Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 469
บทที่ 469 ไม่มีใครทำร้ายเธอได้
“อื่ม”มู่วี่สิงตอบ
“เกลียด” เวินจิงพึมพำ อยากจะโกรธ แต่ก็ยังโกรธไม่ได้
เธอมองมู่วี่สิงอย่างจริงจังและพูดว่า”วันหลังอย่าทำเพื่อฉันแบบนี้อีกนะ”
งานของเธอ ไม่มีแล้วหาใหม่ได้
แต่มู่วี่สิงไม่เหมือน
“เพื่อคุณ ฉันจะทำแบบนี้อีก”มู่วี่สิงย่างเคร่งขรึม
ตราบใดที่เป็นของเวินจิ้ง เขาก็เต็มใจจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ
“มู่วี่สิง”เวินจิ้งทำหน้าโกรธ
รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้ชายมากขึ้น เขายกคางของเวินจิ้งขึ้น”ที่รัก กินข้าวเถอะ อย่าคิดมาก”
“ซึ่งคุณชอบฉันตั้งแต่ตอนนั้นเหรอ”เวินจิ้งถามต่อ
ตอนนี้มีคำถามมากมายในสมองของเธอ
ในเมื่อมู่วี่สิงทำหลายอย่างเพื่อเธอตั้งแต่แรก มันเป็นแค่เพราะเธอเป็นคุณหญิงมู่เหรอ
ถ้าคุณหญิงมู่เป็นคนอื่น เขาจะทำแบบนี้เหมือนกันไหม
“ครับ”
ครับ
ดวงตาของเวินจิ้งเบิกกว้างทันที นี่มุ่วี่สิงยอมรับแล้วเหรอ
“คุณพูดอีกครั้งสิ คุณชอบฉันตั้งแต่เมื่อไหร่”เวินจิ้งจ้องมองผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าโดยไม่ขยับเลย จะไม่พลาดการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยของอารมณ์เขา
แต่มู่วี่สิง … เก็บอารมณ์ได้ดีมากจริงๆ
สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนสักนิดเลย ก็ยังอ่อนโยนที่มีต่อเธอเหมือนปกติ
“จิ้งๆ มันไม่สำคัญหรอก คุณแค่ต้องรู้ว่า ตอนนี้ฉันชอบคุณก็พอ”
เวินจง …
ทำไมเธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้กำลังหลีกเลี่ยงคำถามของเธออยู่
แต่คำพูดของมู่วี่สิงทำให้เธอมีความสุขมาก
หลังจากกินข้าวเสร็จเข้าไปในโรงพยาบาล ส้งวี่อยู่กับมู่ซือซือตลอด วันนี้หลิงเหยาต้องกลับไปโรงพยาบาล เธอก็เลยออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว
“พี่ชาย เวินจ้ง”มู่ซือซือทักทายพวกเขาก่อน
“ตอนเช้าตรวจร่างกายเสร็จแล้วเหรอ”มู่หยูเดินเข้ามาและหยิบประวัติทางแพทย์ของมู่ซือซือมาดู
“อื่ม ขาของซือซือยังไม่รู้สึกตัวเลย”ส้งวี่เดินมา สีหน้าของเขาเศร้าหมอง
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว”หลังจากแผลหายแล้ว ทำการฟื้นฟูต่อเหมือนเดิมนะ”
“พี่ ฉันยังมีโอกาสลุกขึ้นยืนไหม”มู่ซือซือถาม ไม่ได้ผิดหวังมาก
เธอรู้ว่าสถานการณ์ของตัวเอง จริงๆแล้วอยากจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ก็มีแต่จะลองแค่นั้นเอง
“ได้สิ เชื่อพี่นะ”มู่วี่สิงเดินไปข้างหน้า และรับรองอย่างจริงจังว่า
ส้งวี่อยู่กับมู่ซือซือตลอด มู่วี่สิงพาเวินจิ้งไปที่ห้องทำงานและหมอออร์โทพีดิกส์กำลังรอมู่วี่สิงอยู่ สองคนจะคุยสถานการณ์ของมู่ซือซือ
ตอนแรกเวินจิ้งคิดจะออกไปข้างนอก แต่มู่วี่สิงจับข้อมือของเธอแล้วดึงเธอให้นั่งอยู่ข้างๆเขา
“ไม่ต้องออกไปหรอก”
เวินจิ้งรู้สึกประหลาดใจ แต่ทั้งสองคนเริ่มพูดคุยแล้ว เวินจิ้งนั่งลงอย่างเงียบๆ
ขาข้างหนึ่งของมู่ซือซือเป็นอวัยวะเทียม ดังนั้นตอนนี้มันเป็นขาอีกข้างหนึ่งที่ต้องลุกขึ้นยืน แต่มันก็ยากที่จะฟื้นตัวได้เพราะว่าได้รับความบาดเจ็บถึงเส้นประสาทและกระดูก
แต่ว่าได้รับการผ่าตัดมาก่อน และหายดีขึ้นแล้ว
แต่การล้มครั้งนี้ของมู่ซือซือ เนื้อเยื่อขาบอบบางแตกอีกครั้ง เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นปัญหาที่ยาก
แต่ทั้งคู่เป็นแพทย์ที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในศัลยกรรมกระดูกและระบบประสาท พูดคุยทั้งคืนในที่สุดก็ได้สรุปแผนการที่เป็นไปได้
เวินจิ้งมีความง่วงนอน แม้ว่าเธออยากฟังต่อมาก และสามารถเรียนรู้ความรู้ใหม่ๆได้มากมาย แต่เธอง่วงเหลือเกิน …
จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น มุ่วี่สิงและแพทย์ศัลยกรรมกระดูกค่อยจบการสื่อสาร ห้องทำงานนั้นเงียบสงบลง มู่วี่สิงมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา แล้วจูบลงที่คิ้วของเธอ
“ขอบคุณนะ จิ้งๆ”
ไม่ได้พักผ่อน มู่วี่สิงไปที่ห้องของมู่ซือซือ
เมื่อเวินจิ้งตื่นขึ้นมา ไม่มีใครอยู่ในห้องทำงานเลย
ตอนนี้เกือบถึงเที่ยงแล้ว
เธอก้มหน้าลงด้วยความเสียใจภายหลัง รีบใส่รองเท้าออกไปทันที เจอมู่วี่สิงเดินมาทางนี้พอดี
“ไปกินอาหารกลางวันกับคุณ และส่งกลับไปโรงเรียน”
ตอนบ่ายเวินจิ้งมีเรียน มู่วี่สิงได้ตารางเรียนของเธอตั้งนานแล้ว
“ซือซือเป็นยังไงบ้าง” เวินจิ้งถามอย่างกังวล
“กำลังทำการพักฟื้นอยู่ พรุ่งนี้เธอจะออกจากโรงพยาบาล เดือนหน้าเธอจะสอบเข้าวิทยาลัยผู้ใหญ่ มันพลาดไม่ได้”
มู่ซือซือช้าไปตั้งสามปีแล้ว
ถึงแม้ว่ามู่วี่สิงสามารถเลี้ยงเธอได้ ก็ไม่อยากให้เธอออกไปทำงาน
แต่มู่ซือซือของความฝันของตัวเองมาโดยตลอด พี่ชายคนนี้ ทำได้แค่เคารพและสนับสนุนเธอ
เดินผ่านห้องผู้ป่วย เวินจิ้งเข้ามาคุยกับมู่ซือซือ ความสัมพันธ์ระหว่างสองใกล้ชิดกันมากขึ้นในช่วงเวลานี้
มู่ซือซือเป็นคนที่ตรงไปตรงมา จริงๆแล้วเป็นคนที่เข้ากันได้ง่ายมากและมีจิตใจดีด้วย
มันเป็นแค่แยกความรักและความเกลียดชังอย่างชัดเจนมาก เพราะฉะนั้นเมื่อก่อนรู้ว่าเวินจิ้งและฉีเซินมี
ความสัมพันธ์ที่เป็นพี่น้องกัน ยังไงเธอก็สนิทกับเวินจิ้งไม่ได้
แต่ตอนนี้ทั้งสองได้รู้จักกันมากขึ้น ก็ได้ทำความเข้าใจกันอย่างเรียบร้อยแล้ว
ส่งเวินจิ้งกลับไปถึงโรงเรียน มู่วี่สิงก็เลยไปบริษัทมู่ซือกรุ๊ป
เมื่อจัดการงานทุกอย่างเสร็จก็ตึกมากแล้ว ลี่หนานเฉิงเคาะประตูและเข้ามา
“ฉันรู้ว่าคุณต้องทำงานอยู่แล้ว”ลี่หนานเฉิงนั่งลงบนโซฟา
“ใช่”วางปากกาลง มู่วี่สิงเดินไปที่บาร์แล้วเปิดขวดไวน์
ลี่หนานเฉิงรายงานอยู่ในหูของเขา”ช่วงนี้มู่เหิงได้อยู่อย่างสบายแล้ว โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งกำลังถูกตรวจสอบอยู่และถูกสั่งปิดชั่วคราว คงขาดทุนจนอยากตายแล้วมั้ง พรุ่งนี้ฉันจะจัดให้นักข่าวควบคุมความกระแสของประชาชน แค่ต้องทำให้ผู้ป่วยโกรธขึ้นมา เหิงอวี่กรุ๊ปต้องตายแน่”
มู่วี่สิงฟังอย่างเย็นเฉย และหยิบไวน์สองแก้วมา ทับขายาวนั่งอย่างสง่างามบนโซฟา
“ในปัจจุบันมู่เหิงเริ่มตื่นตัวแล้ว พรุ่งนี้จะได้ไปด้วยอย่างราบรื่นหรอก”มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
แถมเรื่องนี้ นักลงทุนที่อยู่เบื้องหลังอย่างโจวเซินไม่มีทางอยู่นิ่งๆ
“อย่างไรก็ตาม งานแถลงข่าวของพรุ่งนี้ต้องเปิดเผยเรื่องของเหิงอวี่กรุ๊ป ทำให้เดือดร้อนบ้างก็ดี”เสียงของลี่หนานเฉิงเยือกเย็นมาก
“ใช่” มู่วี่สิงตอบ สีหน้าของเขาอ่อนโยนเสมอ
“เป็นห่วงมู่ซือซือเหรอ”ลี่หนานเฉิงถาม
ช่วงนี้ความรักของมู่วี่สิงไปได้อย่างราบรื่น งั้นเรื่องที่ทำให้มู่ซือซือต้องเป็นห่วง ก็มีแต่มู่ซือซือล่ะ
“อื่ม อยากส่งเธอไปต่างประเทศ”
“ก็ดีเหมือนกัน แต่มีส้งวี่อยู่เคียงข้างเธอ ไม่มีใครสามารถทำร้ายเธอได้หรอก”
“ถ้ามีความผิดพลาดล่ะ”มู่วี่สิงกำกำปั้นอย่างแน่น
มีเรื่องที่มากมายในโลกใบนี้ที่เราคาดเดาไม่ได้
…
ไม่มีเรียนในวันเสาร์ เวินจิ้งมาที่บ้านตระกูลหลินแต่เช้า ในช่วงเวลานี้หลินเวยพูดบ่อยๆว่าให้เธอมาช่วยงานของบริษัทหลินซื่อ ช่วงนี้เวินจิ้งไม่ได้ยุ่งมาก ไม่ได้เข้าร่วมในการวิจัยและพัฒนาของบริษัทมู่ซือกรุ๊ปต่อไป ก็เลยมีเวลามาช่วยแม่ของเธอจัดการงานของบริษัทหลินซื่อ
เพียงแค่เช้าวันเดียว ข่าวที่เกี่ยวกับบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปหลอกลวงผู้ป่วยไปรู้กันหมดทั้งเมืองแล้ว
มีนักข่าวได้รู้ว่าโรงพยาบาลเอกชนที่ของบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปมีอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์ไม่ได้เป็นหมออย่างอาชีพ หลอกลวงผู้บริโภคจำนวนมาก ในปัจจุบันรัฐบาลได้รับรีพอร์ตจำนวนหลักหมื่น และบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
โรงพยาบาลเอกชนเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดของบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ป ก็เป็นแหล่งกำไรที่สำคัญที่สุดเหมือนกัน แต่ตอนนี้อุตสาหกรรมเหล่านี้เกือบจะอยู่ในภาวะหยุดชะงัก และการดำเนินงานของบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปก็ตกอยู่ในหยุดเดินเหมือนกัน
มู่เหิงปวดหัวมาก และติดต่อกับโจวเซินตลอด แต่ผู้ช่วยของเขาเป็นคนที่รับโทรศัพท์ตลอด และบอกว่าโจวเซินไม่ได้อยู่ในหนานเฉิง
เพราะฉะนั้นมู่เหิงจึงสั่งคนไปติดตามโจวเซิน เขาจะนั่งเที่ยวบินสองทุ่มมาถึงหนานเฉิงในคืนนี้ เขารีบไปรอเขาที่ที่สนามบินทันที
เรื่องของบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ป เขามีแต่ขอความช่วยเหลือจากโจวเซินท่านั้น