Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 437
บทที่ 437 ดอกพีชตามมาแล้ว
ต่อหน้าชายรูปงามข้างหน้า เวินจิ้งส่ายหัวไปมา
วันนี้ ทั้งสองคงได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก
คือเมื่อกี้ที่สวนด้านหลัง เธอเห็นเขาจากที่ไกลๆ
ในตาของชายหนุ่มมีความผิดหวังลอยมา ดูเมื่อว่าครั้งที่แล้วที่บอกทางเธอ เธอคงจะจำเขาไม่ได้จริงๆ
“หลงทางอีกแล้ว?” เขาถาม
เวินจิ้งมองเขาอย่างงงๆ อีกแล้ว?
หรือว่า……
เธอค่อยๆ นึกขึ้นได้ น้ำเสียงแบบนี้ ไม่น่าล่ะถึงได้รู้สึกคุ้นๆ
น้ำเสียงเข้มที่แหบแห้ง ที่จริงแล้วมันก็ยากที่จะทำให้คนลืม
ไม่นานมานี้ในโรงแรมที่จัดงานแต่งของมู่วี่สิงกับโจวหย่าน เธอหลงทาง เป็นเขาที่พาเธอออกมา
“ใช่แล้วหลงทาง” เธออายๆ จากนั้นก็วางใจลงไม่น้อย
“ฉันพาเธอออกไป” ชายหนุ่มดับบุหรี่ จากนั้นก็ทำมือเชิญเธออย่างสุภาพบุรุษ
“รบกวนคุณแล้ว”
เมื่อถึงสวนดอกไม้ เวินจิ้งจึงมองหามู่วี่สิง
จู่ๆ ก็มีแก้วเหล้ายื่นเข้ามาที่หน้าของเธอ “แชมเปญ แอลกอฮอล์ไม่แรง”
แต่เวินจิ้งไม่ได้รับ ขอบคุณอีกครั้งจากนั้นจึงเดินไปอีกทาง
ชายหนุ่มอยากจะตามไป แต่รอบข้างก็ค่อยๆ ถูกสาวที่ใส่ชุดเซ็กซี่ล้อมไว้
“คุณคะ คืนนี้มีนัดมั้ยคะ?”
การเข้าหาแบบนี้เขาเคยเจอมาเยอะแล้ว ปากบางยกยิ้ม เขาโอบผู้หญิงด้านข้าง แล้วบีบไปที่เอวบางๆ นั่น
“ไม่สนใจ”
คำพูดเย็นชาจบลง ก็รีบเดินเข้าฝูงชนไป
……
ข้างสระว่ายน้ำ มู่วี่สิงกำลังพูดคุยกับแขกกลุ่มนึง
โจวหย่านตามติดเขาตลอด
พอเห็นมู่วี่สิงมีช่องโหว่ เธอจึงรีบเดินเข้าไปหาเขา
แต่ดันไม่ระวังว่าข้างสระน้ำนั้นลื่น เมื่อเห็นว่าคนทั้งคนกำลังจะตกลงไปในสระ สุภาพบุรุษมู่วี่สิงจึงคว้าเธอไว้
หน้าของโจวหย่านแนบกับไหล่ของเขา เจ็บเล็กน้อย
“ขอโทษนะ” เธอเกาะมู่วี่สิงอยู่
“โจวหย่าน เอามือออกไป” มู่วี่สิงปล่อยมือออกแล้ว แต่โจวหย่านยังเกาะเขาอยู่
เห็นได้ชัดว่ามู่วี่สิงโกรธแล้ว แต่โจวหย่านนั้นไม่กลัว
“ขาฉันพลิก ยื่นไม่ไหว” โจวหย่านพูดเสียงเบา
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว มือก็ยังคงปล่อยออกอย่างเย็นชา
โจวหย่านที่ยืนขากะเผลก ทันใดนั้นก็ให้ตัวเองยืนนิ่ง
มู่วี่สิงกลับหลังหันอย่างเย็นชา ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง
โจวเซินที่เข้ามาเมื่อครู่ก็ได้อุ้มน้องสาวของตนไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ
“เธอไม่ควรมาเลย”
โจวหย่านกัดปาก กลั้นไว้ไม่ร้อง แต่ตานั้นแดงก่ำ
“หนูจะแต่งงานกับเขา!”
โจวเซินหรี่ตา “พี่จะช่วยเธอ แต่ตอนนี้เธอต้องเชื่อฟังพี่ กลับประเทศCไปก่อน”
“หนูไม่กลับ!แม่จะให้หนูไปดูตัวตลอดเลย หนูไม่สามารถชอบใครได้เลย” โจวหย่านโมโห
“เรื่องนี้ยังไงก็ต้องแสดง น้อง ให้แม่วางใจก่อน”
โจวหย่านเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง สำหรับพี่ชายคนนึงที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เธอก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย
แต่เธอรู้จักความอยากควบคุมของโจวเซินดี เธอจึงไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟัง
แต่เธอก็ยังอยากจะเจอมู่วี่สิง
……
เวินจิ้งหามู่วี่สิงไม่เจอ แต่เจอคุณไป๋ลู่ที่พาเธอไปเปลี่ยนชุดแล้ว
เธอกำลังคล้องแขนของมู่เหิงอยู่ สายตาหยาดเยิ้ม
พอเห็นเวินจิ้ง คนใส่รองเท้าส้นสูงจึงเดินมาทางเธอ
มู่เหิงจึงเดินตามมาด้วยกัน
เวินจิ้งเธอเดินไปทางประตู ไป๋ลู่เดินเข้ามา “คุณเวิน งานเลี้ยงยังไม่จบเลย ทำไมรีบกลับล่ะ?”
“อื้ม” เวินจิ้งพยักหน้าเบาๆ
“อีกแป๊บจะมีการแสดงนะ คุณไม่อยู่ต่อก็น่าเสียดายแย่เลย” ไป๋ลู่พูดอย่างเสียดาย
“คุณเวินจะกลับ เราก็ห้ามไม่อยู่ ที่รัก อย่าเสียใจเลย” มู่วี่สิงปลอบไป๋ลู่
และตอนนี้ มู่วี่สิงก็เดินมาพอดี
โอบเวินจิ้งไว้อย่างหวาน น้ำเสียงเขาเข้มเล็กน้อย “มู่เหิง พวกเรายังมีธุระ”
พูดจบ เวินจิ้งก็ได้ออกไปก่อนแล้ว
สายตาของไป๋ลู่มองไปที่มู่วี่สิง จับจ้องเล็กน้อย
พอมองมู่เหิง รอยยิ้มหวานๆ ก็กลับมา “เขาก็คือน้องชายของนาย? ”
“อื้ม”
“ความสัมพันธ์ของพวกนายไม่ดีไม่ใช่เหรอ? ทำไมนายให้เขามาล่ะ”
“ตระกูลมู่เหมือนกัน จะใครคนนอกรู้ว่าพวกเราภายในตีกันเองไม่ได้” มู่เหิงพูดเสียงเข้ม
บนรถ
มู่วี่สิงก็ยังมีบรรยากาศมาคุอยู่
เวินจิ้งมองไปที่นอกหน้าต่าง ที่หน้าประตู ผู้ชายคนนั้นก็เดินออกมาเช่นกัน
มองได้แค่ครึ่งวิ มู่วี่สิงก็บีบคางของเธอ เธอจึงต้องหันมาเขาที่หรี่ตามองเธออย่างช่วยไม่ได้
“รู้จักเขา? ” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเย็นชา
“เมื่อกี้เดินหลง เป็นเขาที่พาฉันออกมา” เวินจิ้งบอกตามตรง
“เขาเป็นพี่ชายของโจวหย่าน โจวเซิน “
” โจวเซิน “เวินจิ้งเลิกคิ้ว
ไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย
“ระวังหน่อย อย่ายุ่งเกี่ยวกับเขามากไป” เสียงแหบของมู่วี่สิงเย็นชามาก
“ฉันก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขา เอาจริงๆ เราก็ไม่ได้ถือว่ารู้จักกัน”
บรรยากาศในรถดูแปลกๆ เวินจิ้งเงยหน้ามอง จู่ๆ ก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
เธอขยับเข้าไปใกล้มู่วี่สิง แล้วเพ่งไปที่เสื้อเชิ้ตด้านในของเขามีรอยลิปสติกจางๆ อยู่
เป็นสีชานมอ่อนๆ แล้ววันนี้เธอทาสีแดงก่ำ
“มู่วี่สิง เมื่อกี้นายไปเข้าใกล้ใครมา”
มู่วี่สิงมองไปที่รอบลิปสติก ตามสายตาของเวินจิ้ง
“โจวหย่าน “
“อ๋อ” เวินจิ้งแก้มป่อง ไม่พอใจเล็กน้อย
“ฉันผลักเธอออกแล้ว อย่าหึงเลย” มู่วี่สิงจ้องหน้าเธอ
เวินจิ้งซบไปที่อกเขา ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่ไม่ใช่ของเธอก็ยิ่งไม่พอใจ
“ฉันไม่ได้หึง” เวินจิ้งปากแข็ง
มู่วี่สิงมองใบหน้าที่น้อยใจนี้ และถอนหายใจอย่างเอ็นดู จับหน้าเธอ แล้วพูดเสียงเข้ม “งั้นฉันไปอาบน้ำแล้วค่อยเข้าใกล้เธอ พอใจมั้ย? ”
เมื่อกี้โจวหย่านคงจะล้มลงมาอย่างกะทันหันแน่ๆ เขาเป็นสุภาพบุรุษจึงเข้าไปช่วย แล้วคงจะไม่มีหลังจากนั้น
“ไม่ต้อง ฉันเชื่อนาย” เวินจิ้งแนบไปที่หน้าอกของเขา
เธอไม่อยากให้ทั้งสองต้องมาทะเลาะกันเพราะเรื่องไร้สาระพวกนี้
รถยนต์ก็ค่อยๆ เคลื่อนตัว ไม่นาน ขนขับรถก็หันหน้ามาอย่างลำบากใจ “คุณมู่ ข้างหลังมีรถสะกดรอยตามมาครับ”
มู่วี่สิงเหลือบไปมองที่กระจกหลัง ขมวดคิ้วเข้ม
“ใครกัน” เวินจิ้งถาม
“น่าจะเป็นรถของตระกูลโจว”
“ดอกพีชของนายตามนายมาแล้ว” เวินจิ้งแซะเขาอย่างไม่รู้ตัว
แต่จู่ๆ มู่วี่สิงก็โอบเอวบางของเธอแน่น แล้วกดเธอให้ซบลงที่หน้าอก “ดอกพีชของฉันมีแค่เธอ จิ้งจิ้ง”
แค่แว๊บเดียว เวินจิ้งก็ได้สบสายตาที่อ่อนโยนของเขา จากนั้นก็รู้สึกมึนงง ที่โดนเขาจูบอย่างเร่าร้อน
พอกลับถึงการ์เด้นมูเจียวาน เมื่อลงจากรถ รถสีขาวด้านหลังที่ตามมาก็จอดลง
โจวหย่านวิ่งลงมา มองทั้งสองสวีทกันจากที่ไกลๆ เธอนี่……ไม่ยอมเลิกราจริงๆ !
ตามมาตลอดทาง ก็คือไม่ยอมรับการบังคับ
“คุณโจวนี่หลงหนักเลยนะเนี่ย” เวินจิ้งคล้องแขนมู่วี่สิงไว้ ไหนๆ ก็ตามมาแล้ว งั้นดูสักฉากดีมั้ย?
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว โอบเอวเวินจิ้งแล้วเดินเข้าไป
“โจวหย่าน เธอคิดจะทำอะไร” น้ำเสียงของมู่วี่สิงนั้นนิ่งสุดๆ ราวกับผู้หญิงด้านหน้านั้นเป็นคนแปลกหน้า
โจวหย่านกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
ทำไมยังจะต้องทำให้ตัวเองผิดหวังอีกนะ