Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 355
บทที่ 355 พี่ชอบเธอมากจริงๆเหรอ
เวินจิ้งได้หัวเราะออกมาทันที ภายในใจก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หวานละมุน
ฉันไปมาแล้วก็ไม่เห็นมีเรื่องอะไร ไม่รบกวนการพักผ่อนคุณแล้ว
หลังจากเวินจิ้งตอบข้อความกลับ ก็เริ่มวางแผนการเรียนของวันนี้
แต่ไม่นานนัก โทรศัพท์จากมู่วี่สิงก็โทรเข้ามา
“เมื่อวานที่ล้ม ขยับไม่ค่อยได้ และไม่มีใครมาดูแล” น้ำเสียงของเขาดูผิดปกติไม่จริงจัง เหมือนจะมีความออดอ้อนอยู่เล็กน้อย
“ล้มได้ยังไง”
“เมื่อวานก็คุณล้มใส่ตัวผมไม่ใช่เหรอ แผลก็เลยปริ”
เวินจิ้ง: ……….
เห็นได้ชัดว่ามู่วี่สิงตั้งใจจะโอบเธอไว้
“งั้นก็ให้หมอมาตรวจดูสิ”
“ตรวจแล้ว จำเป็นต้องมีคนอยู่เป็นเพื่อน”
“ฉันไม่ว่าง”
“เกาเชียนรอคุณอยู่ข้างล่างแล้ว
เวินจิ้ง: …………
เธอเดินออกไปที่ระเบียง ก็มีรถเก๋งคันหนึ่งที่จอดดับเครื่องอยู่หน้าประตูหอพัก
หรือว่านั่นคือ …… จริงๆ
แต่เธอก็อยากจะพบเขามาก …..
“รอแป๊บนะ กินอะไรแล้วยัง” เวินจิ้งถาม
“ยังเลย”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปซื้ออะไรให้คุณกิน”
หลังจากที่วางโทรศัพท์ เธอได้ไปที่โรงอาหารเพื่อซื้ออาหารกลางวันกลับมาก่อน แล้วจึงกลับมาขึ้นรถ
โรงพยาบาล
มู่ซือซือได้มาเยี่ยมพี่ชายตั้งแต่เช้า และได้ยินเขาคุยโทรศัพท์ เธอก็รู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมาจริงๆ
“พี่ พี่น่ารำคาญ” มู่ซือซือทำหน้าไม่พอใจ
สำหรับเวินจิ้งแล้ว เธอยังคงมีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีต่อเขา
ตอนนี้มีบางกำลังแปลกไป และเธอก็ถูกพี่ชายบีบบังคับ
“รำคาญฉัน ก็ไม่ต้องมา” มู่วี่สิงพูดเสียงนุ่ม
“พี่ไม่ได้ถือฉันเป็นน้องสาวแล้ว” มู่ซือซืออิจฉา
“ฉันไม่ได้ถือเธอเป็นน้องสาว แต่ตอนนี้เธออยู่ข้างมู่เหิง”
มู่ซือซือนิ่งเงียบ คำพูดนี้เธอไม่อาจปฏิเสธได้
หลายปีที่ผ่านมานี้มู่เหิงต้องการจะควบคุมเธอตลอด แต่พี่ชายก็ได้ปกป้องเธอมาเสมอ
“พี่กับเวินจิ้งได้หย่ากันแล้ว หย่ากันแล้ว” มู่ซือซือย้ำเตือนความจริงนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“แล้วยังไงล่ะ”
“พวกคุณไม่ควรจะติดต่อกันอีก”
“พี่ทนไม่ได้” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ความรู้สึกลึกๆที่อยู่ในดวงตาเขาก็แสดงออกมา
มู่ซือซือรู้สึกได้ว่าอาการของพี่ชายก็เริ่มมีความอ่อนแอขึ้นมาในทันที
เธอเข้าใจเขา ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้เขาพยายามทำอย่างนี้อีก
“พี่ พี่ชอบเธอมากจริงๆเหรอ” มู่ซือซือถาม
ในเวลานี้ เวินจิ้งยืนอยู่ข้างนอกประตู และได้ยินเสียงของมู่ซือซือ เธอค่อยๆขมวดคิ้ว
นี่เขา….หมายถึงเธอเหรอ
มือก็ได้จับลูกบิดประตูแน่นขึ้นทีละนิ้ว
จริงๆแล้วก็ตั้งตารอคำตอบของมู่วี่สิง
แต่มู่วี่สิงยังคงไม่ได้ให้คำตอบ
ความหวังภายในใจลึกๆของเวินจิ้งก็ค่อยๆจางหายไป สุดท้ายเหลือไว้แค่ความเงียบ
เธอผลักประตูเข้าไป
มู่ซือซือมองไปที่เวินจิ้ง และพูดเบาๆว่า “ฉันจะกลับไปทบทวนหนังสือแล้ว รบกวนเธอดูแลพี่ชายฉันด้วย”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว หลังจากมู่ซือซือออกไป ในห้องผู้ป่วยมีเพียงแค่เธอและมู่วี่สิง
“นี่อาหารเย็น” สีหน้าของเวินจิ้งยังคงเพิกเฉย
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ตอบรับแล้ว แต่กลับไม่ขยับ
เวินจิ้งก็ไม่ได้มองเขา ได้แต่นั่งลงบนที่โซฟา
“มานี่” ผู้ชายคนนั้นได้พูดออกไป
เวินจิ้งขมวดคิ้ว และยังคงก้มลงอ่านหนังสือ
แต่ทันใดนั้น เสียงได้ดัง “ปัง” กลับเห็นมู่วี่สิงลงจากเตียง ขาของเขากระแทกที่โต๊ะเล็กๆ กล่องอาหารทั้งหมดก็หล่นลงไปที่พื้น
เวินจิ้ง : ………
เธอรีบไปในทันที พลางทำหน้าบึ้ง
“คุณนี่อยู่ไม่นิ่ง!” เวินจิ้งโกรธ และก้มลงเก็บของ
แต่มือข้างหนึ่งกลับจับข้อมือของเธออย่างใจร้อน มู่วี่สิงนั่งอยู่ข้างเตียงพลางทำดวงตานิ่งขรึม อารมณ์ที่รุนแรงนั้นทำให้เธอดูไม่ออก
เธอถูกเขาลากเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน
“ไม่พอใจอะไร” เขาถาม
ตอนเวินเข้ามา ก็มีสีหน้าที่ไม่ดี
“ฉันไม่ได้ไม่พอใจอะไร” เวินจิ้งไม่มองเขา
เธอไม่อยากให้อารมณ์ของตัวเองมีผลเพราะมู่วี่สิง แต่ความจริงก็ยากที่จะทำได้
“ฉันจะไปซื้อข้าวมาให้คุณใหม่” เวินจิ้งปลดมือของเขาออก
แต่มู่วี่สิงยังคงไม่ปล่อยมือ
เธอเงยหน้าขึ้น และจ้องมองเขา
“มู่วี่สิง”
“ผมไม่หิว” เขาพูด
“งั้นฉันจะกลับแล้ว”
“นั่งตรงนี้” มู่วี่สิงนั่งอยู่บนเตียง และเวินจิ้งถูกเขากดไปข้างๆ
มันช่าง …..อึดอัดจริงๆ
ที่นี่เป็นโรงพยาบาล และพยาบาลจะเข้ามาตอนไหนก็ได้……
“ฉันไม่รบกวนการพักผ่อนของคุณแล้ว”
ได้ยินดังนั้น ใบหน้าที่หล่อเหลาของมู่วี่สิงก็ยิ่งนิ่งเงียบกว่าเดิม “ไม่ต้องอยู่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
น้ำเสียงของเขาเบาและเย็นชามาก
หัวใจของเวินจิ้งก็เริ่มเต้นแรงขึ้น แน่นอน…..เธอต้องการ
ต้องการที่จะเห็นเขา ต้องการอยู่เคียงข้างเขา
“ในเมื่อต้องการ ก็อยู่ข้างผมดีๆ” มู่วี่สิงมองผ่านอาการของเธอ
เวินจิ้งก็ไม่ขยับอีกต่อไป และอ่านหนังสืออย่างเงียบๆ ห้องผู้ป่วยห้องนี้เกือบจะเหมือนโรงแรมระดับห้าดาวเลย สบายจนทำให้เธอรู้สึกง่วงนอนเล็กน้อย
ไม่นานนัก เปลือกตาของเวินจิ้งก็ปิดลง…..
มู่วี่สิงหันกลับมาจ้องมอง ศีรษะของเวินจิ้งเอนไปที่แขนของของเขา ใบหน้าที่ละเมียดละไม ขนตายาวเด้งงอน มันช่างมีเสน่ห์มาก
ปลายนิ้วของเขาปัดแก้มของเธอ และกำลังลูบไล้อยู่สักพักหนึ่ง
สายตาที่แผดเผาและอารมณ์ที่เร่าร้อนก็เกิดขึ้นผ่านดวงตา
ใบหน้าที่หล่อเหลาใกล้เข้ามา และจับหน้าที่แดงก่ำ
ทำตามอำเภอใจอย่างลึกซึ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เวินจิ้งดูเหมือนว่าจะได้ชิมลูกอมที่เขาชื่นชอบแล้ว ……
ได้ถูกใครเพลิดเพลินกับผลประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งหมด
………..
จนกระทั่งถึงค่ำ เวินจิ้งเพิ่งตื่นขึ้นมา และขยี้ตา เธอลุกขึ้นนั่งอย่างหงุดหงิดทันที!
“อึ้อ!” ทำไมเธอถึงหลับไป!
หลับอยู่ข้างมู่วี่สิง!
โคตรอายเลย!
มู่วี่สิงมองดูเธออย่างสบายๆ แววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ตื่นแล้วเหรอ”
“อึ้อ……”
“มากินอะไรด้วยกันสักหน่อย”
เขาเพิ่งจะสั่งให้เกาเชียนซื้ออาหารที่เวินจิ้งชอบกินที่สุดมา
“ฉันอยากกลับไปมหาวิทยาลัยแล้ว” เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมา
“กินทุกอย่างให้หมดก่อน” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเริ่มแข็ง
“ผมก็หิวแล้ว” มู่วี่สิงพูด
เวินจิ้งมองเขา เมื่อเผชิญหน้ากับมู่วี่สิง ก็อดไม่ได้ที่จะใจอ่อน…..
ช่วยประคองมู่วี่สิงนั่งลงที่โซฟา และเกาเชียนเข้ามาจัดอาหารเย็นให้เขาเรียบร้อย เมื่อเห็นมู่วี่สิง กลับลังเลที่จะพูด
“พูด” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว พลางพูดเสียงเย็นชา
เกาเชียนมองไปที่เวินจิ้ง
เธอเข้าใจทันที “พวกคุณคุยกัน ฉันจะออกไปก่อน”
พูดจบ เขาต้องการจะยืนขึ้น แต่กลับถูกมู่วี่สิงจับข้อมือ “นั่งลง”
เกาเชียนได้แต่ฝืนพูด “คุณมู่ เมื่อไม่นานมานี้ยาตัวใหม่ของโพลีได้รับการร้องเรียนบ่อยครั้ง ว่าผู้ป่วยจำนวนหลายคนมีอาการแพ้และป่วยหนักขึ้น ตอนนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจะเข้ามาตรวจสอบ”
หลังจากที่ได้ยิน สีหน้าของมู่วี่สิงก็นิ่งลง
“เร่งประสานงานตรวจสอบ และรีบนำข้อมูลของผู้ป่วยเช็คออกมา เพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติ”
“รับทราบครับ เรื่องนี้ได้เข้าถึงสื่อหลายช่องทางแล้ว และฝ่ายประชาสัมพันธ์กำลังรับมือกับเหตุฉุกเฉินอยู่”
“อืม ห้ามเรื่องแพร่ออกไปข้างนอก”
เวินจิ้งได้ยินก็หวาดกลัวอยู่สักพัก เพิ่งเปิดตัวยาตัวใหม่ออกสู่ตลาด ผลตอบรับดีในตอนแรก แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ก็จะสามารถทำลายชื่อเสียงได้หมด
ถึงแม้ว่าบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ แต่ก่อนหน้านี้ก็มีการจำหน่ายตัวยาหลายตัวที่ได้ขายออกไป ตอนนี้มียาจำนวนไม่มากที่จะสามารถวางขายในตลอดได้ โพลีก็เป็นหนึ่งในยาที่ขายดีที่สุด
หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น สำหรับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแล้วก็เกรงว่าจะถูกโจมตี
แต่เธอเคยมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนายาของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ทุกขั้นตอนมีความเข้มงวดมาก ผ่านมาหลายปี ตัวยาจำนวนมากมีอัตราการเกิดเหตุที่ต่ำมาก
นอกเสียจากว่าจะมีใครบางคนจงใจใส่ร้าย
แต่ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ เพราะช่วงนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นจุดสนใจของคนอื่นๆ และ เป้าสายตาของสาธารณชน