Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 333
บทที่333 ในสายตามีแค่เขาคนเดียว
“บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป……เห้อ ยาพวกนี้ล้วนเป็นยาตัวใหม่ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป? วันนี้ศาสตราจารย์เพิ่งพูดกับเราว่ายาพวกนี้น่าอัศจรรย์มากเลยนะ…… ” หลิงเหยาพูดอย่างตกใจ
เธอไม่รู้เลยว่ายาตัวใหม่นี้เป็นการค้นคว้าของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
“ตอนนี้โรงพยาบาลแย่งกันจองนาพวกนี้อยู่เลยนะ ร้านยามากมายก็ไม่มีของแล้ว ” หลิงเหยาพูด
เวินจิ้งขมวดคิ้ว แต่ก่อนเธอทำการค้นคว้าร่วมกับมู่วี่สิง ยาพวกนี้ก็นับว่าเธอค่อนข้างที่จะรู้เป็นอย่างดี
มู่วี่สิงเริ่มการค้นคว้ามาตั้งห้าปีที่แล้ว ถึงวันนี้ที่วางขายในตลาด ได้รับเสียงตอบรับมากมาย
“มันดีมากขนาดนั้นเลยเหรอ? ”
“แน่นอน ถึงแม้เป็นมู่วี่สิงที่ทำการค้นคว้า ในชื่อเสียงด้านอุตสาหกรรมนั้นไม่มีใครเทียบได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยาพวกนี้ได้รับการทดลองในต่างประเทศก่อน ผลลัพธ์ดีมากๆ เพราะฉะนั้นตอนนี้วางขายในประเทศก็ดึงดูดผู้คนมากมายแย่งกันอยากได้ ”
“แต่ก่อนคุณก็ทำงานในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมาระยะหนึ่ง อย่าบอกว่าคุณไม่รู้? ” หลิงเหยามองเธอ
“ฉันเคยทำการค้นคว้ากับมู่วี่สิงจริง แต่ก็รู้ไม่เยอะมาก ” เวินจิ้งส่ายหัว เธอกลับไม่ใช่ผู้ศึกษาค้นคว้าหลัก
“อ่อ ฉันควรจะซื้อหุ้นของบริษัทมู่วี่สิงตั้งนานแล้ว ไม่อย่างนั้นตอนนี้ก็ขายได้เงินเยอะแยะแล้ว ”หลิงเหยาพูดถอนลมหายใจ
เวินจิ้งยิ้มๆ “คุณผู้หญิงหลิงไม่ได้ขาดเงินสักหน่อย ”
“ใครบอก ค่าเรียนปริญญาโทเป็นฉันที่จ่ายเอง ฉันไม่อยากเพิ่งพึ่งคนในครอบครัวตลอด ตระกูลหลิงในตอนนี้ไม่เหมือนแต่ก่อน หลายปีที่แล้วเกือบจะล้มละลายแล้ว เป็นเพราะว่าตระกูลหลินของพวกคุณที่จัดการเรื่องเงินถึงได้ผ่านมาได้ ”
ตอนที่ตระกูลหลิงมีความยากลำบากนั้น คือหลิงอี้คนเดียวนี้โอบอุ้มตระกูลหลิงไว้
“ตอนนี้ทุกอย่างผ่านมาได้แล้ว ” เวินจิ้งพูดปลอบ
ถึงแม้ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ติดต่อกับหลิงเหยา แต่ว่าเวินจิ้งก็พอจะรู้และเข้าใจนิสัยของเธอ
ไม่มีความเย่อหยิ่ง แถมยังเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่าย
“อืม ฉันหวังอนาคตฉันจะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระพี่ชายได้บ้าง ตอนนี้ฉันสามารถเรียนแพทย์ได้ ก็เพราะมีพี่ชายที่ค่อยสนับสนุนฉัน ”
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของหลิงเหยาก็ดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าของมู่ซือซือ
“อะไรนะ? คุณมามหาวิทยาลัยหลินไห่? ทำไมถึงไม่บอกฉันก่อน? ”
“ฉันมาทำธุระพอดี ก็เลยคิดว่าจะมาเล่นกับคุณด้วย ”
“โอเคได้ คุณอยู่ที่ไหน? ”
“อยู่ที่หน้าประตูหอพักของคุณแล้ว ”
หลิงเหยาขมวดคิ้ว มองเวินจิ้งแป๊บหนึ่ง
หลิงเหยาก็เคาะประตูขึ้น
“ซือซือมาแล้ว ” วางสายโทรศัพท์ หลิงเหยาพูดกับเวินจิ้ง
ใบหน้าของเวินจิ้งไม่ได้แสดงอาการอะไร
หลิงเหยาเดินไปเปิดประตูอย่างใจจดใจจ่อ เป็นอย่างที่คิด มู่ซือซือเห็นเวินจิ้ง สีหน้าก็เปลี่ยนทันที
แต่ว่าอารมณ์ของเธอไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนแต่ก่อนแล้ว
“ที่แท้คุณกับเวินจิ้งก็พักอยู่หอเดียวกัน ” มู่ซือซือขมวดคิ้ว
“โรงเรียนเป็นคนจัดให้ พวกเราไปเที่ยวกันเถอะ ‘ หลิงเหยาไม่ได้ให้มู่ซือซือเข้ามา
“ฉันเข้าไปดูแป๊บหนึ่งได้ไหม? ให้คนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้อย่างฉันเข้าไปดู ให้อิจฉาซะหน่อย”
พูดเสร็จ มู่ซือซือก็เข็นรถวีลแชร์เข้ามาเลย
หลิงเหยาเดินข้างเธอ มีความกังวลนิดหน่อย
แต่มู่ซือซือกลับนิ่งเงียบ จนกระทั่งบุกเข้าไปหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของเวินจิ้ง
“ครั้งที่แล้วตอนที่ฉันเข้าโรงพยาบาล ขอบคุณเธอมากนะที่ดูแลฉัน ”
เวินจิ้งหันหน้ากลับไป มองมู่ซือซือสีหน้าที่จริงใจของเธอ พูดนิ่งๆ “มันเป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำ ”
จะกระทั่งออกจากหอพัก หลิงเหยายังคงมีความแปลกประหลาดใจนิดหน่อย
เธอคิดว่ามู่ซือซือต้องโกรธมากแน่ แต่เธอไม่ได้โกรธเลย
“เหยาเหยา ทำไมคุณถึงไม่บอกฉันสักคำว่าคุณพักกับเวินจิ้ง ” มู่ซือซือไม่พอใจนิดหน่อย
“ฉันรู้สึกว่าไม่จำเป็น……”
“คุณก็คิดว่าฉันเหมือนคนบ้าที่ชอบกัดคนไปทั่วเหรอ? ”
“ไม่ใช่แน่นอน! ” หลิงเหยาส่ายหัว
“ตอนนี้เธอหย่ากับพี่ชายฉันแล้ว ฉันก็ไม่ได้เกลียดอะไรเธอมากขนาดนั้น วางใจเถอะ ” มู่ซือซือน้ำเสียงนิ่งๆ
……
พลบค่ำ เวินจิ้งรับโทรศัพท์มูเฉิงอย่างแปลกใจ
“คุณปู่ ” เวินจิ้งเคยชินกับการเรียกแบบนี้ นึกขึ้นได้ก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที “มู……”
มูเฉิงพูดตัดเธอ “เรียกปู่แหละดีแล้ว เวินจิ้งอ่า มะรืนเป็นวันครบรอบวันเกิดแปดสิบปีของปู่ ปู่อยากให้หนูมาร่วมงานด้วย ”
“คุณปู่ หนูเข้าร่วมกลัวว่าจะไม่เหมาะสม……” เวินจิ้งพูดอย่างลำบากใจ
หลังจากที่หย่ากับมู่วี่สิง เธอและตระกูลมู่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องพัวพันกัน
“ปู่อยากเจอหนู บัตรเชิญได้ส่งไปแล้ว หนูปฏิเสธไม่ได้นะ ”
เวินจิ้งเงียบ ไม่ได้พูดไปสักครู่ใหญ่
สำหรับมูเฉิง เวินจิ้งเคารพนับถือมาก และก็ขอบผู้อาวุโสคนนี้มาก
แต่ว่าถ้าไปเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ก็ต้องเจอมู่วี่สิงแน่นอน
แต่เธอก็เหมือนกับไม่ได้ขับไล่……แถมยังตั้งตารอคอยอีกต่างหาก
วันต่อมาเป็นวันเสาร์ เวินจิ้งก็ไปห้องทดลองของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปปกติเหมือนเดิม
ช่วงนี้นักข่าวบันเทิงมากมายมักจะมารอที่หน้าประตูทางเข้าของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เวินจิ้งลงจากรถ ก็มองเห็นผู้ชายที่ถูกกลุ่มคนรอบล้อมอยู่ตรงกลางจากที่ไกลๆ
จิตใต้สำนึก เวินจิ้งก็หยุดย่างก้าวอย่างกะทันหัน
สายตาหยุดอยู่ที่ใบหน้ารูปหล่อของมู่วี่สิง ผู้คนมากมาย แต่ในสายตาของเธอมีแค่เขาคนเดียว
เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสู่สีดำ สง่างามและมีเกียรติ ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่บรรยากาศนั้นก็ล้ำเลิศโดดเด่นมาก
ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอรู้สึกว่ายิ่งเป็นคนแปลกหน้ามากขึ้น
ภายในคืนเดียวเกือบจะโค่นล้มบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปและบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป แต่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอยู่ในขั้นวิกฤติกลับพลิกกลับมาได้ แม้กระทั่งยังเป็นวิสาหกิจtop1ของหนานเฉิงได้อย่างมั่นคง ฝีมือของเขาเก่งกาจมากกว่าใครๆ
แต่ว่าในตอนนี้ เวินจิ้งก็หยุดอยู่ที่รู้จักมู่วี่สิงในฐานะหมอเท่านั้น
ถึงแม้เขาจะรับตำแหน่งเสนาบดีผู้ควบคุมการบริหารของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่มู่วี่สิงในสายตาของเธอยังคงมีออร่าหมออยู่
แต่ว่าตอนนี้ ทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
เขาเป็นหัวหน้า และระยะห่างของเธอก็เหมือนจะยิ่งไกลมากยิ่งขึ้น
ไม่ได้หยุดเดินอีกต่อไปแล้ว เวินจิ้งรีบขึ้นไปบนบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
แต่ตอนที่เพิ่งเดินเข้าไปในลิฟต์ มู่วี่สิงก็กลับเดินตามเข้ามาแล้ว
ข้างกายของเขายังมีผู้บริหารระดับสูงอีกมากมาย ทุกคนล้วนระมัดระวัง
เห็นเวินจิ้ง สายตาของผู้ชายนั้นก็ตกตะลึง
มู่วี่สิงเดินเข้ามาแล้ว คนอื่นก็ไม่กล้าเข้ามาแล้ว
ลิฟต์ในขณะนั้นมีแค่มู่วี่สิงและเวินจิ้งเท่านั้น
พื้นที่เล็กๆ เวินจิ้งรู้สึกได้ถึงกลิ่นบนร่างกายที่คุ้นเคยของเขาอย่างชัดเจน
เหมือนกับว่าฝังอยู่ในกระดูก
เห็นมู่วี่สิงเหมือนจะเคลื่อนตัวมาทางเธอ เวินจิ้งก็ถอยหลัง โดยทันที “คุณอย่าเข้ามา ”
ได้ยินเสียง ผู้ชายคนนั้นถึงมองมาที่เธอ
อารมณ์ที่ลึกซึ้งในดวงตานั้นทำให้คนมองไม่ออก
“คุณยังไม่ได้กดลิฟต์ ” มู่วี่สิงพูดเตือน
เวินจิ้งเขินๆ เพิ่งรู้ว่ามู่วี่สิงจะกดลิฟต์……
“ไม่มีเรื่องอะไรจะพูดกับผม? ” มองเวินจิ้งที่ตื่นเต้นเล็กน้อย มู่วี่สิงก็กลับเข้าใกล้เธอ
“ประธานมู่อยากให้ฉันพูดอะไร? ” เวินจิ้งมองเขาอย่างไร้เดียงสา
“เมื่อตอนอยู่หน้าประตูเมื่อกี้ไม่ใช่มองผมตลอดเหรอ? ” มู่วี่สิงฉีกยิ้ม
ก็ประมาณห้านาที
เวินจิ้ง : ……
“คุณตันทางแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะเดินเข้าไป ” เวินจิ้งหาข้ออ้างไปเรื่อย
“เหรอ? ” มู่วี่สิงเลิกคิ้ว กลับเข้าใกล้เวินจิ้งมากไปอีก แขนยาวยกขึ้นมา เขาดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
รอบๆตัวล้วนเป็นลมหายใจของมู่วี่สิง คางของเวินจิ้งถูกเขาเชยคางขึ้นมา ทันใดนั้น เธอก็สบตาเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“มู่วี่สิง คุณปล่อยฉัน ” สายตาของเวินจิ้งกลับเปลี่ยนเป็นโกรธ
เธอไม่อยากใกล้เขามากเกินไป……