Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 340
บทที่340 หัวใจวุ่นวาย
สายตาของมู่วี่สิงยังคงมองอยู่บนโทรศัพท์
เวินจิ้งเดินออกไปอย่างรวดเร็ว จนถึงหน้าประตู เสียงของมู่วี่สิงก็ดังมาจากด้านหลัง “ลืมของ ”
เธอหยุดชะงัก เพิ่งพบว่าเมื่อกี้ที่หยิบโทรศัพท์ กระเป๋าตังตกออกมาแล้ว
มู่วี่สิงหยิบขึ้นมา ในนั้นมีรูปหนึ่งใบเสียบอยู่
เวินจิ้งนิ่งไปชั่วขณะ รีบแย่งกลับคืนมา
แต่มู่วี่สิงเห็นรูปภาพนั้นแล้ว เป็นรูปที่ที่มู่วี่สิงใส่หน้ากากอนามัยอยู่ในห้องทดลอง แต่ว่าไม่ใช่เพิ่งถ่ายช่วงนี้แน่ๆ
น่าจะ……ครึ่งปีที่แล้ว
“ทำไมคุณถึงซี้ซั้วดูของของฉัน! ” เวินจิ้งโกรธ
อยากจะเอากระเป๋าตังคืนมา มู่วี่สิงกลับยกมือสูงขึ้น เวินจิ้งยืดไม่ถึง
“ของของคุณ? ” เขาเลิกคิ้ว หยิบรูปภาพที่เสียบไว้ที่กระเป๋าตังออกมา “งั้นทำไมถึงได้มีรูปของผม ”
“ฉันแค่ลืมหยิบออก ”
“เหรอ? ” มู่วี่สิงรู้สึกไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด
“ใช่! คุณรีบคืนให้ฉัน! ”
“คุณเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอว่าพวกเราไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว? รูปภาพผมก็จะเอาไป ” มู่วี่สิงหยิบรูปใส่ไว้ที่กระเป๋าของตัวเอง
เวินจิ้งชะงัก สายตาเผยให้เห็นความผิดหวังออกมา
“งั้นตอนนี้เอากระเป๋าตังคืนฉันได้แล้วหรือยัง? ” เธอหงายมือออกไป
“อืม”
หยิบกระเป๋าตัง เวินจิ้งรีบเดินจากไปทันที
แต่ บนกระเป๋าตังนั้นเหมือนกับยังมีความอบอุ่นของมู่วี่สิงอยู่ แผดเผาเธออยู่
เธอเปิดกระเป๋าตังออก ไม่มีรูปภาพของมู่วี่สิงอีกแล้ว
ว่างเปล่า
ไม่ชินมากๆ
ด้านนอก หลิงอี้เห็นเวินจิ้งเดินออกมา เปิดประตูรถให้เธออย่างสุภาพบุรุษ
สีหน้าของเวินจิ้งเย็นชา ในหัวสมองกำลังคิดถึงมู่วี่สิงอยู่
เมื่อตอนที่เขาหยิบรูปออกไปนั้น ท่าทางเย็นชา
เธอยังคิดอะไรอยู่อีก นี้ไม่ใช่ผลที่ดีที่สุดแล้วเหรอ?
แต่ว่าในใจรู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมาก
“เวินจิ้ง? ”
หลิงอี้เรียกชื่อเธอตั้งหลายครั้ง เวินจิ้งถึงดึงสติกลับมาได้
แต่เขาก็เข้ามาช่วยเธอคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว
เวินจิ้งผลักเขาออก “ฉันทำเองได้ ”
สายตาที่โกรธเคืองของหลิงอี้นั้น ถูกเขาเก็บซ่อนไว้เป็นอย่างดี
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถเก๋งมาจอดที่หอประชุมดนตรี หลิงเหยารออยู่ที่นี่แล้ว
“โชคดีที่ตอนนี้ยังไม่เริ่มการแสดง พวกเรารีบเข้าไปกับเถอะ ”
เวินจิ้งเพิ่งเห็นว่า ข้างกายหลิงเหยายังมีผู้ชายอีกหนึ่งคน
ดูเหมือนว่าช่วงนี้หลิงเหยากับเขาจะเดินใกล้กันมาก ชื่อเจียงฉี เป็นนักเรียนภาควิชาประสาทและสมอง รุ่นเดียวกับเวินจิ้ง
“เวินจิ้ง ”
ทั้งสองเคยเห็นหน้ากัน เจียงฉีเป็นฝ่ายทักทายก่อน
เวินจิ้งยิ้มๆ เดินไปข้างๆหลิงเหยา “คนที่จีบคุณ? ”
“เพื่อน เพื่อนธรรม! ” หลิงเหยาพูดให้กระจ่าง
เวินจิ้งมองเธออย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
เดินเข้าไปในห้องการแสดง เวินจิ้งเพิ่งพบว่าหลิงเหยากับเจียงฉีอยู่อีกที่หนึ่ง แต่เธอกับหลิงอี้ อยู่เกือบติดกับด้านหน้า
ดูเหมือนว่า จะกลายเป็นการเดทระหว่างเธอกับหลิงอี้เข้าไปแล้ว
เวินจิ้งเกร็งนิดหนึ่ง โชคดีที่ผ่านไปไม่นานคอนเสิร์ตก็เริ่มขึ้น
รอบข้างเริ่มเงียบลง เสียงไวโอลินที่ไพเราะดังขึ้น อารมณ์ที่กลัดกลุ้มในใจของเวินจิ้งก็เย็นลงมาไม่น้อย
เข้ามาในคอนเสิร์ตแล้ว คนข้างๆจะเป็นใครก็ไม่เป็นไร
นี้เป็นครั้งแรกที่เวินจิ้งฟังคอนเสิร์ตดนตรี ถึงแม้จะพูดไม่ได้ว่าคลั่งรักมาก แต่อย่างน้อยก็เป็นความสนุกสนานทางจิตวิญญาณ
คอนเสิร์ตเล่นติดต่อกันสามชั่วโมง จนจบเสียงปรบมือดังขึ้นมา เธอเพิ่งดึงสติกลับมาได้
“รู้สึกเป็นยังไง? ” หลิงอี้ถามเธอ
เวินจิ้งเผยรอยยิ้มออกมา “คอนเสิร์ตดีมาก ฉันชอบมากๆ ”
“คุณชอบก็ดีแล้ว ” หลิงอี้เสียงทุ้มต่ำ
เวินจิ้งตกตะลึง รีบเคลื่อนสายตาไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว
ตอนที่เดินออกมาจากห้องบรรเลงดนตรีนั้นมีบันไดมากมาย เวินจิ้งไม่ได้ระวัง เกือบก้าวพลาดไป
หลิงอี้รีบจับข้อมือของเธอทันที
“ระวัง ”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ผลักเขาออก มองไปรอบๆ ดูเหมือนว่าจะไม่เห็นเงาของหลิงเหยาแล้ว
เธออยากที่จะโทรหาเธอ แต่กลับถูกหลิงอี้
“เธอกลับไปแล้ว เดี๋ยวผมไปส่งคุณ ”
“ไม่เป็นไร โรงเรียนก็อยู่ข้างๆ ฉันเดินกลับไปสะดวกกว่า ” เวินจิ้งส่ายหัว
เธอมองหลิงอี้ “คืนวันนี้ขอบคุณสำหรับตั๋วคอนเสิร์ตของคุณนะ ”
“คุณรู้ เพราะว่าคุณ เวินจิ้ง ” สายตาของหลิงอี้อ่อนโยนลง
เขาเกือบจะไม่เคยแสดงสีหน้าอย่างนี้ออกมาให้เห็นเลย นอกจากจะอยู่ต่อหน้าเวินจิ้ง
“หลิงอี้ พวกเราไม่มีทางเป็นไปได้ ” เวินจิ้งพูดตัดเขาอย่างเย็นชา เดินหมุนตัวกลับ
หลิงอี้เอามือทั้งสองข้างของเขาล้วงไว้ในกระเป๋า ดวงตาที่ลึกซึ้งของเขาค่อยๆหรี่ตาลง
สายตามองไปที่ร่างกายของเวินจิ้งอยู่นาน
กลับถึงหอพัก หลิงเหยากลับมาแล้วจริงๆ
“หลิงเหยา ฉันโกรธแล้วนะ ”
เวินจิ้งทำหน้าบึ้ง
หลิงเหยาแกะมันฝรั่งขึ้นมากินอย่างหนักหน่วง มองดูเวลา เธอนึกว่าพี่ชายจะพาเวินจิ้งไปกินอาหารมื้อดึกแล้วค่อยกลับมาซะอีก……
เธอรีบเดินเข้าไป “เวินจิ้ง คุณโกรธอะไร? ”
เธอรู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปนะ……
“หลังจากนี้ถ้าหลิงอี้จะนัดฉัน ขอให้คุณปฏิเสธไปเลยนะ ”
หลิงเหยาขมวดคิ้วอย่างลำบากใจ อีกคนก็พี่ชาย อีกคนก็เพื่อนร่วมห้อง……
ก็ไม่กล้าทำให้ใครไม่พอใจอา!
“คุณว่าพี่ชายฉันไม่ดีเหรอ? ” หลิงเหยาลากเก้าอี้มาแล้วนั่งลง
“ไม่ดี ” เวินจิ้งตอบอย่างไม่คิด
“ไม่ดีตรงไหน ฉันจะให้เขาแก้! ”
“ถึงแม้จะแก้แล้ว ฉันก็ไม่ชอบเขา ”
“ก็ได้ ฉันนึกว่าคอนเสิร์ตดนตรีที่โรแมนติกในคืนนี้ พวกคุณทั้งสองคนจะสปาร์คกันซะอีก……”
เวินจิ้ง : ……
เธอมองหลิงเหยาอย่างไม่พอใจ “แต่ก่อนไม่ ตอนนี้ไม่ หลังจากที่ก็ยิ่งไม่มีทาง ”
“ก็ได้ ดูเหมือนว่าคุณจะแน่วแน่กับมู่วี่สิงจริงๆ ”
ได้ยินชื่อนี้ สีหน้าของเวินจิ้งหยุดนิ่งไม่ไหวติง
“ตอนนี้ฉันแน่วแน่กับการเรียนอย่างเดียวเท่านั้น ”
“จริงเหรอ? หลังจากนี้ถ้ามู่วี่สิงสอนคุณ คุณยังจะพูดอย่างนี้อยู่ไหม? ”
“หลิงเหยา ฉันกับมู่วี่สิงเซ็นใบหย่ากันแล้ว! ” เวินจิ้งพูดยืนยันอีกครั้ง
“นั้นก็สามารถแต่งงานกันใหม่ได้ แต่ว่าอย่าแบบนั้นเลย ถ้าอย่างนั้นพี่ชายฉันคงเสียใจแย่ ”
“พอแล้ว เรื่องนี้หยุดพูดไว้ตรงนี้พอ ฉันจะทำการบ้านแล้ว! ”
“สัปดาห์หน้ามู่วี่สิงก็จะมาแล้ว ให้ฉันพูดไหมว่าเขาจะมาสอนตอนไหน? ” หลิงเหยายืนหน้าเข้ามาใกล้แล้วพูดออกมา
เวินจิ้งผลักหน้าเธอออก “ไม่ต้อง! ”
“ใช่แล้ว เจียงฉีกำลังจีบคุณอยู่ใช่ไหม? ” เวินจิ้งเปลี่ยนหัวข้ออย่างตรงไปตรงมา
ช่วงนี้หลิงเหยากับเจียงฉีเดินใกล้ชิดกับมาก
อีกอย่างคืนวันนี้เจียงฉีก็มาด้วย
หลิงเหยารูปร่างโดดเด่น ทั้งมีนิสัยใจกว้างน่ารัก มีผู้คนมากมายชอบเธอเป็นเรื่องปกติ
แต่ว่ามีเจียงฉีคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ข้างเธอ
ได้ยินคำพูดนั้น หลิงเหยากัดริมฝีปาก หันหน้าหนี “มีที่ไหนกันล่ะ! ”
“หรือว่าเป็นคุณที่จีบเขา? ” เวินจิ้งเลิกคิ้ว
วินาทีนั้น หลิงเหยารีบวิ่งเข้ามาปิดปากเวินจิ้ง “ไม่ใช่แน่นอน! ฉันเป็นคุณหนูหลิงเลยนะ จะไปจีบคนอย่างนั้นได้ไง? ”
เวินจิ้ง “อิอิ ” ยิ้มๆ “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ”
ใบหน้ารูปไข่ของหลิงเหยาแดงขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้……
……
วันจันทร์ ข่าวที่มู่วี่สิงรับหน้าที่มาเป็นศาสตราจารย์พิเศษที่มาสอนที่มหาวิทยาลัยหลินไห่นั้นแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว
ทุกวันศุกร์ เขาจะมาสอนนักเรียนภาควิชาประสาทและสมอง สัปดาห์ละสองครั้ง
ข่าวนี้ทำให้นักเรียนทุกคนในมหาวิทยาลัยหลินไห่ตื่นเต้นและดีใจอย่างมาก ถึงแม้มู่วี่สิงจะมาสอนแค่ภาควิชาประสาทและสมอง แต่ว่านักเรียนคณะอื่นก็สามารถมาเข้าร่วมฟังได้
เวินจิ้งดาวน์โหลดตารางเรียนใหม่ คาบแรกของวันศุกร์เป็นมู่วี่สิงที่สอน……
จับผมอย่างกลัดกลุ้มใจ เธอเอนลงบนที่นอน ในสมองก็นึกถึงภาพที่มู่วี่สิงยืนบรรยายอยู่บนเวทีขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงลำลอง หน้าตาหล่อเหลา สีหน้าอ่อนโยนและสง่างาม……
พริบตา แค่คิด……หัวใจก็วุ่นวายแล้ว……