Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 460
บทที่ 460 แกคิดว่าฉันทนดูได้เหรอ
“หลิงเหยา เธอรู้อะไร?”
“ฉันไม่รู้ เรื่องนี้ต้องถามพี่ชาย ฉันช่วยเธอถาม”
“ช่างเถอะ” เธอไม่อยากรบกวนหลิงอี้
ดูออกความคิดของเวินจิ้ง หลิงเหยาถอนหายใจ ดูเหมือนจะมีเพียงมู่เท่านั้นที่จะสามารถช่วยได้
แต่เธอรู้สึกว่า การลงมือของมู่วี่สิง เกรงว่าเย่เฉียวอาจถูกถอนออกไปในไม่ช้า
…
คำพูดของเย่เฉียวต่อม่วี่สิงนั้นไปถึงหูของมู่เฉิงแล้ว แม้ว่าเขาจะยังโกรธกับพฤติกรรมของมู่วี่สิง แต่ก็ยังเป็นห่วง
สำหรับการลงมือของเย่เฉียว มู่เฉิงเร็วกว่ามู่วี่สิงหนึ่งก้าว ก็คือสามวันหลัง เย่เฉียวถูกจับกุมเพราะถูกรายงานตัวว่าเป็นรองอาจารย์ใหญ่ที่ติดสินบน
ในมหาลัย เย่เฉียวถูกนำตัวไปในที่สาธารณะ พอดีที่เวินจิ้งและหลิงเหยามาเห็นเข้าพอดี สีหน้าของเย่เฉียวดูแย่มาก
“จึจึ เพิ่งสามวัน การเคลื่อนไหวเร็วมาก” หลิงเหยาถอนหายใจ
“ถ้าหากใช้วิธีการใดๆ เพื่อได้ตำแหน่งรองอาจารย์ใหญ่ งั้นก็สมควรแล้ว” เวินจิ้งพูดเบาๆ
“ฉันคิดว่าเรื่องนี้ได้รับการยอมรับอย่างแน่นหนา เดิมทีเขาก็ไม่ได้เป็นผู้สมัครรองอาจารย์ใหญ่ยอดนิยม อีกอย่างคุณสมบัติของเย่เฉียวก็ไม่เพียงพอ ไม่ใช่ทางลัดจะขึ้นไปได้อย่างไร”
“ในโรงเรียนเต็มไปด้วยผู้คน เราไปกันเถอะ” เวินจิ้งและหลิงเหยาก็ไม่ได้พูดถึงหัวข้อนี้ต่อ
ยังไงเย่เฉียวก็ยังไม่ถูกตัดสิน ทุกอย่างยังไม่ได้ข้อสรุป
บริษัทมู่ซื่อ
เมื่อได้ยินเกาเชียนรายงานเรื่องเย่เฉียวถูกจับกุม มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
ช่วงนี้เขายังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เย่เฉียวก็ถูกแจ้งความแล้ว…
ในตอนเย็น เขากลับไปตระกูลมู่ มู่เฉิงกำลังเล่นนกอยู่ในสวน มู่วี่สิงสาวเท้ายาวเดินไป
“โอ้ กลับมาดูตาแก่อย่างฉันแล้วเหรอ” มู่เฉิงมองนกพิราบสีน้ำเงินปากแดงในกรง
“คุณปู่ เรื่องของเย่เฉียวคุณเข้ามาเกี่ยวข้องเหรอ?” มู่วี่สิงรู้แต่แสร้งถาม
นอกจากคุณปู่ ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวของใครที่จะเร็วได้ขนาดนี้
“แน่นอน มารังแกหลานของฉัน แกคิดว่าฉันจะทนดูได้เหรอ?”
“คุณปู่ คุณก็ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้มากนัก” มู่วี่สิงพูดเรียบๆ
“ช่วงนี้ฉันว่างมาก พอดีที่ไม่มีอะไรทำ”
เป็นความจริง ที่ตอนนี้มู่เฉิงไม่ค่อยได้ดูแลบริษัทมู่ซื่อแล้ว อุตสาหกรรมในต่างประเทศมู่วี่สิงก็ค่อยๆ รับช่วงแล้ว ตาแก่อย่างเขาก็ต้องเกษียณแล้ว
“หลานสะใภ้จะมาเมื่อไหร่ ฉันเป็นห่วงเธอ”
“วันหยุด”
“ฉันได้ยิน จำเป็นต้องพาคนมาให้ฉัน” มู่เฉิงมีความกระตือรือร้น
มู่วี่สิงยกริมฝีปาก “อืม ทานอาหารกับคุณ”
“ถือว่าเจ้าเด็กอย่างแกยังมีความกตัญญู”
ตลอดจนถึงวันพุธมู่วี่สิงออกจากคลินิก เวินจิ้งถึงจะได้เจอมู่วี่สิง
หลังจากพบแพทย์ในตอนบ่าย เวินจิ้งเขียนรายงานในห้องทำงาน ร่างยาวของมู่วี่สิงเดินเข้ามา
ทุกครั้งที่มาโรงพยาบาลมีแพทย์ฝึกหัดไม่น้อยที่มาหาเขาเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ ไม่ง่ายกว่าเขาจะเบี่ยงตัวออกมาได้
“คุณหมอเวินยุ่งมากกว่าฉันอีก” เมื่อเห็นเวินจิ้งเขียนรายงานหลายฉบับ มู่วี่สิงยิ้มและพูด
“เป็นผู้ช่วยของคุณยุ่งกว่า” เวินจิ้งพูด
งานเยอะที่สุดของเธอก็คือวันนี้ที่มู่วี่สิงเปิดรับคำปรึกษา มีผู้ป่วยไม่ขาดสาย ทุกสัปดาห์ส่วนมาจะให้คำปรึกษาช่วงเช้า แต่ก็ยุ่งจนถึงเย็น
“แฟนคลับของคุณให้ของดีกับคุณอีกแล้ว” เวินจิ้งชี้ไปที่ถุงของขวัญมากมายหลากหลายรูปแบบ
ตั้งแต่หลังจากมู่วี่สิงเปิดให้คำปรึกษาที่มหาวิทยาลัยหลินไห่ แฟนคลับก็จัดตั้งขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
“ต่อไปก็ปฏิเสธ” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
“พูดปฏิเสธไปแต่แรกแล้ว แต่พวกแฟนคลับก็วางไว้ตรงประตูห้องทำงาน ไม่มีอะไรเลย” เวินจิ้งส่ายหัวอย่างเอือมระอา
เวลานี้ พยาบาลคนหนึ่งเคาะประตูและเข้ามา เห็นมู่วี่สิงประหม่าเล็กน้อยจึงถาม “คุณหมอมู่ มีเคสผ่าตัดต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”
ตั้งแต่เปิดมหาวิทยาลัยหลินไห่มา มู่วี่สิงรับเคสผ่าตัดเพียงไม่กี่ครั้ง น้อยมากที่เขาจะเข้าห้องผ่าตัด
แต่เนื่องจากได้เรียกเขาเป็นการส่วนตัว แน่นอนต้องพบอุบัติเหตุบางอย่าง
“เวินจิ้ง ไปกับฉัน” มู่วี่สิงสั่ง
เวินจิ้งเต็มใจ รีบตามไปทันที
เดิมทีคุณหมอผ่าตัดกลับมาไม่ทัน และอาการของผู้ป่วยไม่สามารถรอได้อีก มู่วี่สิงตอนแรกที่กำลังจะถอดชุดกาวน์ออก หลังจากเห็นเอกสารของผู้ป่วยแล้ว ก็เดินเข้าไปในห้องผ่าตัด
การผ่าตัดครั้งนี้ไม่ใช่เคสยากและไม่ได้ง่ายในการผ่าตัดระดับสาม การนำเลือดออกจากสมองต้องใช้แพทย์ระดับสูงมาก
เวินจิ้งไม่เคยเข้าร่วมเคสนี้ เมื่อเข้ามาถึงรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
โจวหย่านเตรียมอุปกรณ์ผ่าตัดให้เรียบร้อย เมื่อเจอเธอ เวินจิ้งตรวจสอบอีกครั้งอย่างไม่ไว้วางใจ
เคยเห็นผีเธอกลัวความมืด
มองดูการเคลื่อนไหวของเวินจิ้ง โจวหย่านสีหน้านิ่งเงียบ จึงรีบออกไป
หลังจากยืนยันว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว การผ่าตัดก็เริ่มขึ้น
เห็นได้ชัดว่ามู่วี่สิงคุ้นเคยกับการผ่าตัดดี การผ่าตัดไม่ถึงสองขั่วโมงก็เสร็จสิ้นแล้ว เวินจิ้งพาผู้ป่วยไปที่ห้องให้คำปรึกษา สมาชิกในครอบครัวรออย่างใจจดใจจ่อ
เมื่อเห็นสมาชิกในครอบครัวดีใจจนร้องไห้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเวินจิ้งก็ค่อยๆ ปรากฏ
มู่วี่สิงเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วเพื่ออธิบายข้อควรระวังหลังผ่าตัด ผู้ป่วยแสดงความขอบคุณมู่วี่สิงตลอด ส่งเขาเข้าไปห้องทำงานอย่างสุภาพ
เวินจิ้งเดินอยู่ข้างหลัง มองดูแผ่นหลังของมู่วี่สิง สายตามองด้วยความนับถือ
เมื่อใดกัน เธอถึงจะสามารถจับมีดผ่าตัดได้อย่างมั่นคงแบบนั้น และกลายเป็นแพทย์อย่างเป็นทางการ
เหมือนว่าจะสังเกตถึงสายตาของเวินจิ้ง มู่วี่สิงหยุดฝีเท้า หันมาพาเธอเข้ามาสู่อ้อมแขน
“เป็นอะไร สาวน้อย” มู่วี่สิงหรี่สายตา
สายตาของเวินจิ้งทำให้เขาพอใจ
“มู่วี่สิง ทำไมคุณถึงยอดเยี่ยมขนาดนี้” เวินจิ้งกอดเขาแน่น
ผู้ชายที่เธอชอบ ก็เป็นไอดอลของเธอ
“ในอนาคตเธอก็สามารถทำได้ คุณหมอเวิน” มู่วี่สิงพูดด้วยความเอ็นดู
“เฮ้อ ทางอีกยาวไกล” เวินจิ้งพูดเสียงเบา
อย่างน้อยหากจะเทียบกับระดับความสามารถของมู่วี่สิงได้นั้น เธอต้องพยายามถึงจะดี
“ฉันจะคอยอยู่เคียงข้างเธอ”
ตามองมู่วี่สิงก็โน้มลงจูบ เวินจิ้งได้สติกลับมา ที่นี่เป็นโรงพยาบาลนะ อีกอย่างบนทางเดินมีคนเดินไปมา….
แก้มของเธอแดงก่ำ จึงรีบเดินเข้าห้องทำงาน มู่วี่สิงยิ้ม จากนั้นก็เดินเข้ามา ปิดประตูลง และล็อคกลอน
ตอนที่เวินจิ้งยังไม่ได้สติกลับมานั้น จับหลังศีรษะของเธอมา แล้วจูบลงอย่างลึกซึ้ง
เธอเขย่งปลายเท้า สายตามองผู้ชายหล่อเหลาตรงหน้า และหลงใหล
กลางคืน มู่วี่สิงส่งเวินจิ้งกลับมหาลัย
ก่อนลงจากรถ เวินจิ้งกลับทนไม่ได้
“มู่วี่สิง เราจะได้เจอกันอีกทีก็สามวันหลัง”
ตอนนี้วันพุธ อย่างน้อยวันเสาร์ทั้งสองถึงจะว่าง
“พรุ่งนี้ฉันมารับเธอที่โรงพยาบาล” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
“ไม่ต้อง พรุ่งนี้ฉันทำงานกะดึก”
“โอเค วันเสาร์ว่างๆ ค่อยเจอกัน ต่างก็ยุ่ง” สิ้นเสียงเวินจิ้ง จึงเปิดประตูลงจากรถ
เธอไม่อยากมีอิทธิพลต่องานของมู่วี่สิง
และตัวเธอเองก็ต้องพยายาม เพื่อมุ่งงมั่นที่จะโตเป็นคุณหมออย่างเป็นทางการ
มองดูแผ่นหลังของเวินจิ้ง ใบหน้าของมู่วี่สิงปรากฏรอยยิ้มด้วยความเอ็นดู
เวลานี้ มือถือก็ดังขึ้น เป็นสายจากเกาเชียน
“ประธานมู่ เย่หมิ่นลูกสาวของเย่เฉียวเรียนอยู่ที่มหาลัยประเทศบี ตรวจสอบถึงข่าวสารของช่วงที่สมัครเข้าเรียนได้แล้ว มีคนมาสอบแทน”
เมื่อได้ยินที่พูด ใบหน้าของมู่วี่สิงก็ปรากฏรอยยิ้มที่เยือกเย็น