้
และมู่ซือซือก็ยังเด็กมาก
“เสี่ยวจิ้ง ไม่อย่างนั้นต้องเลื่อนงานแต่งงานไปอีกสักสองสามวัน รอให้มือเธอหายดีก่อน”
“แม่ แค่เจ็บเล็กน้อยเอง พันแผลเสร็จก็ดีขึ้นเยอะแล้ว แขกก็มากันแล้ว อย่าให้ทุกคนก็เสียเวลาเลย”
“อืม งั้นก็ตามที่เธอว่า แต่ผู้หญิงที่บ้าคลั่งของตระกูลมู่ได้กลับมาแล้ว ฉันก็ยังคงกังวล” หลินเวยขมวดคิ้ว
ชั้นหนึ่ง ส้งวี่ได้มารับมู่ซือซือกลับไป
มู่วี่สิงยังคงทำหน้าเย็นชา
“พี่ชาย งานแต่งนี้ได้จัดขึ้นแล้ว พี่ก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าน้องสาวอีก!”
“เธอวุ่นวายพอรึยัง”
“ยัง พี่แต่งงานกับผู้หญิงนั่น ฉันก็จะวุ่นวาย ฉันจะไม่ยอมปล่อยคนในตระกูลฉีไปแม้แต่คนเดียว!”
“งั้น เธอก็ไม่ปล่อยพี่ด้วยใช่ไหม” มู่วี่สิงหรี่ตา
มู่ซือซือได้หยุดชะงัก เธอไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น…….
เธอสั่นสะท้านทำหน้าบูดบึ้งต่อหน้าพี่ชาย
เธอเพียงแค่ไม่ชอบผู้หญิงคนนั้น เธอเกลียดเขา เกลียดที่เขาและฉีเซินเป็นพี่น้องกัน……..
“พี่ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
“กลับไปรอประเทศ C พี่ทำเพื่อเธอ”
“พี่แค่ไม่อยากให้ฉันทำร้ายเธอ” มู่ซือซือตอบโต้
“อืม ก็ใช่ เธอเป็นคนของฉัน มู่ซือซือ ถ้าเธอทำร้ายเขาอีก ฉันโกรธแน่”
ตั้งแต่เล็กจนโต มู่วี่สิงมีน้องสาวแค่สองคน คนหนึ่งขื่อลู่หวั่น อีกคนชื่อมู่ซือซือ
มู่ซือซือเป็นสายเลือดของตระกูลมู่ และเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเขามาก เขาก็ทำร้ายเธอเช่นกัน
ไม่ว่าเธอจะโวยวายเรื่องอะไรขึ้น เขาก็ตามใจเสมอ
แต่เวินจิ้ง เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเขา
“พี่มีเธอ ก็จะไม่มีฉัน” มู่ซือซือพูดจบอย่างโหดเหี้ยม
และมู่วี่สิงหันหลังกลับโดยไม่ลังเล
หมอกในดวงตาของมู่ซือซือ และได้หันกลับไปในอ้อมแขนของส้งวี่
“เป็นอย่างนี้ได้ไง ……. ส้งวี่ พี่ชายฉันบ้าไปแล้วรึไง”
เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน ในใจของพี่ชาย จะมีผู้หญิงอีกคนที่สำคัญกว่าเธอ
ส้งวี่ขมวดคิ้ว เขายังไม่รู้เรื่องราวที่ผ่านมาของมู่วี่สิงและเวินจิ้ง และไม่คิดว่ามู่วี่สิงจะรู้สึกชอบกับเวินจิ้ง
แต่ตอนนี้การกระทำของมู่วี่สิงนั้นทำให้เขาไม่สามารถเข้าใจได้