Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 397
บทที่ 397 อย่าทำให้ของผมวุ่นวาย
“ดังนั้นเธอกำลังพูดว่ามีคนใส่ร้ายเธอ?” อธิการบดีหรี่ตาลง
“ฉันคิดว่า ใช่”
“ไร้สาระ เวินจิ้ง เธอยังกล้าปฏิเสธ? เธอก่อเรื่องในมหาวิทยาลัยหลินไห่ของเราก็ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยอย่างรุนแรงแล้ว คุณธรรมของเธอไม่ผ่าน ผมคิดว่าคุณควรที่จะหยุดพักการเรียนก่อนแล้วค่อยๆสำนึก” คำพูดของอธิการบดีเฉียบคมมาก
เวินจิ้งอึ้งไป คำพูดของอธิการบดีเป็นการลงโทษว่าเป็นความผิดของเธอแล้ว
“อธิการบดี ขอท่านเชื่อฉัน เรื่องนี้ฉันถูกใส่ร้ายจริงๆ”
“งั้นก็เอาหลักฐานออกมา” อธิการบดีเชิดหน้า
เวินจิ้งเงียบไป สักพักหนึ่งค่อยพูดขึ้นว่า “พยาบาลที่เอาของให้ฉันในวันนั้นอีกไม่กี่วันก็จะกลับมาจากต่างประเทศแล้ว ฉันอยากถามเธอต่อหน้า”
“เวินจิ้ง กล้องวงจรปิดได้อธิบายทุกอย่างแล้ว เธอแค่อยากที่จะถ่วงเวลา” เย่เฉียวพูดอย่างสงสัย
“ฉันแค่อยากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง”
“ไร้สาระ” ที่อธิการบดีขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
เวินจิ้งมองดูท่าทางของทั้งสองคน แล้วก็เข้าใจทั้งหมดทั้งมวลแล้ว
อยู่ที่นี่ เธอไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้อธิบาย
แต่เธอก็ยังคงอยากที่จะลองดู
“อธิการบดี ขอท่านให้โอกาสฉันอีกสักครั้ง หนึ่งสัปดาห์ ฉันต้องการเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์”
“เอาล่ะ งั้นก็ให้เวลาเธอหนึ่งสัปดาห์ ถึงตอนนั้นหากเธอยังไม่สามารถเอาหลักฐานออกมาได้ ผมก็จะไล่เธอออกทันที”
สีหน้าเวินจิ้งขาวซีด เธอพยักหัว “ขอบคุณท่านอธิการบดี”
หลังจากที่เวินจิ้งไปแล้ว เย่เฉียวมองดูอธิการบดี “อธิการบดี ทำไมท่านยังจะให้เวลาเธออีก”
“ไม่อย่างนั้น หากผมไม่ให้โอกาสเธอเลยสักครั้ง คนข้างนอกจะคิดยังไงกับมหาวิทยาลัยของเรา ยังไงเธอก็ยังเป็นคนของมหาวิทยาลัยหลินไห่ ภาพลักษณ์ภายนอกยังไงก็ยังต้องปกป้องอยู่”
“แต่…”
“เธอสืบหาอะไรไม่เจอหรอก” อธิการบดีพูดอย่างเยาะเย้ย
ออกมาจากห้องทำงานแล้ว เวินจิ้งก็หดหู่หงอยเหงาไม่มีชีวิตชีวา
เวลาหนึ่งสัปดาห์ เธอไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถหาหลักฐานมาได้
พยาบาลที่เอาอุปกรณ์ให้เธอคนนั้น หากไม่ยอมพูดความจริงออกมา อนาคตของเธอก็นับว่าจบแล้ว
เธอเป็นโอกาสเดียวของเธอแล้ว
เธอจะต้องติดต่อเธอให้ได้
คิดได้เช่นนี้ เธอก็รีบโทรหาไป๋สือ สายตรงข้ามกลับถูกเปลี่ยนเป็นให้ทิ้งข้อความ
เวินจิ้งแปลกใจ และเพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่า ไป๋สือไม่ตอบข้อความของเธอหนึ่งวันเต็มแล้ว
หากเป็นปกติแล้ว เขาไม่เคยเป็นแบบนี้
เวินจิ้งขมวดคิ้ว รีบตรงไปหามู่วี่สิง
บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป
เวลาพลบค่ำ เวินจิ้งตรงเข้ามาเลย ถูกพนักงานต้อนรับห้ามไว้อยู่ตรงชั้นหนึ่ง เธอรีบโทรหามู่วี่สิง
แต่ก็ไม่มีคนรับ ตอนนี้เวินจิ้งหวาดกลัวมาก สักพัก เธอโทรไปหาเกาเชียน
มู่วี่สิงไม่ได้อยู่ที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เกาเชียนแจ้งที่อยู่ร้านอาหารร้านหนึ่งให้เธอ คืนนี้มู่วี่สิงกำลังนัดเจอกับผู้ร่วมหุ้นคนหนึ่ง
เวินจิ้งลังเล เวลาแบบนี้ เธอไม่ไปรบกวนดีกว่า
แต่สามารถไปรออยู่ด้านนอกร้านอาหาร
ตลอดทาง เธอยังคงพยายามที่จะติดต่อหาศาสตราจารย์ไป๋อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ผล
เกาเชียนได้รายงานการเดินทางของเวินจิ้งให้กับมู่วี่สิงแล้ว เสร็จสิ้นการทานข้าวอย่างรวดเร็ว ตอนที่กำลังจะกลับ เวินจิ้งก็มาถึงพอดี
เมื่อเห็นมู่วี่สิง สีหน้าที่เคร่งเครียดของเธอก็ค่อยผ่อนคลายลง
“ทำไมถึงรีบร้อนขนาดนี้?”
“ฉัน…ฉันติดต่อศาสตราจารย์ไป๋ไม่ได้ คุณสามารถหาเขาเจอไหม?”
“เขาประชุมอยู่ต่างประเทศ พรุ่งนี้ก็น่าจะกลับมาแล้ว” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
“ฉันรู้…แต่เขาไม่ตอบข้อความฉันนานแล้ว ฉันเป็นห่วง…” ในใจเวินจิ้งยังคงมีความรู้สึกไม่ค่อยดี
ศาสตราจารย์ไป๋ไม่เคยไม่ตอบข้อความของเธอนานขนาดนี้
ได้ยินแบบนี้ สีหน้ามู่วี่สิงค่อยๆเคร่งเครียด กอดเวินจิ้งอย่างปลอบโยน เขาโทรศัพท์ไปหาเกาเชียน ให้ไปตรวจสืบดูก่อน
“ยังมีพยาบาลที่ยื่นอุปกรณ์ให้ฉันก่อนเข้าห้องผ่าตัดในตอนนั้น พรุ่งนี้เธอจะสามารถกลับมาไหม?” เวินจิ้งถาม
พวกเขาที่ออกไปประชุมต่างประเทศในครั้งนี้ ได้เลื่อนเวลาออกไปแล้วไม่น้อย ตอนนี้ยังไม่กลับมา
และอธิการบดีให้เวลาเธอ ก็ไม่มาก
“หากพวกเขายังกลับมาไม่ได้ ผมจะพาคุณไปยังประเทศC” น้ำเสียงมู่วี่สิงหนักแน่น
เวินจิ้งพยักหน้า ก็คงต้องเป็นแบบนี้แล้ว
กลางคืน มู่วี่สิงไม่ได้ส่งเวินจิ้งกลับไปยังมหาวิทยาลัย ยังคงพามาที่การ์เด้นมูเจียวาน
เขาลงมือเข้าครัวเอง เวินจิ้งนั่งอยู่บนโซฟา สายตามองดูเงาหลังสง่าของมู่วี่สิง
สักพัก เธอวิ่งไป แล้วกอดเขาอยู่ด้านหลังไว้แน่น
“คิดถึงผม หรือ?” น้ำเสียงต่ำของเขาดังขึ้น
“คิดถึง คิดถึงมาก” เวินจิ้งพยักหัว
ต่อให้มู่วี่สิงอยู่ข้างกาย ก็ไม่พอ
เธออยากที่จะเกาะติดอยู่ข้างกายเขาอยู่ตลอดเวลา
สายตามู่วี่สิงมองอย่างรักใคร่ หันมามองเธออย่างลึกซึ้ง “ว่าง่ายหน่อย ออกไปรอทานข้าว”
“คุณงานยุ่งมาก ปกติก็ให้คนใช้ทำกับข้าวเถอะ” เวินจิ้งไม่อยากให้มู่วี่สิงต้องลำบากขนาดนี้
แต่เขาก็ตั้งใจทำด้วยตัวเองอยู่ตลอด
“ผมไม่ชอบให้ภายในบ้านมีคนที่สาม” มู่วี่สิงพูดขึ้น
ปกตินอกจากคนใช้จะเข้ามาทำความสะอาดแล้ว เวลาอื่นจะไม่มาปรากฏตัว
“งั้นฉันจะช่วย” พูดเสร็จ เวินจิ้งก็พับแขนเสื้อขึ้น
ริมฝีปากบางของมู่วี่สิงอมยิ้ม “อย่าทำให้ของผมวุ่นวาย”
“ฉันไม่ได้ทำ ฉันอยากจะช่วยจริงๆ” พูดเสร็จ ก็สวมผ้ากันเปื้อนอย่างสมจริงสมจัง
ทั้งสองคนช่วยกันทำอย่างเข้ากันได้ดี ถึงแม้เวินจิ้งจะเป็น “นักฆ่าห้องครัว” แต่มู่วี่สิง ก็สอนเธอยังใจเย็น และในที่สุดก็ทำกับข้าวออกมาได้อย่างหนึ่ง
เพียงแต่ในใจยังคงมีเรื่องให้ต้องคิดอยู่มากมาย ดังนั้นจิตใจจึงยังไม่สามารถมีความสุขได้ทั้งหมด
ในห้องหนังสือ ไม่นานเกาเชียนก็โทรศัพท์มา มู่วี่สิงรับสาย
มีข่าวของไป๋สือแล้ว พวกเขาทั้งหมดที่ออกไปประชุมต่างประเทศประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ กลับไม่รู้ว่าทำไมข่าวถึงถูกปิดไว้
เขาขมวดคิ้ว พูดอย่างเย็นชาว่า “ตรวจสืบให้ชัดเจน”
หากข่าวถูกปิดไว้ งั้นรถประสบอุบัติเหตุ…คงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ด้านข้าง เวินจิ้งมองดูมู่วี่สิงอย่างกลัวๆ
รอจนเมื่อเขาวางสายแล้ว เธอก็ถามอย่างรีบร้อนว่า “เป็นยังไงบ้าง?”
“ศาสตราจารย์ไป๋ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ พรุ่งนี้พวกเราไปประเทศC”
ในใจเวินจิ้งหนักอึ้ง อุบัติเหตุทางรถยนต์…
“ศาสตราจารย์ไป๋ได้รับบาดเจ็บไหม?”
“ไม่รู้”
“แม้แต่เขายังสืบเรื่องได้อย่างไม่ละเอียด เกรงว่าสถานการณ์ทางด้านนั้นน่าจะไม่สู้ดี”
เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนรีบเดินทางไปยังประเทศCแต่เช้า
ลงจากเครื่องบินแล้ว เกาเชียนที่มาถึงก่อนแล้ว รายงานมู่วี่สิงว่า “ได้สืบรู้โรงพยาบาลที่เหล่าศาสตราจารย์เข้ารักษาตัวแล้ว ต่างก็ไม่ได้บาดเจ็บหนัก แต่ตามที่ทางโรงพยาบาลด้านนั้นวางแผน จะต้องพักดูอาการหนึ่งอาทิตย์”
“รีบไปดูกัน”
เวินจิ้งตาละห้อย ยังคงสงบเงียบ แต่ฝ่ามือที่เยือกเย็นยังคงเปิดเผยอารมณ์ของเธอ เธอรู้สึกไม่สบายใจ
ห่างจากเวลาที่อธิการบดีรับปากให้เธอไว้ เหลืออีกแค่ห้าวันแล้ว
หากเธอไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเองได้ ความพยายามของเธอทั้งหมดก็จะสูญเปล่าแล้ว
คิดถึงเช่นนี้แล้ว ในใจก็ยิ่งทรมาน
และแล้ว ด้านข้างก็มีแขนหนึ่งยื่นมา มุ่วี่สิงโอบกอดเธอมาแนบอก
“เรื่องราวจะสามารถสืบหาความจริงได้”
เวินจิ้งเงียบ ตามที่เธอเห็นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ตอนนี้เธอไม่รู้เลยว่าพยาบาลคนนั้นตั้งใจใส่ร้ายเธอหรือเปล่า หากใช่ งั้นหลักฐานเดียวที่มีก็ไม่มีแล้ว
บริษัทฉีซื่อกรุ๊ป
ฉีเซินประชุมเสร็จ ผู้ช่วยรออยู่ด้านนอกอย่างเกรงกลัว
“ประธานฉี มู่วี่สิงกับคุณหนูเวินไปประเทศCแล้ว”
“อะไรนะ? ทำไมไม่ห้ามไว้” ฉีเซินพูดอย่างโกรธเคือง
“ผม…ผมจะห้ามยังไง…” ผู้ช่วยพูดอย่างลำบากใจ
“โง่ที่สุด ทางด้านโรงพยาบาลมีคนเฝ้าอยู่ไหม?”
“มีคน แต่คนของมู่วี่สิงก็อยู่ที่นั่น”
“เศษสวะ” ฉีเซินด่าอย่างโกรธจัด “ทางด้านโรงพยาบาลถ่วงเวลาไว้ให้ได้ อย่างน้อยก็ต้องหลังจากหนึ่งอาทิตย์แล้วค่อยให้พวกเขาออกจากโรงพยาบาล”
“ผมเข้าใจแล้ว”