Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 357
บทที่ 357 ชี้แจง
มู่วี่สิงขมวดคิ้วอย่างเยือกเย็น ค่อยๆหันตัวไปด้านข้าง และมีผู้ป่วยอีกหลายคนที่ยังไม่เชื่อในผลสรุปมารวมตัวกัน บริเวณนั้นก็กลับมาวุ่นวายอีกครั้ง
ผู้อำนวยการส่งเสียงตะโกนใส่ฝูงชน แต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไร
มู่วี่สิงอยู่ตรงกลาง สายตาของเวินจิ้ง มองไปเห็นไม้เท้าของเขาถูกขโมยไป…..
“มู่วี่สิง!” หน้าซีดลง เธอรีบเดินไปในทันที
เพียงแต่มีคนอยู่จำนวนมาก เธอจึงไม่สามารถที่จะแทรกตัวเข้าไปได้เลย
ผ่านไปสักครู่หนึ่ง ในที่สุดเมื่อฝูงชนได้เบาบางลง กลับมองไม่เห็นมู่วี่สิงแล้ว
ทันใดนั้น เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นด้านข้าง “คุณเวิน”
นั่นคือเกาเชียน
“มู่วี่สิงล่ะ!”
“คุณมู่กลับไปห้องผู้ป่วยแล้ว โปรดตามผมมา”
ได้ยินดังนั้น เวินจิ้งหันไปมองกลุ่มคนพวกนั้น เป็นที่แน่ชัดว่ามู่วี่สิงไม่อยู่แล้วจริงๆ จึงได้ถอนหายใจขึ้นมา
เดินไปในลิฟต์ เวินจิ้งเลยถามเกาเชียนที่อยู่ข้างกายด้วยความกังวล “เขาไม่เป็นไรนะ”
“คุณเวินสบายใจได้ คุณมู่ไม่เป็นอะไร”
เมื่อมาถึงห้องผู้ป่วย ที่นี่มีบอดี้การ์ดเพิ่มมากขึ้น เวินจิ้งมองไปเห็นผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟาที่ดูน่าเกรงขาม
เธอมองไปยังขาที่ยาวของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ค้ำไม้เท้า ดูเหมือนว่า ….. จะไม่เป็นอะไรแล้ว
มู่วี่สิงกำลังไขว้ขายาวอย่างขี้เกียจนั้น ทำให้รู้สึกมีแรงดึงดูดใจแทบตาย
เธอมองเขาอย่างไม่กระพริบตา เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมองเขาเป็นผู้ป่วย
ในตอนนั้นที่ไม้เท้าของเขาเพิ่งจะถูกขโมยไป เธอรู้สึกกลัวมากจริงๆ
“คุณไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม” เวินจิ้งถามอย่างสั้นๆ
ยังไม่กล้าที่จะเชื่อจริงๆ ….
“มีเรื่อง” มู่วี่สิงจับข้อมือของเธอแล้วดึงเธอไปนั่งข้างกาย
เวินจิ้งจ้องมองมาที่เขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งขาที่ยาวภายใต้กางเกงสูท โดยไม่มีเฝือกแล้ว สวมใส่รองเท้าหนังราคาแพง ทำไมไม่เห็นมีอาการบาดเจ็บอะไรแล้ว
“ไม่เป็นอะไรแล้วไม่ใช่เหรอ…..” เธอพึมพำ
“อยากเห็นแผลของผมเหรอ” มู่วี่สิงหรี่ตา
พูดจบ เขาก็ใช้นิ้วอันเรียวยาวของเขาไปถกขากางเกงขึ้น
เวินจิ้งรีบห้ามทันที “ไม่ดูแล้ว”
เธอ…..กลัวตัวเองจะทุกข์ใจ
“ยังต้องใช้ไม้เท้าถึงจะเดินได้รึเปล่า” เวินจิ้งถาม
“อืม” มู่วี่สิงตอบกลับ สายตามองไปยังเกาเชียน
อีกฝ่ายเข้าใจได้ทันที จึงนำไม้เท้ามายื่นให้ “คุณมู่ เปลี่ยนอันใหม่เรียบร้อยแล้ว”
“คุณต้องการไปพักผ่อนที่เตียงไหม” เวินจิ้งถามด้วยความกังวล
“อืม ต้องการ”
พูดจบ เขาได้วางมือไปที่เอวของเวินจิ้ง
เกาเชียนได้มองดูท่าทีของมู่วี่สิงอย่างเงียบๆ การแสดงนี้คุณมู่ …. ทำให้เขาดูแล้วเก้อเขินจริงๆ ….
“มาทำอะไรเหรอ” มู่วี่สิงถาม
เมื่อได้ยินดังนั้น เวินจิ้งเงียบไปครู่หนึ่ง มาที่นี่ ก็เพราะกังวลเกี่ยวกับมู่วี่สิงทั้งนั้น
แต่เมื่อต้องการจะบอกเขา เธอก็พูดไม่ออกอีก
“ฉันแค่ผ่านมา” สายตาและท่าทีของเวินจิ้งไม่เป็นธรรมชาติ
ตอนนี้เมื่อมีสติกลับมา ทำไมเธอจะต้องมาเป็นห่วงมู่วี่สิง……
แต่ในวินาทีต่อมา คางก็ถูกบีบ มู่วี่สิงหรี่ตาลงและจ้องมองเธออย่างละเอียด
“แต่จากมหาวิทยาลัยหลินไห่มาที่นี่ต้องเปลี่ยนทาง”
เวินจิ้ง : ………
“เป็นห่วงผมเหรอ ฮื้ม” น้ำเสียงของเขานั้นแหบเล็กน้อย
เวินจิ้งกัดริมฝีปาก ไม่ได้พูดอะไร
ดวงตาของมู่วี่สิงมีรอยยิ้มอย่างลึกล้ำ
“งั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้ว” เวินจิ้งพูดอย่างเก็บอาการ
ในเมื่อมู่วี่สิงไม่ได้เป็นอะไร เธอก็จะกลับไป
เพียงแต่มู่วี่สิงยังคงไม่ยอมปล่อยมือ
“อยู่อีกสักหน่อย ช่วยผมทำงานสักนิด”
พูดจบ มู่วี่สิงส่งสายตาไปยังเกาเชียน
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตอบรับอย่างรวดเร็ว และเอาเอกสารจำนวนมากเข้ามา
“ถ้าคุณไม่ช่วยผม คืนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะได้พักผ่อนรึเปล่า” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
รู้ได้ทันทีว่ามู่วี่สิงอาจจะจงใจ แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้……
เมื่อคิดดูแล้วเขาได้รับบาดเจ็บแต่ก็ยังต้องทำงาน เวินจิ้งรับเอกสารมาก็รู้สึกได้เอง
เวลานี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
มู่เหิงดูความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ต พบว่าไม่มีการพุ่งเป้าไปยังบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว สีหน้าก็ดูหม่นหมองมาก
ขว้างเอกสารทิ้งไปข้างหน้าอย่างรุนแรง เขามองดูโทรศัพท์ ฉินเฟยยังคงโทรหาเขา
“ว่ามา” เขารับ
“มู่วี่สิงทำไมถึงได้มาจัดการกับเรื่องนี้เร็วแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเขาป่วยหนักอยู่เหรอ!” ฉินเฟยพูดอย่างโกรธเคือง
“ผมยังไม่ได้ถามคุณเลยนะ ว่าทำไมคนไข้เหล่านั้นถึงไปอยู่ในโรงพยาบาลที่มู่วี่สิงรักษาตัวอยู่!”
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้น มู่วี่สิงก็สามารถจัดการทุกอย่างได้ทันที
ฉินเฟยนิ่งเงียบ นี่…..เธอก็คิดไม่ถึง
“แล้วตอนนี้ทำยังไงดี ตอนนี้พวกผู้ป่วยล้วนสบายใจกันหมดแล้ว ความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ตก็มีแต่ช่วยชี้แจงให้กับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป อีกไม่นานมู่วี่สิงก็คงจะสาวถึงตัวพวกเรา…..”
“จะกลัวอะไร เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเรา ยอดขายยาตัวใหม่ก็ยังคงได้รับผลกระทบ”
หลังจากวางสายโทรศัพท์ มู่เหิงสั่งให้ผู้ช่วยเข้ามา
“ไปเฝ้าดูมู่วี่สิงที่โรงพยาบาลไว้ตลอดเวลา”
“คุณมู่ ตอนนี้ที่โรงพยาบาลมีบอดี้การ์ดจำนวนมาก กลัวว่าพวกเราจะเข้าไปไม่ได้” ผู้ชายลำบากใจ
เดิมทีแล้วมู่วี่สิงได้จัดคนจำนวนมากไว้ที่โรงพยาบาล แต่วันนี้หลังจากที่มีนักข่าวมาสร้างความวุ่นวาย ที่นั่นจึงมีความเข้มงวดมากขึ้น
“ฉันต้องการรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเขา” น้ำเสียงของมู่เหิงเยือกเย็นกว่าเดิม
ผู้ช่วยก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับ
โรงพยาบาล
เป็นเวลาเย็นแล้ว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทำลายบรรยากาศที่กำลังเงียบสงบ
มู่วี่สิงก็กดแฮนด์ฟรีรับสายทันที
“คุณปู่”
“ลูก รถชนแล้วทำไมไม่บอกปู่!” มู่เฉิงโกรธอย่างเห็นได้ชัด
หากไม่เห็นรายงานข่าวของวันนี้ ที่ปรากฏภาพของมู่วี่สิงที่กำลังค้ำไม้เท้าอยู่ที่โรงพยาบาล เขาก็คงจะไม่รู้เรื่องนี้!
เขาอยู่ที่ประเทศC วงนี้ก็กำลังติดตามข่าวคราวของทางนี้ตลอดเวลา
“ไม่ได้หนัก” มู่วี่สิงพูดอย่างเฉยเมย
“ขาหักนี่ยังบอกว่าไม่หนักเหรอ!” มู่เฉิงเกือบจะคว่ำโต๊ะ
“เรื่องเล็กน้อย”
“ผมจะรีบกลับ!” มู่วี่สิงนิ่งสงบมากขึ้น แต่ปู่ของเขานั่งแทบไม่ติด
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว “คุณปู่ อย่ากลับมาเพิ่มความวุ่นวายเลย ผมสบายมาก”
“ไม่อย่างนั้น คุณก็ลองถามเวินจิ้งดู”
พูดจบ เขาก็มองไปยังเวินจิ้ง
เวินจิ้งอึ้งอยู่พักหนึ่ง เกี่ยวอะไรกับเธอ……
“เวินจิ้ง เจ้าเด็กนั้นสบายดีไหม” คุณปู่ถามเวินจิ้ง
เวินจิ้งได้ขมวดคิ้ว ไม่ได้พูดอะไรอยู่สักพัก
เธอคิดว่ามู่วี่สิงไม่ค่อยจะดีนัก แต่เขาเพิ่งจะพูดแบบนั้น เหมือนจะไม่ต้องการให้คุณปู่เป็นกังวล ดังนั้นจึงเน้นว่าตัวเองนั้นสบายดี
“เวินจิ้ง บอกความจริงปู่มา เจ้าเด็กนั่นพิการแล้วใช่ไหม!” มู่เฉิงถามอย่างจริงจัง
ได้ยินแบบนั้น เวินจิ้งก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
พิการ…..มันคงไม่ขนาดนั้น ถ้าดูมู่วี่สิงจริงๆแล้ว ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก
เธอตอบไปอย่างอ่อนโยน “คุณปู่ หลานของคุณปู่สบายดีค่ะ”
อย่างน้อยการจัดการเรื่องเกี่ยวกับงาน สมองก็สามารถใช้งานได้
“จริงเหรอ”
“จริงๆค่ะ”
“งั้นฉันก็วางใจได้ กลัวว่าไอ้เด็กผีนั่นจะตั้งใจหลอกฉัน โอเค ไม่รบกวนพวกเธอแล้ว มือแล้ว รีบๆพักผ่อนล่ะ”
แก้มของเวินจิ้งเริ่มแดง คำพูดของคุณปู่ทำไมถึงดูแปลกมาก…..
แต่ ก็ได้เตือนสติเธอ
“ฉันควรจะกลับแล้ว”
“อืม เดี๋ยวให้เกาเชียนไปส่งคุณ”
มองไปที่ข้างหลังของเวินจิ้ง มู่วี่สิงกำลังพิงโซฟา ดวงตาของเขาค่อยๆนิ่งลึก