Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน - ตอนที่ 504
บทที่ 504 ชอบปั่นหัวฉันอยู่เรื่อย
มู่วี่สิงผลักหล่อนออกด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ก่อนจะเริ่มทำหน้าที่ต่อไป
โจวหย่าน ก้มศีรษะอยู่ เป็นเพราะถูกมู่วี่สิงกดเอาไว้ หล่อนเลยขยับเขยื้อนไม่ได้
พอเห็นเขาเขียนอาการของหล่อนลงไปในประวัติผู้ป่วย “ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ” เสร็จ แล้วทำท่าจะออกไป โจวหย่าน ก็เรียกรั้งเขาไว้ทันที
“มู่วี่สิง ต่อไปคุณจะเป็นคนดูแลอาการของฉันใช่หรือเปล่า?” โจวหย่านถามอย่างเคร่งเครียด
“อื้อ” มู่วี่สิงส่งเสียงรับ แล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
รอยยิ้มที่มุมปากของโจวหย่านค่อย ๆ ขยายขึ้น หล่อนพักที่โรงพยาบาลตลอดไปเลยได้ไหมเนี่ย แบบนี้ก็ได้เจอมู่วี่สิงทุกวันเลยสินะ
คล้ายกับอ่านความคิดของผู้เป็นลูกสาวได้ เลี่ยวหยงจึงเดินเข้ามา “สัปดาห์หน้า คุณหมอมู่ จะลงมือผ่าตัดรักษาลูกด้วยตัวเอง แม่ขอร้องตั้งนานกว่าเขาจะยอมรักษาลูกให้”
“จริงเหรอคะ? ที่แท้ก็คุณแม่นี่เองที่เป็นคนขอร้องเขา” โจวหย่านทอดถอนใจ
“แม่ช่วยให้เขาได้ตำแหน่งกลับมา นึกไม่ถึงว่าอำนาจในโรงพยาบาลจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณพ่อของแม่ ก็คุณตาของลูกนั่นแหละที่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ในโรงพยาบาล แม่เองก็กลัวว่าจะช่วยไม่ได้เหมือนกัน”
ไม่มีผู้บริหารคนใดในโรงพยาบาลยอมให้มู่วี่สิงกลับมารับตำแหน่งเลยสักคน ดูท่ามู่วี่สิงคงจะถูก “ขึ้นบัญชีดำ” แล้ว
“ก่อนหน้านี้ คุณหมอมู่ไม่ได้ทำงานหรือคะ?” โจวหย่านถามอย่างสงสัย
“อือ เขาโดนเด้งแล้ว”
“รอลูกผ่าตัดเสร็จ แม่จะพาลูกกลับไปอยู่ประเทศC” เลี่ยวหยงกล่าวโดยไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้ง
“ไม่ได้นะคะ หนูไม่กลับหรอก” โจวหย่านเบะปากน้อย ๆ แสดงสีหน้าไม่ยินยอม
“ถ้าแกไม่ยอมกลับไปกับแม่ แม่จะพาแกกลับเดี๋ยวนี้เลย แล้วต่อไปนี้แกก็อย่าฝันว่าจะได้เจอมู่วี่สิงนั่นอีก” เลี่ยวหยงตีสีหน้าเคร่ง
ว่ากันเรื่องวิธีการ โจวหย่านจะเปรียบเทียบหล่อนได้
โจวหย่านได้แต่โอนอ่อนผ่อนตาม อย่างไรเสียพอผ่าตัดเสร็จ หล่อนก็ค่อยขอร้องให้พี่ชายช่วยให้หล่อนอยู่ต่อก็ได้
ตอนนี้หล่อนอุตส่าห์ทำให้คุณปู่มู่ถูกใจตัวหล่อนได้แล้ว จะให้ยอมแพ้ระหว่างทางได้อย่างไร
หล่อนจะต้องแต่งงานกับมู่วี่สิงให้ได้
…
ประเทศF
โจวเซินเพิ่งจะมาถึง เสร็จจากการประชุมบริษัทย่อยทางฝั่งนี้แล้ว ก็ต้องรีบไปที่มหาวิทยาลัยFต่ออย่างกับม้าไม่หยุดวิ่ง
ในห้องสำนักงาน อาจารย์ผู้หญิงอายุไม่มากท่านหนึ่งกล่าวอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ “ถ้าเธอยังไม่กลับมาอีก วุฒิดอกเตอร์นี่ก็ไม่ต้องเอามันแล้วนะ?”
โจวเซินกดหัวคิ้วอย่างเหน็ดเหนื่อย “พักนี้ต้องรับช่วงดูแลกิจการของตระกูลโจว งานเยอะมากเลยครับ”
“แต่สำหรับฉัน ใครก็ไม่มีอภิสิทธิ์ทั้งสิ้น ถ้ายังอยากได้ใบจบของเธอล่ะก็ เดือนหนึ่งอย่างน้อยต้องมีเวลามาเข้าเรียนให้ได้ครึ่งหนึ่ง”
“ครับ ผมจะพยายาม”
“ยังต้องพยายามอีกเหรอ ฉันว่าฉันทำเรื่องลาออกให้เธอไปเลยดีกว่า” ศาสตราจารย์ทำท่าจะเดินออกไปพบอธิการบดี
โจวเซินรีบเข้าไปขวางศาสตราจารย์เอาไว้ “ให้เวลาผมอีกหนึ่งสัปดาห์นะครับ ถ้าเรื่องที่เมืองหนานเสร็จสิ้นเมื่อใด ภายในปีนี้ผมจะพยายามเข้าเรียนให้มากขึ้น”
“ฉันจะรับฟังไว้ก่อนแล้วกัน เด็กอย่างเธอ ชอบปั่นหัวฉันอยู่เรื่อย” ศาสตราจารย์กล่าวอย่างเสียไม่ได้ หล่อนมองโจวเซิน “อีกไม่นานบัณฑิตวิทยาลัยของ มหาวิทยาลัยF ที่ตั้งอยู่ที่เมืองหนานก็คงสร้างเสร็จ เดือนหน้าฉันก็คงจะต้องไปอยู่ที่โน่น เธอเองก็จะได้ไม่ต้องวิ่งมานี่แล้ว”
ได้ฟังดังนั้น โจวเซินก็พลันเบิกคิ้ว เดิมทีบัณฑิตวิทยาลัยมีกำหนดเปิดทำการในปีหน้า ไม่นึกว่ากำหนดเวลาจะร่นเข้ามาเร็วถึงเพียงนี้
“งั้นผมรอศาสตราจารย์ที่เมืองหนานเลยแล้วกัน ช่วงนี้ก็ไม่มาอีกแล้วนะครับ”
“ชิ ไม่อยากมาเหยียบที่ประเทศFเลยสินะ” ศาสตราจารย์ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
“นักธุรกิจใหญ่งานรัดตัว ประเทศF ไม่ค่อยมีกิจการของตระกูลโจว ให้สะสางน่ะครับ”
“แต่ตอนนี้นายยังเป็นนักศึกษา นายยังเรียนไม่จบ! เรื่องงานต้องเอาไว้ทีหลัง” ศาสตราจารย์ยังคงอดเตือนไม่ได้
แต่เห็นได้ชัดว่า โจวเซินไม่ได้สนใจฟังเลยสักนิด “ผมรับรองว่าผลคะแนนของผมผ่านเกณฑ์แน่ วางใจได้ครับ”
พูดจบ ก็เดินอาด ๆ ออกไป
กลับมาถึงเมืองหนาน โจวเซินก็รีบไปที่โรงพยาบาลก่อน
พอรู้ว่ามู่วี่สิงยอมรักษาโจวหย่าน เขาก็รู้สึกแปลกใจ
ถึงอย่างไรการกลับมารับหน้าที่ที่โรงพยาบาลของมู่วี่สิงก็มีเสียงคัดค้านอยู่ไม่น้อย
“ดูเธอมีความสุขจังเลยนะ มู่วี่สิงยอมรักษาเธอ ดีใจมากสิท่า?”
“ก็ดี…” พอเห็นโจวเซิน รอยยิ้มบนใบหน้าของโจวหย่านก็จางลงไปไม่น้อย
“หลังจากผ่าตัดเสร็จ เธอยังอยากจะกลับไปที่ตระกูลมู่ไหม”
เขาทราบความประสงค์ของคุณนายโจวดี อย่างไรเสียคงต้องพาโจวหย่านกลับประเทศC เป็นแน่
“อยาก…อยากมากด้วย” โจวหย่านพยักหน้ารับหนัก ๆ
“ตอนนี้คุณปู่มู่ชอบเธออยู่ เอาใจเขาเข้าไว้ ตำแหน่งคุณนายมู่ของเธอจะไปไหนได้”
…
ห้างซินเทียนดี้
เวินจิ้งกับอั้ยเถียนเดินมาตลอดทั้งบ่าย แต่ไม่ได้ซื้ออะไรให้ตัวเองเลย ทว่ากลับซื้อของในแผนกของใช้สำหรับเด็กไปไม่น้อย กะว่าจะซื้อไปให้ซูยิง
มื้อค่ำของทั้งสองก็ยังมาฝากท้องที่บ้านของซูยิง
คฤหาสน์เหิงซาน เป็นรังรักของลี่หนานเฉิงกับซูยิง ลี่หนานเฉิงใช้เวลาในการออกแบบไปถึงห้าปีเต็ม ๆ กว่าจะสร้างจนเสร็จ แค่การตกแต่งภายนอกที่โอ่อ่าหรูหราก็ทำให้ทั้งคู่ถึงกับตะลึงจนต้องหยุดชมดูกันเลยทีเดียว
ซูยิงออกมาเปิดประตูต้อนรับด้วยตัวเอง พอเห็นทั้งคู่หอบข้าวของถุงเล็กถุงใหญ่มาด้วย ก็หัวเราะ “มาแต่ตัวก็พอแล้ว พวกเธอสองคนใส่ใจกว่าคนเป็นแม่อย่างฉันเสียอีก”
“พวกเราไปเดินดูโน่นดูนี่ที่ห้างไปเรื่อยน่ะ เห็นของอะไรน่ารัก ๆ ก็ซื้อมาหมดเลย ถึงอย่างไรพวกเราก็เป็นแม่ทูนหัวของลูก ย่อมต้องรักลูกเป็นเรื่องธรรมดา” อั้ยเถียนตอบ
พอเดินเข้าไปในบ้าน เวินจิ้งเห็นการตกแต่งเต็มไปด้วยสีขาวบริสุทธิ์ทั้งหลัง ดูสูงสง่าแต่ไม่คร่ำครึ ทั่วทุกมุมล้วนแต่พิถีพิถัน ก็เอ่ยปากชม “เธอมาพักอาศัยที่นี่ในช่วงตั้งครรภ์ ฉันก็วางใจแล้ว”
ซูยิงเผยสีหน้าอุธัจขัดเขินออกมา หล่อนเองก็นึกไม่ถึงว่าลี่หนานเฉิงจะแอบสร้างเคหาสน์อันแสนวิจิตรแห่งนี้ไว้ให้หล่อน หล่อนชอบบ้านหลังนี้ทั่วทุกจุดเอามาก ๆ
เขารู้รสนิยมของหล่อนดีอยู่แล้ว
ทั้งสามคุยสัพเพเหระอยู่ในห้องรับแขก จนกระทั่งท้องฟ้าค่อย ๆ มืดค่ำลงโดยไม่รู้ตัวกันเลย ขณะที่เตรียมจะไปกินข้าวที่ห้องอาหาร จู่ ๆ ซูยิง ก็ควานมาเกาะเวินจิ้งเอาไว้ คนทั้งคนพลันหมดสติ เกือบจะล้มลงกับพื้น
“ซูยิง!”
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา โรงพยาบาล
เวินจิ้งกับอั้ยเถียนรออยู่ข้างนอกอย่างหวั่นใจ ผ่านไปไม่นานลี่หนานเฉิงก็ตามมาถึงอย่างรีบร้อน สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกกังวลใจ
“ยิงยิงสลบไปได้อย่างไร…”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว มิได้ตอบคำ
ระหว่างที่กำลังเดินทางมาที่โรงพยาบาลเมื่อครู่ หล่อนได้ตรวจดูอาการของซูยิง คร่าว ๆ เกรงว่านี่คงเป็นสัญญาณของการแท้ง
แต่เรื่องนี้ หล่อนจะยังไม่บอกลี่หนานเฉิง
เพราะถ้าหากช่วยเอาไว้ได้ จะดีที่สุด
ยามนี้ โทรศัพท์มือถือของเวินจิ้งพลันดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าของมู่วี่สิง
วันนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งวัน ส่วนเวินจิ้งเองตอนนี้ก็อยู่ที่ โรงพยาบาลหลินไห่ อีกเดี๋ยวมู่วี่สิงก็จะลงมาหาหล่อน
เพิ่งวางสายได้ไม่นาน คุณหมอก็เดินออกมา
“คนไข้แท้งแล้วนะครับ” น้ำเสียงของผู้เป็นแพทย์ดูหนักใจนัก
วินาทีต่อมา ลี่หนานเฉิงก็เข้าไปกระชากคอเสื้อของหมอราวกับใกล้จะเสียสติแล้ว ขณะที่เห็นหมัดหนึ่งกำลังจะอัดใส่ เวินจิ้งกับอั้ยเถียนก็รีบรั้งเขาไว้
“ลี่หนานเฉิงใจเย็นหน่อยสิ!” เวินจิ้งกล่าวเสียงกร้าว
เห็นได้ชัดว่าคุณหมอตกใจกับท่าทีของลี่หนานเฉิงจนสติเตลิด ไม่กล้าพูดอะไรต่อไปชั่วขณะ
ลี่หนานเฉิงหอบหายใจ จ้องหน้าหมอเขม็ง ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงสงบสติอารมณ์ลงได้
“ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ”
“เธอ…ทำไมเธอถึงแท้งได้”
“ร่างกายของคนไข้มีส่วนประกอบของยาทำแท้งปริมาณไม่น้อย ผมคิดว่าคุณต้องไปถามตัวคนไข้เองแล้วล่ะครับ”
ลี่หนานเฉิงอึ้งไปนานแล้ว ทำไมถึงได้…
ซูยิง ไม่มีทางทำร้ายลูกของเรา!
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
ลี่หนานเฉิงอัดเข้ากับกำแพงหมัดหนึ่งอย่างแรง ความโศกเศร้าที่ฉายผ่านดวงตายังคงส่งผ่านออกมาอย่างไม่มีวันจบ