Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 380
บทที่ 380 ข่มขู่
“ฉันจะนอนแล้ว หรือว่านายก็จะนอนข้างๆฉัน?” เวินจิ้งเข้านอน มองฉีเซินอย่างเย็นชา
เขาอยู่ห่างจากเธอหนึ่งเมตร สายตาเยือกเย็น
“หากใช่ล่ะ” ฉีเซินขยับเข้าไปทีละก้าว
เวินจิ้งไม่ได้ตื่นตระหนกขนาดนั้นแล้ว นอนลง เธอไม่ได้มองฉีเซินแล้ว หลับตาลง
เป็นเวลานาน ในที่สุดข้างหูก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น ฉีเซินออกไปแล้ว
ความตึงเครียดของเวินจิ้งถึงจะผ่อนคลายลง ลืมตาขึ้น ภายในห้องมืด
เธออดไม่ได้ตัวสั่นขึ้นมา ดวงตาก็แดงก่ำ
เดินไปตรงระเบียง เธอมองลงไปสวนดอกไม้ชั้นล่าง บอดี้การ์ดลาดตระเวนตลอด
เวินจิ้งขมวดคิ้ว มองดูค่ำคืนที่มืดมิด นอนไม่หลับทั้งคืน
ชั้นล่าง ฉีเซินนั่งอยู่บนโซฟา ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆคอยระมัดระวัง ไม่กล้าส่งเสียง
ไม่นาน มือถือของฉีเซินดังขึ้น มู่เหิงโทรมา
“คนอยู่ในมือของนายแล้ว?”
“อืม”
“แจ้งให้มู่วี่สิงรึยัง?”
“ตอนนี้เขาอยู่บนเครื่องบิน” ฉีเซินพูด
“ทำได้ดีมาก ผู้หญิงคนนั้นนายต้องจับตาดูให้ดี”
“อยู่แล้ว”
หลังจากวางสาย ฉีเซินมองท้องฟ้าข้างนอก จนกระทั่งท้องฟ้าค่อยๆสว่างขึ้นมา
เวลานี้ เมืองเป่ยเฉิง
มู่วี่สิงลงจากเครื่องบินก็ไปที่สาขาของบริษัททันที หนึ่งวันก่อนหน้า ข้อมูลที่เป็นความลับของสาขาถูกขโมยไป มีข้อมูลจำนวนไม่น้อยที่ถูกเผยแพร่ออกไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานโดยปกติของบริษัทอย่างจริงจัง
ตอนนี้ฝ่ายเทคนิคได้พยายามอย่างดีที่สุดในการช่วยเหลือ เพียงแต่สำหรับบริษัทมู่ซื่อแล้ว เป็นเรื่องใหญ่มาก
มู่วี่สิงเรียกประชุมด่วน แต่เมื่อการประชุมเพิ่งเริ่มขึ้น เกาเชียนก็หยิบมือถือของเขาเข้ามาด้วยความกังวล
มู่วี่สิงมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เกาเชียนเหงื่อไหลอย่างหนัก มันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเวินจิ้ง เขาทำได้เพียงเอ่ยปากออกมาหัวแข็ง “ประธานมู่ มีสายจากทางโรงพยาบาล คุณเวินหายตัวไป”
“อะไรนะ?” เดิมทีสีหน้าของมู่วี่สิงก็เยือกเย็นก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก คิ้วขมวดกันอย่างแน่นหนา
ดูความคืบหน้าการประชุมบนหน้าจอ อย่างน้อยต้องประชุมสามชั่วโมง
“การประชุมหยุดกระทันหัน”
สิ้นเสียง มู่วี่สิงได้ออกจากห้องประชุมแล้ว
เดิมทีสถานการณ์ก็เลวร้ายแล้วตอนนี้ยิ่งหนักกว่าเดิม สายตาของผู้อาวุโสมองเกาเชียนแล้วกระซิบ เขาพูดเสียงต่ำ “ต้องขออภัยด้วย ทุกท่านโปรดอดทนรอสักครู่”
ด้านนอก มู่วี่สิงหยิบมือถือขึ้นมา
บอดี้การ์ดทางโรงพยาบาลพูดอย่างกังวล “ประธานมู่ เมื่อคืนจนถึงตอนนี้กล้องวงจรของโรงพยาบาลถูกปิดกั้นหมด คุณเวินน่าจะหายตัวไปได้หกชั่วโมงแล้ว…”
“สารเลว!”
ความโกรธทำให้อารมณ์ของผู้ชายร้อนใจขึ้นไปอีก
มู่วี่สิงผู้อ่อนโยน ไม่เคยมีอาการที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แบบนี้
เคยครั้งเดียวคืออดีต ตอนที่คุณแม่ได้เสียไป
“ตามหาเบาะแสของฉีเซินและมู่เหิง!” เขาสั่ง
หลังจากวางสาย เกาเชียนยืนอยู่ข้างเขาด้วยความตื่นตระหนก
มู่วี่สิงพูดอย่างเย็นชา “นายรออยู่ที่นี่จัดการเรื่องพวกนี้”
“ประธานมู่…แต่…” เกาเชียนหยุดชะงัก วิกฤติของสาขาในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ไข ไม่อย่างนั้นมู่วี่สิงก็ไม่บินมาด้วยตัวเอง
มอบให้เขา…เผื่อเกิดเขาทำเสียเรื่อง เขาไม่รับรองหัวน่ะสิ!
แต่ตอนนี้เวินจิ้งเกิดเรื่อง มู่วี่สิงจะไม่ยืนดูเฉยๆอย่างแน่นอน
“ฉันจะให้รองประธานมา เข้าไปประชุมเถอะ” มู่วี่สิงพูด
สิ้นเสียง ได้ติดต่อเครื่องบินส่วนตัวกลับหนานเฉิง
เกาเชียนเหงื่อท่วมหน้า…
เพิ่งเข้าไปในรถ มือถือของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เป็นสายที่ไม่รู้จัก
แต่เขารู้ว่าเป็นใคร
“ฉีเซิน”
“มู่วี่สิงรู้ได้ไงว่าเป็นฉัน?” ฉีเซินพูดยิ้มๆ
“เวินจิ้งอยู่ไหน?” มู่วี่สิงไม่ได้พูดไร้สาระตามเขา ถามตรงๆ
“นายรู้ความต้องการของฉัน”
“เป็นไปไม่ได้” มู่วี่สิงพูดเยือกเย็น
ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทฉีซื่อเป็นที่รู้จักกันดี หากวิกฤติยังไม่ได้รับการแก้ไข สิ่งเดียวที่รอของบริษัทฉีซื่อคือการล้มละลาย
สิ่งที่ฉีเซินต้องการ คือบริษัทมู่ซื่อเลิกกดบริษัทฉีซื่อ
“มู่วี่สิง นายแน่ใจว่าจะปฏิเสธฉัน? เวินจิ้งอยู่ในมือของฉัน เพียงแค่ฉันกับเธอเกิดอะไรขึ้นนิดหน่อย แล้วให้นักข่าวมา วิธีของฉันคือทำให้เธอกลายเป็นภรรยาฉี ถึงตอนนั้นตระกูลฉีกฺจะรวมกันกับตระกูลหลินโดยอัตโนมัติ…”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของมู่วี่สิงก็ยิ่งเคร่งขรึมเข้าไปอีก
“นี่ก็ใกล้สิบโมงแล้ว เธอยังไม่ตื่นนอน ต้องการให้ฉันไปปลุกเธอไหม? ไม่คิดว่าอยู่ข้างกายฉัน เธอก็สามารถนอนหลับได้สนิทขนาดนี้”
ฉีเซินผลักประตูเข้าไป คำพูดของเขาจงใจกระตุ้นมู่วี่สิง
เวินจิ้งนั่งอยู่บนโซฟา มองฉีเซินที่เข้ามาด้วยสายตาเย็นชา
มุมปากของเขายิ้มด้วยความเยือกเย็น และเปิดลำโพง
วินาทีต่อมา ทันใดนั้นแขนก็โอบกอดเวินจิ้งไว้ ตกใจจนเธออุทานออกมา
สีหน้าของมู่วี่สิงตึงเครียด กรามเยือกเย็น กำปั้นค่อยๆกำแน่น
“ฉีเซิน!” เวินจิ้งถลึงตาใส่เขาด้วยความโกรธ
ต้องการสะบัดมือของเขาออก แต่ฉีเซินกดเธอไว้ในอ้อมแขน
“อย่าส่งเสียง เบบี๋” ฉีเซินจงใจทำน้ำเสียงให้ดูสนิทสนมกัน
เวินจิ้งทนไม่ได้จึงเตะเขาไปอย่างแรง
ฉีเซินอดทนไว้ หยิบมือถือขึ้นมา มือยังคงกอดเวินจิ้งไว้
“ประธานมู่ ฉันไม่มีเวลาคุยกับนายแล้ว จะทำยังไง นายคิดให้ดี”
สิ้นเสียง วางสายอย่างรวดเร็ว
“ฉีเซิน นานมันน่ารังเกียจ!” เวินจิ้งดุ
ฉีเซินหรี่สายตา ขาก็ถูกเวินจิ้งเตะตลอด เขาจึงต้องปล่อยเธอออก
“ความน่ารังเกียจของฉัน ยังเทียบไม่ได้กับมู่วี่สิง”
“นายทำร้ายคนของตระกูลมู่ก่อน” เวินจิ้งพูด
“เธอเป็นคนของตระกูลหลิน ทำไมถึงยืนข้างตระกูลมู่แล้ว ยังคิดว่าตัวเองเป็นภรรยามู่อีกเหรอ?” ฉีเซินพูดประชด
เวินจิ้งหยุดชะงัก ไม่พูดชั่วครู่
“หากมู่วี่สิงอนุญาตให้เธอแต่งงานกับฉัน งั้นเธอก็มองเขาผิดไปจริงๆ เว้นแต่เขาใช้ประโยชน์จากเธอ”
คำพูดแบบนี้ คนข้างกายมากมายของเวินจิ้งเคยพูดไว้ มีพลังและอำนาจอย่างคุณหมอมู่ ตอนแรกที่ตกหลุมรักคนสามัญอย่างเธอ เว้นแต่ เขารู้ตัวตนของเธอแต่แรก
แต่เธอไม่เคยเชื่อ
“ฉีเซิน แม่ฉันไม่เห็นด้วยที่จะให้นายแต่งงานกับฉัน นายตายใจเสียเถอะ” เวินจิ้งพูดเย็นชา
“ใครจะรู้ เธอเป็นผู้หญิงของฉันไปแล้ว เธอไม่เห็นด้วยยังไงก็ต้องเห็นด้วยอยู่ดี…”
ยังพูดไม่จบ เวินจิ้งได้ตบหน้าของเขาอย่างรุนแรง พูดอย่างโกรธ “นายอยากมีความสัมพันธ์กับฉัน เว้นก็แต่หากฉันตาย!”
“เหอะ” ฉีเซินหรี่สายตา นิ้วเรียวยาวยกคางของเธอขึ้น “มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเธอ ก็ดูว่าวันนี้มู่วี่สิงจะทำยังไง มิฉะนั้น คืนนี้เธอก็อย่าคิดว่าจะหนีพ้น”
ทิ้งคำพูดที่ความโหดร้าย ฉีเซินก็ก้าวเท้ายาวรีบเดินออกไป
เวินขิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ยากที่จะสงบลง
เขารู้ดี ฉีเซินที่ถูกบีบจนร้อนใจ อะไรก็ทำออกมาได้
เวลานี้ ทันใดนั้นข้างนอกก็มีเสียงดังขึ้น เวินจิ้งเดินออกไปนอกระเบียง
รถคันสีดำขับเข้ามา ไม่นาน ร่างที่คุ้นเคยลงมาจากรถ
หลินเวย!
ดวงตาของเวินจิ้งเป็นประกาย แทบจะรีบวิ่งออกไปจากห้อง แต่บอดี้การ์ตรงประตูรีบขวางเธอไว้
“คุณเวิน โปรดกลับเข้าไป” บอดี้การ์ดพูดเสียงเข้ม
เวินจิ้งร้อนใจมาก หากหลินเวยมาแล้ว เธอก็อาจจะออกไปได้
แต่บอดี้การ์ดไม่อนุญาตให้เธอออกไป
หยุดชั่วครู่ เธอกลับไปที่ห้องก่อน และเดินไปตรงระเบียง สังเกตจุดตำแหน่งที่บอดี้การ์ดเฝ้า