Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 416
บทที่ 416 เขากับโจวหย่านไม่ได้แต่งงานกัน
เมื่อมาถึงประตูใหญ่ของโรงแรม เวินจิ้งพูดขอบคุณผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอ“ขอบคุณค่ะ”
โจวเซินพยักหน้าอย่างไม่สนใจ เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็ตวัดเข้ากับสายตาคม
ไม่ไกลกันมาก ก็มีสายตาของมู่วี่สิง กำลังมองมาที่เขา
เขาค่อยๆ ยกริมฝีปากบางขึ้น แล้วโจวเซิน ก็ได้เรียกเวินจิ้งไว้
“ต้องการให้ผมส่งคุณกลับไหมครับ?”
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็รบกวนคุณมากแล้วค่ะ”เวินจิ้งอยู่ห่างออกมา
เมื่อพูดจบ ก็รีบเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว แต่ว่า มีรูปร่างหนึ่งที่เธอคุ้นเคย ทำให้เธอต้องหันกลับไปมอง
ชุดสูทสีดำ ที่ด้านในสวมด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตา รูปร่างที่หล่อเหลา และมีเสน่ห์
เขาได้มาขวางทางเธอไว้
ทำไม……เขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
ขณะนั้น ในหัวของเวินจิ้ง ก็เกิดความคิดขึ้นมามากมาย ท้ายที่สุดก็เหลือเพียงหนึ่งความคิด——เขากับโจวหย่านไม่ได้แต่งงานกัน
แต่ว่า เธอยังไม่กล้าที่จะเชื่อ
และสุดท้ายก็ได้พูดออกไป“ช่วยหลีกทางหน่อย ได้ไหมคะ?”
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว และยังคงไม่ขยับไปไหน
ดวงตาของเขามืดมนลง
บรรยากาศเริ่มชวนให้น่าอึดอัด นั่นทำให้เวินจิ้งเริ่มรู้สึกกลัว
“มู่วี่สิง”น้ำเสียงของเธอเย็นชาขึ้น
ตอนนี้ มีคนจำนวนหลายคนกำลังยืนอยู่ และมีคนจำนวนหนึ่งกำลังมองดูอยู่
“อืม”ช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ถอยออกมา และรถที่จอดรออยู่ที่ประตู ก็ได้จอดรอนานมากแล้ว
เวินจิ้งมองไปที่เขา ที่ค่อยๆ หันหลังเดินจากไปทีละก้าวๆ และเธอก็รู้สึกว่ามู่วี่สิงในตอนนี้ เขากำลังเหงามาก
แต่ทำไมเขาถึงมีความรู้สึกนี้อีกนะ
ในเวลานี้ เขาต้องไปอยู่ในห้องเรือนหอกับโจวหย่านไม่ใช่เหรอ?
ทำไมเขาถึงออกมาแค่คนเดียว……
เวินจิ้งเฝ้าดูเขา ค่อยๆ ก้าวห่างออกไป และในที่สุด เขาก็เดินจนลับตาเธอออกไป
ไม่ไกลกันนัก หลี่ซี่ก็เดินเข้ามาหาเธอ
“ไหนบอกว่าไม่เข้ามาไง?”
เวินจิ้งเมื่อเรียกสติกลับมาได้ ก็ไม่ตอบอะไร
ฝั่งตรงข้างเป็นป้ายรถเมล์ เธอมุ่งเดินข้ามไปทางนั้น
หลี่ซี่ยังคงไม่ยอมแพ้ที่จะเดินตามเธอไป เวินจิ้งเดินไปถึงป้ายรถเมล์ หลี่ซี่ยังคงยืนอยู่ข้างๆ เธอ
“จะกลับมหาวิทยาลัยแล้วเหรอ?”เขาถาม
เวินจิ้งพยักหน้า ในหัวของเธอตอนนี้ มีแต่ภาพที่มู่วี่สิงเพิ่งเดินจากเธอไปป,เธอถามพรึมพรำ“งานแต่งงานราบรื่นดีไหม?”
“ไม่ราบรื่น เจ้าสาวถูกพาตัวหนีไป”หลี่ซี่มองไปที่เธอ
เวินจิ้งขมวดคิ้วขึ้น แล้วหันหน้าไปมอง“คุณไม่ได้กำลังหลอกฉันอยู่ใช่ไหม?”
“คุณคิดว่าผมกำลังหลอกคุณอยู่เหรอ งั้นผมก็กำลังหลอกคุณอยู่”
แล้วระหว่างทั้งสองคนก็ไม่ได้คุยอะไรต่อ ไม่นานนัก รถเมล์ก็มาถึง เวินจิ้งขึ้นรถ หลี่ซี่ก็ตามขึ้นไปยืนข้างๆ เธอ
ตลอดทางจนมาถึงมหาวิทยาลัย เวินจิ้งได้หันหน้าไปมองเขา“หลี่ซี่ ไม่ต้องตามฉันแล้วนะ”
“ได้ ผมมาส่งคุณแค่ตรงนี้นะ ว่าแต่ ผมยังไม่มีวีแชทของคุณเลย”หลี่ซี่ยื่นโทรศัพท์มาให้เธอ
“ฉันไม่ได้สนใจคุณ”
เวินจิ้งพูดอย่างไม่แยแส
เมื่อเธอกำลังจะหันตัว หลี่ซี่ก็จับข้อมือของเธอไว้“เวินจิ้ง ผมก็ไม่ได้สนใจในตัวคุณมากมายนักหรอก ถ้าพวกเราแต่งงานกัน มันก็เพื่อประโยชน์ของครอบครัวทั้งนั้นน่ะ”
ดวงตาของเวินจิ้ง เต็มไปด้วยสายตาที่ต่อต้านเขา ถึงแม้ว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้น แต่เธอก็ไม่ต้องการ
และถึงแม้ว่า มันจะเป็นความต้องการของหลินเวยก็ตาม
แล้วก็ใช้แรงดึงมือเธอกลับมา เธอไม่อยู่คุยต่อ
……
บ้านใหญ่ตระกูลมู่
มู่ซือซือ ไม่ได้ออกไปร่วมงานแต่งงาน ก่อนจะออกจากบ้าน เธอได้รับโทรศัพท์จากพี่ชาย เธอทำได้แค่รออยู่ที่บ้าน
งานแต่งงานครั้งนี้ ถือว่าไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมาก ไม่มีสำนักข่าวไหนทราบเรื่อง สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง มู่ซือซือก็ไม่ทราบ
เมื่อเห็นพี่ชายกลับมา เขายังคงอยู่ในชุดสูท ดึงดูดคนให้หันมอง แต่ว่าข้างกายเขา กลับไม่มีโจวหย่าน
ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลานี้ พี่ชายไม่ควรที่จะกลับมาคนเดียว
“พี่คะ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ”
“งานแต่งงานถูกยกเลิกแล้ว”มู่วี่สิง สีหน้าเรียบนิ่ง
มู่ซือซือนิ่งเงียบ มองไปที่สีหน้าของพี่ชาย นอกจากใบหน้าที่เหนื่อยล้า เขาก็ไม่แสดงสีหน้าอื่นเลย
“พี่รู้แต่แรกแล้วใช่ไหม”มู่ซือซือน้ำเสียงมีความมั่นใจ
มู่วี่สิงไม่ตอบ แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน
มู่ซือซือ มองด้านหลังของพี่ชาย คิดถึงเมื่อก่อนที่พี่ชายให้เธอตีสนิทกับโจวหย่าน เรื่องของตระกูลโจว เมื่อได้นึกถึงช่วงเวลานั้น มันได้ถูกวางแผนมาก่อนแล้ว
เขารัก และเอาใจใส่เวินจิ้งอย่างมาก แล้วเขาจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง
เมื่อคิดขึ้นได้ มู่ซือซือก็ไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้ หรือควรจะยิ้มกันแน่,ไม่คิดว่าคนที่ยังอยู่ในใจของมู่วี่สิงคนนั้น จะยังเป็นเวินจิ้ง
……
ที่หอพัก
เวินจิ้งหลังจากกลับมา เธอก็ผล็อยหลับไป หลิงเหยาไม่อยู่ จนถึงดึก เธอถึงตื่นขึ้นมา
หลิงเหยาโทรศัพท์มาหาเธอ แต่ไม่มีคนรับสาย รู้สึกเป็นห่วง จนรีบกลับมาก่อนเวลา
เมื่อเห็นเวินจิ้ง นั่งอยู่ด้านหน้าของโต๊ะอ่านหนังสือ ไม่เป็นอันตรายอะไร ถึงกับถอนหายใจออกมา
“เวินจิ้ง เธอทำให้ฉันตกใจนะ ทำไมไม่ยอมรับสายจากฉัน”
เมื่อเธอได้ยิน เวินจิ้งถึงนึกขึ้นได้ เปิดค้นกระเป๋าไปมา เธอไม่ได้ดูโทรศัพท์เลย
“ขอโทษนะ ฉันปิดเสียงโทรศัพท์น่ะ”
“วันนี้เธอออกไปไหนมาทั้งวันน่ะ?”หลิงเหยาถามลอยๆ
เธอรู้ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของมู่วี่สิง แต่เธอมีเรียน และไม่ได้สนใจจะไปร่วมงานเลี้ยงนั้นด้วย เธอจึงไม่ได้ผ่านไป
แต่ว่าเวินจิ้ง……เธอเข้าใจความรู้สึกของเวินจิ้ง
กลัวว่า เธอจะผ่านวันนี้ไปไม่ได้
“ไปโรงแรมมาน่ะ”
“เธอไปงานแต่งงานมาแล้ว?”
“ใช่,แต่งานแต่งเหมือนว่า……ถูกยกเลิกกลางคัน”
หลิงเหยานิ่งเงียบ แล้วมองไปที่ใบหน้าที่นิ่งสงบของเวินจิ้ง ทุกอย่างเงียบไปช่วงเวลาหนึ่ง
ถูกยกเลิกเหรอ?
ส่วนเหตุผล เธอก็เลยคิดว่ามันอาจจะเกี่ยวกับเวินจิ้ง
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”หลิงเหยาถามอย่างสงสัย
“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ และเรื่องที่เกี่ยวกับมู่วี่สิง ฉันไม่ได้สนใจมันแล้ว”
คำพูดนี้ พูดให้ทั้งกับหลิงเหยา และพูดให้ทั้งกับตัวเอง
เรื่องนี้ หลิงเหยาแอบถามกับมู่ซือซือแล้ว แต่เธอรู้แค่ว่าโจวหย่านถูกพาตัวออกไประหว่างงานแต่งงาน โดยไม่มีใครทราบสาเหตุ
ตอนนี้ข่าวต่างๆ ก็ถูกสั่งให้ปิดข่าว
ต่อไปคือ ช่วงเวลาสอบปลายภาคที่แสนจะวุ่นวาย เวินจิ้ง ทุ่มเทเวลาทั้งหมดในการอ่านหนังสือ และทบทวนเนื้อหา จนการสอบสิ้นสุดลง ก็ยังไม่ได้เจอกับมู่วี่สิง
ดูเหมือนว่า ผู้ชายคนนี้ จะได้หายไปจากโลกของเธออย่างสมบูรณ์
หลังจากการสอบวิชาสุดท้ายจบลง นักศึกษาเอกวิชาเดียวกัน ก็ได้กำลังวางแผนเพื่อจะไปท่องเที่ยวกัน แต่เวินจิ้งได้รับคำสั่ง ว่าปิดภาคเรียนนี้ ต้องเข้าไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เพื่อทำการวิจัยต่อ
ไม่ใช่เป็นการบังคับ เพราะคิดว่าเป็นเวลาวันหยุดของทุกคน ดังนั้นจึงเป็นสิทธิส่วนตัว ที่จะมีสิทธิเลือก
แต่ดูเหมือนว่า วันหยุดปิดภาคเรียนนี้ เธอไม่ได้วางแผนไปไหน
นอกจากนี้ นักศึกษาอีกสองคนที่มีส่วนร่วมในการวิจัยครั้งนี้ ก็ตัดสินใจร่วมทำงานวิจัยต่อ ในช่วงวันหยุดปิดภาคเรียน
แต่เธอ……
เวินจิ้งยังคงไม่ตอบตกลง และใช้เวลาหลายวันอยู่ที่มหาวิทยาลัย หลินเวยเรียกให้เธอกลับบ้าน ไปกินข้าว เธอถึงได้ก้าวเท้าออกจากหอพัก
หลิงเหยา ได้กลับไปที่บ้านหลิงตั้งนานแล้ว มหาวิทยาลัยเริ่มปิดเทอม ก็ดูเงียบสงบขึ้นมาเยอะมาก
ในขณะที่เดินผ่านห้องเรียน สายตาของเวินจิ้ง ก็ไปเห็นเข้ากับแท่นยืนที่คุ้นเคย
บรรยากาศระหว่างการบรรยายการสอนของมู่วี่สิง ค่อยๆ เข้ามาในใจ เขาจริงจัง น่าเกรงขาม แต่บางครั้งก็อ่อนโยน
เขาสามารถจัดการกับสิ่งต่างๆ ได้เสมอ
ภาพที่คลุมเครือ ค่อยๆ หายไปจากใจของเธอ เวินจิ้งเรียกสติกลับมา เมื่อหันตัวกลับ ทันใดนั้นก็สบตาเข้ากับสายตาคู่หนึ่งที่เธอคุ้นเคย
ประมาณครึ่งเดือนได้ ที่ไม่ได้เจอกัน
แต่วันเวลาดูเหมือนจะผ่านมาเนิ่นนาน
ยังคงใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว และกางเกงขายาวสีดำ ร่างสูงถูกปกคลุมด้วยแสงอาทิตย์ ทั้งหล่อ และสง่างาม
สายตาของเขา ดูเหมือนจะไม่ได้มองมาที่เวินจิ้ง เขาและเธอเพียงแค่เดินสวนทางกัน
และเธอมองเห็นเพียงด้านหลังของเขาเท่านั้น
เวินจิ้งกัดริมฝีปากของเธอ ความรู้สึกของการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่กำลังท่วมท้นในใจ แต่เธอทำได้แค่ต้องระงับอารมณ์ไว้
เธอคิดถึงเขามากจริงๆ